ขอให้เรื่องนี้จบเถอะนะ
0
ตอน
311
เข้าชม
13
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง

บทที่หนึ่ง เขามองมาที่ผม

ที่หน้าห้องสมุดหรือที่นักศึกษาในมหาลัยเรียกว่าบรรณสาร มีม้านั่งอยู่สามสี่ตัวใต้ต้นก้ามปูขนาดใหญ่ ไว้เพื่อพักผ่อนกินข้าวนั่งเล่นก่อนที่จะเข้าห้องสมุด กิ่งก้านของต้นก้ามปูแผ่ขยายกินบริเวณกว้างสร้างร่มเงาในหน้าร้อนได้อย่างดี แต่ในหน้าฝนอย่างนี้ซิ มันอันตรายจนได้ตัดกิ่งออกไปหลายกิ่ง กลัวว่าลมฝนพายุพัดมากิ่งไม้เปราะๆจะหักมาโดนคนที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ แต่ก็คงไม่มีใครบ้ามานั่งใต้ต้นไม้ต้นหน้าฝนหรอก เพราะพื้นของมันถึงแม้จะปูด้วยหินบล็อกก่อเป็นทางยาวไว้เป็นเส้นทางเดินขึ้นมาจนถึงมานั่ง ไม่ให้สัมผัสดินสัมผัสหญ้าโดยตรง  แต่ตอนหน้าฝนมันจะแฉะจนหลายคนไม่คิดอยากจะมานั่งเท่าไร

จะมีก็แต่คนบ้าอย่าง สงกรานต์เท่านั้นแหละ ที่มานั่งเสียบหูฟังเปิดเพลงอกหักทั่งๆที่ไม่ได้อกหักใต้สายฝนที่กำลังรินลงมา ถึงแม้คนอื่นจะมองมาที่เขาแต่เขาก็หาได้สนใจ สายตาของเขาจับจองไปที่เจ้าหมาอายุได้สามสี่เดือนตัวหนึ่งกำลังวิ่งไล่ผีเสื้อที่สนานหญ้าด้านหน้าอย่างอารมณ์เสีย

“ขาว ขาวๆ”ถึงจะเรียกขาวๆนานเท่าไร ไอ้หมาตัวสีขาวมันก็หาได้สนใจผมมันคงไล่ผีเสื้อต่อไป เสียงเรียกพร้อมกับลูกชิ้นหมูที่ซื้อมาจากตลาดหน้ามหาลัยของโปรดของมันก็ไม่อาจทำให้มันสนใจผมได้ “ชิ ไอ้หมานิสัยเสีย”ผมสบกออกมาเบาๆหน้าเหวี่ยงออกสักหน่อยก่อนจะยัดลูกชิ้นหมูที่อุตส่าห์แยกน้ำจิ้มเข้าปากด้วยความโมโห

ในขณะที่เคี้ยว ความคิดก็พลันนึกไปถึงสาขาที่ตนเลือกได้ปีนี้ การเรียนที่มหาลัยแห่งนี้ต่างจากที่อื่นสักหน่อย  ตรงที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จะเลือกสาขาได้ตอนปีสอง ส่วนปีหนึ่งเราจะเรียนพื้นฐานด้วยกันทั่งหมด สำหรับสงกรานต์สาขาที่ตนเลือกปีนี้เป็นสาขาเปิดใหม่ของทางวิศวกรรมการผลิตเรียนเกี่ยวข้องกับระบบอัตโนมัติในมหาลัย เขาแอบกังวลอยู่เล็กน้อย เพราะความใหม่ของสาขาทำให้ทุกวิชาที่เรียนก็ล้วนแต่เป็นสิ่งใหม่ๆเกือบทั่งหมด แต่เขาก็ได้แอบปลอบใจตัวเองเบาๆ ว่าคงจะผ่านมันไปได้

เมื่อเช้านี้เขาได้เข้าเรียนวิชาหนึ่ง เรียนเกี่ยวข้องกับสถิติธรรมดา ออกจะยากสักหน่อยหนึ่ง เพราะอาจารย์สอนด้วยเอกสารภาษาอังกฤษพร้อมสอนใช้โปรแกรมด้วย นี้ก็เพิ่งเรียนจบ เห็นทีว่าวันนี้คงต้องอ่านทวนใหม่หมดอีกรอบ ในขณะที่คิดอะไรเพลินๆเรื่อยเปื่อยก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาข้างๆ

“สมปอง สมปอง มาหาพ่อเร็ว สมปอง”ผมหันควบไปทางต้นเสียง เป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีดำสนิทตัดรองทรงยาวอย่างเรียบร้อย หน้าตาดี  ผิวขาว สวมชุดนักศึกษาเสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็ค รองเท้าหนัง แต่งกายเนี้ยบตั้งแต่รองเท้ายันปลายผม คลับคลายคลับคาว่าเคยเห็นที่ไหนแต่คิดไม่ออก แต่ที่คิดออกคือเจ้าคนที่ว่านี้กำลังเรียก ไอ้ขาวของเขาว่าสมปอง

ไม่ช้าทันใด ไอ้สมปองหมาน้อยทรยศก็วิ่งแจ้นมาหาเจ้าของร่างสูงโปร่ง นั่งกระดิกหางแลบลิ้นน้ำลายไหลอย่างตระกะ เขาคนนั้นนั่งลงข้างๆม้านั่งที่สงกรานต์นั่งอยู่ ในมือของเขามีลูกชิ้นหมู เหมือนกันกับเขาเปี้ยบ   ผิดแต่ว่าลูกชิ้นหมูในมือเขาคนนั้นมันดึงดูดไอ้ขาวได้ ผิดกับของเขา

“ตระกะ”เขาว่าเบาๆให้ไอ้หมานั้น ด้วยความอารมณ์เสียจึงคิดจะเก็บของแล้วขึ้นไปห้องสมุดดีกว่า  แต่พอจะลุกก็มีเสียงหนึ่งดังมาว่า

“เอาไหมครับ”สงกรานต์เลิกคิ้วนิดหน่อยมองหน้าผู้ชายตรงหน้า  ตีสีหน้าเหวี่ยงๆบอกว่า

“ไม่ครับผมไม่หิว”พอตอบไปได้เขาคนนั้นก็ ก็หัวเราะเบาๆ หัวเราะจนเห็นฟันสีขาวที่เรียงสวยนั้น

“ผมไม่ได้เอาให้คุณกิน ผมเอาให้คุณเอาให้สมปอง”

สงกรานต์แข็งไปชั่วขณะ ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดได้แต่”เออ เออ”ก่อนจะหัวเราะแห้งอย่างฝืดๆดึงเอาลูกชิ้นจากมือเขามา  นั่งลงแล้วยืนไปให้ไอ้หมาทรยศแล้วก็พูดแก้เขินว่า

“พอผมเรียกมันมากินมันไม่เห็นมา แต่พอคุณเรียกมันมามันกลับวิ่งมาซะอย่างเร็ว”

“นั้นเลยทำให้คุณอารมณ์เสียอย่างนั้นเหรอ  อย่าไปใส่ใจมันมากเลยมันก็แค่หมา ใช่ไหมสมปอง”

“ผมไม่ได้อารมณ์เสีย และมันก็ไม่ได้ชื่อสมปอง มันชื่อขาว”เขาว่าแล้วยืนขึ้นหลังจากที่ลูกชิ้นในมือหมดเขายัดไม้เสียบลูกชิ้นคืนที่ถุงในมือของผู้ชายคนนั้น เขาไม่ค่อยอยากจะคุยกับผู้ชายคนนี้เท่าไร  ถึงว่าคนนี้ๆจะหน้าตาดีดูฉลาด แต่ช่วงนี้เขาไม่ต้องการเพื่อนใหม่อะไรทั่งนั้นเขาแค่ต้องการอยู่คนเดียว

“ครับ ครับ ต่อไปผมจะเรียกมันว่าขาว”เขาคนนั้นหัวเราะ พูดต่อว่า”คุณมาให้อาหารมันตลอดเหรอครับ”สงกรานต์พยักหน้า เขาเสไปมองด้านอื่นแทนที่จะมามองหน้ากับคนที่ไม่คุ้นเคย ฝนกำลังหยุดรินแล้วแดดเริ่มออกมานิดๆ

“ก็ไม่เชิงทุกวันหรอก ก็แค่วันไหนที่มาบรรณก็ซื้อลูกชิ้น ไก่ทอดมาฝากมันแค่นั้นแหละ”

“ถ้างั้นก็เกือบทุกวันเลยสิครับ”สงกรานต์มองหน้าไปที่เขาคนนั้นด้วยความสงสัยทำไหมถึงรู้ว่าเขามาที่นี้เกือบทุกวัน เขาคนนั้นเหมือนจะรับรู้ความคิดของเขา

“ทุกครั่งที่ผมมาที่บรรณผมเห็นคุณตลอดเลยนิ”เขาพยักหน้าบอกว่า”ก็ประมาณนั้น”สงกรานต์ว่าเขาควรจะเดินออกไปจากบทสนทนานี้ได้แล้ว เหมือนว่าผู้ชายคนนี้กำลังพยายามที่จะสรรหาประโยคสนทนามาคุยกับเขา

“ไปก่อนนะครับ ขอบคุณนะครับสำหรับลูกชิ้น”กำลังจะเดินไป เสียงเขาคนนั้นก็ดังขึ้นมาว่า

“เมื่อสองวันก่อนลุงยามที่บรรณบอกผมว่า อีกไม่กี่วันนี้ทางมหาลัยจะจับเอาไอ้ขาวไปปล่อยที่อื่น  ไม่ให้มีหมาแถวบรรณอีกแล้ว เขากลัวว่าหมาจะกัดคน”สงกรานต์หยุดนิ่งแล้วหันหน้ามาถามย้ำเขา เขาพยักหน้าและพูดต่อว่า

“ผมลองประกาศหาคนเลี้ยงในกลุ่มเฟสบุ๊คมหาลัยแล้ว แต่ไม่มีคนมารับมันไปเลี้ยงเลย”ประกาศเหรอ คนที่ไม่สนใจโลกโซเซียวอย่างเขาย่อมไม่รู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่ถึงเขารู้เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เขาอาศัยอยู่ในหอพักของทางมหาลัยที่มีกฎห้ามเลี้ยงสัตว์ ถ้าเอาไปไม่พ้นโดนไล่ออกจากหออย่างแน่นอน

 

ข่าวที่เพิ่งได้รับ บวกกับ ความเสียใจ ความผูกพันเกือบสองเดือนกับเจ้าขาวทำให้เขาออกจะเศร้าอยู่หน่อยๆเพราะตนไม่สามารถช่วยอะไรมันไม่ได้เลย เลยได้แต่พูดว่า

“ ผมอยู่หอใน”เขาพูดออกมาแค่นั้นก่อนที่จะเงยหน้าไปมองที่ผู้ชายคนนั้น แล้วพูดต่อว่า“ผมคงช่วยอะไรไม่ได้มาก ถ้าหากผมช่วยได้”สงกรานต์ไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปดี แต่เห็นเขาคนนั้นยิ้มสวยจนตาหยีแล้วพูดออกมาว่า

“คุณช่วยได้แน่นอนครับ”ตาของสงกรานต์เป็นประกาย เงยหน้ามองที่เขา เขายิ้มอีกครั่งแล้วพูดว่า

“ตอนแรกที่จริงผมก็ว่าจะรับเลี้ยงมัน ติดอยู่ตรงที่ว่าผมไม่ค่อยมีเวลาดูแลมันเท่าไร ถ้าฝืนเอามันไปก็คงรังแต่จะทำให้มันทรมานเปล่าๆ ถ้าหากว่าคุณช่วยดูแลมันกับผมละก็ผมคงรับเลี้ยงมันไว้ได้ คุณพอจะช่วยผมได้ไหมล่ะครับ”

ส่วนคำตอบนั้นสงกรานต์เองก็คงไม่ได้แต่พยักหน้าตอบตกลงไป

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว