[เรื่องสั้น :YAOI]*** ตื๊อรักนายเย็นชา *** [ตอนเดียวจบ]

เรื่องสั้น

[เรื่องสั้น :YAOI]*** ตื๊อรักนายเย็นชา *** [ตอนเดียวจบ]

[เรื่องสั้น :YAOI]*** ตื๊อรักนายเย็นชา *** [ตอนเดียวจบ]

Dealta

เรื่องสั้น

1
ตอน
28.9K
เข้าชม
93
ถูกใจ
20
ความคิดเห็น
109
เพิ่มลงคลัง

ตื๊อรักนายเย็นชา

 

 

ผมกำลังตามตื๊อผู้ชายคนหนึ่ง ครับได้ยินไม่ผิดหรอก ผมตามตื๊อ ผู้ชาย

 

นี่ก็เป็นเดือนที่สามแล้วที่ผมมาตื๊อพี่เขา พี่เดย์ ผู้ชายหน้าหล่อเลวคนนี้

 

พี่เดย์ไปไหน ผมก็มาเกาะแกะพี่เขาอยู่เรื่อย จนผมรู้จักกลุ่มเพื่อนของพี่เขาหมดว่าชื่ออะไรกันบ้าง

 

เพื่อนพี่เขาก็ดีครับ ไม่ได้ทำท่ารังเกียจหรือปิดทางให้ผมจีบพี่เดย์เลยสักนิด ออกจะสนับสนุนด้วยซ้ำ

 

โดยเฉพาะพี่ไท รายนี้พอผมมาทีไรเขาก็จะเป็นคนแรกที่ทักผม ซ้ำยังชอบบอกข้อมูลของพี่เดย์ให้ผมอยู่เรื่อย

 

เป็นไงล่ะ ผมมีแบ็คสนับสนุนครับ

 

 

แม้บางครั้งผมจะเห็นสีหน้าที่แสดงอออย่างชัดเจนของพี่เดย์ว่า รำคาญผม แต่ผมก็ถือคติที่ว่า ด้านได้อายอด

 

อยากได้พี่เดย์เป็นแฟนต้องตื๊อเท่านั้นครับ ใช่ตื๊อเท่านั้น

 

 

เมื่อกี๊พี่ไทเพิ่งไลน์มาบอกผมว่าแก๊งค์ของพี่เขาอยู่ที่ร้านกาแฟหน้ามอ หลังจากที่ผมเรียนเสร็จก็ไม่รอช้ารีบไปหาพี่เดย์ทันที

 

อาหารเที่ยงเดี๋ยวค่อยกินละกัน พี่เดย์สำคัญกว่า ก็ไมได้เจอหน้าพี่เขามาสามวันแล้วนี่ครับ ไม่รู้ว่าหายไปไหน

 

ถามพี่ไทแล้ว รายนั้นก็ไม่รู้  ผมก็จนปัญญาสิครับ ไลน์ไปถามพี่เดย์ รายนั้นไม่เคยตอบมาซักครั้ง

 

แต่ไม่เป็นไร เพื่อคนที่เราชอบ ต่อให้พี่เดย์เย็นชาใส่แค่ไหน ผมก็สู้

 

 

 

 

กริ๊ง

 

ผมเข้าไปในร้านแล้วกวาดหาพี่เดย์ทันที ทันได้เห็นมือที่โบกไวๆของพี่ไท ผมเลยเดินเข้าไปพร้อมกับฉีกยิ้มทั้งหน้าทั้งตา

 

“ หวัดดีครับพี่”

 

“ เออดี ไอ้น้อง ว่าไงล่ะมึง ไม่ได้เจอตั้งหลายวัน ” พี่มาร์คพูดแซ็วๆ

 

“ แหะๆๆ”

 

“ อ้าวนั่งๆ” พี่ไทตบปุ๊ๆที่โซฟาข้างๆให้ผมนั่ง

 

“ พี่เดย์ สองสามมานี่พี่ไปไหนเหรอ ผมไม่เห็นพี่มาเรียนเลยอ่ะ ”

 

พี่เดย์เหลือบตามองผมนิดนึงก่อนที่จะสนใจชีทในมือต่อ

 

ชิ้ง

 

โอเค คำถามนี้อาจจะไม่เวิร์ค

 

“ พี่เดย์ เมื่อวานเพื่อนผมมันไปร้านกาแฟที่xxxมา สาขาเปิดใหม่ของที่นี่พี่ไปลองยัง” ผมรู้ว่าพี่เดย์เป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟมาก

และร้านไหนที่เปิดมาใหม่ๆพี่เขาก็จะไปเจิมทุกที ข้อมูลอันนี้ก็ได้จากพี่ไทเขาอ่ะครับ

 

“ นี่มึง ไม่คิดจะตอบน้องมันหน่อยเหรอว่ะ ”

 

พี่เดย์ละสายตาจากชีทมองผมสลับกับพี่ไทแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกแก้วมอคค่าขึ้นมาดื่ม

 

แล้วหันไปสนใจชีทต่อ ถามว่าผมรู้สึกใจแป้วมั๊ย แรกๆที่มาตื๊อ ก็มีบ้างครับ แต่พอหลังๆมาผมก็เริ่มจะชินกับนิสัยของพี่เดย์แล้ว

 

อย่างน้อยพี่เขาก็รับฟังว่าผมพูดอะไร

 

“ เย็นชาไป๊” ผมถึงกับขำออกมา เมื่อเพื่อนๆของพี่เดย์ต่างก็พูดออกมาพร้อมกัน แต่พี่เดย์ก็ไม่ได้สนใจหรอก

เพียงแค่ยักไหล่เบาๆให้

 

“ แล้วมานี่กินข้าวมายัง ” พี่ไทที่นั่งข้างผมหันมาถาม

 

“ แหะๆ ยังเลยครับ ”

 

“ เห้อ มึงนี่น้า อ้าวแดกนี่ซะ กูรู้ว่ามึงยังไม่กินข้าวแน่ๆเลยสั่งเค้กนี่เอา แดกรองท้องไปก่อน ” พี่ไทเลื่อนจานเค้กมาให้ ผมถึงกับ

ซาบซึ้งในน้ำใจพี่แกโคตรๆ ซึ้งอ่ะอยากร้องไห้

 

“ เอ๊า แดกซิครับ อย่ามัวแต่ทำซึ้ง เดี๋ยวมึงก็มีเรียนต่ออีกไม่ใช่ไง ”

ครับ แดกก็แดก ผมมองเค้กข้างหน้าตัวเองอยู่ซักพักก่อนจะตักมันแล้วใส่เข้าปาก ความหวานหอมละมุนนี้ โคตรฟินอ่ะ

 

“ ฟินไปนะมึง ” พี่ไทใช้นิ้วจิ้มหน้าผากผมแรงๆสองสามที ผมไม่โกรธหรอก แถมยังยิ้มให้อีกต่างหาก พี่ไทแกก็ยิ้มมาให้ผมก่อนที่จะพูดประชดออกมาให้ทุกคนได้ยิน

 

“ เห้อ มึงก็ออกจะน่ารักขนาดนี้ ทำไมคนแถวนี้มันช่างใจร้าย เย็นชาได้ขนาดนี้ว้า” ผมชะงักช้อนที่กำลังจะป้อนเค้กเข้าปาก

 

แล้วมองพี่เดย์ เห็นพี่เค้าขมวดคิ้วนิดหน่อย  ก่อนจะสบถเบาๆว่ารำคาญ ผมถึงกับสะอึกในใจเบาๆ

 

เพราะปกติแล้วพี่เดย์ก็แค่ปรายตามองแล้วทำเป็นไม่สนใจ แต่ครั้งนี้พี่เขาพูดออกมา แม้จะเบาๆก็เหอะ

 

แต่ผมก็สะอึกไปเลย รู้สึกหน้าชาเลยอ่ะ

 

 

“ อย่าไปฟังมันเลยน้องอุ่น เค้กนี่อร่อยน่ะเว่ย ของเด็ดของร้านนี้เลย   ” พี่ๆคงจะเห็นว่าบรรยากาศมันเริ่มไม่ดี ก็เลยพูดปลอบใจผม

 

“ แหะๆ” เค้กที่ว่าหวาน อร่อยนุ่มเมื่อกี๊ ผมกลับรู้สึกว่ารสชาติของมันฝาดยังไงไม่รู้ แต่ถึงยังไงผมก็กินมันจนหมด แม้ว่าจะรู้สึกไม่อร่อยแล้วก็ตาม

 

หลังจากที่กินเสร็จ ผมต้องแยกย้ายกับกลุมของพี่เดย์ เสียดายอ่ะ เจอแค่แปปเดียวเอง นี่ถ้าผมรู้ว่าพี่เดย์พักอยูที่ไหนน่ะจะแวะไปหาวันละหลายๆรอบเลย

 

 

 

 

 

 

 

.............................................

 

“ เป็นไง จีบพี่เดย์ไปถึงไหนแล้ว”

 

เห้อ คิดแล้วก็อนาถใจ แค่คุยด้วยพี่เขาก็ยังไม่คุยเลย

 

“ ยังไม่ถึงไหนเลยอ่ะมึง คนอะไรใจแข็งโคตร ”

 

“ ไอ้อุ่น กูพูดตรงๆเลยน่ะ กูว่ามึงเลิกจีบพี่เค้าเถอะว่ะ”

 

“ ทำไมอ่ะ ก็กูชอบกูจะจีบ” ใช่ชอบก็ต้องจีบ ชอบก็จีบเลยชอบก็จีบเลยเซ่ะ ชูวับๆ

 

“ แต่พี่เค้าไม่สนใจมึงเลยน่ะเว๊ย  แล้วอีกอย่างเมื่อวานกูก็เห็นพี่เค้าเดินควงกับผู้หญิงด้วย เพราะงั้นกูก็เลย ....”

 

ผมมองมันด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ คนอย่างพี่เดย์เนี่ยน่ะจะเดินควงผู้หญิง คนโลกส่วนตัวสูงขนาดนั้นเนี่ยน่ะ จ้างให้ก็

ไม่เชื่อหรอก

 

“ อ่ะ กูถ่ายรูปมาด้วย ดูดิ”

 

รูปที่ไอ้เกมถ่ายชัดมาก เป็นพี่เดย์จริงด้วยๆ ในรูปผู้หญิงคนนั้นกอดแขนพี่เดย์ด้วยอ่ะ จะว่าไปผู้หญิงคนนี้อาจะเป็นน้องสาวพี่เดย์

ก็ได้เนอะ ก็พี่เดย์ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายนี่ ผู้หญิงคนนี้จะเป็นแฟนพี่เดย์ได้ไง

 

“ น้องสาวหรือเปล่า” ผมเถียงมัน

 

 

“ น้องสาวพ่อง กอดแขนออเซาะซะขนาดนั้น เด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าเป็นผัวเมียกัน”

อันที่จริงภาพมันก็ฟ้องซะขนาดนั้นผมก็พอจะรู้แหละ ว่าไม่ใช่น้องสาวหรอก แต่แค่ไม่อยากตัดกำลังใจตัวเองก็เท่านั้น

 

“ เอ้า นิ่งเลย อึ้งอ่าดิมึง ”  เออกูกำลังอึ้งอยู่เนี๊ยะ  “ ตัดใจเหอะไอ้อุ่น พี่เดย์เค้ามีแฟนแล้ว ”

ตัดใจน่ะเว๊ยไม่ใช่ตัดกระดาษ อะไรมันจะง่ายขนาดนั้นว่ะ  ไม่รู้แหละวันนี้ไอ้อุ่นต้องรู้ให้ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร

 

“ อ้าวเห๊ย นั่นมึงจะไปไหน ”

 

“ จะไปหาพี่เดย์”

 

“ มึงจะบ้าเหรอ กูก็เพิ่งบอกไปหยกๆให้ตัดใจ แล้วมึงจะไปหาเค้าทำไม”

 

“ ก็ไปถามไงว่าใช่หรือเปล่า กูจะไม่เชื่อถ้าหากไม่ได้เห็นกับตาตัวเองและไม่ได้ยินพี่เดย์ยืนยันด้วยตัวเอง”

 

“ โอ๊ยย เพื่อนกู เออๆ เดี๋๋ยวกูไปเป็นเพื่อน  เดี๋ยวน่ะ แล้วมึงรู้หรือไงว่าพี่เขาอยู่ที่ไหนตอนนี้”

 

“ เออหน่า มึงจะไปไหมถามมากจริง”

 

 

ผมเดินไปยังคณะของพี่เดย์ สายตาก็สอดส่องเผื่อว่าจะเจอแถวๆนี้ เมื่อกี๊พี่ไทบอกว่าเรียนเสร็จแล้วกำลังนั่งอยูใต้คณะ

 

พยายามโฟกัสสายตามองกลุ่มของพี่เดย์ เพราะตอนนี้ใต้คณะคนค่อนข้างเยอะ จะให้เดินอาดๆเข้าไปก็ใช่เรื่องเพราะงั้นผมเลยยืนอยู่หลังเสาร์แล้วคอยืดคอยาวมอง ดูราดราวก่อนดีกว่า

 

“ คนเยอะว่ะ”

 

“ ไอ้เกมมึงช่วยกูดูดิ ว่าพี่เดย์นั่งโต๊ะไหน”

 

“ เออๆ”

 

“ นั่นไงพี่เดย์สุดสวาทของมึง ” สายตาผมมองไปยังจุดที่ไอ้เกมมันชี้ ก็เห็นแผ่นหลังกว้างของพี่เดย์

 

สองขากำลังจะเดินไปหา แต่ทว่าก็ต้องเบรกไว้ก่อนเพราะมีผู้หญิงเดินเข้าไปหากลุ่มของพี่เดย์ เอาจริงๆก็เดินไปหาพี่เดย์นั่น

 

แหละ  ประเด็นคือใครว่ะ แต่หน้าคุ้นมาก

 

 

“ แฟนเขามาว่ะมึง กูว่าชู้อย่างมึงถอยทัพเห๊อะ ”

 

เอารองเท้ายัดปากเพื่อนบาปมั๊ยครับ แถมถุงเท้าด้วยอะ  เสี้ยมจัง

 

จากที่ปากดีไปก่อนหน้านั้นว่าจะเดินมาถามพี่เดย์ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่าพี่เขามีแฟนแล้วหรือยัง พอมาถึงตอนนี้รู้สึกก้าวขาไม่

 

ออกเลย ตอนแรกมั่นใจมากว่าพี่เดย์ไม่มีแฟนแน่ๆ ก็ก่อนที่ผมจะบากความกล้าไปจีบพี่เขาตรงๆ ผมเช็คแล้วน่ะว่าพี่เขายังไมมี

 

แฟน เพราะงั้นผมเลยกล้าที่จะจีบไง อีกทั้งเพื่อนๆของเดย์เองก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพี่เดย์โสด

 

พอมาตอนนี้ กับภาพที่พี่เดย์และผู้หญิงคนนั้นอยูข้างกัน  แล้วหันมายิ้มให้กันอีก  ผมรู้สึกจุกยังไงไม่รู้  ทำไมพอกับผมพี่เดย์ไม่

เห็นจะยิ้มให้แบบนี้เลย หรือเพียงเพราะผมเป็นผู้ชายเหมือนกัน

 

 

 

 

 

ครืด ครืด

 

“ ครับพี่ไท”

 

“ อุ่น อุ่นอยู่ไหน มาคณะพี่หรือยัง” น้ำเสียงพี่ไทดูลนลานชอบกล

 

“ อ่อ ผมอยูในเซเว่นพี่ เดี๋ยวกะว่าจะไป”

 

“ ไม่ต้องมาแล้วนะ ไอ้เดย์มันกลับไปแล้ว ”ผมได้ยินเสียงพี่ไทถอนหายใจเหมือนกับโล่งอกที่รู้ว่าผมยังไม่ได้ไปหาที่คณะ

 

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ไทต้องโกหกด้วยว่าพี่เดย์กลับไปแล้ว ทั้งๆที่พี่เดย์ยังนั่งอยู่ตรงนั้น

 

 

“ เหรอครับ งั้นไม่ไปก็ได้ครับ”

 

ภาพตรงหน้ากับคำโกหกของพี่ไทมันชี้ชัดมากว่าพี่เดย์กับผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นแฟนกัน พี่ไทอาจจะแค่ไม่อยากให้ผมไป

 

รบกวนเขาทั้งสอง หรืออาจเห็นใจผม แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือ ทำไมไม่บอกกันตรงๆเลยว่ามีแฟนแล้ว เพราะถ้าผมดีๆ ผมก็ไม่หน้า

 

ด้านตามตื๊อคนมีแฟนหรอกน่ะ แม้ว่าคนๆนั้นผมจะชอบมากขนาดไหนก็ตาม แต่นี่สิ่งที่พวกเขาทำมันเหมือนว่าผมเป็นคนโง่ คอย

 

ตามผู้ชายต้อยๆ ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นมีเจ้าของแล้ว  และที่สำคัญตอนนี้ความรู้สึกของผมก็ถลำลึกไปไกลมากกว่าคำว่าชอบไปแล้ว

 

..........

 

 

“ มึงกลับกันเหอะ”

 

“ อ้าว แล้วมึงจะไม่เข้าไปถามพี่เค้าแล้วเหรอ” ผมส่ายหน้า แล้วรีบเดินออกมาจากตรงนั้นทันที แม้ผมจะได้ยินเสียงของพี่ไท

 

เรียก แต่ผมก็ไม่แม้จะหันไปมอง  จะหันไปมองภาพบาดตาเหล่านั้นไปทำไมกัน ยิ่งมองมันก็เหมือนยิ่งตอกย้ำความโง่ของตัวเอง

 

น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าค่อยๆไหลออกมา

 

บอกตัวเองว่าควรพอได้แล้ว แม้จะพยายามแค่ไหน สุดท้ายคนไม่ใช่ก็ไม่มีวันใช่อยู่ดี

 

 

 

 

 

 

 

..........................................................

 

 

ตลอดเวลาหลายอาทิตย์หลังจากวันนั้นสารบบในชีวิตของผมปราศจากคนที่ชื่อว่าเดย์โดยปริยาย

 

ต้องพยายามหักห้ามใจแค่ไหนเพื่อไม่ให้เปิดดูไอจีของเพื่อนพี่เดย์  ต้องพยายามากแค่ไหนที่จะไม่ร้องไห้ แต่ในทุกวันก่อนจะ

 

นอนหมอนของผมก็เปียกทุกคืน

 

อยากโทรไปปรึกษาพี่อ้อยพี่ฉอดจัง เผื่อว่ามันจะช่วยทำให้ผมตัดใจได้เร็วขึ้น

 

 

“ อุ่น” เสียงเรียกจากด้านหลัง ทำให้ผมต้องเอี้ยวดูว่าใครกันเป็นคนเรียก

 

“ พี่ไท”

 

ผมเอ่ยชื่อพี่ไทด้วยน้ำเสียงเบาหวิว เพราะข้างหลังพี่ไทคือคนที่ผมพยายามเลี่ยงมาตลอดหลายอาทิตย์ พี่เดย์กำลังกอดอกมอง

 

มาที่ผมด้วยสายตาที่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโกรธหรือเพราะอะไรกันแน่ แต่ที่รู้ๆคือพี่เดย์หน้าบึ้ง เหมือนไม่สบอารมณ์ที่เจอผม

 

 

“ สวัสดีครับ”

 

ผมยกมือไหว้พี่ๆทั้งสามคนอย่างเสียไม่ได้ รู้สึกกระอักกระอ่วน อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก พี่ไทกับพี่มาร์คส่งยิ้มแล้วพยักหน้ามาให้

 

ส่วนพี่เดย์ก็ยังคงทำหน้าบึ้งตึงเหมือนเดิม

 

พี่ไทเดินเข้ามาใกล้ๆผมพร้อมกับตบบ่าผมเบาๆสองสามที ก่อนจะหันไปมองเพื่อนของตัวเอง

 

ผมมองการกระทำของพี่ไทอย่างงงๆ

 

“ เอ่อ พี่ไท” ผมดึงชายเสื้อของพี่ไทที่เจ้าตัวปล่อยออกมาข้างนอกเบาๆ เพื่อเรียกให้พี่ไทหันกลับมา “ เอ่อ พี่มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”

 

“ พี่ไม่มีหรอก แต่เพื่อนพี่ไม่แน่ ” ผมขมวดคิ้วทำหน้างุนงง ในขณะที่พี่ไทยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

 

“ พี่ไปละ เคลียร์กันดีๆล่ะ ” พูดเสร็จพี่ไทก็ลากพี่มาร์คออกไป ทิ้งให้ผมนั่งนิ่งอยู่กับที่ในห้องเรียนเพียงสองคนกับพี่เดย์

.

.

.

.

.

 

“ หายไปไหนมา” ผมสะดุ้งเมื่อเสียงเย็นๆของคนตรงหน้าถามออกมา สายตาที่ผมเคยวาดฝันมาตลอดว่าจะมองเห็นผมบ้าง ตอนนี้กำลังมองผมด้วยสายตาดุดัน

 

ให้ตายเถอะรู้สึกเหมือนแอร์ในห้องนี้เย็นจนมือรู้สึกชาไปหมดแล้ว

 

 

 

ในขณะที่สมองกำลังขบคิดหาคำตอบให้คนตรงหน้า

 

พี่เดย์ก็ค่อยๆสืบเท้าเข้ามาใกล้ผม

 

ใกล้จนผมต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว เพื่อเว้นระยะห่าง

 

 

“ ว่าไงหายไปไหนมา”

 

“ แล้วพี่จะอยากรู้ไปทำไม”

 

ผมมองซ้ายมองขวา หวังจะหาทางชิ่งออกไปจากห้อง มันแย่มากตรงที่มีเก้าอี้เต็มไปหมดจนไม่สามารถจะออกไปได้ในเวลารีบๆแบบนี้

 

“ ถ้าไม่อยากรู้แล้วจะถามทำไม”

 

เป็นการถามกลับที่ทำให้ผมไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายได้อย่างตรงๆ  ได้แต่ก้มหน้าขมวดคิ้วขบคิดว่ามันหมายความว่ายังไง

.

.

.

และเนิ่นนานกว่าที่ประโยคใหม่จะถูกเรียบเรียงเอื้อนเอ่ยจากอีกฝ่าย

 

 

“ กูกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน”

 

คำพูดที่ไม่เจาะจงว่ากำลังพูดถึงใครเปล่งออกมา

 

พร้อมกับเสียงหัวใจที่อ่อนแรงของผมกลับมาเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง

.

.

.

“ ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด”

 

สายตาที่ดุดันเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นสายตาที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

 

“ ขอโทษที่เฉยชาใส่”

 

ผมพยายามบังคับริมฝีปากตัวเองไม่ให้สั่นกับถ้อยคำที่เปล่งออกมา

 

“ ขอโทษที่ทำให้เสียความรู้สึก”

 

พยายามข่มความรู้สึกที่ยากเย็นนี้ไว้

 

“ แต่ ช่วยกลับมาได้มั๊ย”

 

“...”

 

“ กลับมาอยู่ในสายตาอีกครั้งได้มั๊ย”

 

แต่พอพี่พูดจบ น้ำตาใสๆก็พร่างพรูออกมาจากดวงตา ไหลออกมาราวกับได้รับการปลดปล่อย

 

ปลดปล่อยความรู้สึกอึดอัด

 

ปลดปล่อยความรู้สึกเสียใจ

 

ที่พัธนาการอยู่ในใจ

 

.

.

.

 

“ ผม”

 

“ ชู่ว์”

นิ้วเรียวของพี่เดย์เเตะลงบนริมฝีปากผมเบาๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆเกลี่ยน้ำตาที่เลอะเปรอะแก้มผม

 

“ อุ่นไม่ต้องพยายามอะไรแล้ว เพราะพี่จะเป็นฝ่ายพยายามเอง”

 

 

 

end

 

 

 

 

ความพยายามมีค่าเสมอ

 

ฮูเร่

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว