เรือนพยาโศก
สมัยยุค5จี8จีนี้นั้น ส่วนใหญ่คนเรามักมองกันแค่เพียงเปลือกนอกที่ห่อหุ้มเอาไว้ด้วยภาพสวยงามปรุ่งแต่ง
จะยังมีสักกี่คนที่จะมองทั้งหน้าตาและนิสัยควบคู่กันไป?
เสียงภายนอกอึงมี่ไปด้วยเสียงฟ้าคำรามลมฝนห่าใหญ่เริ่มซัดสาดอย่างน่ากลัว อา.....ใช่แล้วช่างน่ากลัวเกินไปจริงๆ
ภายในห้องหอ ก็ไม่ต่างกันเลย เจ้าสาววัย19 ที่ไม่มีแม้โอกาสได้รู้มาก่อนว่าตนถูกบิดาและมารดาเลี้ยงพามายังคฤหาสน์หลังงามนี่เพื่อการได...อนิจา กว่าจะได้รู้เด็กสาวนามปรวีก็ถูกจับยัดเข้ามายังห้องมืดๆที่มันถึงเรียกว่าห้องหอไปเสียแล้ว...
ใช่เธอกำลังกลัว มากเสียด้วย เธอมีชุดเจ้าสาวเป็นชุดนักศึกษาปี1 แล้วไม่อาจรู้เรือนไทยหลังใหญ่โบราญอยู่เสียลึกแทบเรียกว่าป่าแถบแถวจังหวัดอ่างทองคือของผู้ใดและที่สำคัญไปกว่านั้นเจ้าบ่าวหญิงสาวคือใครกัน?
เด็กสาวเริ่มกระถดตัวไปชิดซอกเตียงทรงโบราญ เธออยากร้องให้แต่นั่นมิใช่วิสัยเธอเพราะตลอดมาต่อให้มารดาเลี้ยงตีจนสลบปรวีย์ก็ไม่เคยมีน้ำตามานานมากแล้ว...นานเสียจนเกือบจะลืมไปแล้วว่าการร้องให้คืออะไรเพราะร้องไปก็จะทำให้หญิงสาวถูกตีเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่า!!!
สิบล้านบาท ที่ปรวีย์ ทันได้เห็นตอนบิดาและมารเลี้ยงช่วยกันนับเงินงดที่อยู่ในกระเป๋ายามที่หญิงสาวถูกจับพิมพ์หมึกลงไปใน ใบทะเบียนสมรส ใช่เธอต่อสู้และดิ้นล้น สิ่งที่พล่ำล่ำร้องถามบิดาคือ ขายเธอทำไม ใยต้องขายเธอด้วย?
แต่พ่อหาสนใจเธอไม่ คำถามไร้ซึ่งคำตอบ เจ้าสาวหรือ? เมียถูกต้องตามกฎหมายหรือ?มีใครถามเธอบ้างว่าเต็มใจที่จะเป็นไหม?
ภาพบิดาและมารดาเลี้ยงกับชายสูงอายุถ้าทางภูมิฐานค่อยๆหายไปจากสายตา เมื่อเธอได้ฤกเข้าหอแล้ว...
มืดมิดและอ้างว้าง เสียงโซ่ถูกลามที่หน้าประตูอีกชั้น หน้าต่างทุกบานปิดสนิท
เธอกำลังเจอกับพิธีวิวาห์แบบไหนกัน?....
ไม่รู้นั่นคือคำตอบอยากกรีดร้อง...แล้วมันจะช่วยอะไรละ?ปรวีย์เอ๊ย...สิ่งที่ตั้งมั่นยามนี้คงเป็น สติ ใช่ ยามนี้สิ่งที่ไม่ควรขาดคือสติ
ปรวีย์กอดตนเองแน่น เสียงฟ้าฝนภายนอกดังนักหญิงสาวไม่อาจรู้ พ่อ ทิ้งเธอไปหรือยังแต่ที่แน่ๆท่านขายเธอแล้ว
กึ๊ก...ครืดดด
เฮือก...
เสียงนั่น...หรือจะเป็นเขา...ท่องไว้ปรวีย์สติๆๆ
“จะนั่งสวดบ้าอะไรนั่นอีกนานไหม?”
ชะอุ๊ย
สะ..เสียง...โคตรดุเลย...
“ขึ้นมาบนเตียงนี่...แม่เจ้าสาวฟันน้ำนม”
“แค๊กๆๆๆ”ปรวีย์ถึงกับสำลักน้ำลาย
ฮ๊ะ...เรียกเธอว่าอย่างไรนะ....