เกริ่นนำ
[ พี่ครับ ผมมีของที่อยากให้พี่ช่วยตรวจสอบให้หน่อย ผมส่งของไปก่อนเเล้ว คิดว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงคงถึง หวังว่าพี่จะยังอยู่ที่อพาร์ตเม้นท์เดิมในอเมริกานะ ]
เจ้าของเสียงปลายสายที่ปลุกเขาขึ้นมากลางดึกไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นญาติผู้น้องซึ่งเปรียบเสมือนน้องชายแท้ๆของเขาเอง เป็นตัวตนสมบูรณ์เเบบเหนือเขา อย่างที่เขาไม่อาจเทียบ พวกผู้ใหญ่ในตระกูลพูดกันแบบนั้น
เเม้เราสองคนจะถูกเลี้ยงเเละเติบโตมาด้วยกันดุจพี่น้องท้องเดียว เเต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ระหว่างเราสองคนมีเส้นบางๆคั่นอยู่ ทำให้ไม่อาจรักเเละสนิทกันได้อย่างเเท้จริง น้องชายคิดยังไงเขาไม่รู้ แต่เขาเชื่อว่าลึกๆแล้วตัวเองอิจฉาน้องชายอยู่ จนบางครั้งก็รู้สึกละอายที่ตัวเองมีความรู้สึกแบบนี้ เพราะพวกผู้ใหญ่ในตระกูลชอบซุบซิบนินทากันตามมุมห้องเสมอว่า เขาเป็นได้เพียงตัวสำรอง ในขณะที่น้องชายเป็นตัวจริง และถ้าน้องชายไม่เกิดมา เขาจะเป็นทายาทสายตรงที่สมบูรณ์แบบที่สุด
"ไปทำงานไกลถึง กรีซ ก็ยังอุตส่าห์หาเรื่องลำบากมาให้ฉันจนได้นะเจ้าน้องบ้า"
ร่างสูงใหญ่ซึ่งซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาเหมือนเเมวขี้เกียจจนถึงเมื่อครู่ลุกขึ้นมาขยี้ผมเบาๆ ก่อนหยิบแว่นทรงกลมขึ้นมาสวม เสริมให้ใบหน้าคมเด่นได้รูปกับนัยน์ตาเรียวรีดูลึกลับน่าค้นหาขึ้นอีกหลายส่วน
[ ฮะๆ พี่ก็ยังอุตส่าห์รู้นะว่าผมอยู่ที่กรีซ ขนาดพ่อเเม่ผมยังไม่รู้เลยมั้งนั่น เเล้วก็ขอโทษพี่ด้วยนะ แต่นอกจากพี่เเล้วผมก็ไม่ไว้ใจใครเเล้วจริงๆ ]
เสียงอีกฝ่ายฟังดูระโหยโรยเเรงแปลกๆ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจจนเผลอมุ่นคิ้วลง
"แกจะหมกมุ่นกับโบราณวัตถุบ้าๆเหมือนทุกทีน่ะฉันไม่ว่า เเต่หัดดูเเลตัวเองบ้างก็ดีนะ เดี๋ยวฉันจะส่งวิตามินกับของบำรุงไปให้ เเล้วก็กินข้าวให้เยอะๆด้วยล่ะ"
เขาเปลี่ยนจากถือโทรศัพท์ด้วยมือซ้ายมาเป็นหนีบโทรศัพท์ไว้เเนบหูขณะหยิบสมุดจดขึ้นมาจดรายการวิตามินให้คนปลายสาย
[ แหวะ พี่นี่ทำตัวเหมือนพวกพี่ติดน้องไม่มีผิด! ]
"ฉันเป็นบร่าค่อนเเล้วจะทำไม ถ้ามีปัญหานักก็มาเจอกัน ฉันพร้อมบวกกับแกเสมอ"
[ .........ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว ]
"หึ"
หลังจากนั้น ผลตรวจจากห้องแลปของคนรู้จักก็ออกมา เป็นผลตรวจที่ทำให้เขาถึงกับมือสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จนเผลอต่อสายหาน้องชายทันทีตามลางสังหรณ์บางอย่าง
[ เข้าใจล่ะ ผมถูกวางยาจริงๆด้วยสินะ เเค่กๆ! ]
ไอ้น้ำเสียงสบายๆนั่นมันอะไรกัน!
"แกอยู่ที่ไหน..." เขาพยายามข่มกลั้นความโกรธขณะกัดฟันถามออกไป ตามจริงตอนนี้เขาอยู่ที่สนามบินแห่งหนึ่งในชิคาโกเเล้ว เเละในมือก็มีตั๋วไปกรีซอยู่หนึ่งใบ เพื่อไปหาอีกฝ่ายให้ทันเวลา เขาไม่ได้จัดกระเป๋าเดินทางด้วยซ้ำ
[ ...ผมขอโทษนะพี่ไตร แบบว่า...เฮ้อ การต้องมาพูดอะไรซึ้งๆแบบนี้มันไม่เหมาะกับผมจริงๆนั่นแหละ เเต่ผมรักพี่นะ เเม้ว่าพี่จะปากไม่ตรงกับใจไปสักหน่อย เเต่ผมก็รักพี่มากๆ เเละผมก็รู้ด้วยว่าพี่รักผมมากๆ พี่อาจจะรู้สึกอย่างอื่นกับผมด้วย แต่ผมไม่แคร์หรอก ผมรู้ว่าพี่รักผม เเค่กๆ เวลาผมเหลือน้อยเเล้ว ผมต้องรีบไปทำงานวิจัยต่อให้เสร็จ ]
"ช่างหัวงานวิจัยของแกสิ! แกกำลังจะตายนะเจ้าน้องบ้า! ตราบใดที่ฉันยังอยู่ ฉันไม่อนุญาตให้แกตาย!!" เขาเผลอตะโกนลั่นสนามบินจนคนมากมายหันมามอง
[...] ปลายสายเงียบไปเล็กน้อย ทำให้เขาเริ่มใจเย็นลง เเละเพิ่งคิดได้ว่าสิ่งที่เราทั้งสองเหมือนกันก็คือ เกลียดการโดนบงการชีวิต และที่เขาพูดไปเมื่อกี้ก็ไม่ต่างจากกำลังบงการอีกฝ่าย
"อย่างน้อย...ก็อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปจนกว่าฉันจะไปถึง ได้ไหมตรินัย"
[ ...ผมไม่สัญญานะพี่ไตร] ปลายสายเว้นช่วงไปเล็กน้อยคล้ายกำลังตัดสินใจ สุดท้ายก็พูดขึ้นคล้ายกำลังสั่งลา [ ผมรักพี่นะ สำหรับผมใครก็ไม่สำคัญเท่าพี่ อยากให้พี่รู้เอาไว้แค่นี้แหละ อย่าลืมดูเเลตัวเองให้มากๆล่ะ ลาก่อนครับ กึก! ]
เเล้วสายก็ตัดไปทั้งอย่างนั้น จากนั้น ไตรเนตร กริมม์ ก็ไม่มีโอกาสได้ยินเสียงของ ตรินัย กริมม์ อีกเลย นอกจากเสียงที่ถูกบันทึกเอาไว้ตามสื่อต่างๆ
ตัวละคร
ไตรเนตร กริมม์ (ตัวเอก) - นักเขียน
"ถ้าไม่มีเจ้านั่น ฉันที่ไม่เคยสมบูรณ์แบบก็จะสมบูรณ์แบบ...แต่ถ้าไม่มีเจ้านั่น ฉันที่เคยไม่ว่างเปล่า ก็จะว่างเปล่า"
ข้อตกลงในการอ่าน
1.) เป็นนิยาย Y เเนวสืบสวนสอบสวนค่ะ เเละเป็นเเนวฮาเร็ม (ด้วยเรื่องของความรักบางครั้งมันก็ละเอียดอ่อนเกินกว่าจะมอบให้คนแปลกหน้าเพียงคนเดียว)
2.) อาจมีคำผิดเยอะ(มาก)
3.) เป็นนิยายสีเทาที่อัพตามความอยากค่ะ
4.) ตัวเอกมีเเนวโน้มว่าจะเกรียน เพราะมีน้องชายค่อนข้างรั่ว
โปรโมทนิยายอีกเรื่อง
Hephaestus เทพอัปลักษณ์...หรือ!? [ Y ]
ฝากอุดหนุนงานเขียนของแกะดำเอาแต่ใจหน่อยนร้าาาา แกะดำเอาแต่ใจจะเอาไปจ่ายค่ากาแฟคร่าาาา ๕๕๕๕