เป็นผมได้มั้ย..ได้มั้ยใจคุณ
เรื่องนี้ไรท์เคยอัพลงธัญวลัย แต่ว่าลบทิ้งไปเพราะเหตุผลบางอย่างที่เข้ามารุ้มเร้าในช่วงนั้น แต่ก็ยังมีแฟนฟิคอีกหลายคนที่ยังตามอ่านไม่จบ เรียกร้องให้ไรท์นำกลับมาลงอีกครั้ง จึงอยากจะขอความร่วมมือรีดเดอร์ที่รักทุกคน เข้ามาอ่านเพื่อความบันเทิง ไม่นำดราม่านะค่ะ หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับนิยายเรื่องนี้ ขอบคุณสำหรับการติดตามและคอมเม้นท์นะค่ะ
เป็นผมได้มั้ยในหัวใจคุณ....Ep1
จุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงของชีวิต
เว่ยโจวเด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีที่กำลังนั่งคุกเข่าน้ำตาเอ่อล้นอยู่หน้าสุสานหลุมฝั่งศพของพ่อและแม่ที่เพิ่งเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตไปเมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา
น้ำตาที่ไหลออกมาจนเหือดแห้ง ในสมองตอนนี้ก็ว่างเปล่าไร้ความรู้สึกกับอะไรรอบตัว มือเรียวว่างช่อดอกไม้ลงหน้าสุสานหลุมฝั่งศพ ตาที่แดงก่ำเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ตลอดทั้งอาทิตย์ การสูญเสียที่เร็วซะจนเว่ยโจวแทบรับไม่ได้
.
การที่ต้องเผชิญกับโลกภายนอก ทั้งที่ใจยังยังไม่แกร่งพอ คิดไม่ออกเลยว่าจะเริ่มต้นชีวิตไปทางในดี มีแม่ที่ค่อยห่วงใยอยู่ด้วยกันมาตลอด แต่ในตอนนี้ทุกๆอย่างไม่มีอีกแล้วไม่มีแม่ค่อยดูแล ค่อยกอด ค่อยดูแลให้กำลังใจ ไม่มีแม่นม ไม่มีบ้าน ไม่เหลือใครอีกแล้ว
เว่ยโจวเอามายันพื้นหญ้าไว้ก้มหน้าสะอื้นออกมากับปัญหาที่ถาโถมมาในชีวิตแบบไม่ทันให้ได้ตั้งตัว ทำไมไม่ให้เขาโตกว่านี้ โตพอที่ดูแลและพึ่งพาตัวเองได้ โตพอที่จะออกไปเผชิญกับปัญหาข้างนอกที่รออยู่
...
เว่ยโจวยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกมาไม่หยุดทิ้ง เหลือเพียงคราบน้ำตาที่มันเปื้อนเลอะไปทั่วใบหน้า
. . ประธานหวงเพื่อน ที่รวมหุ้นกันก่อตั้งธุรกิจโรงแรมทั่วปักกิ่งกำลังเดินตรงเข้ามาเพื่อว่างช่อดอกไม้แสดงความเสียใจในการจากไปของเพื่อนเหมือนกัน แต่ก็ต้องหยุ่ดขาที่ก้าวลง เมื่อมองเห็นร่างของเด็กหนุ่มสูงโปร่งที่กำลังนั่งสะอื้นอยู่ที่สุสานของเพื่อน
ประธานหวงรู้สึกเศร้าในชะตากรรมของเด็กหนุ่มที่ต้องเผชิญในตอนนี้ มันหนักหนาเกินไปสำหรับเด็กอายุแค่สิบแปดจะรับไหว..
เว่ยโจวเด็กเกินไปที่ต้องมาเจอกับอะไรที่เจ็บปวดในเวลาอันรวดเร็วแบบไม่ให้ทันได้ตั้งตัวแบบนี้ เพราะประธานหวงรู้ดีว่าเด็กอายุแค่นี้ยังไม่บรรลุนิติ แถมยังเป็นลูกที่ไม่ได้เกิดมาอยากถูกกฏหมายเป็นแค่ลูกเมียน้อย ที่เขารู้ๆดีว่าเว่ยโจวจะต้องเจออะไรมั้งหลังจากนี้..
...เสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามาใกล้ตัว ทำให้คนตัวเล็กเริ่มรู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ข้างๆ จึงหันหน้ากลับมามอง พอรู้ว่าเป็นประธานหวงเพื่อนของผู้เป็นพ่อ . ร่างบางค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นยืน และก้มหัวคำนับให้ช้าๆ เงยหน้าขึ้นยกมือมาปาดน้ำตาทิ้งลวกๆ และส่งยิ้มเศร้าไปให้ประธานหวง ที่ยืนยิ้มอบอุ่นรออยู่
“คุณลุงมาเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่เหรอครับ”
เว่ยโจวถามเสียงเหือดแห้งในลำคอ จากการร้องไห้หนักจนคอแห้ง เมือมองเห็นช่อดอกไม้ที่ประธานหวงถือไว้ในมือ
”...โจวโจวมาที่นี้คนเดียวเหรอ “
ประธานหวงถามเมื่อมองไม่เห็นรถและคนติดตามอย่างที่เคยเห็นเป็นประจำ เวลาที่เด็กหนุ่มจะออกไปไหนมาไหนไกลๆ
“ครับ..”
“แล้วเธอมายังไง. “
“ผมนั่งรถไฟมาฮะแล้วก้อเดินข้ามถนนขึ้นเนินเขามาเรื่อยๆ”
ประธานหวงมีสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อนึกถึงความยากลำบากในการมาที่นี้คนเดียวของเว่ยโจว แค่จะออกจากบ้านนั่งรถเมลล์เขายังคิดว่ามันยากสำหรับเด็กหนุ่มอย่างเว่ยโจวเลย
การโตมาแบบคุณหนู ถูกเลี้ยงอย่างกับไข่ในหิน ไปไหนมาไหนต้องมีคนค่อยติดตาม ไม่เคยได้ออกมาเผชิญโลกภายนอก นอกจากไปโรงเรียน กลับบ้าน ถ้าจะเรียนพิเศษอะไรก็ต้องมีครูมาสอนที่บ้าน แล้วตอนนี้ต้องนั่งรถไฟจากเซี้ยงไฮ้มาปักกิ่ง ต้องเดินข้ามถนนขึ้นเนินเขาเพื่อมาไหว้สุสานของพ่อแม่
โชคดีแค่ไหนที่ระหว่างทางไม่เกิดอันตรายหรือเด็กหนุ่มไม่หลงทาง ไม่งั้นเขาคงรู้สึกผิดกับสัญญาที่ให้ไว้เพื่อน
“เธอน่าจะให้ใครขับรถมาส่ง “
“ไมเป็นไรครับ ผมมาเองได้ “ เว่ยโจวก้มหน้าลงหลบตาท่านประธานหวงเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้ออกไปยังไง ในเมื่อตัวเองเพิ่งถูกไล่ออกมาจากคฤหาสย์หลังใหญ่ที่เคยอาศัยมาตั้งแต่เด็กเมื่อเช้านี้
ส่วนพี่ชายกับพี่สาวที่เป็นลูกของแม่ใหญ่ ก็ถูกสั้งไม่ให้มายุ่งกับเรื่องนี้เหมือนกัน เว่ยโจวก็ไม่เข้าใจอะไรมากนัก ทำไมอยู่ๆแม่ใหญ่ถึงได้ออกปากไล่เขาออกจากบ้าน ทั้งที่ก่อนพ่อกับแม่จะสิ้นในที่โรงพยาบาล ก็รับปากและสัญญากับพ่อว่าจะดูแลและรักเขาเหมือนลูกแท้ๆคนหนึ่ง ..
แต่พองานศพผ่านไปแค่หนึ่งวัน ตอนเช้าแม่ใหญ่ก็เดินมาในห้องและตะโกนสั่งลั่นไล่เขาออกจากบ้าน พร้อมกับด่าถอด้วยคำพูดที่เหยียดหยามดูถูกเขากับแม่สารพัด..
แกมันก็ลูกผู้หญิงบาร์ หากินกับเงินของผู้ชายที่เขามีเมียแล้ว มารยาหน้าด้าน ไม่มียางอาย ตั้งแต่แม่แกก้าวเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ คุณคิมก็เอาแต่หลงแม่แกจนลืมเมียหลวงอย่างฉัน ยิ่งมีลูกนอกไส้อย่างแกโผล่หัวออกมา ครอบครัวฉันก็เหมือนหมาหัวเนา เพราะไอ้ลูกผู้หญิงหากินอย่างแกมันเกิดมาแย่งความรักจากพวกฉันไปจากคุณคิมหมด..ฉันเกลียดแกเกลียดแม่แก รู้ไว้ด้วย..
ออกไปจากบ้านฉัน ไปให้พ้นหน้าครอบครัวฉัน ไม่มีคุณคิมคลุมหัวกะลาคิดว่าฉันจะเลี้ยงแกให้เปลืองข้าวสุกเหรอเหอะ..
เว่ยโจวปล่อยน้ำตามันไหลออกมาให้กับความเจ็บปวด ที่เพิ่งได้รับรู้มา เขามันก็แค่ลูกเมียน้อย เป็นแค่เด็กที่เกิดมาจากผู้หญิงบาร์ ความลับที่ผู้เป็นแม่ปกปิดไว้ เว่ยโจวไม่โกรธหรอกที่มีแม่เคยเป็นอะไรมาก่อนขอแค่ให้มีแม่อยู่ข้างๆเขาเหมือนเดิมในตอนนี้ก็พอแล้ว
“แต่เธอไม่เคยต้องไปไหนมาไหนคนเดียว....อยู่ๆเธอจะออกมาคนเดียวในที่แบบนี้มันอันตรายมากเลยรู้มั้ย...น่าจะพาแม่นมมาเป็นเพื่อนก็ยังดี “
ประธานหวงพูดเสียงเครียด หลังจากที่ปล่อยให้เว่ยโจว นิ่งเงียบอยู่กับภวังค์ของตัวเองอยู่พักหนึ่ง เว่ยโจวเหลือบตาขึ้นมองไปที่ประธานหวงอย่างซึ้งในน้ำใจที่ยังอุตสาห์มีให้เด็กที่เกิดมากับผู้หญิงบาร์และยังเป็นเมียน้อยอีก
“ผมแค่อยากจะพึ่งตัวเองดูมั้งครับ ขอบคุณคุณลุงนะครับที่มาเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ “
เว่ยโจวพูดแล้วยิ้มเศร้าๆ กลบเกลื่อนอาการเจ็บปวดและเสียใจเอาไว้ ไม่อยากแสดงความอ่อนแอออกมามาให้ใครเห็น แม้ว่าข้างในตอนนี้มันร้องไห้อยากหนักอยู่ก็ตาม ประธานหวงเดินเข้ามาสวมกอดเว่ยโจวไว้หลวมๆและตบหลังบางที่ดูเหมือนจะสั่นเทาอย่างให้กำลังใจ
”ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะปกป้องเธอเอง...ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น.ถ้าคิดว่าไม่มีที่ไปฉันจะให้เธอย้ายไปอยู่กับเราที่บ้าน..”
เว่ยโจวผละออกมาจากประธานหวงเล็กน้อย แววตากลมใสที่เหมือนคราบน้ำตาเครื่ออยู่ สั่นระริกและฉายแววแห่งความกังวลและอึดอัดใจออกมา
“คุณลุงรู้เหรอครับ ว่าผมจะต้องไปมีที่ไป” ประธานหวงยิ้มออกมาอย่างผู้ใหญ่ใจดี แล้วก็ยกมือขยี้ผมนุ่มสลวยของร่างบางอย่างรู้เอ็นดูแล้วจึงพูดขึ้น
“ไม่รู้หรอก แต่ถ้าเดาจากกระเป๋าใบนั้นก็คงไม่ผิดใช่มั้ย “
“เออ..” เว่ยโจวเกิดพูดไม่ออกขึ้นมา ก็เพราะมันคือเรื่องจริงนี้นะ
“วันนี้ ไปบ้านลุงเลยมั้ย..ดูท่าแล้วเหมือนเธอจะเตรียมตัวมาแล้ว”
ประธานหวงพูดแล้วก็ใบ้ปากไปที่กระเป๋าเป้ที่ถูกว่างไว้ที่พื้นหญ้า เขาเดาไม่ผิดหรอกว่าคุณหญิงจะต้องไล่เว่ยโจวออกจากบ้าน เพราะเรื่องพินัยกรรมครึ่งหนึ่งของตระกูลจะต้องถูกแบ่งให้เว่ยโจวด้วย คนที่เห็นแก่ตัว และหวงผลประโยชน์สมบัฒิอย่างคุณหญิงจะยอมยกให้เว่ยโจว ที่เป็นแค่ลูกเมียน้อย
.
”ผมเกรงใจคุณลุงครับพี่ต้าลู่หาบ้านหลังเล็กๆเตรียมไว้แล้ว และบอกว่าให้รออยู่ที่นี้ ไม่รบกวนคุณลุงหรอกฮะ”
“แต่เธออายุแค่สิบแปด ออกไปอยู่ลำพังคนเดียวไม่ได้หรอกนะ อย่างน้อยก็ต้องมีคนดูแลอยู่แล้วนี้ใช่มั้ย...ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก”
ประธานหวงพูดแล้วก็ยิ้มบางๆที่มุมปากอย่างเต็มใจช่วย เว่ยโจวจึงได้แต่ยืนนิ่งครุ่นคิดอย่างชั่งใจ ถ้าพี่อี๋ฉีรู้จะคิดยังไงที่เขาจะย้ายไปบ้านนั้น ไหนจะพี่ต้าลู่ที่รับปากว่าหาบ้านให้ และต่อจากนี้ก็จะเป็นคนดูแลเขาเองถึงแม้จะไม่ใช่พี่น้องท้องแม่เดียวกัน แต่พี่ต้าลู่ก็คือผู้ชายคนเดียวที่รักและปกป้องเขามาตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..
ส่วนพี่คนรองความรู้สึกห่างเหินที่มักจะแสดงออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆและ ยิ่งพี่สาวเขามีแฟนแล้ว ยิ่งไม่ค่อยจะสนใจใส่ใจชีวิตเขาซักเท่าไหร่ ก่อนที่จะถูกไล่ออกจากบ้าน
พี่สาวก็ดูมีที่ท่าว่าไม่ค่อยจะแยแส หรือสนใจกันมากขึ้นไปอีก คงเป็นเพราะเรื่องของแม่ในอดีตซินะพี่สาวรับในตัวของน้องชายคนนี้ไม่ได้
_______________________________________
ตอนหน้าน้องโจวก็จะเข้าไปอยู่บ้านเดียวกับจิ่งหยูแล้ว การพบกันครั้งแรกจะเป็นยังไง ติดตามได้ในตอนต่อไปนะคะ
หนึ่งคอมเม้น หนึ่งกำลังใจ
ขอบคุณสำหรับการติดตามและคอมเม้นท์นะค่ะ
...........