#เด็กขาย [For Valentine's] ตอนเดียวจบ

Y

#เด็กขาย [For Valentine's] ตอนเดียวจบ

#เด็กขาย [For Valentine's] ตอนเดียวจบ

Whisper SVz.

Y

0
ตอน
1.28K
เข้าชม
23
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
6
เพิ่มลงคลัง

คุณคิดว่าชีวิตหนึ่งคุณต้องผ่านเรื่องลำบากอะไรมาบ้าง? มีกี่สิ่งที่ทำร้ายทั้งกายและจิตใจของคุณ? และเด็กคนนี้ก็เช่นกัน เขาเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีปรกติเช่นคนทั่วไป แต่....ที่ไม่เหมือนคนทั่วไปคือเขาเป็น เด็กขาย....

ต้นเป็นเด็กหนุ่มที่เรียกได้ว่าดูดีสมเป็นชายทั้งใบหน้าที่ขึ้นโครงสวยคมสัน หล่อเหลาผิวแทนเข้มรู้ร่างสูงเด่นเเต่งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อดูสมเป็นชาย แต่ต้นเป็นเด็กที่ถูกพ่อมาขาย....จะเรียกว่าขายเสียก็ไม่ได้ เรียกว่าถูกหลอกด้วยวาทกรรมเสียจะดูเป็นการถนอมในใจมากกว่า

ต้นเข้ามาทำงานในกรุงตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลายเขาถูกพามาโดยนายหน้า ที่ยินยอมก็เพื่อหวังว่าจะได้ส่งเสียจุนเจือครอบครัวที่ขัดสนที่บ้านนอก พอเข้ามาทำงานได้สักพักต้นก็รับรู้ได้ว่างานที่เขาต้องทำนั้นต่างจากที่เขาเข้าใจ แต่อย่างไรเสียค่าตอบแทนที่ได้มันก็มากพอที่จะดูแลครอบครัวได้ จะไปทำงานอื่นรายได้ก็อาจจะน้อยตาม แม้มีบางครั้งที่ต้องถูกดูถูกเหยียดหยามแต่มีรึจะสนคนอื่นใช่ว่าจะรู้ความจริง ต้นยอมทำงานที่คนดูถูกแบบนี้ก็เพื่อใคร....เขาไม่ใช่คนเลว

ทำงานได้ไม่นานด้วยรู้ร่างหน้าตาที่ไม่เป็นสองรองใครต้นก็ได้ขึ้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่งของร้านค่าตัวก็สูงโดด คนธรรมดามีรึจะได้ใช้บริการ เจ้าของร้านถูกใจต้นเป็นอย่างมากเพราะเขาทำรายได้ในร้านเป็นจำนวนมาก และต้นเองก็รู้สึกชอบงานนี้ด้วยเช่นกัน

วันนี้ก็เช่นเดียวกับทุกวันท่ามกลางถนนสายใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงสีและเสียงดนตรีชวนหลงใหลด้านนอก ต้นนั่งรอลูกค้าที่จองตัวเขาตั้งแต่ช่วงบ่ายอยู่ในห้องที่เป็นส่วนตัว ปรกติเจ้าของร้านจะไม่ยอมให้เขาต้องมาเปลืองตัวแบบนี้บ่อยนักหากลูกค้าเงินไม่ถึง รอไม่นานนักประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของเด็กชายที่แทรกตัวเข้ามา ต้นตกใจเล็กน้อยไม่คิดว่าเด็กจะมีกำลังทรัพย์มากพอที่จะซื้อเขาอีกทั้งต้นเองก็มีจรรยาบรรณหากต้องทำจริง ๆ ก็เกรงว่าเด็กจะใจแตก

แต่เขาคิดผิด.....

ไม่ทันที่จะได้เปิดปากทักทายกันเสียด้วยซ้ำต้นถูกเด็กหนุ่มผู้มาใหม่ผลักเขาลงกับเตียงแล้วขึ้นคล้อม เขาตกในเล็กน้อยไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะไวไฟได้ขนาดนี้ ใจหนึ่งก็นึกถึงจรรยาบรรณที่พึงจะมี อีกใจก็ท่องไว้ว่ามันคืองาน และด้วยว่ามันคืองานและด้วยความชำนาญต้นไม่รีรอที่จะรุกเธอกลับ สองมือลูบไล้ผิวอ่อนนุ่มผ่านสวนเว้าของเอวลงมาถึงบั้นท้ายต้นออกแรงบีบหนัก ๆ ที่บั้นท้ายของเธอสายตาก็จับจ้องไปยังใบหน้าน่าเอ็นดูที่ยิ้มปริ่มจนตาปิด

เด็กหนุ่มหัวเราะคิกคักเป็นเชิงหยอกเย้าก่อนที่เธอจะหยุดการกระทำทั้งหมดไว้ด้วยรอยยิ้มตรึงใจ

ต้นลดมือลงจากบั้นท้ายของเธอและเด็กหนุ่มเองเธอก็ลุกขึ้นนั่ง ต้นไม่ได้ถามสิ่งได้กับเธอแต่เป็นเธอเองที่เปิดปากถามก่อน

“คุณทำแบบนี้กับลูกค้าทุกคนเลยหรือเปล่า?” มันอาจจะเป็นคำถามที่ตรงไปสักนิดสำหรับคนที่เพิ่งพบหน้าแต่กับต้นเขาเจอคนมามาก หยาบโลนกว่านี้ก็เยอะ

“เปล่าครับ....เป็นบางครั้ง นาน ๆ ครั้ง” ต้นตอบกลับพรางจับจ้องไปยับหน้าของเธอ

เด็กหนุ่มซักไซ้ถามจนรู้ว่าต้นได้มาทำงานที่นี้เพราะอะไร เธอไม่รู้สึกแปลกใจกับเรื่องราวชีวิตของต้น แต่ที่น่าแปลกใจกว่าคือต้นเลือกที่จะเล่าชีวิตตัวเองให้เด็กที่ไหนก็ไม่รู้ฟัง

“คุณเคยได้ยินเรื่องการตกเขียวไหม?” เธอถาม ต้นได้แต่ทำหน้างง “เด็กสาวจะถูกขายให้นายหน้าตอนที่เธอยังเด็ก ใช้คำว่าขายคงดูรุ่นแรงไปผมขอโทษด้วย ผมอาจจะใช้คำว่ามีนายหน้ามาให้เงินกับพ่อแม่เธอฟังดูอ่อนโยนขึ้นหน่อย แต่พอเธอเป็นสาวเธอก็ต้องไปใช้หนี้ในเมืองใหญ่ คุณว่ามันเกิดจากอะไร?”

“เป็นหนี้ก็ต้องใช้ ผมว่าพวกเธออาจจะไม่มีทางเลือกหรือด้วยความจำเป็นเหมือนกับผม ผมมาทำงานทีแรกเพราะไม่คิดว่าจะเป็นงานแบบนี้แต่พอผมทำไปผมสนุกกับมัน ผมมีความสุขกับการทำให้ครอบครัวมีอันจะกิน” ต้นตอบเธอตามสิ่งที่เขาคิด

“ความจำเป็น....ด้านไหนครับ? การเงิน ความเป็นอยู่? หากคุณเคยได้ยินเรื่องราวของสาวดอกคำใต้....” เธอเงียบไปสักพักเพื่อดูเชิงว่าจะเล่าดีหรือไม่และสุดท้ายเธอก็เลือกที่จะไม่เล่ามันแต่..... “ในสมัยก่อนมีหญิงหลายคนที่ถูกซื้อมาเพื่อทำงานบริการทางเพศอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่มันมีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่จะพบได้มากว่ามีความนิยมการใช้บริการทางเพศสาวเหนือ ทำไมถึงเป็นสาวเหนือ” อีกแล้ว เด็กหนุ่มทิ้งคำถามให้ต้นอีกครั้งต้นเองไม่รู้จะตอบเธออย่างไรจึงได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ

“นั้นสิผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน.... แต่ เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว มีหญิงสาวที่เข้ามาทำงานด้านบริการพวกเธอมีเงินที่จะจุนเจือครอบครัว จากที่เคยตกทุกข์ได้ยากปฏิเสธไม่ได้เลยว่าครอบครัวเธอยังขัดสน พอเธอกับบ้านเธอกลับไปพร้อมกับผ้าป่า เงินบริจาคมากมายให้กับหมู่บ้าน พอมาถึงตรงนี้คุณคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”

“ไม่รู้สิครับ สี่ห้าปีมานี้ผมยังไม่ได้กลับบ้านเลย” ต้นว่า พอฟังเรื่องที่เธอเล่าแล้วก็อดคิดถึงบ้านและครอบครัวไม่ได้เลย

“ชื่อเสียงไง ครอบครัวมีหน้ามีตามากขึ้น ค่านิยมการส่งลูกสาวมาทำงานบริการจึงมากขึ้นแต่.... พวกเขาไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่พวกเขาได้กลับไปมันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เสีย วันแล้ววันเล่าพวกเขารอให้เธอกลับไปแต่สิ่งที่ได้คืนมันเป็นเพียงขี้เถ้า.....” เล่ามาถึงตรงนี้ต้นก็ถึงกลับสะดุ้งเบา ๆ เขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเลวร้ายขนาดนี้เพราะตั้งแต่ทำงานมาเขายังไม่รู้สึกถึงมันเลย

“ผมว่ามันดูน่ากลัวเกินจริงหรือเปล่า?” ต้นถามบ้างและตีสีหน้าทำเชิง

“ผมจะทำให้คุณดูหากคุณไม่เชื่อ ผมไม่ได้ว่าการขายบริการมันไม่ดีและผมก็ไม่ได้ต่อต้านอาชีพนี้แต่ผมเพียงต้องการรู้ความรู้สึกของคนที่ทำงานนี้ มันเป็นเหตุว่าทำไมผมถึงยอมจ่ายเงินแพง ๆ เพื่อซื้อคุณมา”

“คุณจะมาหลอกให้ผมเลิกทำงานรึเปล่า?” ต้นยังไม่วายถามซ้ำ มีคนบ้าที่ไหนมาชวนชายขายบริการคุยเรื่องความเป็นมาของการขายบริการ

เด็กหนุ่มไม่ตอบอะไรกับต้น เธอเดินออกไปเงียบ ๆ ปล่อยให้ต้นนั่งงงอยู่ในห้องคนเดียว....

...................................................................................

เป็นเวลาหลายเดือนกว่าแล้วนับตัวแต่วันที่ต้นเจอเด็กหนุ่ม วันนั้นต้นเอาแต่คิดเรื่องที่เธอเล่าให้ฟังจนไม่เป็นอันทำงานไปทั้งอาทิตย์ และไม่กี่วันเธอก็กลับมาหาต้นอีกเช่นเคยเธอไม่ได้ใช้ให้ต้นทำอย่างที่คนอื่นทำ เธอยังชวนต้นคุยสารพัดอย่างที่เธอเคยทำและมันก็เป็นเวลาย่างเข้าหลายเดือนจนกลายเป็นว่าต้นเองที่รอคอยการมาของเด็กหนุ่มทุก ๆ วัน และวันนี้ก็เช่นเคย

“ทำไมวันนี้คุณแก้วมาไวกว่าทุกที” ต้นถามขึ้นเมื่อพบกันครั้งแรกของวัน

“วันนี้พ่อห้ามผมกลับดึก แล้วก็เราจะไปข้างนอกกัน” เด็กหนุ่มว่าอย่างยิ้มแย้ม ต้นแอบดีใจเล็กน้อยที่จะได้ไปเปิดหูเปิดตา จำได้ว่าเขาได้ออกไปเที่ยวอย่างอิสระน้อยครั้งมากนั้นเป็นเพราะเจ้าของร้านสั่งห้ามหากลูกค้าไม่พาไปเขารึจะได้ไป

เด็กหนุ่มพาต้นเที่ยวตามประสาเด็ก มีทานข้าวบ้าง ปล่อยนกบ้าง ปล่อยปลาบ้าง ต้นไม่เคยมีความสุขมากขนาดนี้ในรอบหลายปี มันไม่ใช่การออกมาบริการทางเพศนอกร้านแต่มันเป็นการมาหาสิ่งจรรโลงจิต ตลอดเวลาต้นเองแต่แอบมองเธอจากอีกซีกหน้า และไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ต้นคิดที่จะเลิกทำงานนี้.....

“ขอบคุณคุณต้นมากนะครับ วันนี้แก้วสนุกมากเลย” เธอว่าพรางโบกมือเล็กน้อยก่อนจะกลับไป ไม่ใช่แค่แก้วหรอกที่มีความสุขต้นเองก็มีความสุขเช่นกัล

และวันนี้หลังจากร้านปิดต้นได้เข้าไปคุยกับเจ้าของร้านว่าเขาจะเลิกทำงาน เขาควรหาสิ่งอื่นทำบ้างหลังจากที่ถูกปิดกลั้นมานาน งานอื่นอาจจะได้เงินน้อยแต่ก็อยากจะลองเสี่ยงดู

อยากเป็นเพื่อนกับคุณแก้ว และไม่อยากให้คุณแก้วถูกมองว่าเป็นเพื่อนกับชายขายตัว.....

“เจ๊ครับ ผมลองคิดมาสักพักแล้วว่าผมจะขอลาออก” ต้นว่าทันทีที่เขาพูดจบเจ้าของร้านดูสีหน้าไม่พอใจ

“ทำไม หรือว่าหลงรักเด็กนั้นซ่ะแล้ว” เจ้าของร้านถามกลับนั้นจี้ใจต้นมาก

ตั้งแต่รู้จักกับแก้วมาต้นไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย เขามีความสุขที่จะได้อยู่กับแก้ว เขามีความสุขที่จะรอแก้วมาหาแม้อาทิตย์ละครั้งเขาก็ดีใจ

หากจะรักจะเป็นอะไรรึเปล่า ต้นเป็นผู้ชายแม้แก้วจะดีด้วยก็ใช่ว่าอีกฝ่ายจะชอบผู้ชายอีกอย่างต้นเป็นเด็กขายตัว แปดเปื้อนราคะมานักต่อนักใครที่ไหนกันจะรักลง.... แต่

รักสิ รักคุณแก้ว.... แม้คุณแก้วไม่รักก็ขอเพียงได้คุยด้วย

“ผมทำงานแบบนี้จะมีใครรักผมได้ครับ” ต้นตอบเลี่ยง ๆ หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงตอบไปตรง ๆ แต่เพราะซึมซับการลูกล้อลูกชนแก้วมาพอควรจึงได้รู้จักการพูดเช่นนี้

“เหรอ.... งั้นเจ๊ขอให้เธอมาทำงานอีกสักอาทิตย์ แล้วก็....” เธอบอกแล้วมุดลงไปหลังเคาท์เตอร์พักหนึ่งก่อนจะโผล่ขึ้นมาพร้อมกับยาในมือหนึ่งชุด “กินให้ครบชุดก่อนนอนทุกวัน มันเอาไว้ป้องกันโรคติดต่อ”

“ขอบคุณครับเจ๊” ต้นกล่าวขอบคุณก่อนจะกลับไปพักผ่อน

“คุณแก้วถึงคุณจะเคยบอกว่าผมไม่ต้องเลิกทำงานนี้ก็ได้แต่คุณทำเพื่อผมแล้วผมอยากทำเพื่อคุณบ้าง ถึงเรารักกันไม่ได้แต่ผมเป็นเพื่อนคุณได้ใช่ไหม?” ต้นเอ่ยถามกับตัวเองก่อนที่เขาจะกินยาแล้วเข้านอน

..........................................................................................

นี่ก็จะครบอาทิตย์ตามที่ต้นรับปากไว้กับเจ้าของร้านแล้วว่าจะทำงานให้ครบวันและลาออก วันนี้ต้นยังรอการมาของแก้วเช่นเคยแต่จนแล้วจนรอดอีกฝ่ายก็ยังไม่มา จนร้านปิดแล้วแก้วก็ยังไม่มา ต้นกลับมาที่ห้องพัก พักหลัง ๆ เขารู้สึกว่าตัวเองแปลกไปอ่อนเพลียง่ายสมาธิไม่อยู่กับตัวหิวน้ำบ่อยจนเกินปรกติ หรือมันอาจจะเป็นผมจากยา....

ต้นเดินไปเปิดทีวีที่นานวันไม่เคยจะได้ดู วันนี้เขารู้สึกเพลียมากว่าทุกวัน สายตาพล่ามัวหัวใจเต้นแรง จนในที่สุดเขาก็ทนกับอาการไม่ไหวล้มลงกับพื้นกลางห้อง เขานอนหอบหายใจแรงอย่างไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่นานประตูก็เปิดออกพร้อมกับร่างของเจ้าของร้านและลูกจ้างในร้านที่เขาคุ้นหน้าทุกคน

ต้นถูกรายล้อมไปด้วยเพื่อนในร้าน เขาถูกพยุงตัวขึ้นแต่มันก็มาพร้อมความรุนแรง ปากถูกบีบให้อาออกพร้อมกับยาที่ไม่เคยเห็นจำนวนมากที่ถูกยัดลงไป ต้นพยายามที่จะต่อต้านและคายมันออกแต่ก็ไม่เป็นผล ด้วยร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงทำให้เขาขัดขืนอะไรไม่ได้จึงจำยอมต้องกลืนมันลงไป

“มึงคิดว่ากูจะปล่อยตัวทำเงินอย่างมึงไปง่าย ๆ เหรอไอ้ต้น มึงคิดผิดแล้ว มึงคิดว่างานแบบนี้มันเข้ามาทำง่ายแล้วจะออกง่ายเหรอฝันไปเถอะ งานนี้ถ้ามึงหนีพ่อแม่มึงรู้แน่ว่ามึงขายตัว” เจ้าของร้านบอกก่อนจะเดินออกไป

ไม่นานนักเจ้าของร้านก็กลับมาอีกครั้งพร้อมชายแปลกหน้าคนใหม่รูปร่างอ้วนป้อมดูมีอายุ เขามองต้นราวกับจะกลืนกินทั้งที่สภาพต้นตอนนี้ไม่ต่างจากสุนัขที่โดนวางยาจะตายอยู่ลอมล่อ

“หนักยามันไปหน่อยแต่ยังไม่เสียของนะคะ” เสียงทุ้มดัดสูงกรีดเสียงพูด

“ไม่เป็นไร เจ้ได้หมด หล่อ ๆ แบบนี้ของชอบ”

เสียงประตูปิดลงชายที่ดูไม่น่าจะทำเรื่องแบบนี้เขาเดินเข้าหาต้นช้า ๆ พร้อมกับเปลื้องผ้าของตนเองไปด้วย ต้นทำงานพวกนี้มานานเจอคนประเภทนี้มาก็เยอะแต่ไม่มีครั้งไหนที่เขารู้สึกแขยงเพียงนี้ ต้นพยายามตะเกียกตะกายตัวหนีแต่ก็จนมุมในที่สุด

“หนีอีกสิจ๊ะ ร้องให้คนช่วยสิเจ้ชอบ เจ้จะจัดให้ถึงใจ ให้ตายกันไปข้างเลย” เขาพูดก่อนที่จะเข้าถึงตัวต้น

น่ารังเกียจนั้นคือสิ่งที่ต้นรู้ในตอนนี้และเขากำลังถูกข่มขืน....

ชายแปลกหน้าสาวเท้าเข้าหาสองขาพาดคล้อมอยู่บนตัวต้น สองมือค่อย ๆ บรรจงปลดกระดุมทีละเม็ด ยิ่งต้นไม่ขัดขืนด้วยแล้วเขายิ่งได้ใจ ต้นนอนหลับตานิ่งปล่อยให้ชะตากรรมพาตนไปตามทางของมัน แต่ไม่นานนักหลังจากที่ชายแปลกหน้ากำลังรุกเร้าต้นอย่างรุนแรง

ท่ามกลางห้องที่ไร้คนคุยกันเสียงหนึ่งจากทีวีก็ดังขึ้นแทรก หัวข้อข่าวยามนี้คือเด็กหนุ่มที่ถูกทำร้าย เธอถูกแทงด้วยวัตถุมีคมเข้าที่หน้าท้องและถูกชิงทรัพย์ไปด้วยในเวลาเดียวกัน ต้นปรือตาขึ้นมาดูเล็กน้อยก็ต้องเบิกตาโผลงเมื่อรู้ว่าเหยื่อคือใคร....

คุณแก้ว..... ทั้งคิดถึงทั้งเป็นห่วง แต่ดูสภาพเขาในเขานี้สิ

ด้วยแรงห่วงใยปะปนกับความโกรธต้นพลั่งมือผลักชายแปลกหน้าที่คล้อมตัวเองอยู่จนหงายหลัง

“กรี๊ด~~~” เสียงกรีดร้องดังขึ้นก่อนจะเงียบไป หัวของชายคนนั้นกระแทกเข้ากับขาเตียงนอนจนเลือดไหลซึมออกมา ต้นใช้เท้าเขี่ยเขาเบา ๆ แต่กลับไร้การตอบรับ

ด้วยความตกใจต้นอยากจะวิ่งออกจากตรงนี้แต่ด้วยร่างกายที่แพ้ทางให้ฤทธิ์ยาทำให้ไปไหนไม่ได้ เขาตัดสินใจคลานไปทุบขวดแก้วแล้วใช้คมของเศษแก้วกรีดที่ต้นแขนเพื่อเรียกสติให้กลับคืนมากแม้เพียงเล็กน้อยยังดี

ต้นพยายามลากสังขารตัวเองจนออกมาจากจุดเกิดเหตุได้สำเร็จและไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าเงินติดมือมาด้วย ต้นโบกรถให้มาส่งที่โรงพยาบาลคนขับรถพยายามถามต้นว่าเขาไปโดนอะไรมาต้นก็ตอบเพียงว่ามีเรียงทะเลาะวิวาท พอมาถึงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไม่รอช้ารีบพาต้นเข้าไปรักษา ด้วยอาการที่อ่อนเพลียจนผิดปรกติทำให้หมอจำเป็นต้องตรวจสุขภาพไปในตัวและผลที่ออกมาคือ ต้นมีสารเสพติดในร่างกาย....

..................................................................................

ในห้องผู้ป่วยพิเศษมีร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่หลับอยู่ตรงข้างเตียงก็มีชายสูงวัยคนหนึ่งที่คอยดูอาการอยู่ไม่ห่างอย่างห่วงใย จวบจนรุ่งเช้าเด็กหนุ่มตื่นขึ้นก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาลข้าง ๆ ก็มีชายที่เป็นพ่อของตนเฝ้าอยู่

“แก้วหนูตื่นแล้วเหรอลูก.... แก้วหนูบอกพ่อใครทำหนู” คนเป็นพ่อละล่ำละลักถาม แก้วไม่ตอบคำถามเขาเพียงส่ายหน้าเบา ๆ “แก้วอย่าปิดบังพ่อ พ่อรู้ว่าหนูมีความสัมพันธ์ยังไงกับผู้ชายที่ชื่อต้น” ทันทีที่ผู้เป็นพ่อพูดจบต้นถึงกับหันหน้าหาแล้วเบิกตาโพลง

พยายามปิดบังแล้วทำไมพ่อถึงยังรู้....

“พ่อครับ พ่อจะว่าอะไรไหมหากผมอยากเจอเขาอีกสักครั้ง?” แก้วถามทั้งที่ในใจรู้คำตอบอยู่แล้วว่าคนเป็นพ่อคงไม่ชอบแน่ที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนจะไปมีความรู้สึกชอพลอกับคนขายตัว

“แก้วอะไรก็ได้ที่หนูขอ แต่ต้องไม่ใช่แบบนี้....” เป็นอย่างที่เขาคิด “พ่อไม่เคยเห็นหนูให้ความสำคัญกับใครมากขนาดนี้”

“ผมมีข้อเสนอ” หากเขาขอดี ๆ ไม่ได้ก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน “เรื่องที่เกิดขึ้นผมจะบอกพ่อทุกอย่าง แต่ท้ายที่สุดแล้วผมก็จะบอกพ่อเช่นกันครับว่า....ผมชอบต้น”

“แก้วหนู....” คนเป็นพ่อพูดไม่ออก ทั้งชีวิตไม่เคยโกรธลูกชายมากขนาดนี้ เขาประคบประหงมมาเป็นอย่างดีแต่สุดท้ายต้องมาตกม้าตายเพราะผู้ชายขายตัวแค่คนเดียว “พ่อไม่รู้จะพูดกับหนูยังไงแล้วแก้ว หรือเพราะว่าพ่อไม่เคยขัดใจหนูหนูถึงได้เป็นแบบนี้” เขาว่า แทบอยากจะทึ่งหัวตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดเสียตรงนี้ นี่หากผู้เป็นแม่ยังอยู่แก้วคงไม่โตมาเป็นเด็กที่ดื้อรั้นแบบนี้

“ไม่ว่าพ่อจะเลี้ยงผมมาแบบไหนผมก็จะเป็นของผมแบบนี้” แก้วว่าเสียงนิ่ง เขากุมมือคนเป็นพ่อเอาไวไม่ปล่อย รู้ว่าพ่อเสียใจแต่เขาก็รู้หัวใจตัวเอง เขาเจอกับคนขายบริการมาเยอะและต้นไม่ได้แตกต่างเพียงแต่เขารู้สึกถูกใจ

“คนดี ๆ ปรกติทำไมหนูไม่ชอบ?”

“นั้นสิครับ”

......................................................................................

ผ่านไปเกือบหนึ่งอาทิตย์ที่แก้วต้องนอนคุดคู้อยู่แต่ในโรงพยาบาลจนร่างกายหายดี วันนี้ก็เช่นทุกวันแก้วหอบร่างที่แผลยังหายไม่สนิทไปในที่เดิมที่เขาเคยไป หวังจะได้พบกับชายที่เขาคิดถึงแต่โชคชะตากลับเล่นตลก

ต้นถูกจับข้อหาพยายามฆ่าและมีสายเสพติดในร่างกาย........

สารเสพติด?

“เอาสิคุณทำได้ผมก็ทำได้” เป็นแก้วที่บอกกับเจ้าของร้านก่อนจะเดินออกมา

แก้วรีบบึ่งรถกลับบ้านในทันทีเขารอการกลับมาของผู้เป็นพ่อแทบไม่ไหว ไม่มีครั้งไหนในชีวิตเลยที่จะปะทุอารมณ์ตัวเองได้ในขณะนี้ แก้วไม่ยอมเสียเวลาทิ้งเปล่า ๆ เธอเปิดคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ขึ้นบรรจงนิ้วพิมพ์ข้อความมากมายลงไปอย่างรวดเร็ว

หากงานกูล่มชีวิตมึงก็ต้องล่ม....

เธอเตรียมใจไว้แล้วว่าเรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นสักวัน เธอรู้ตั้งแต่วันแรกที่พบกับต้น มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เธอจงใจเลือกต้นและเป็นเธอเองที่ทำให้ต้นตกอยู่ในสภาพแบบนี้

ขอโทษนะครับคุณต้นที่ผมเลือกคุณเป็นตัวอย่างในงานวิจัยครั้งนี้..... ผมทิ้งมันไม่ได้

................................................................................

‘แต่สิ่งที่ได้คืนมันเป็นเพียงขี้เถ้า....’ เสียงนั้นดังอยู่ในหัวของต้นเรื่อยมานับตั้งแต่มาอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ ต้นถูกส่งมาบำบัดในฐานะผู้ป่วยแต่เมื่อหายก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ดีที่เขาไม่ได้เลือกยื่นข้อเสนอให้เจ้าหน้าที่เพื่อแลกกับสิทธิ์ในการใช้ชีวิตของเขา

ตั้งแต่มาอยู่ในสถานบำบัดไม่มีวันไหนเลยที่ต้นจะหลับได้เต็มตื่น เขาต้องทนฟังเสียงหัวเราะเยาะจากญาติผู้ป่วยคนอื่น ทนฟังคำก่นด่าสาปแช่ง เป็นเด็กขายบริการว่าแย่แล้วยังถูกสำทับด้วยคำว่าฆาตกรติดยายิ่งแย่เข้าไปอีก

ผมไม่ได้ฆ่า ผมไม่ได้เสพยา ผมไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้

“คุณแก้ว คุณคิดถึงผมบ้างไหม?” เขาเอื้อนเอ่ยกับตัวเอง

ผมอยู่ตรงนี้มีใครเห็นผมบ้าง ผมเป็นเด็กขายตัวมันดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ พอผมเลือกที่จะเป็นเจ้าชีวิตตัวเองบ้าง พอผมจะมีรักดี ๆ กับคนอื่นเขาบ้าง คนที่เคยเอ็นดูผมเลือกฆ่าผมทั้งเป็นเพียงเพราะผมทำประโยชน์ให้ไม่ได้....

แล้วคุณล่ะคุณแก้ว ที่ผมเลือกทางนี้ก็เพราะคุณ คุณจะทอดทิ้งผมอย่างที่คนอื่นทำไหม?

........................................................................

ผมรอได้ตราบเท่าที่คุณต้องการคุณแก้ว......

ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยมานานเท่าไหร่ต้นได้รับอนุญาตให้กลับไปใช้ชีวิตตามปรกติเพื่อแลกกับข้อมูลแหล่งที่มาของสิ่งเสพติด ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีแม้ว่าบางเรื่องต้นเองก็รู้สึกแปลกใจกับการได้พ้นโทษของตนเอง ในขณะที่ต้นกำลังรอการอนุมัติปล่อยตัวเขาหยิบวารสารเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่านเพื่อฆ่าเวลา หัวข้อปนปกหนังสือจั่วหัวว่า ‘ขายบริการ เหยื่อการค้าหรือวาทกรรม’ ต้นไม่ได้สนใจเนื้อหาแม้แต่น้อยแต่สิ่งที่เขาสนใจคือหน้าสุดท้ายของเนื้อหาว่า ‘รางวัลบทความยอดเยี่ยม’ และนามปากกาของผู้เขียน.....

‘กลิ่นแก้ว’

คุณแก้ว....คือคนแรกที่เขาจะคิดถึงเมื่อเห็นบทความนั้น ต้นถึงกับหายใจติดขัดแต่อย่างไรเสียเขาก็ยังไม่คิดที่จะปักใจเชื่อเสียทีเดียว หากยังไม่ได้ยินกับหูไม่ได้เห็นกับตาก็จะยังไม่เชื่อ....

หลังจากที่ต้นได้รับการอนุมัติปล่อยตัวเป็นที่เรียบร้อย ที่แรกที่ต้นไปคือที่ที่เขาเลือกเดินออกมา ที่ที่เป็นฉะนวนเหตุของเรื่องราวร้าย ๆ ทั้งหมด

‘แต่สิ่งที่ได้คืนมันเป็นเพียงขี้เถ้า....’

‘ขายบริการ เหยื่อการค้าหรือวาทกรรม’ ‘รางวัลบทความยอดเยี่ยม’ ‘กลิ่นแก้ว’

คำพวกนี้ประเดประดังเข้ามาในหัวเมื่อต้นลงจากรถแล้วพบกับความจริง สถานบริการในระแวกนี้ถูกปิดเนื่องจากเหตุไปไหม้ต้นตอมาจากร้านที่ต้นเคยทำงาน สองขาที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งเมื่อครู่ราวกับถูกภาพตรงหน้าสูบพลังงานไปจนหมด

‘ถ้ามึงหนีพ่อแม่มึงรู้แน่ว่ามึงขายตัว’ คำพูดของเจ้าของร้านดังขึ้นในหัวต้นถึงกลับล้มลงกับพื้นสองมือกุมปิดใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตา เรื่องมาถึงขนาดนี้จะบอกว่าทางบ้านไม่รู้เรื่องที่ต้นปิดบังไว้เลยก็ไม่ได้

“คุณหลอกผมคุณแก้ว ทำไม? เพราะผมมันง่าย ใคร ๆ ก็ซื้อผมได้ ไร้ค่าไร้ราคาศักดิ์ศรี หรือเพราะผมมันต่ำไม่คู่ควรที่จะเป็นเพื่อนคุณ ผมมีค่าแค่สร้างผลงานชิ้นหนึ่งให้คุณพอหมดค่าแล้วคุณก็ทิ้งผม ผมถูกหลอกให้ทิ้งบ้านเกิดมาขายศักดิ์ศรีก็ครั้งหนึ่ง ถูกหลอกให้ต้องเสพยาเพียงเพื่อเขาต้องการเงินจากตัวผม แล้วคราวนี้ผมก็ถูกคุณหลอกให้รัก....แต่สุดท้ายผมก็ถูกมองว่าเป็นเพียงผลงานชิ้นหนึ่ง” ต้นเอ่ยสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจกับตัวเอง คนที่เดินผ่านไปมาเมื่อพบเห็นก็ต่างเลี่ยงที่จะเฉียดเข้าใกล้ เขาคงถูกมองว่าเป็นคนบ้านที่นั่งร้องไห้อยู่หน้าสถานบริการทางเพศและแน่นอนมีคนปรกติที่ไหนจะอาลัยอาวรณ์กับสถานที่เช่นนี้นอกเสียจาก.....พวกขายตัว

“คุณตอบผมหน่อยสิคุณแก้ว.... ผมเลือกผิดใช่ไหมที่เลือกคุณ ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณผมถึงเลิกทำงาน แต่คุณดูผมตอนนี้สิ....” ต้นหยุดคำพูดตัวเองไว้เท่านั้น ต้นไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดอีก เขาไม่อยากโทษคุณแก้วของเขาเลย ที่เขาต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้เป็นเขาเองคนเดียวดีกว่าที่ผิด

“จะโทษตัวเองทำไม....” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง ต้นไม่อยากแม้แต่จะหันไปมองเจ้าของเสียง เขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาร้องไห้กับฝ่ามือของตัวเอง “ผมหลอกคุณใช่ที่ไหน คุณต่างหากที่ไม่บอกอะไรผมเลย”

เด็กหนุ่มถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกพร้อมกับวางมันลงบนไล่กว้างของคนที่นั่งอยู่บนพื้น เขาย่อตัวลงโอบกอดอีกฝ่ายอย่างถนุถนอมพรางพยายามที่จะแกะมือเขาออกจากใบหน้า เมื่อรู้ว่าไม่ได้ผลแก้วจึงทำแค่เพียงกอดและแอบอิงแผ่งหลังนั้นเอาไว้ ผู้คนที่เดินไปมาต่างส่งสัยแต่ใครละจะให้ความสำคัญเพราะเขาสองคนเป็นเพียงใครที่ไหนก็ไม่ทราบได้.....

เนิ่นนานจนต้นรู้สึกอิดโรยเขายอมหันหน้ามาหาแก้ว เขาอยากจะชกหน้าคนที่ส่งยิ้มปลอบประโลมเขาตรงหน้าให้เลือดกลบปากแต่เขารึจะทำได้ เขาแพ้คนตรงหน้าทุกอย่าง....

“คุณมีความสุขมากเหรอครับกับความเสียใจของผม?” จบคำตัดพ้อแก้ววาดวงแขนโอบต้นพรางลูบผมปอย ๆ

“ผมจะมีความสุขได้ยังไง ในเมื่อใจผมกำลังร้องไห้....”

................................................

 

คนเขียนมีความแค้นส่วนตัวกับวันวาเลนไทน์ค่ะ 5555+ ล้อเล่น

ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ**

ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน

**เรื่องหญิงขายบริการที่น้องแก้วเล่าที่เรานำมาเขียนมีที่มาที่ไปนะคะ แต่อธิบายหมดม่ายล่ายยยยย มันยาวไป

 

 

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว