นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ปีพุทธศักราช
2537
ห้ามมิให้ผู้ใดทำการ คัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือนำเนื้อหาใจความส่วนหนึ่งส่วนใด ไปเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน หากกระทำการฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีโดยมีโทษสูงสุดตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ปีพุทธศักราช
2537
โดยไม่มีการยอมความใดๆ ทั้งสิ้น
“ปล่อยฉันซะเถอะนะคะนายหัว ถ้าคุณจะไม่ให้เกียรติฉันก็เห็นแก่คู่หมั้นของฉันบ้างเถอะนะคะ พวกคุณเป็นผู้ชายเหมือนกันน่าจะรู้ดีว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร เมื่อมารู้ทีหลังว่าคู่หมั้นของตัวเองถูกผู้ชายคนอื่นข่มเหงรักแกช่วงชิงเอาความสาวความบริสุทธิ์ไปหมดจนไม่เหลือคุณค่าอะไรเอาไว้ให้เขาแล้วแบบที่คุณกำลังทำ”
ดวงตาของชายหนุ่มวาวโรจน์ขึ้นมาอย่างน่ากลัวเมื่อเธอพูดจบประโยค เพียงฟ้าใจหายวาบเมื่อเผลอสบตากับเขาเข้า แววตาน่ากลัวแบบนั้นเธอเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกหวังว่าเธอคงไม่พูดอะไรที่ผิดหูของเขาออกไปหรอกนะ
“รักมันมากนักใช่มั้ยห๊า ไอ้ผู้ชายเฮงซวยแบบนั้นน่ะ
!?
จะเก็บความสาวความบริสุทธิ์ ไว้ให้มันอย่างนั้นเรอะ ฝันไปเถอะคนอย่างมันไม่คู่ควรที่จะได้รับอะไรแบบนั้นหรอก”
อัษฎายุธ รณฤทธิ์ธิไกร
นายหัววายุ อายุ
33
ปี เจ้าของเกาะส่วนตัว
เพียงฟ้า อมรเวชกร
ฟ้า อายุ
26
ปีเป็น คุณหมอจบใหม่ ที่โรงพยาบาล ”อมรเวช”
ราเมศวร พงษ์สุรัชวดี
รุ้งแก้ว
เทียนธีรา
ผู้ใหญ่บ้านสาว นายหญิงแห่งเกาะเทียน
“คุณมันเลว”
เขาแสยะยิ้มร้ายกาจ
“ผมยังเลวได้อีกมากคนสวยและก็อย่าลืมซะล่ะว่าไอ้ผู้ชายที่คุณด่าว่าเลวคนนี้มันเป็นอะไรกับคุณ”
มือเรียวฟาดลงบนใบหน้าคมคร้ามอย่างแรง จนใบหน้าของอัษฎายุธหันไปตามแรงฝ่ามือของเธอความโกรธพุ่งขึ้นเป็นริ้วๆ เขาค่อยๆ หันกลับมามองหน้าที่เหวอไปเล็กน้อยของเธอหลังจากตบหน้าเขาไปหมาดๆ ดวงตาเขาวาวโรจน์และเพียงฟ้าเริ่มจะรู้สึกตัวว่าเธอคงทำผิดไปอย่างร้ายแรงซะแล้วกระมังที่ไปตบหน้าเขาแบบนั้น
“รู้มั้ยว่าผมจะลงโทษยังไงกับผู้หญิงที่ทำร้ายสามีตัวเองน่ะห๊ะ
!!
”
ดวงฤทัยวายุ!!!
ดวงฤทัยวายุ
สร้อยดอกรัก
www.mebmarket.com
“ว้าย!” หญิงสาวผวากอดเขาแน่นเมื่อลืมตาขึ้นมองเขาเต็มๆ ตาครั้งแรกแล้วแสงปลาบแปลบนั้นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงครืน เธอไม่รู้สักนิดว่าความหวาดกลัวของเธอทำให้หัวใจของใครบางคนที่เธอแนบเบียดหน้าอกนุ่มหยุ่นอยู่กับแผงอกของเขานั้นเต้นด้วยจังหวะเร่าร้อนแค่ไหน นานเหลือเกินมาแล้วที่กายหนุ่มไม่ได้แนบชิดสนิทเนื้อกับกายสาวนุ่มนิ่มแบบนี้ กลิ่นกายสาวอ่อนๆ ที่บดเบียดกระตุ้นความปรารถนาที่หลับใหลให้เริ่มตื่นตัวขึ้น “ก็แค่ฟ้าร้องเท่านั้น” ชายหนุ่มพยายามเอื้อมมือไปแกะนิ้วเล็กๆ ที่โอบรัดกายของเขาออก ก่อนที่อะไรบางอย่างมันจะตื่นขึ้นมาแบบไม่รู้จักกาลเทศะ กระนั้นมือเล็กๆ ของเธอก็ช่างเหนียวซะเหลือเกิน “คุณทำให้ผมตื่น” เขาบอก “ฉันขอโทษคะ เสียงฟ้าผ่าเมื่อกี้ทำให้ฉันกลัว” เธอพูดอ้อมแอ้มอยู่กับอกของเขา ไม่รู้ทำไมยามซบหน้าลงตรงนี้ไออุ่นและเสียงหัวใจที่เต้นตุบของเขาทำให้เธอคลายความกลัวลงไปได้มากทีเดียว “ไม่ใช่แบบนั้น” “เอ๊ะ…” หญิงสาวช้อนตาขึ้นมองใบหน้าของเขาและได้ยินเสียงเหมือนเขากลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่ “ผมหมายถึงร่างกายของคุณที่เบียดผมอยู่เนี่ยมันทำให้น้องชายคนโปรดของผมตื่น แหละคุณคงไม่รู้หรอกว่าเวลาที่ผมกลายร่างเป็นโจรบ้ากามน่ะมันน่ากลัวมากกว่าฟ้าผ่าเมื่อกี้หลายเท่านัก” “บ้า คนลามก” เพียงฟ้าหน้าแดงก่ำผลักเขาออกห่างจากตัวเธออย่างอายๆ กระนั้นแล้วสายตาซุกซนของเธอยังอดที่จะเหลือบมองส่วนที่เขาว่าเอาจนได้ และมันก็กำลังดุนดันกางเกงนอนผ้าเนื้อบางของเขาออกมาจริงๆ ซะด้วย “อร้ายย น่าเกลียดซะมัด” เธอยกมือปิดหน้าพร้อมกับทำท่าขนพองสยองเกล้า ซึ่งกริยาดังกล่าวของเธอเรียกเสียงหัวเราะของเขาออกมาเบาๆ “ถ้าคุณหายกลัวแล้วล่ะก็ ไปกันได้แล้วคืนนี้นอนที่ห้องผมก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะให้ไอ้ชากับพวกมาซ่อมกระจกหน้าต่างให้” พูดจบเขาก็เดินอาดๆ ออกไปจากห้องของเธอทะลุเข้าห้องนอนของเขาที่เปิดประตูอ้าเอาไว้ เพียงฟ้าลดมือตัวเองที่ปิดหน้าเอาไว้ พลางมองตามแผ่นหลังกว้างของเขาไป เธอวิ่งตามเขาไปติดๆ และพบว่าเขาล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวใหญ่ที่อยู่หน้าทีวีเรียบร้อยไปแล้ว นี่เขาคงเสียสละให้เธอนอนบนเตียงสินะหญิงสาวคิดในใจขณะก้าวขึ้นเตียงและดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมร่าง แสงสว่างจากเทียนไขเล่มเล็กที่เขาจุดมันเอาไว้ในห้องทำให้เธอเห็นเขาได้ในแสงสลัวๆ “ขอบคุณนะคะ” เธอเอี้ยวตัวนอนตะแคงไปมองเขา “อืม” “คุณจะขึ้นมานอนบนเตียงก็ได้นะคะ” “นี่คุณชวนผมนอนร่วมเตียงงั้นหรอ” “บ้าน่ะสิ! ฉันหมายถึงให้คุณมานอนบนเตียงแล้วฉันไปนอนที่โซฟ้าแทนต่างหากล่ะ” เพียงฟ้านิ่วหน้าหน็อย ผู้ชายลามกนี่ชอบแปลเจตนาของเธอไปในทางแบบนี้ตลอด “งั้นก็นอนซะเถอะ แล้วคราวหน้าคราวหลังเวลากลัวอะไรขึ้นมาอีกก็อย่าเที่ยวไปกอดผู้ชายแปลกหน้าอีกล่ะ…” คนนอนอยู่บนเตียงเม้มปากแน่นจะว่าไปเขานี่แหละเป็นผู้ชายแปลกหน้าคนแรกที่เธอกอด แต่มันคงเปล่าประโยชน์ที่เธอจะไปอธิบายอะไรให้คนอย่างเขาฟัง… ความเงียบเข้ามาปกคลุมทั่วห้องอีกครั้ง ทว่าความรู้สึกบางอย่างกลับแผ่เข้ามาปกคลุมอบอวนไปทั่วห้อง ความผูกพันเล็กๆ เริ่มทักทอสายใยของมันอย่างเชื่องช้า เชื่อมโยงหัวใจสองดวงที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งการใช้ชีวิตและวิถีแห่งการดำรงอยู่ให้รู้สึกถึงความสำคัญของกันและกัน