"My Heart ..Love You forever"
0
ตอน
820
เข้าชม
23
ถูกใจ
2
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง

My Heart ..Love You forever

 

‘ทิศา’นักศึกษาปีสี่คณะนิติศาสตร์ ต้องมาอยู่คอนโดฯห้องเดียวกับ’ฟ้าใส’นักศึกษาแพทย์ชั้นปีหนึ่ง

 

เพราะห้องข้างๆเป็นห้อง ของคุณชายพระจันทร์พักอยู่กับกวินที่เรียนคณะเดียวกัน ห้องถัดไปคือเจษฐ์กับทัดเทพ

 

สรุปได้ว่าทุกคนมาคุ้มครองพระจันทร์ที่ออกมาอยู่คอนโดฯใกล้มหาวิทยาลัยเป็นของตระกูลเกียรติรุ่งเรือง

 

สมาชิกที่อยู่คอนโดฯคือเหล่าบอดีการ์ดที่มาพักและเรียนตามคณะต่างๆนั่นเอง ยกเว้น’น่านฟ้า’ที่เป็นคนนอก

 

แต่คุณพระจันทร์กลับถูกชะตาและดึงมาเป็นเพื่อนสนิท

 

 

เย็นวันนั้นที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะในมหาวิทยาลัย ทิศาเดินตรงมาที่โต๊ะประจำของคุณพระจันทร์กับเพื่อนๆ

 

"คุณพระจันทร์วันนี้ไม่ออกไปไหนใช่ไหม?" ทุกสายตาหันมาดูเขา

 

"ไม่ล่ะ การบ้านเยอะมาก ต้องทำรายงานด้วย พี่มีนัดเหรอ?กลายเป็นพระจันทร์ที่ย้อนถาม

 

"พอดีวันนี้จะแวะไปหาระรินครับ เมื่อวานผิดนัดเขาคงงอน โทรไปก็ไม่ยอมรับสายเลย"

 

"งั้น รีบไปง้อเลยป่ะ เดี๋ยวจะหาว่าน้องเป็นตัวขัดขวางความสุข" พระจันทร์พูดยิ้มๆ มีคนเดียวที่กล้าต่อปากต่อคำ

 

นอกนั้นเงียบ กวินหันไปสบตาเจษฐ์ก่อนทำหน้าแปลกๆ ทัดเทพทำหน้าเฉยเสมองไปทางอื่น

 

ส่วนคนสุดท้ายฟ้าใสก็ยิ้มฝืดๆให้เมื่อเขาหันมามอง

 

"พี่ไปก่อนนะ" ขยับกายออกเดินก่อนจะหันกลับมาเมื่อพระจันทร์ถามขึ้น

 

"แล้วรู้เหรอว่าระรินอยู่ไหน ถ้าโทรไปแล้วเค้าไม่รับโทรศัพท์น่ะ"

 

"ตอน นี้น่าจะเดินช้อปปิ้งอยู่ในห้างประจำ พี่จะลองไปหาดูก่อน ไปทุกที่ที่เคยไปเพราะไปถามเพื่อนของระรินแล้ว

 

ทุกคนก็ไม่รู้ว่าไปไหน เพื่อนบอกว่าไม่เห็นตั้งแต่กลางวันแล้ว"

 

" งั้นลองไปหาดู ถ้าไม่เห็นจริงๆ พี่ลองไปดูที่คอนโดของระรินนะ เผื่อเค้าจะรอพี่อยู่ที่นั่น"พระจันทร์แนะนำ

 

"จะดีเหรอที่เราไม่บอกพี่เขาตรงๆ" กวินหันไปถามเพื่อนกึ่งเจ้านาย

 

"แน่ใจนะ พระจันทร์ให้พี่หนึ่งไปเจอเอง" ฟ้าถามย้ำอีกคน

 

"ดีแล้วล่ะ ถ้าไม่เจอด้วยตัวเองคงจะไม่เชื่อ เพราะเราเคยเลียบๆเคียงๆบอก พี่เขายังหงุดหงิดใส่เราเลย

 

หาว่าเรายุให้เขาผิดกัน" พระจันทร์เบ้ปาก ถ้าหน้าตาไม่ดีคงน่าเกลียด แต่นี่กลับดูดีได้อีก

 

"ระรินนิสัยร้ายกาจ มาว่าเราลับหลังด้วย ฟ้าก็เคยถูกยายนี่วีนใส่ไม่ใช่เหรอ"

 

"..." ฟ้าใสทำหน้าเหรอหรา

 

"เรา เห็นตอนยายระริน มาด่านาย ยายบ้านั่นไม่รักพี่หนึ่งจริงแกล้งหลอกใช้ แถมยังไปควงไอ้ริตอีก

 

เราอยากให้พี่หนึ่งรู้และเห็นด้วยตัวเองดีกว่า"

 

"เออ ..ทัดเทพตามไปดูพี่หนึ่งด้วย ถ้าเห็นเตลิดดึงกลับมาหอทีนะ เรายังไม่อยากเห็นพี่เขาเสียใจเพราะคนไม่ดี"

 

ถึงปากจะร้ายแต่พระจันทร์ก็อดเป็นห่วงคนที่เปรียบเสมือนพี่ชายไม่ได้

 

.................

ทิศาตามหาคนรักทุกที่ที่คิดว่าระรินจะไป แต่ไม่พบ จนสี่ทุ่ม จึงตัดสินใจไปคอนโดฯส่วนตัวของระริน

 

ที่ล้อบบี้ พบคนใส่ชุดดำมองผาดๆ เป็นคนของฤทธิ์ธา ด้วยความที่ไม่อยากมีเรื่องจึงเดินหลบเลี่ยง

 

จนในที่สุดถึงชั้นที่เป็นที่พักของคนรัก เข้าห้องโดยคีย์การ์ดที่ระรินให้ไว้ ไฟในห้องเป็นไฟหรี่ ทำให้ห้องไม่มืด

 

เขาชะงักเมื่อเดินเหยียบรองเท้าก้มดูเป็นรองเท้าผู้ชาย เมื่อเดินไปใกล้ห้องนอน เสียงที่ดังมาจากห้อง

 

เพราะประตูเปิดแง้มไว้ ทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบ เสียงร่วมรักของผู้ชายกับเสียงที่จำได้ขึ้นใจเสียงระริน

 

"ระรินเบื่อที่จะเอาใจไอ้หนึ่งแล้วนะที่รัก เมื่อไรคุณจะให้เลิกกับมันเสียที"

 

"จนกว่าฉันจะได้ตัวพระจันทร์ มาเป็นเมียฉัน"

 

"แล้วจะเอาระรินไปไว้ที่ไหนคะ ระรินรักคุณนะคะ ที่ยอมนอนกับไอ้โง่นั่นเพราะคุณนะคะ"

 

เสียงกรีดร้องร้องฟูมฟายนั่นคงไม่ทำให้ไอ้โหดใจอ่อนเพราะมันตะคอกกลับมา

 

"อย่างเธอได้เป็นเป็นนางบำเรอฉัน ก็บุญแล้ว จะมาเรียกร้องอะไรอีก หว่านเสน่ห์ใส่ไอ้โง่นั่นสิ

 

เผื่อมันหลงสิจะได้เป็นเมียแต่งมัน"

 

ทิศาค่อยๆออกจากห้องนอน ห่างไปจากเสียงบทเพลงกามาที่ชายหญิงคู่นั้นกำลังบรรเลงกันอยู่

 

.....

 

เหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าถูกสาดเข้าคอ ก่อนที่ชายหนุ่มจะฟุบลงไป

 

ทัดเทพพยักหน้าให้เพื่อนอีกสองคนพยุงร่างที่เมาหลับไปขึ้นรถ กลับคอนโดฯ

 

"ครับ คุณพระจันทร์เมามากหลับไปแล้ว ...ครับไปส่งที่คอนโดฯได้ครับ"

 

"เมา มากขนาดนี้เลยเหรอ" พระจันทร์มองดูร่างไร้สติของชายหนุ่ม ก่อนพยักหน้าให้ทุกคนออกไป

 

เมื่อจัดการเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ร่างหนาเรียบร้อยแล้ว

 

"ฝากด้วยนะฟ้า" หันไปขอร้องเพื่อน

 

"คืนนี้เราจะคอยดูแล คิดว่าตื่นมาคงแฮ้งค์ พรุ่งนี้เรามีเรียนบ่ายพอดี"เสียงนุ่มตอบ

 

สายตามองร่างที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความรักที่ปิดไม่มิด

 

 

รุ่ง สาง.. .ร่างหนา ยกมือขึ้นกุมศีรษะ ค่อยๆทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

 

เมื่อคืนหลังจากที่ออกจากคอนโดของระริน เขาแวะไปกินเหล้า แต่ทำไมถึงกลับมานอนที่หอพักได้นี่สิ

 

โอย ..ปวดหัวชะมัด กินเหล้ามันไม่ทำให้ลืม แต่มันก็ทำให้หายเจ็บใจไปได้บ้าง

 

มิน่า พระจันทร์กับพวกนั้นถึงได้มีท่าทางแปลกๆ เมื่อเขาไปกับคู่รัก ตอนนี้คงเป็นอดีตคู่รักไปเรียบร้อยแล้ว

 

พวกนั้นคงรู้เรื่องนี้มานาน จริงๆแล้วฟ้าใส เคยบอกเขาเป็นนัยๆ แต่เขากลับเป็นคนที่พูดจาทำร้ายเจ้าตัว

 

จนทำให้เจ้าตัวถึงกับขอย้ายห้องพักเลยทีเดียวแต่พระจันทร์เป็นคนขอร้องเพื่อนไว้ หลังจากเหตุการณ์นั้น

 

ก็ทำให้เขาสองคนเข้าหน้ากันไม่ติด หนึ่งมองไปยังเตียงข้างๆ ฟ้านอนหันหน้ามาทางเขางัวเงีย

 

เหมือนกำลังจะตื่นนอน เขารีบหลับตาลง

 

แม้ว่าฟ้าจะพยายามทำเสียงให้เบาแต่สำหรับคนเมาค้างอย่างเขามันดังมาก

 

เหงื่อที่เริ่มซึมออกมามาก ทำให้ฟ้าลุกไปหากะละมังใบเล็กและผ้าขนหนูเนื้อนุ่มมาเช็ดหน้าให้พี่หนึ่ง

 

ซึ่งอีกฝ่ายเบือนหน้าหนี พร้อมครางฮื้อฮ้าอย่างไม่พอใจ

 

“พี่หนึ่งฮะ “เรียกเบาๆ เมื่อเห็นชายหนุ่มไม่ลืมตา ก็เข้าใจว่าเขาคงละเมอไป จึงเช็ดลงมาตามหน้าอกที่เปียกไปด้วยเหงื่อ ก้มหน้าก้มตาเช็ดโดยไม่รู้ว่า คนตัวสูงแอบมองหน้าแดงๆนั้น

 

ทิศาอมยิ้ม  ความรู้สึกแปลกๆเกิดในหัวใจ เขารีบหลับตาเมื่อตากลมโตของอีกคนเหลือบมองขึ้นมาอย่างระแวง

 

กลัวเขาจะตื่นเมื่อเสร็จแล้วค่อยเลื่อนผ้าห่มขึ้นมาคลุมอกให้อย่างเบามือ ก่อนที่จะลุกไปอาบน้ำ

 

 

 

 

ประตูห้องน้ำเปิด คนบนเตียงแกล้งพลิกตัวลงไปจนเกือบจะตกเตียง ทำให้อีกคนรีบผวามาประคอง

 

โดยลืมไปว่าตัวเองอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำที่ล่อแหลม

 

“พี่หนึ่ง ..พี่หนึ่งฮะ” เพราะความที่เอาร่างตัวเองรองรับ โดยไม่ดูว่าตัวเล็กกว่ากันมาก ร่างใหญ่พลิกคว่ำลง

 

แต่ก็ไม่อันตรายเท่าปลายจมูกโด่งที่กดลงมาตรงซอกคอขาวๆ ทั้งตัวที่คล่อมอยู่ ทำเอาฟ้าขยับตัวไม่ได้

 

จะเรียกให้ใครมาช่วยดึงพี่ยักษ์ให้ลุกขึ้น ห้องก็ยังล็อคอยู่ แล้วถ้าใครมาเห็นคงไม่คิดเป็นอื่นแน่เลย

 

ได้แต่ดิ้นและผลักให้ร่างหนาหลุดจากตัวเอง

 

 

หนึ่งกดจมูกลงบนซอกคอที่กรุ่นไปด้วยกลิ่นสบู่หอม กลิ่นกายของคนที่อาบน้ำมาใหม่ๆทำเอาหัวใจแกว่ง

 

ยิ่งร่างนั้นยุกยิกอยู่ใต้ตัวเขา อะไรที่หลับอยู่ทำท่าจะตื่นขึ้นมา จนต้องตัดใจเลิกแกล้งด้วยการพลิกกายลงไปนอน

 

ข้างๆแทน

 

 

ฟ้ารีบขยับจัดเสื้อคลุมอาบน้ำให้มิดชิด หน้าขึ้นสีแดงเรื่อลามไปถึงอก ก่อนลุกออกไปนอกห้องพัก

 

หนึ่งหรี่ตามองตามร่างที่ลุกขึ้นออกไปนอกห้องนอน สักพักทัดเทพก็ก้าวเข้ามา ยืนค้ำเอวดูเขา

 

ดีที่มันยืนหันหลังให้คนที่ออกไปตาม ทิศามองสบตาไอ้หน้าหล่อที่ยืนทำหน้ายู่ เป็นทำนองว่า

 

‘ลำบากกูอีกแล้ว’

 

“พอดีพี่หนึ่งตกเตียงครับ ฟ้ายกพี่เขาขึ้นเตียงไม่ไหว” น่านฟ้าที่ยังไม่เห็นว่าเขาตื่นเต็มตาแล้ว

 

บอกเพื่อนพี่หน้ายังแดงอยู่ แถมรอยแดงที่คอที่ถูกกดยังเป็นรอยจางๆ ทัดเทพมองแล้วอมยิ้ม

 

“เดี๋ยว พี่ช่วยเก็บมันขึ้นบนเตียง เราไปแต่งตัวเถอะ” หันไปบอกฟ้า รอจนเจ้าตัวหอบเสื้อผ้าเข้าไปแต่งตัว

 

ในห้องน้ำ จึงหันมาใช้เท้าสะกิดคุณเพื่อนที่ทำเป็นหลับตาอยู่

 

“ไอ้เวร ขึ้นไปนอนบนเตียงเลยมึง”

 

“ห่าอย่าใช้เท้าดิ มันไม่สุภาพนะโว้ย” หนึ่งบ่นเสียงเบา กลัวคนในห้องน้ำได้ยิน

 

“กินสลึง เสือกเมาบาท..เมื่อคืนก็ให้กูหิ้วกลับคอนโดฯ ไปเจออะไรล่ะ ถึงได้คว่ำไม่เป็นท่าขนาดนั้น”

 

“เจอไอ้ริตกำลังเล่นจ้ำจี้กับระริน ..ห่า  หลอกกูได้เป็นปี เจ็บใจที่ถูกหลอกมากกว่าว่ะ”

 

“อือ นึกว่าเจ็บใจที่อกหัก”

 

“ไม่เท่าไหร่  ดันหลอกใช้กูได้ คอยดูกูจะย้อนรอยมันมั่ง หึ หึ” ตาคมดุวาบขึ้น ทำเอาทัดเทพกลัวใจเหมือนกัน

 

เวลามันเอาจริงน่ากลัวโคตรๆ เสียงประตูห้องน้ำปิดออกมา ทั้งคู่แกล้งทำเหมือนไม่มีอะไร

 

“ไอ้หนึ่งมันยังไม่ตื่น เช้านี้ พวกเรามีเรียน ฝากด้วยนะ ประมาณโมงกว่าๆ ทางบ้านไอ้หนึ่งมันจะมาส่งอาหารเช้า

 

ยังไงพี่ฝากฟ้า ปลุกมันขึ้นมากินด้วยล่ะ"”

 

“ได้ฮะ ผมมีเรียนบ่ายคงอยู่ดูแลพี่หนึ่งได้ถึงเที่ยง” คนตาหวานรับคำเสียงเบา

 

“หอมจังเราใช้แชมพูกับแป้งกลิ่นอะไร ??” ทัดเทพแกล้งเดินไปใกล้ฟ้าแล้วสูดจมูก ใกล้ๆแก้มนวล

 

ทำเอาฟ้าซึ่งมัวตกใจแล้วถอยหลังออกไปก้าวหนึ่งจึงไม่เห็นว่าคนบนเตียงไหวตัวขึ้นมา

 

เพราะยืนอยู่ข้างประตูห้องและหันหลังให้เตียง

 

“เอ่อออ..กลิ่นพีชฮะ” ยังอุตส่าห์ตอบ

 

ทัดเทพหัวเราะนิดๆชำเลืองมองคนที่อยู่บนเตียง ก่อนออกจากห้องไป

 

‘ไอ้เวรทัด’ คนบนเตียงได้แต่ฮึ่มฮั่มในคอ ก่อนหลับตาลงจริงๆ

 

“พี่หนึ่งครับ” มือบางเขย่าแขนคนที่หลับสนิทอยู่บนเตียงเพราะสายแล้ว

 

“ปวด หัวจัง”มือกุมศีรษะไว้ อาการแฮ้งค์ไม่มากแต่ก็แสดงว่าปวดมาก ทุกทีเคยเมามากกว่านี้ด้วยซ้ำ

 

แต่เพราะอยากดูปฏิกิริยาของฟ้าต่างหาก

 

“กินข้าวก่อนค่อยกินยาแก้ปวดนะฮะ” ฟ้าช่วยพยุงให้พี่หนึ่งลุกขึ้นนั่ง

 

“พี่ กลับมาได้ยังไง” หนึ่งมองเสี้ยวหน้าหวานที่เลื่อนโต๊ะมาใกล้เพื่อวางถาดอาหารและน้ำดื่ม

 

มีถ้วยยาใส่ยาแก้ปวดมาให้พร้อม ก่อนเจ้าตัวจะถอยออกนั่งหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์

 

“พี่ทัดเทพพามาฮะ ประมาณหกทุ่มกว่าๆ” แล้วต่างคนก็ต่างเงียบ

 

หนึ่งแอบมองหน้าหวานที่ก้มลงทำงานหน้าคอมฯโดยไม่หันมาสนใจเขาอีก ปล่อยให้นั่งกินอยู่คนเดียว

 

“ฟ้ากินอาหารเช้ารึยัง?” พยายามเรียกร้องความสนใจ เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมาสบตาก่อนเสหลบตาไปทางอื่น

 

“ผม ดื่มนมแล้วฮะ” ใจเต้นตึกๆ นานเท่าไรแล้วที่พี่หนึ่งไม่เคยพูดดีด้วย คงตั้งแต่ปีก่อนล่ะมั้ง

 

ที่เขาเคยบอกว่าพี่ระรินขึ้นรถไปกับพี่ฤทธิ์ธา แล้วมาด่าว่าเพราะเขาแอบรักพี่

 

ถึงได้พยายามทำลายความรักของพวกเขา

 

“มากินด้วยกัน”เสียงชวนกึ่งบังคับ

 

“ขอบคุณฮะ ผมไม่กินข้าวเช้า” ก่อนหันกลับไปทำงานต่อ

 

“ถ้าไม่เต็มใจ ไม่พอใจ ก็ไม่ต้องมานั่งเฝ้าพี่หรอกนะ” น้ำเสียงคนตัวใหญ่ สะบัดใส่

 

ฟ้าเงยหน้า มองไปที่หน้าคนทำเสียงแปลกๆ

 

พี่หนึ่งต้องดีใจสิที่เขาไม่พยายามเข้าใกล้ ไม่ใช่ทำหน้าเหมือนอารมณ์เสียแบบนี้

 

แต่เขาก็ให้อภัย ‘พี่หนึ่งคงหงุดหงิดที่ไปเจอภาพบาดตา เดี๋ยวพี่ระรินมาง้อก็คงอารมณ์ดีเหมือนเดิม’

 

คิดถึงตรงนี้ เจ้าตัวเลยแอบชำเลืองค้อน ซึ่งคนที่จ้องอยู่แล้วก็ไม่พลาดที่จะเห็นอาการนี้

 

“ไม่ได้หรอกฮะ พระจันทร์ฝากให้ผมดูแลพี่ เดี๋ยวถ้ารู้ว่าผมไม่ทำตามคำขอร้อง จะมาพาลโกรธผม”

 

นั่งฟังคนตัวบางพูด มองไปกินข้าวไปจนหมดสำรับ จึงขยับตัวลุกขึ้นเก็บถาด

 

“พี่ นอนพักเถอะฮะ เดี๋ยวผมเก็บเอง”ถึงปากจะแข็งแต่การแสดงออกตรงกันข้าม อาการห่วงใยที่ปิดไม่มิด

 

ทำให้ชายหนุ่มแอบยิ้มกับหมอน เมื่อคนหน้าหวานมาประคองให้เขานอนลง หลังจากยื่นยาแก้ปวดให้

 

พร้อมน้ำดื่ม แถมยังคลี่ผ้าห่มให้จนถึงอก ปรับแอร์ให้เย็นขึ้นอีกหน่อยหนึ่ง ก่อนทีจะเดินกลับไปทำงานต่อ

 

 

ทิศานอนมองคนที่ดูจะเพลินกับงานตรงหน้าเพราะเห็นก้มหน้าก้มตาคีย์ข้อมูล

 

สลับกับการพลิกหน้ากระดาษหนังสือที่วางไว้ข้างๆกัน บางครั้งก็เผลอทำหน้านิ่วคล้ายไม่พอใจ

 

ก่อนจะคลายยิ้มหวานเมื่อพบคำตอบที่ต้องการ จนลืมไปว่ายังมีเขาอยู่อีกคน

 

จน เวลาเกือบห้าโมงเช้า เสียงโทรศัพท์เคลื่อนที่ของคนตัวใหญ่ ดังขึ้นทำลายความเงียบ

 

ร่างบางชำเลืองเมื่อเห็นชายหนุ่มผลุดลุกขึ้น แล้วเดินออกไปที่ระเบียงหลัง

 

“ครับผม..ระรินอยู่ที่ไหน เมื่อวานผมตามหาทุกที่ก็ไม่พบ โทรไปก็ไม่ติด ผมเป็นห่วงมากนะครับที่รัก”

 

เสียงแว่วที่ดังเข้ามาเนื่องจากประตูที่ปิดไม่สนิท ก็ทำให้ฟ้าน้ำตาซึม

 

ก่อนเก็บรวบรวมงานทั้งหมดเข้ากระเป๋าและเดินออกจากห้องนอนออกไปห้องนั่งเล่นข้างนอก

 

เมื่อชายหนุ่มกดปิดโทรศัพท์อีกครั้ง จึงไม่เห็นฟ้าอยู่ในห้อง ไม่คิดอะไรมาก

 

รีบเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่งตัว ออกไปรับคนที่โทรมาบอกว่าเมื่อวานไม่สบาย

 

จนต้องนอนโรงพยาบาลและวันนี้หมอให้ ออกจากโรงพยาบาลได้

 

 

 

หนึ่งเดือนต่อมา

 

“วันนี้ พี่ไม่ว่างนะคุณพระจันทร์ ถ้าจะออกไปไหนเรียก อันวากับกับชัยชาญมาช่วยนะ”

 

แล้วร่างสูงก็เดินรีบๆออกไป ทิ้งให้ทุกคนมองหน้าฟ้า ซึ่งเจ้าตัวก็วางหน้านิ่ง

 

มือค่อยๆรวบรวมกองหนังสือเรียงกันไว้เป็นตั้ง

 

“พี่หนึ่งเป็นบ้าอะไร” กลายเป็นพระจันทร์ที่เป็นคนทนไม่ได้ซะเอง ถามขึ้นมากลางวง

 

“เมื่อ เช้าบอกว่า จะพาคุณระรินไปเลือกแหวน” คนหน้าหวานตอบเสียงเบา แต่ก็ได้ยินกันชัดทุกคน

 

ทัดเทพที่ยืนอยู่ด้านข้างถึงกับสำลักน้ำดื่ม จนเจษฐ์ต้องลุกขึ้นไปตบหลังดังป้าบ

 

“ไอ้บ้าตบมาได้ เจ็บนะโว้ย” ทัดเทพคลำไหล่ที่เพื่อนฟาดมาเต็มแรง

 

“ไหนแกว่า...”เจษฐ์พูดแต่ยังไม่จบก็เงียบเสียง เพราะถูกคนรักขึงตาใส่ ก่อนกวินจะปรายตาไปที่น่านฟ้า

 

“หลัง จากคืนนั้น นี่ก็เป็นเดือนแล้วนะที่ พี่หนึ่งไม่ว่างสักวัน ทุกวันต้องออกไปหาแฟน ไม่ไปกินข้าว

 

ก็พาไปดูหนัง ไปช้อปปิ้ง ไปเที่ยวผับ กลับดึกทุกคืน เราชักโมโหแล้วนะ ถ้าไอ้พี่หนึ่งเจ็บหนักอีกครั้ง

 

ฉันขอสั่งว่าทุกคนไม่ต้องไปดูมันเลย” เสียงพระจันทร์บ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวกำลังเหวี่ยงและวีนสุดขีด

 

“อาทิตย์หน้า ใครช่วยบอกคุณทิศาด้วยว่า สอบไฟนอลแล้ว หวังว่าคงจบในปีนี้นะ ไม่ใช่มัวแต่ไปป้อสาวฮึ”

 

ย้ำเสียงหนักก่อนจะลุกขึ้น และคว้าแขนเพื่อนหน้าสวยกลับขึ้นหอ ทิ้งให้เพื่อนๆต้องเก็บของและวิ่งตาม

 

 

คืนนั้น

 

หนึ่งเปิดประตูห้องพักเข้ามาเงียบๆ โดยไม่รู้ว่าคนที่ยังไม่หลับ รู้ถึงการกลับมาของเขา

 

เดินย่องไปที่เตียงของคนหน้าหวานร่วมห้อง เจ้าตัวนอนตะแคง ชายหนุ่มใช้นิ้วชี้ไล้เบาๆที่ซีกหน้าแอร่ม

 

ราวกับไม่อยากให้รู้สึกตัว ก่อนที่จะถอนหายใจแผ่วๆ อีกไม่กี่วันแผนการหักหน้าระรินก็จะสำเร็จ

 

เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะได้สารภาพความจริงทั้งหมดให้คนที่นอนบนเตียงรู้สักที ร่างบางผอมลงทุกวัน

 

ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคนตรงหน้ารู้สึกอย่างไร แต่เพื่อแผนการครั้งนี้ เขายอมอดทน ทนแม้จะถูกพระจันทร์ด่า

 

ต่อหน้าระริน งานครั้งนี้จะไม่ให้พลาด เพื่ออนาคตความรักของเขาเอง

 

 

หลังจากที่พี่หนึ่งเข้าห้องน้ำ น้ำตาที่กลั้นไว้ค่อยรินไหล

 

‘ถ้า พี่ไม่รัก ก็อย่ามาทำอย่างนี้เลย รู้ไหมว่ามันเจ็บเกินทนแล้วนะอีกไม่ถึงอาทิตย์ ผมก็จะไม่เจ็บอีกแล้ว

 

ไม่ต้องเห็นหน้ากันอีกต่อไป’ ปลอบใจตัวเองก่อนจะเช็ดน้ำตา และทำเป็นนอนหลับ เมื่อพี่หนึ่งออกจากห้องน้ำ

 

กลิ่นสบู่หอมที่อวลมาใกล้ๆ ก่อนห่างออกไป ทำให้ต้องถอนสะอื้นอีกครั้ง

.....

ข่าว ใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งวันนี้คงจะไม่พ้นข่าวลูกสาวอธิบดีกระทรวงวัฒนธรรมมีคลิปลับกับลูกชายคนโตของ

 

นายกรัฐมนตรี ภาพออกมาชัดเจน จนงานหมั้นที่จะจัดขึ้นระหว่างผู้หญิงคนนั้นกับลูกชายนักธุรกิจเจ้าของ

 

โรงพยาบาล ที่มีสาขาทั่วประเทศต้องยกเลิก

 

 

เมื่อทิศากลับมาที่คอนโดฯ ก็พบเพียงความว่างเปล่า ในส่วนของเพื่อนร่วมห้องถูกเก็บจนเกลี้ยง

 

เขาวิ่งออกมาที่หน้าห้องไปเคาะประตูห้องพระจันทร์ ก็ไม่มีเสียงตอบรับ เมื่อมองดูรอบบริเวณนั้นก็เงียบ

 

ทั้งที่เพิ่งจะเป็นวันแรกของการปิดเทอม ไม่น่าที่คุณชายพระจันทร์จะรีบกลับบ้านตระกูลเกียรติเกรียงไกร

 

จึงกดโทรศัพท์หาคุณพระจันทร์ทันที

 

“พระจันทร์อยู่ไหน?” รับถามเมื่อได้ยินอีกฝ่ายรับสาย

 

(อยู่บ้าน ปิดเทอมแล้วก็ต้องกลับบ้านสิพี่หนึ่ง) น้ำเสียงมีแววสะใจนิดหน่อย

 

“อย่ามากวน ฟ้าใสอยู่ไหน?”

 

(ไม่อยู่แล้ว..)

 

ร่างสูงทรุดเข่าอ่อนจนต้องทรุดลงนั่งที่หน้าห้องพัก

 

“ฟ้าไปไหน?”

 

(.............)

 

อีกฝ่ายเงียบจนเขาต้องพูดซ้ำ“ขอร้องล่ะพระจันทร์ บอกมาเถอะ ฟ้าไปไหน?”

 

(พี่รู้สึกอย่างไรกับเพื่อนผม) อีกฝ่ายกับย้อนถามเสียงเรียบ

 

“พี่รักฟ้า”

 

(แล้ว คนรักกันเค้าทำกันอย่างนี้เหรอ? นานนับเดือนแล้วที่ผมต้องเห็นเพื่อนกินข้าวเคล้าน้ำตา

 

คอยมองหาเวลาไม่เห็นพี่ จนในที่สุดเขาต้องตัดใจไปเอง)

 

“ไม่ นะพีทำทั้งหมดเพราะจะแก้แค้นไอ้ฤทธิ์ธากับระริน ที่สำคัญเมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้

 

มันจะได้ไม่วกกลับมาหาพระจันทร์ได้อีก อย่างน้อยสังคมก็บีบให้มันต้องรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้น”

 

(พี่กับระรินร่วมมือกันด้วยใช่ไหม?)

 

“นายก็รู้เรื่องดีนี่นา ทำไมถึงไม่อธิบายให้ฟ้าฟังแทนพี่”

 

(พี่..ฟังผมนะ    ต่อ ให้ใครพูดหรืออธิบาย ฟ้าคงไม่เชื่อ ถ้าพี่บอกหรือเล่าให้ฟังจากปากพี่เอง

 

ฟ้าถึงจะฟัง คนรักกันมีอะไรต้องพูดกันให้เข้าใจ พี่เล่นทำแบบนี้ แล้วตัวพี่ไม่เคยบอกว่าชอบด้วยซ้ำ

 

ถ้าบอกว่ารักมันยิ่งเหมือนเรื่องโกหกไปกันใหญ่)

 

“ฟ้าไปไหน?” คำถามซ้ำๆทำให้คนปลายสายถอนหายใจดังเฮือก

 

(ฟ้าทำเรื่องขอสอบก่อน และโอนหน่วยกิตไปเรียนที่เมืองนอกแล้ว)

 

“ฟ้าไปไหน?” ตะคอกถาม

 

(ไม่รู้ ฟ้าไม่ได้บอก ไม่ยอมให้ใครไปส่งด้วยซ้ำ แต่ผมแอบไปสืบแล้วนะ)

 

“ฟ้าไปไหน?” คำถามที่เป็นเหมือนแผ่นเสียงตกร่องดังขึ้นอีก

 

(เยอรมัน)

 

“พี่จะไปเยอรมัน” ร่างสูงลุกพรวดขึ้น

 

(ใจเย็นๆพี่หนึ่ง  ฟ้าเคยพูดไว้ว่า เนื้อคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกัน ผมว่าพี่ ทำเรื่องไปต่อเนฯที่เยอรมันก่อนดีกว่า

 

เกียรตินิยมอันดับหนึ่งอย่างพี่หนึ่ง ทางโน้นคงไม่ปฏิเสธหรอก ถ้าเขาไม่รับเดี๋ยวให้คุณปู่ช่วยพูดให้)

 

คำพูดของคนเป็นกึ่งเจ้านายกึ่งรุ่นน้องทำให้ร่างสูงคิดได้

 

“พี่จะพยายามเอง คงไม่รบกวนท่านสิริยกร  ขอบใจนะพระจันทร์”

 

(พี่หนึ่งคนเดิมกลับมาแล้ว ยังไงพี่ก็เป็นคนเจ้าแผนการเหมือนเดิม ที่ผมไปสืบเรื่องฟ้าให้

 

เพราะตอบแทนที่พี่ทำเรื่องไอ้ริตให้หรอกนะ ที่สำคัญผมอยากได้เพื่อนเป็นพี่สะใภ้ด้วยล่ะ)

 

แล้วก็หัวเราะสะใจก่อนตัดสายไป

 

..............

 

ที่เยอรมัน

 

‘ไม่จริง..ใช่ไหม คนที่จะตอบคำถามเขาได้ มีแค่คนเดียว ไอ้ตัวแสบพระจันทร์ ‘

 

เมื่อ หนึ่งรู้ว่าถูกพระจันทร์หลอก เขาอยากตายนานเป็นเดือนที่ไม่เจอหน้าคนที่รัก

 

เพราะเร่งทำเรื่องมาเรียนต่อแต่พอมาถึงพร้อมกับรู้ความจริงว่าฟ้าไม่ได้มาเยอรมัน

 

ทำเอาเขาอยากแปลงร่างเป็นหมาบ้าไปเลยทีเดียว

 

หนึ่งกดโทรศัพท์ทางไกลข้ามทวีปกลับมาหาพระจันทร์ที่เขาอยากเปลี่ยนให้เป็นกามเทพตัวร้าย

 

เมื่อเปิดห้องพักออกมาเจอกับทัดเทพที่ยืนเท่ห์ พร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าใบโต

 

ก่อนเดินเบียดไหล่เข้าไปในห้อง ทิ้งให้เขายืนเอ๋ออยู่ตรงนั้น

 

“พระจันทร์ ..”ทางโน้นกดรับสายเขา ยังไม่ทันได้พูดต่อ ต้องเรียกว่าพูดไม่ทันอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

 

(พี่หนึ่ง ผมลืมบอกไปว่า ฟ้าเปลี่ยนใจไม่ไปเรียนที่เยอรมันแล้ว เพราะถ้าฟ้าไปเยอรมัน

 

ผมต้องไปด้วยใช่ไหมล่ะเพราะเราติดเพื่อนมาก”) .. เจ้าตัวดีลากเสียงยาว อย่างกวนโมโห

 

“พระจันทร์.” หาเสียงตัวเองแทบไม่เจอ..แต่พูดไม่ทันอีกแล้ว

 

(ฟ้าฝากบอกว่า ถ้าสอบโทเฟลผ่าน ภายในปีนี้จะบินไปให้หอมแก้ม..อย่าแย่งโทรศัพท์ซีฟ้า..)

 

เสียงทางปลายสายเปลี่ยนเป็นเสียงของคนที่รักมากที่สุด ทำให้คนตัวสูงยิ้มออกมาได้

 

(พี่หนึ่งพี่ยังไม่เคยมีเบอร์ผม ถ้ามีก็โทรมาคุยกันได้นะ แล้วอย่างที่พระจันทร์บอกนะครับ

 

ถ้าปีนี้พี่ได้เข้าเรียนเนฯ ผมจะไปซัมเมอร์ที่เยอรมัน...)

 

ก่อนจะถูกเพื่อนแย่งโทรศัพท์กลับ

 

(..ผมก็จะไปซัมเมอร์ที่เยอรมันด้วย แค่นี้นะ เรื่องเบอร์มือถือ ทวิตเตอร์ เมล์ ของฟ้าถามได้ที่พี่ทัด คิ คิ)

 

พระจันทร์วางระเบิดไว้ก่อนจะกดตัดสาย

 

เมื่อเขากลับเข้าไปในห้อง เห็นเพื่อนนั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟาแล้ว จึงเดินไปนั่งอีกตัวที่ตั้งเยื้องๆกัน

 

“นายมีอะไรจะบอกฉันอีกไหม?” ทั้งแววตาและน้ำเสียงเริ่มกดดันทัดเทพ

 

“คุณพระจันทร์เป็นคนจัดการเรื่องนี้ทั้งหมด เพราะโมโหนายที่ทำให้ฟ้าร้องไห้

 

เอ่อ..ฉันไม่เกี่ยวนะ ฉันได้ทุน ให้มาเรียนต่อเนฯที่นี่ “

 

เนื่องจากหลังจากเรียนจบทัดเทพก็เข้าทำงานที่สำนักงานทนายความประจำตระกูลเกียรติรุ่งเรืองทันที

 

ตามรอยเท้าผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นหัวหน้าทนายความประจำตระกูลเกียรติรุ่งเรือง

 

ต่างกับเขาที่ขอมาเรียนต่อด้วยทุนตนเอง

 

“อ้อ ฉันมีเรื่องจะบอกนาย ฟ้าเป็นน้องแท้ๆของคุณพยาบาลนทีกานต์แกอย่าทำเป็นเล่น

 

อีกเรื่องฟ้าเป็นญาติผู้น้องของฉันด้วย ชัดเจนไหม คุณชาย ถ้าแกทำน้องฉันร้องไห้อีกรอบ

 

คราวนี้ฉันซัดแกคว่ำแน่” ทัดเทพมองดูหน้าหล่อๆของเพื่อนที่ออกอาการ เอ๋อ ก่อนอึ้งอีกรอบ

 

เมื่อมันพูดด้วยเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย

 

“ขอเบอร์น้องฟ้าด้วย “

 

“หูยย.. น้องฟ้า คลื่นไส้ว่ะ.. อ้ะเอาไป” ยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อน

 

“ขอบ ใจว่ะ ห้องแกทางซ้ายนะ ทุกอย่างแชร์กัน ถ้ามีปัญหาอะไร ตอนหัวค่ำค่อยมาพูดกัน ตอนนี้ไม่ว่างโว้ย”

 

ก่อนโยนมือถือคืนให้เพื่อนหลังจากบันทึกเบอร์โทรคนน่ารักไว้แล้ว

 

xxx

 

“ฟ้าครับ เรารักกันมาแปดปีแล้วนะ ผ่านอุปสรรคและพิสูจน์ความรักที่พี่มีให้น้องฟ้าจนทุกคนรับรู้หมดแล้ว

 

แต่งงานกับพี่นะครับ” เสียงที่พูดดังพอสมควร ทำให้คนบริเวณนั้นหันมาให้ความสนใจ

 

ฟ้าใสมองคนตรงหน้าที่คุกเข่าลงพร้อมยื่นช่อดอกไม้และกล่องแหวนมาให้ ก่อนที่จะมองรอบๆ

 

พร้อมรอยยิ้มเจื่อนๆเมื่อมีคนมองมากขึ้น แม้จะหน้าแดงขึ้นแต่ก็อดยิ้มตอบให้คนตัวสูงไม่ได้

 

‘ไอ้พี่หนึ่งบ๊อง นี่มันหน้าห้องตรวจโรคที่มีคนมารอรับบริการเป็นร้อย ไม่อายบ้างหรือไงนะ?’

 

ทุกคนจะพร้อมใจกันเงียบและคอยลุ้นคำตอบ กลายเป็นความกดดันพุ่งตรงเข้าสู่คุณหมอหน้าหวาน

 

“ครับ”

 

คำตอบรับสั้นๆของเขา เรียกเสียงเฮดังลั่นตึกผู้ป่วยนอกเลยทีเดียว

 

นั่นจึงเป็นที่มาของงานวิวาห์ที่ดังไปทั้งพังงา ทนายความหนุ่มทายาทเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง

 

กับคุณหมออายุรแพทย์โรงพยาบาลประจำจังหวัดจัดงานแต่งงาน

 

หลังแต่งงานพี่หนึ่งขออนุญาตพี่นทีกานต์พาฟ้ากลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯและทำงานอยู่โรงพยาบาลเอกชน

 

ที่พ่อของหนึ่งเป็นเจ้าของกิจการ และอีกปีต่อมาครอบครัวเขาก็ได้ลูกชายที่หน้าเหมือนเขาจากการอุ้มบุญ

 

พวกเขายังวางแผนว่าอีกสองปีจะให้ลูกมีน้องที่น่ารักเหมือนฟ้าใสเพิ่มอีกคน

............

 

 

อวสาน

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว