เเก้ไขเนื้อหาของบทนำค่ะ(จะว่าเปลี่ยนใหม่เกือบทั้งหมดเลยก็ได้5555)เราว่าบทนำอันเก่ามันงงๆอยู่น่ะค่ะเลยเเก้ใหม่เราว่ามันดูดีขึ้นเเล้วล่ะค่ะ! อ่านโลด >>>>
‘Grimm' หอสมุดต้องสาปว่ากันว่าเป็นเเหล่งที่รวมความชั่วร้ายเเละสิ่งที่โลกไม่ต้องการทั้งหลายเอาไว้ มีทั้งกระดูกจอมปีศาจ คัมภีร์มรณะ คัมภีร์สวรรค์ ตำราต้องสาป คาถาเเห่งหายนะ เเละยังมีข่าวลือออกมาอีกว่าเป็นที่ที่เก็บรักษาวิญญาณของลูซิเฟอร์เเละพวกปีศาจเเห่งบาปไว้อีกด้วย!
หอสมุดกริมม์เเบ่งออกเป็น 3 เเห่งใหญ่ๆคือ Chesulloth Grimm Discordia GrimmเเละCernunnos Grimm โดยChesulloth Grimm(เชซุลอส กริมม์)ตั้งอยู่กลางทะเลสาบเนเมสิททางตอนเหนือของโลก Discordia Grimm(ดิสโครเดียร์ กริมม์)ตั้งอยู่กลางเทือกเขารีเเอนนอนย์ทางตอนใต้ของโลก สุดท้ายCernunnos Grimm(เคอร์นูนอธ กริมม์)ตั้งอยู่กลางป่าต้องห้าม ป่าลึกลับที่ไม่มีทางเข้า
หอสมุดกริมม์จะมีบรรณารักษ์ประจำหอสมุดเเห่งละ1คนซึ่งบรรณารักษ์นั้นสืบทอดหน้าที่กันมารุ่นต่อรุ่น บรรพบุรุษของพวกเขาคือเหล่าทวยเทพที่เก่งกาจความสามารถของพวกเขาอยู่ในระดับสูง ใครที่คิดจะเข้าไปขโมยหรือก่อกวนที่นั้นเเล้วละก็…ตายสถานเดียว
ปึก!!
เสียงปิดหนังสืออย่างรุนเเรงดังขึ้นที่มุมห้องก่อนที่หนังสือเล่มนั้นจะถูกโยนใส่เตาผิงอย่างไม่ใยดี
“พวกมนุษย์นี่สรรหาเเต่งเรื่องกันจังเนอะ”เสียงอันทรงเสน่ห์ของหญิงสาวที่นั่งบนโซฟาดังขึ้น หล่อนปลายหางตามองบุคคลที่เผาหนังสือทิ้งอย่างไม่ใยดี
“ไอบ้าขี้เก็ก! เเกเผาหนังสือทำไมวะถึงในนั้นจะมีเรื่องจริงเเค่จึ๊งหนึ่งเเต่ก็ซื้อมาเเพงนะเว้ย!”เสียงเเตกห้าวของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นมาอย่างเหลืออด ถลึงตาใส่คู่หูตัวเองอย่างหงุดหงิด
มันเปลืองนะเว้ยอย่างน้อยเอาไปขายยังพอได้เงินคือกลับมาบ้าง!!!
“หนวกหูน่า โยนใส่กองไฟยังพอเป็นเชื้อเพลิงได้บ้างอย่าบ่นให้มากนักเลย ไอเตี้ย”ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่า‘ไอบ้าขี้เก็ก’เอ่ยขึ้นมาอย่างหน่ายๆไม่วายเเอบเหน็บคู่หูของตัวเองเพื่อความสะใจส่วนตัว
“ใครเตี้ยกันวะ!!”ชายหนุ่มที่ถูกเพื่อนเหน็บตั้งท่ากระโจนใส่คู่หูของตนเเต่มีคนจับเเขนเอาไว้
“เอาน่าๆทั้งคู่ก็อย่าทะเลาะกันเลยน่าเป็นคู่หูกันไม่ใช่รึไง”เสียงนุ่มๆของชายอีกคนเอ่ยห้ามคนที่กำลังจะทะเลาะกัน
“เชอะ!/ชิ”สองคนที่โดนดุหันมามองหน้ากันก่อนที่จะสบัดหน้ากันไปคนละทาง
“เดี๋ยวเถอะ!”ชายหนุ่มกำลังจะดุอีกรอบเเต่โดนเสียงทรงเสน่ห์ห้ามไว้เสียก่อน
“ปล่อยพวกเขาไปเถอะ เขาว่ากันว่าถ้ายิ่งทะเลาะกันยิ่งสนิทกันนะ”
“ใครสนิทกับไอขี้เก็ก/ไอเตี้ยนี่กันห๊ะ!!”สองเสียงที่ประสานขึ้นมาอย่างสามัคคีทั้งสองหันมองหน้ากันส่งสายฟ้าจากตาเปรี้ยะๆ
“เเกพูดตามฉันทำไม!!/เเกพูดตามฉันทำไม!!”เเล้วก็ตีกันต่อ
“สนิทกันเเน่นะ?”หญิงสาวยิ้ม
“ที่นายกลับมานี่นายท่านมีคำสั่งอะไรมาเเล้วใช่ไหม?”ชายหนุ่มยิ้ม
“ใช่”สองคนที่กำลังทะเลาะกันหูผึ่งรีบวิ่งมาหาทันทีพร้อมใจกันประสานเสียง
“บอกมาเร็วสิๆ”
“นายท่านบอกว่าถึงเวลาเเล้ว”เเค่คำสั้นๆเเต่มันสามารถจุดรอยยิ้มของทุกคนในห้องได้
“อ้า~~ได้เวลาอาละวาดซักทีนะ”เสียงห้าวดังขึ้นอีกรอบ
“อืม รอมาตั้งนาน”ชายหนุ่มรับคำของคู่หูของตนเอง
“เป้าหมายล่ะ”หญิงสาวถามขึ้น ชายหนุ่มเเสยะยิ้ม
“หอสมุดเคอร์นูนอธ กริมม์ยังไงล่ะ”
เพล้ง!!!
เสียงเเก้วกระเบื้องเเตกทำให้ชายหนุ่มร่างใหญ่ที่กำลังเเทะเนื้ออยู่ตรงกันข้ามเงยหน้าขึ้นมามอง
“นายทำเเก้วเเตกเหรอ?”ชายหนุ่มที่ถือเศษเเก้วอยู่ยิ้ม ก้มมองรอยเเผลที่มีโลหิตสีเเดงสดซึมออกมา
“เปล่า”ชายหนุ่มร่างใหญ่หยุดการเเทะเนื้อเเล้วจ้องเขม็งไปที่เศษเเก้ว
“เเล้วทำไม?”
“อันตรายบางอย่างกำลังอย่างกรายเข้ามาที่หอสมุดเเห่งนี้”ชายหนุ่มกวาดเศษเเก้วลงถาดน้ำชาโดยไม่สนว่ามันจะบาดมือหรือไม่
“เริ่มเเล้วสินะ”ชายหนุ่มร่างใหญ่คืนร่างกลับเป็นสัตว์ขนาดใหญ่เเล้วเดินกลับไปในป่า“เดี๋ยวฉันดูเเลในป่าให้ นายรับมือที่นี้คนเดียวไหวไหม”ชายหนุ่มพยักหน้า
“ผมจัดการเองครับ”ชายหนุ่มมองเพื่อของตนเองเดินกลับไปในป่าเขายกถาดไปเทเศษเเก้วทิ้งเเล้วเอามือไปรองน้ำมาล้างเเผลที่ถูกเศษเเก้วบาด
โดยที่เขายังไม่รู้เลยว่าสายลมเเห่งโชคชะตาเริ่มพัดพาเเล้ว….