อำนาจของการสักยันต์นั้น มีเรื่องราวที่ถูกบันทึกและสืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ พบเห็นอยู่ทั่วโลก ซึ่งในสมัยโบราณนั้น มีการต่อสู้เกิดขึ้นมากมายทั่สทุกหนทุกแห่ง ภัยสงครามจากมนุษย์ การอาละวาดของสัตว์อสูร การรุกรานของปีศาจ ภัยพิบัติจากธรรมชาติ
ทำให้มีวีรบุรุษคนนึงที่ได้รับรู้อำนาจ พลังของการสักยันต์โดยบังเอิญ ซึ่งวีรบุรุษคนนั้นต้องการสร้างสันติภาพของโลกให้สงบสุข จึงทำการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ของตน เฉียดความเป็นความตายมาหลายนับครั้งไม่ถ้วน ทั่วทั้งร่างชโลมด้วยเลือดจากมนุษย์ สัตว์อสูร ปีศาจมามากมาย มีบาดแผลเต็มตัวจากการต่อสู้ทั่วร่างกาย
แต่ด้วยความบังเอิญ ความโชคดี หรืออาจจะเป็นโชคชะตาของวีรบุรุษคนนั้น รอยบาดแผลของวีรบุรุษคนนั้นที่เกิดจากอาวุธของมนุษย์ เขี้ยวเล็บสัตว์อสูร กรงเล็บของปีศาจ เปรียบเสมือนกับเข็มในการใช้สักยันต์ ส่วนเลือดที่แปดเปื้อนตามตัวก็เปรียบกับน้ำหมึกในการใช้สักยันต์ บาดแผลที่ได้มาก็คล้ายกลายเป็นลวดลายยันต์มนตราชนิดนึงขึ้นมา จนวีรบุรุษคนนั้นได้รับพลังบางอย่างมา ทำให้อุดมการณ์กลายเป็นจริงขึ้นมาได้สำเร็จ
หลังจากนั้นก็มีการเขียนบันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์ของวีรบุรุษคนนั้นกลายเป็นตำนานที่โลกจารึกไว้ เป็นส่วนนึงของหน้าประวัติศาสตร์ที่โลกต้องจดจำ
เมื่อยุคสมัยผ่านไปหลายหมื่นปี สิ่งที่วีรบุรุษคนนั้นเหลือทิ้งไว้คือ ลวดลายของยันต์ที่เกิดขึ้นกับตนเอง ซึ่งมีคนในสมัยนั้นได้วาดภาพเก็บเอาไว้ในตำราส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ จนมีคนนำมาศึกษาค้นคว้าเพื่อไขว่คว้าพลังอย่างวีรบุรุษในตำนานคนนั้น แต่ก็ไม่อาจจะค้นพบ หรือได้รับพลังเหมือนกับวีรบุรุษคนนั้นเลย
จนเกิดการศึกษาค้นคว้า ดัดแปลง แก้ไข ลวดลายยันต์ในรูปแบบต่างๆเรื่อยๆมาจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้ได้พลังมาในการทำความปรารถนาของตนให้เป็นจริง
หากได้รับพลังอันยิ่งใหญ่ดังเช่นวีรบุรุษในตำนาน ก็สามารถทำสิ่งที่เหลือเชื่อได้ ซึ่งแต่ละคนล้วนมีความปรารถนาแตกต่างกันออกไป บางคนต้องการพลังอำนาจปกครองโลก บางคนต้องการสร้างชื่อเสียง
ทำให้เกิดลวดลายรูปแบบยันต์หลากหลายแตกต่างกันออกไปขึ้นมาจำนวนมาก กลายเป็นสัญลักษณ์แสดงพลังอำนาจ และสัญลักษณ์ของเผ่า ตระกูลตนเอง สืบต่อกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ยันต์ แบ่งคุณภาพตั้งแต่ 1-10 ดาว
ยันต์ มีหลายประเภท
ยันต์เสริม เช่น เสริมกายภาพ เสริมมนตรา
ยันต์โจมตี เช่น ทางกายภาพ ทางมนตรา
ยันต์ป้องกัน เช่น ทางกายภาพ ทางมนตรา
ยันต์ชนิดพิเศษ เช่น สร้างพื้นที่ต่างมิติ ฯลฯ