…...... ณ ชายหาดแห่งหนึ่งทางภาคใต้ ทั้ง 2 ครอบครัว กำลังเตรียมที่จะปาร์ตี้บาร์บีคิวกันอย่างสนุกสนาน ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ครอบครัวก็กำลังช่วยเหลือกันอย่างขะมักขะเม้น หยอกล้อกันไปมาอย่างมีความสุข ถัดไปไม่ไกลนัก เด็กชายและเด็กหญิง กำลังนั่งเล่นของเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน หยอกล้อกันตามประสาเด็กทั่วไป
“ นี่มีนา เรามาเล่นวิ่งไล่จับกันมั้ย ” เด็กชายถามเด็กหญิงอย่างใส่ซื่อ
“ เอาสิ เอาสิ ” เด็กหญิงทำท่าตื่นเต้น เพราะคิดว่าต้องสนุกแน่ๆ
“ มา งั้นเรามาเป่ายิงฉุบกัน ใครแพ้ต้องเป็นคนไล่จับ เป่ายิงฉุบ ” เด็กชายและเด็กหญิงสองคนเป่ายิงฉุบกัน
“ เย่พี่ชนะ มีนาเป็นคนไล่จับพี่ เริ่ม ” จากนั้นเด็กชายก็วิ่งหนีให้เด็กหญิงจับ ทั้ง 2 คน วิ่งไล่จับกันอย่างสนุกสนาน เด็กหญิงมีนากลับสะดุดใส่ก้อนหินจนหกล้ม
“โอ้ย แงๆๆๆๆ ” เด็กหญิงมีนาร้องไห้ออกมา เสียงร้องไห้ของเด็กหญิงมีนาทำให้เด็กชายต้องหยุดชะงักและหันหลังกลับไปดู
“ มีนา !!! ” เด็กชายอุทานอย่างตกใจพร้อมกับวิ่งเข้าไปประคองเด็กหญิงตัวน้อย
“ แงๆๆ มีนาเจ็บ ฮือๆๆๆ ” เด็กหญิงร้องไห้เสียงดัง
“ เดินได้มั้ย ” เด็กชายถาม
“ มีนาเจ็บ ฮือๆๆๆ ” เด็กหญิงยังไม่หยุดร้องไห้
“ มา ขี่หลังพี่ ” เด็กชายให้เด็กหญิงขึ้นขี่หลัง เด็กหญิงยอมขึ้นขี่หลัง พร้อมกับปาดน้ำตา
เด็กชายพาเด็กหญิงขึ้นหลัง และเดินมายังที่ผู้ใหญ่กำลังช่ยกันจัดปาร์ตี้บาร์บีคิว เมื่อผู้ใหญ่ทั้ง 2 ครอบครัว เห็นก็ถึงกับตกใจ
“ ตายแล้ว! มีนา ลูก ! ” กัญญา มารดาผู้ให้กำเนิดมีนา อุทานออกมาอย่างตกใจ เด็กชายวางเด็กสาวลงกับพื้น
“ น้องเป็นอะไรลูก ทำไมถึงร้องไห้มาแบบนี้ล่ะ วิท ” นาตยามารดาผู้ให้กำเนิดถามลูกชาย ถามลูกชายของตนด้วยความตกใจไม่แพ้เพื่อนของเธอ นั่นก็คือ กัญญา
“ น้องหกล้ม น่ะครับ ผมเล่นวิ่งไล่จับกับน้อง ผมขอโทษครับ ” เด็กชายวิทยกมือขอโทษ กัญญามารดาของมีนา
“ ไม่เป็นไรลูก มันเป็นอุบัติเหตุนะลูกนะ ” กัญญายกโทษให้เด็กชายวิท เพราะเธอรู้ว่า เด็กก็ซนตามประสาเด็กย่อมต้องมีเจ็บตัวเป็นธรรมดา
“ พ่อว่าพาลูกไปทำแผลดีกว่านะ ป่ะ ” มนตรี สามีของกัญญาบิดาของมีนา กล่าวอย่างเป็นห่วงลูกสาว
“ เดี๋ยวพวกเราจัดเตรียมงานกันเองครับ พี่มนตรี พาน้องมีนาไปทำแผลเถอะครับ ” วัฒนิน สามีของนาตยาและบิดาของเด็กชายวิท กล่าว มนตรีพยักหน้าให้วัฒนิน พร้อมกับพากัญญาและมีนาเข้าไปยังที่พัก
เด็กหญิงและเด็กชายต่างเป็นเพื่อนเล่นกัน ตั้งแต่ยังเล็กเนื่อง จากทั้งนาตยาและกัญญาทั้งคู่ต่างเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียน ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะแต่งงานมีครอบครัว ทั้งคู่ก็ยังคงพบปะกันทุกครั้งที่มีเวลาว่าง จึงทำให้วิทและมีนาสนิทกันตั้งยังเด็กจนกระทั่งวิทอายุ 15จะต้องไปเรียนไฮสคูลที่อังกฤษและมีนาที่อายุได้ 7ขวบ ต้องย้ายไปเรียนที่เชียงใหม่ตามบิดาที่ไปทำธุรกิจที่เชียงใหม่
เวลา บ่าย 2 ณ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
ทั้งสองครอบครัวมาส่งวิทที่สนามบิน เพราะนอกจากจะมาส่งวิทแล้วนั้น ครอบครัวของกันกัญญาก็ต้องบินไปเชียงใหม่เย็นนี้
“ ดูแลตัวเองด้วยนะลูก เดี๋ยวซัมเมอร์เมื่อไหร่แม่กับพ่อจะบินไปหานะลูกนะ ” นาตยากล่าวด้วยความอาลัยคิดถึง ที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเค้าจะต้องจากบ้านไปไกล แต่เธอก็กลั้นความความคิดถึงเอาไว้ เพื่ออนาคตของลูก นาตยากอดลูกชายอย่างเศร้าใจ
“ตั้งใจเรียนนะวิท ดูแลตัวเองดีๆนะ ” กัญญาบอกลาหลานชายพร้อมกับลูบหัวด้วยความเอ็นดู
“ ครับ ” วิทหันไปหามีนา
“ มีนา พี่ไปแล้วนะ ดูแลตัวเองด้วย อย่าซนให้มากนะ เดี๋ยวผิวไม่สวยนะ ฮาๆ ” วิทพยายามทำให้มีนาขำเพราะเขารู้ว่า การไปเรียนต่อของเขาในครั้งนี้คนที่เสียใจที่สุด คือ มีนา เด็กหญิงตัวน้อยของเขาที่เล่นกับเขามาตั้งแต่ยังเด็ก
“ ไม่ไปไม่ได้หรอ ฮือๆๆ” เด็กหญิงมีนาร้องไห้ โย
“ ไม่เอาน่า ไม่ร้องนะ ” วิทผละกอดจากมีนาพร้อมเช็ดน้ำตาให้มีนา “ พี่จะรีบกลับมาหาเรานะ ถ้ามีนาเรียนจบเมื่อไหร่ พี่สัญญาพี่จะให้มีนาเป็นเจ้าสาวของพี่ อย่างที่มีนาเคยขอพี่ไง ” วิทพูดปลอบใจมีนา
“ จริงนะ ” มีนาเลิกร้องไห้
“ จริงสิ พี่สัญญา ” ทั้ง 2 คนเกี่ยวก้อยกัน.....สัญญากันอย่างจริงใจ................และสัญญาที่เคยไว้ไม่รู้ว่าเขานั้นจะลืมแล้วหรือไม่......แต่สำหรับเธอแล้วนั้น.......ไม่เคยลืม