ระริน : สาวใหญ่วัย 35 ปี ที่ชีวิตทั้งชีวิตไม่เคยรักใครนอกจากสามีที่เห็นแก่ตัวอย่างสถาปนา ชีวิตของเธอทุ่มเทให้กับลูกและสามีจนลืมรักตัวเอง
สถาปนา : สามีผู้เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว ภายใต้รูปลักษณ์อันหล่อเหลา มันช่างต่างจากเนื้อแท้ของจิตใจ
ปล.ภาพประกอบเพื่อให้อรรถรสในการอ่าน บุคคลที่ปรากฎในรูปหน้าปกไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด
ตอนที่ 1 แมงเม่าบินเข้ากองไฟ
ทุกครั้งที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มันทำให้ฉันเกิดอาการผวาเหมือนถูกคนมาตามฆ่า ฉันพยายามรวบรวมคำพูดที่คิดว่าพูดแล้วปลายสายจะเกิดความเห็นใจมากที่สุด แต่ถึงกระนั่นมันก็ไม่มีผลเลยสักครั้ง ฉันกำลังจะถูกฟ้อง!!!
ในทุกค่ำคืนที่ลูกๆนอนหลับไปแล้ว ฉันจะนั่งนึกทบทวนในสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นหลังจากตัดสินใจผิดพลาดที่จะเดินร่วมทางกับ”สถาปนา”ผู้ชายที่ฉันคิดว่าเลือกได้ดีที่สุดแล้ว
สถาปนาก็เหมือนชายหนุ่มรุ่นใหม่ทั่วไป ที่มีความคาดหวังในชีวิตสูง ดีกรีว่าที่ปริญญาทางสายวิศวกรรมบวกกับใบหน้าหล่อเหลา
ผิวขาว สูงโปร่ง ไม่ยากเลยจะทำให้มีสาวน้อยสาวใหญ่มาติดพันมากมายรวมถึงฉันด้วย ที่แอบหลงใหลได้ปลื้มในรูปร่างหน้าตาของเขา
แต่เพราะฉันไม่ได้แสดงออกถึงความต้องการอยากได้เขามาครอบครองเหมือนกับคนอื่นๆ ฉันจึงได้ใกล้ชิดกับสถาปนาในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง
ชีวิตจริงสถาปนาไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย เหมือนกับท่าทางที่เขาแสดงออกเมื่ออยู่ต่อหน้าสาวๆ
พ่อของเขาเป็นเพียงข้าราชการชั้นผู้น้อยที่มีจำนวนเมียน้อยมากกว่าขั้นบนบ่า เงินเดือนของพ่อที่มีแค่เพียงตัวเลขและยังมีเมียน้อยมาให้รบกวนจิตใจ ทำให้แม่ต้องดิ้นร้นมากกว่าหน้าที่แม่บ้านทั่วไป
ในทุกๆวัน ก่อนฟ้าสาง ภาพของแม่ที่เตรียมของออกไปขาย ไม่ว่าวันนั้นฝนจะตก ฟ้าจะร้อง หรือจะหนาวเหน็บเพียงใด เป็นภาพที่สถาปนาเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต เขาในวัยเด็กไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมเพศหญิงถึงได้ทนจมปลักอยู่กับผู้ชายที่ขาดความรับผิดชอบอย่างพ่อเขา
พ่อไม่เคยพาแม่ออกงานสังคมเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่น งานเลี้ยงปีใหม่หรืองานเกษียณของหัวหน้า แต่พ่อกลับใช้ชีวิตนอกบ้านอย่างสนุกสนานสำราญไปวันๆ ในช่วงวัยเด็กภาพผู้หญิงหลายคนผลัดเวียนเปลี่ยนหน้ากันมารับพ่อที่หน้าบ้าน เป็นภาพที่เห็นจนชินตาพอๆกับแม่ที่ทุกครั้งเมื่อพ่อจากไปกับผู้หญิงเหล่านั้น เสียงกรี๊ดร้องดังทุบข้าวทุบของในบ้านราวกับคนเสียสติ จากความเคยชิน จนกลายเป็นชินตาและกลายเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตของสถาปนา
ถ้าผู้หญิงคือเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน แม่ของสถาปนาก็คงเป็นรูปภาพที่มีเอาไว้ติดฝาบ้าน ซึ่งจะมีก็ได้หรือไม่มีก็ดีเพราะผู้เป็นเจ้าของบ้านอย่างพ่อไม่เคยให้ความสำคัญอะไร
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของสถาปนาเริ่มขึ้นเมื่อเขาจากบ้านมาเช่าหอพักในซอยข้างมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นแหล่งรวมของหอพักไม่ว่าชายหรือหญิง ชีวิตในเมืองใหญ่ก็ไม่ต่างอะไรกับกองไฟที่พร้อมจะล่อให้แมงเม่าหลงกลติดกับแล้วก็จบลงในกองไฟนั้นเอง หากไม่รู้เท่าทันกองไฟ แมงเม่าทั้งหลายก็พร้อมจะพลีกายตายในกองไฟ เช่นฉันและสถาปนา
เราสองคนเริ่มจากความเป็นเพื่อนที่มีหอพักติดกัน ทุกหลังเลิกเรียนฉันต้องเดินผ่านหน้าหอพักที่เขาและเพื่อนฝูงจับจองที่ด้านหน้า
นั่งดีดกีต้าร์ร้องเพลงพร้อมๆกับการเหล่สาวๆที่เดินผ่านไปมา สถาปนาในวัยนักศึกษาเขาเป็นชายหนุ่มที่มีบุคลิกนิ่งๆ ดูสุภาพ เงียบๆ จมูกโด่งเรียวเป็นคมสัน ผิวขาวเนียนละเอียดจากเชื้อสายจีนของแม่ ทำให้เขาดูเป็นชายหนุ่มที่ดูดีมากกว่าเพื่อนร่วมรุ่นคราวเดียวกัน
สถาปนามีเพื่อนรักในกลุ่มอยู่คนหนึ่งชื่อ”โกศล” ซึ่งโกศลเป็นคนบ้านเดียวกันกับฉัน เราเรียนมัธยมปลายมาด้วยกัน
โกศลจะชอบเดินออกมาทักฉันทุกครั้งที่เห็นฉันเดินผ่าน โกศลเป็นเด็กหนุ่มผิวคล้ำพูดจาเสียงดังฉะฉาน ชีวิตที่ต่างจังหวัดของโกศลมีเพียงป้ากับลุงเท่านั้นที่ดูแลเขามาหลังจากที่พ่อเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ส่วนแม่ก็หันเหไปทำงานบาร์และขาดการติดต่อไปในที่สุด
ถึงเด็กหนุ่มจะโชคร้ายในเรื่องพ่อกับแม่ แต่ฟ้าก็ไม่ได้กลั่นแกล้งหรือทดสอบให้โกศลต้องลำบากมากนักเพราะป้ากับลุงถึงจะเป็นญาติห่างๆ แต่ท่านทั้งสองเป็นคนที่มีฐานะจัดได้ว่าดีคนหนึ่งในอำเภอ
ป้ากับลุงรักและเอ็นดูหลานกำพร้าคนนี้เสมือนกับลูกแท้ๆของตน โกศลพึงพอใจกับการใช้ชีวิตวัยรุ่นแบบไม่จัดเต็ม นั้นก็คือการที่โกศลไม่สนใจสาวแต่มุ่งมั่นกับกีฬาและดนตรี เขามักมีเรื่องตลกขบขันมาเล่าให้ฉันฟังอยู่เสมอๆ จนเพื่อนๆบางคนคิดว่าโกศลมาจีบฉัน
แต่ฉันกลับไม่คิดเช่นนั้น อาจเป็นเพราะโกศลกับฉันเป็นคนบ้านเดียวกัน เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน ถึงแม้จะอยู่กันคนละห้องก็ตาม แต่เราทั้งคู่ก็มาจากที่เดียวกัน ความเหงาของคนไกลบ้าน เมื่อเจอคนที่คุ้นเคยแม้จะไม่สนิทสนมกันมากนักก็อยากทักทายโอภาปราศรัย
และทุกครั้งที่โกศลแวะเวียนมาทักทายฉัน ก็จะมีสถาปนามาด้วยราวกับปาท่องโก๋ เราสามคนไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่เสมอๆ โกศลให้เหตุผลว่าเพราะฉันไม่ได้คลั่งสถาปนาเหมือนผู้หญิงคนอื่น ที่ดูกร้านโลกพร้อมจะพลีกายให้กับเพื่อนรักของเขาตลอดเวลา โกศลกับสถาปนาสนิทกันมาก หลายครั้งที่ฝ่ายโกศลจะช่วยเหลือสถาปนาเรื่องเงินๆทองๆ เพราะตัวเขาเองได้รับเงินจากป้าและลุงส่งมาให้ใช้ไม่เดือดร้อน ผิดกับพ่อเทพบุตรของฉันที่กะเบียดกระเสียนเรื่องเงินทองๆอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อเรียนปี 2 โกศลได้ย้ายไปพักอยู่คอนโดที่ไกลมหาวิทยาลัยออกไป เพราะผู้เช่าคนเก่าย้ายออก ป้ากับลุงเลยจัดแจงให้หลานรักไปอยู่แทน ถึงคอนโดจะไกลจากมหาวิทยาลัยแต่เพราะความรักหลานชายคนนี้ ป้าเลยให้รถยนต์มาใช้ถึงจะไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุดแต่ก็ดีมากพอสำหรับนักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้
โกศลไม่เคยลืมเพื่อนรักอย่างสถาปนาทั้งคู่ไปอยู่ด้วยกัน ฉันจึงอดแซวไม่ได้ในความสัมพันธ์ของเพื่อนรักคู่นี้ว่าทั้งคู่เป็นคู่ขาชายรักชาย
เมื่อถึงช่วงปิดเทอมโกศลต้องกลับไปอยู่กับป้าและลุงที่ต่างจังหวัด แต่เขายังคงให้สถาปนาพักอยู่ เพราะต้องทำโครงงานส่งอาจารย์ จนวันหนึ่งโกศลโทรมาให้ฉันไปดูสถาปนาที่คอนโดให้ที เพราะเขาพยายามโทรติดต่อเพื่อนรักหลายครั้งแต่ไม่มีคนรับสายกลัวว่าจะเกิดเหตุร้าย
ฉันไปถึงคอนโดเกือบสี่โมงเย็นเพราะรถติดมากและฉันให้ยามโทรไปที่ห้องพัก โชคดีที่สถาปนารับสาย แสดงว่าเขาปลอดภัยไม่ได้เป็นอะไร เพียงแต่ช่วงที่โกศลโทรมา สถาปนาไม่ได้อยู่ที่ห้องเขาอ้างว่าไปนอนพักที่ห้องของเพื่อนอีกคน
สถาปนาเชื้อเชิญฉันเข้าห้อง เขาสวมเสื้อกีฬาบาสเกตบอลสีเหลืองทองกับกางเกงบาสขาสั้นดำตัดกับสีผิวขาวของเขายิ่งนัก ผิดกับฉันที่มีสีผิวค่อนไปทางสีน้ำตาลเข้ม หน้าตาไม่ได้สะสวยอะไร มีเพียงรอยยิ้มที่สถาปนาพูดบ่อยๆว่า รอยยิ้มของฉันมันคล้ายกับแม่ของเขา
เขาคงเห็นว่าฉันเป็นแขกประจำของโกศลอยู่แล้ว จึงไม่ได้เคอะเขินที่จะเชิญผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปในห้อง ภายในห้องสีขาวมีโซฟาตัวใหญ่สำหรับนอนตั้งชิดติดผนัง ทีวีเครื่องใหญ่อยู่อีกฟากหนึ่งของห้อง ภายในตู้เย็นทุกอย่างถูกเก็บเข้าที่อย่างมีระเบียบตามนิสัยของโกศลผู้เป็นเจ้าของห้อง ถึงเขาจะเป็นชายหนุ่มที่รักกีฬาและดนตรี แต่ความมีระเบียบและสะอาดของโกศลเป็นที่เลื่องลือ มีเพียงโต๊ะตั้งคอมพิวเตอร์ที่ตอนนี้รกไปด้วยหนังสือและตำราต่างๆ ซึ่งสถาปนาใช้เป็นโต๊ะทำงานส่งอาจารย์
ชายหนุ่มชี้ให้ฉันดูว่าเขาเพิ่งได้ซีดีหนังมาหลายแผ่น ซึ่งปกติแล้วโกศลชอบชวนฉันมานั่งดูหนังที่คอนโดของเขาเป็นประจำ โกศลให้เหตุผลว่าดูหลายๆคน สนุกดี และประหยัดกว่าที่ไปดูในห้าง แถมนึกอยากดูตอนไหนก็หยิบขึ้นมาดูได้ตลอด
ฉันจำไม่ได้ว่าตัวเองนั่งดูหนังไปกี่เรื่องกับสถาปนา จนเขาหันมาบอกฉันว่าหาอะไรในตู้เย็นมากินกันเถอะ เราสองคนนำอาหารสดที่อยู่ในตู้เย็นมาทำกิน ระหว่างทำอาหารฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่าที่หน้าอกของเขามีรอยจ้ำๆ แต่ฉันไม่ได้สงสัยเลยเพราะคิดว่าเขาก็เป็นคนที่ชอบเล่นกีฬา รอยพวกนี้คงเกิดจากแรงกระแทกระหว่างการเล่นกีฬาก็เป็นไปได้
เสียงฝนตกด้านนอกทำให้เราสองคนต้องผละจากจานอาหาร รีบวิ่งออกมาที่ชานระเบียงเพื่อเก็บเสื้อผ้าที่ตากอยู่ ฉันเห็นมีเสื้อตัวเล็กๆ สองตัวซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเป็นเสื้อของสถาปนาหรือโกศล เพราะมันเป็นเสื้อยืดไซด์ขนาดผู้หญิงใส่แต่ฉันก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ
เรานั่งดูหนังต่อไปจนเกือบสามทุ่ม ฉันขอตัวกลับแต่สถาปนาบอกว่ามันมืดแล้ว เดี๋ยวเขาจะไปส่ง เขาเดินวนหากุญแจรถยนต์ที่โกศลทิ้งไว้ให้ใช้ แต่ทำท่าเหมือนจะนึกได้ว่าน้ำมันหมด ฉันเลยบอกว่าสามารถกลับเองได้ด้วยรถแท๊กซี่ แต่เขาไม่ยอม สถาปนาดึงแขนของฉันกลับเข้ามาในห้อง แล้วบอกให้ฉันเข้าไปนอนในห้อง ส่วนเขาจะนอนอยู่บนโซฟาหน้าทีวีแทน
ด้วยใจเสน่ห์หาที่ฉันมีลึกๆกับผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรฉันก็เห็นดีงามไปทั้งหมด โดยไม่ดูถึงความจริงที่ว่า ต่อให้เป็นเพื่อนกัน แต่ถ้าเป็นชายกับหญิงก็ไม่ควรอยู่ในที่ลับตา เพราะอะไรที่ไม่ควรเกิดก็อาจจะเกิดขึ้นได้!!!!!
ฉันไม่ได้เลือกเข้าไปนอนในห้องตามที่เขาบอก แต่ฉันกลับมานั่งดูหนังกับเขาต่อจนเลยเที่ยงคืน ขณะที่ตากำลังจะปิด ฉันเอนตัวลงนอนกับพื้น ความหนาวของแอร์ทำให้ฉันควานหาผ้าห่มจะมาคลุมร่างกายแต่มือกลับดันไปโดนตัวของสถาปนาเต็มๆที่ตอนนี้นั่งดูหนังอยู่ข้างฉัน
ชายหนุ่มหันหน้ากลับมามองฉัน ในความเงียบเมื่อสายตาของเราประสานกันความรู้สึกร้อนผ่าวๆเกิดขึ้นบนใบหน้า ฉันเหมือนถูกมนต์สะกดให้หยุดนิ่ง โดยมีเจ้าชายที่ร่างแท้จริงคืออสูรจ้องมองฉันอย่างกับต้องการล้วงลึกเข้าไปว่าในจิตใจของฉันคิดอะไร
ฉันไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นและจบลงอย่างไร รู้ตัวอีกทีก็คือตอนที่ตัวเองนอนเปลือยเปล่าอยู่ข้างๆกับผู้ชายที่ปากฉันพูดเสมอว่าเขาคือเพื่อน เพื่อนหนุ่มรูปหล่อที่ไม่มีวันจะมองผู้หญิงธรรมดาอย่างฉัน
จากหนหนึ่งก็มีสอง สาม และสี่ ตามมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นที่คอนโดของโกศล หรือที่ห้องพักของฉัน ความสัมพันธ์ที่ฉันคิดไปเองว่าเป็นความรัก มันกำลังจะหันกลับมาทำลายอนาคตของฉันเอง
เปิดเทอมได้ไม่กี่เดือน ก็เกิดอาการผิดปกติกับร่างกายของฉัน ฉันท้อง!!!!!!!
เสี้ยววินาทีที่รู้ว่าตัวเองท้อง ฉันเหมือนวิญญาณหลุดจากร่าง ฉันคิดไปเองว่าสถาปนาเป็นของฉันอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว เรากำลังจะมีลูก แต่ฉันกำลังจะมีลูกกับผู้ชายในวัยที่ฉันยังหาเงินเองไม่ได้ แล้วอนาคตของฉันจะเป็นอย่างไร
ฉันรีบไปบอกเขาให้รู้เป็นคนแรกในฐานะว่าที่คุณพ่อคนใหม่
สีหน้าของเขาในตอนนั้นไม่เคยทำให้ฉันลืม สีหน้าแห้งเผือดแบบคนตกใจสุดขีด เขาไม่ได้มีรอยยิ้มแห่งความดีใจ มีเพียงแต่สีหน้าและแววตาแห่งความกังวล
เรื่องฉันท้องดูจะไม่เป็นเรื่องลับอีกต่อไป เพราะอาการแพ้ท้องที่รุนแรงมาก เพื่อนหลายคนของฉันเสนอหนทางแก้ไขให้คือการทำแท้ง แต่ใจของฉันนึกรักและสงสารถึงฉันจะยังไม่เคยเห็นหน้าของลูกในท้อง ฉันไม่สามารถทำแบบนั้นได้
สุดท้ายทำให้ฉันต้องไปสารภาพทั้งน้ำตากับครอบครัว ไม่มีคำพูดหรือคำตำหนิใดๆจากแม่
แม่เงียบและนิ่งเฉยเหมือนกับฉันไม่มีตัวตน ในขณะที่พ่อซึ่งแยกกันอยู่กับแม่นานแล้ว แต่ยังคงอยู่ในบ้านร่วมกันกับแม่ ได้ให้สถาปนาพาพ่อกับแม่ของเขามาขมา พิธีขมาของเราเป็นไปอย่างเงียบๆ ฉันต้องหยุดเรียนออกมาอยู่บ้าน ระหว่างรอคลอดเขาก็โทรมาหาฉันทุกวันแสดงความเป็นห่วงเป็นใยลูกของเราที่กำลังจะเกิดมา
มีเพียงแต่โกศลคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่เคยแม้แต่จะโทรมาหาฉันเลยสักครั้ง เขาคงเกลียดฉันเข้าไส้แต่ก็ยังดีที่เขาไม่ได้ไล่ให้เพื่อนรักออกไปอยู่ที่อื่น เพราะเหลืออีกไม่กี่ปีสถาปนาก็จะเรียนจบเป็นบัณฑิตตามที่เขาตั้งใจ
ส่วนฉันอนาคตมันจบตั้งแต่คืนวันที่ไปคอนโดของโกศลแล้ว