นึกไม่ถึงว่าเราจะรักกัน
เขียนโดย พรมัน
(พร-มัน แปลว่า พระอาทิตย์)
“ผมไม่มีวันเข้าใจ และไม่อยากเข้าใจความรู้สึกของพี่ไตรกับพี่ปายหรอก เพราะผมไม่มีวันรักผู้ชายด้วยกันเด็ดขาด”
“กูจะรอดู ว่าคนอย่างมึงจะกลืนน้ำลายตัวเองวันไหน เพราะคนอย่างมึงมันต้องเดินเส้นทางเดียวกับกูเข้าสักวันหนึ่ง อีกไม่นานต่อจากนี้หรอก เมื่อถึงตอนนั้น กูจะคอยสมน้ำหน้ามึง หัวเราะเยาะมึง ไอ้ตรี”
ไตรประคองปายเดินออกจากห้องรับแขก ตรงไปห้องของตนเองและคนรัก
ส่วนตรียกมือกุมขมับตัวเอง “กูไม่มีวันผู้ชายด้วยกันเด็ดขาด ไม่มีวัน”
............................
“กูอยากรู้ว่า ผู้ชายรักกันเพราะอะไร มันรู้สึกกันยังไงว่ะ มันรักกันตรงไหน มันก็มีเหมือนๆ กัน แต่ทำไมถึงได้รักกันมากแบบนี้ว่ะ หรือว่าเอาข้างหลังมันมันส์กว่าเอาข้างหน้าว่ะ”
“กูก็ตอบไม่ได้หรอกว่ะ ไอ้ตรี มึงต้องลองชอบ หรือลองคบหาดูใจผู้ชายด้วยกันดู แล้วมึงจะรู้ว่าผู้ชายเขารักกันอย่างไง”
“ต้องลองคบดูหรือว่ะ” ตรีถาม แล้วมองหน้าเพื่อนๆ ทุกคนพยักหน้าตอบ
“เอ่อ ต้องลองคบดู แต่กูขอเตือนนะ ไอ้ตรี การล้อเล่นกับความรู้สึกคนเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
ความรู้สึกของคนไม่ใช่ของเล่นที่มึงจะเอามาล้อเล่นได้ ถ้ามึงไม่ได้รู้สึกรักกันจริงๆ อย่าทำเลยดีกว่า
”
..........................................
“ถ้ากูคบใครด้วยความรู้สึกชอบล่ะว่ะ” ตรีถามต่อ
“มึงเข้าใจความรู้สึกของผู้ชายชอบผู้ชายด้วยกันหรือไง” ทีมเอ่ยถามขึ้นจากที่นิ่งเงียบฟังอยู่นาน
“ไม่เข้าใจว่ะ”
“แล้วมึงจะถามถึง ความรักของผู้ชายด้วยกันเท่าไมว่ะ ถ้ามึงอยากคบกับผู้ชายด้วยกันละก็ มันก็มีวิธี แต่มึงจะทำได้หรือเปล่าว่ะ” ทีมจ้องหน้าตรีนิ่งๆ
“วิธีอะไรว่ะ บอกกูหน่อย”
“มึงก็คบกับผู้ชายที่มึงชอบ แค่นั้นเอง”
.............................
“ตรีไม่มีสิทธิ์โกรธสี่หรอกครับ เพราะว่าผมไม่ได้เป็นอะไรกับสี่ซักหน่อย” ตรีพูดว่าน้ำเสียงเข้มเครียด
“ตรี เชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหมครับ บางที่การที่เราพบกันอาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญก็ได้ สี่รู้สึกอย่างนั้นนะครับ”
“เราจะมีโอกาสได้เจอกันอีกหรือเปล่า”
สี่หันมองหน้าตรี เพราะไม่คิดว่าร่างสูงจะถามคำถามเขาแบบนี้ “ขอให้เป็นเรื่องของพรหมลิขิตล่ะกัน”
“ผมไม่เชื่อในพรหมลิขิต แต่เชื่อว่าสักวันเราต้องได้เจอกันอีก”
“ขอให้เป็นอย่างที่ตรีคิดล่ะกัน สำหรับสี่แล้ว เหตุการณ์บังเอิญไม่มีในโลก มีแต่พรหมลิขิตเท่านั้นที่ทำให้เราได้พบเจอกัน หลับฝันดีล่ะ”