“ฮึ...นอกจากปิดหน้าแล้ว มันยังให้เธอแต่งหน้าเสียจนเข้มอีกด้วย นี่ไอ้ธัชชัยมันคิดว่าฉันโง่เง่าขนาดควายยังเรียกพี่เลยสินะ บอกมา!! ว่าเธอเป็นใคร!!!” เขาตะโกนใส่หน้าหวานๆ อย่างเคียดแค้น รู้มาตลอดว่าจะต้องถูกหลอก แต่ก็ยังอยากเห็นว่าใครจะกล้าเอาตัวเข้ามาเสี่ยง
“ฉะ...ฉัน...ฉันชื่อ...” เหมือนลิ้นจะคับปากจนไม่อาจพูดออกมาได้ดั่งใจนึก ร่างกายสั่นเป็นเจ้าเข้า ขนบนกายลุกพองไปทั้งตัว
“ชื่ออะไร!!!”
“ตันหยง ฉันชื่อตันหยง” สาวน้อยละล่ำละลักบอกเสียงหลง หวาดกลัวจนน้ำตาร่วงผล็อย อยากจะเดินตามพ่อออกไปเสียตอนนี้ แต่ก็ทำไม่ได้ ต้องบังคับให้ขาแข้งสั่นๆ ฝืนยืนหยัดอย่างมั่นคง
“อ้อ...นี่ถึงขนาดส่งดวงใจพ่อมาให้เลยเรอะ ไอ้ธัชชัยนี่มันเลวไม่มีที่ติจริงๆ ดีล่ะ ในเมื่อมันส่งเธอมาให้ฉัน ฉันก็จะสนองให้มันหายคันแล้วเจ็บลึกไปทั้งตระกูลเลยทีเดียว”
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ทำงานบ้าน หรือทำอะไรที่มันหนักหนาสาหัสฉันก็ยอม แต่ขอร้องอย่าทำร้ายฉันเลยนะคะ” ร่างอรชรก้าวถอยหลัง เมื่อร่างสูงก้าวเข้ามาหาจนปลายเท้าชนกัน เธอพนมมือร้องขอความเห็นใจ ดวงหน้าหวานใสอาบไปด้วยน้ำตาหยดแล้วหยดเล่า ร่างกายสั่นระริกเหมือนหนูที่หมดสิ้นหนทาง แล้วกำลังจะถูกแมวตะครุบ
“ต่อให้ฉันเป็นพระเจ้าที่เธอสมควรจะยกมือไหว้ ฉันก็ไม่ปล่อยเธอไปหรอก ในเมื่อพวกเธอเห็นฉันเป็นคนโง่เง่าเต่าตุ่นนักล่ะก็ ฉันจะลองเป็นคนโง่ในเกมของพวกเธอดูสักครั้ง ให้มันรู้กันไปว่าระหว่างคนโง่อย่างฉัน กับคนฉลาดอย่างพวกเธอ ใครมันจะแน่กว่ากัน”
----------------------------------------------------------
“ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด” แล้วเขาก็ระงับความอยากเห็นเรือนร่างงดงามไม่ได้ ในเมื่อเธอบอกว่ายอมทุกอย่าง เขาจะให้เธอทำเรื่องที่เธอน่าจะคุ้นเคยอยู่แล้ว หน้าหนาขนาดนี้คงไม่มีอายหรอก
“อะไรนะ!”
“เธอบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่ายอมทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง ตอนนี้ฉันอยากรู้บ้างแล้วว่าเธอทำอะไรได้บ้าง อ้อ...แต่ถ้าไม่ดีพอ ฉันจะส่งเธอไปให้พวกลูกน้องกลัดมันของฉัน พวกมันไม่สนใจหรอกว่าเธอจะหยำเปเน่าเฟะมาขนาดไหน แค่ทำให้พวกมันน้ำพุ่งได้แค่นั้นพอ มองหน้าฉันทำไม ถอดสิ หรือเปลี่ยนใจเข้าแล้วล่ะ”
“คุณมันไม่ใช่คน ร้ายกาจที่สุด” สรัญรัตน์กัดฟันบริภาษเขาออกไป อย่างน้อยก็ขอพูดว่าสักนิดเถอะ ไม่ใช่แต่ยอมให้เขาข่มเหงอยู่ข้างเดียว “ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีคนแบบคุณอยู่บนโลกใบนี้”
“ใครที่อยู่ข้างนอก ไปตามนายอรรถวัฒน์กลับมา!” แล้วเสียงห้าวก็ตะโกนออกไปนอกห้อง จนสรัญรัตน์ได้แต่ตื่นตะลึง ก่อนจะเรียบเรียงสติที่กำลังสูญหายแล้วรวบรวมกำลังใจเปล่งออกมาเป็นคำห้ามปรามเสียงหลง
“อย่า!!! ฉัน...จะทำ”
แล้วร่างสวยในชุดกี่เพ้าสีแดงสดก็ลุกขึ้นยืน เธอหลับตาลงพยายามยกมือสั่นๆ ขึ้นปลดเปลื้องเสื้อผ้า ลมหายใจทวีความหนักหน่วงและถี่กระชั้นจนทรวงสาวสะท้อนขึ้นลงรุนแรง
พญามังกรดำหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้บุหนังสีน้ำตาลเข้ม เขามองมือสั่นๆ ที่ค่อยๆ เลื่อนไปตามขอบเสื้อ มองผิวกายขาวผ่องเปิดเปลือยออกทีละนิด จนกระทั่งชุดกี่เพ้าเลื่อนลงมาอยู่ใต้อก บราเซียสีขาวสะอาดไร้สายดูเหมือนจะเล็กกว่าสิ่งที่ต้องปิดบังไปมาก เนินอกอิ่มล้นทะลักออกมาเบียดชิดกันอยู่ด้านบน เห็นร่องเนื้อขาวผุดผาดให้ไพล่คิดไปถึงสิ่งที่อยากเข้าไปอยู่ในร่องอกนั้น
******* ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไขส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายเรื่องนี้เพื่อเผยแพร่หรือนำไปเป็นของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะดำเนินคดีตามกฎหมาย *******