ภาคปฐมบท
-สงครามหากมีคำนี้ถูกเอื้อนเอ่ยจากที่ใดแผ่นดินที่นั้นจะลุกเป็นไฟป่าไม้จะถูกย้อมไปด้วยเปลวเพลิงท้องฟ้าเต็มไปด้วยควันและสเก็ดต่างๆที่เกิดจากแรงปะทะของสงครามทว่าสงครามที่เอ่ยอยู่นี้เป็นสงครามของที่ๆอยู่แสนไกลที่ๆเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลกใหม่ สภาพภูมิประเทศที่แหกกฏฟิสิกส์ มีเกาะที่ลอยอยู่ตามท้องฟ้ามากมาย และ สิ่งที่เราเฝ้าฝันถึง เวทมนต์ ถ้าหากให้เอ่ยเป็นคำสั้นๆคำที่ใช้เรียกที่แห่งนี้ก็คือคำนั้นไงล่ะ "ดินแดนแฟนตาซี"
เอลควอเงยหน้ามองขึ้นไปยังท้องฟ้า พร้อมๆกับที่มีพายุหิมะไม่สิพายุขี้เถ้าเศษเสี้ยวของพลังงานที่เกิดจากการปะทะกันของสงครามเทพทั้ง14เผ่า
-ดวงอาทิตย์ ตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา สิ่งที่ลอยอยู่ท่ามกลางฟากฟ้าคอยย้อมทุกสรรพสิ่งให้กลายเป็นสีขาว -มันเคยถูกบอกมาอย่างนั้นหากพูดถึงตอนนี้ล่ะก็ไม่เห็นมันมา1000กว่าปีแล้วไม่รู้เเม้กระทั่งนั้นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงเรื่องเล่าที่ไว้กล่อมเด็กนอน
"เอลควอ!เดินต่อได้เเล้วอย่ามัวเหม่อสิ"เพื่อนของเขาตะโกนเรียกเพื่อเรียกสติเอลควอ
"ขอโทษทีเหม่อไปหน่อย"
"เจอแล้วอยู่ทางนี้"แอริตะโกนเรียกเอลควอกับซัลเนีย
เป้าหมายของพวกเขาคือการออกมาสำรวจซากเรือรบของเผ่า"คาซัด"(คนเเคระ)ที่ตกลงมาเมื่อ1อาทิตย์ก่อนเพื่อหาวัสดุหรืออุปกรณ์ต่างๆที่พอจะใช้งานได้
"ตรงนั้นซินะ"
ที่ด้านล่างของเนิน-หลุมที่ใหญ่ยักคล้ายมีอุกกาบาตพุ่งชนมีซากเรือรบของเผ่า"คาซัด"กลายเป็นซากจมอยู่กับพื้นดิน
เอลควอค่อยๆเเซกตัวเข้าไปจากรู้ของซากเรือรบที่น่าจะถูกยิงด้วยอะไรบางอย่างจนเกิดรูพอที่จะให้มนุษย์สามารถแซกตัวเข้าไปได้
"เครื่องตรวจจับพลังวิญญาณเป็นไงบ้าง"
"ไม่ไหว คลื่นรบกวนจากพายุขี้เถ้าเเรงเกินไป"
เครื่องตรวจจับพลังวิญญาณหนึ่งในอุปกรณ์ช่วยชีวิตเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้หากออกมาภายนอกโดยที่ไม่มีมันเพราะหากไร้เครื่องตรวจจับวิญญาณก็ไม่ต่างจากการเดินอยู่ในที่มืดโดยไม่มีแสงไฟ
ด้วยความสารถของมนุษย์ที่มีการตรวจจับเวทมนต์เป็นศูนย์มองไม่เห็นแม้กระทั่งมาน่าที่ลอยอยู่ในอากาศ
"ชิ-เอลควอสบถในใจว่า ไฟนำทางดับไปอีกดวงงั้นหรอ"ให้ตายซิ-ในสถานการณ์นี้เอลควอที่เป็นหัวหน้ากลุ่มแม้จะมีอายุไม่มากแต่เป็นผู้มีประสบการณ์สูงสุดเป็นคนสั่งการกลุ่ม
"แอริไปทางขวา ซัลเนียไปทางซ้ายส่วนชั้นจะเดินตรงไปด้านหน้าระหว่านั้นให้ใช้การดีดนิ้วเป็นสัญญาณบอก"
"ระยะทางล่ะ"ซัลเนียถามเพื่อความชัดเเละความปลอดภัยในการปฏิบัติการ
"เดินไปได้ไกลสุดเเค่100เมตรเราไม่รู้ระยะทางที่เเน่ชัดรวมถึงสิ่งมีชีวิตรอบ"
"รับทราบ"
ทั้งสามคนเคลื่อนที่อย่างระมัดระวังและส่งเสียงให้น้อยที่สุดโดยดีดนิ้วเป็นระยะ
"ว้าว!!ผลงานครั้งใหญ่เลย"แอริตะโกนขึ้นดวงตาเป็นประกายพร้อมกับหันมาทางเอลควอ
เอลควอเอามือกุมที่หน้าผากด้วยสีหน้าอาการเหนื่อยใจในการกระทำของแอริ
"อยากตายมากนักรึไง"เอลควอพูดออกมาเบาๆด้วยเสียงแหลมราวกับมีดแค่นั้นก็เพียงพอทำให้แอริที่อยู่ในท่าทีตื่นเต้นจนเกิดเหตุนั้นหยุดลงและตัวสั่นเบาๆ
"อะ-เอาน่ามาดูหน่อยเถอะนี่นะ"
เอลควอหันไปหาซัลเนียที่อยู่อีกฝั่งแล้วพยักหน้า
สิ่งที่แอริเจอนั้นเป็นชิ้นส่วนสองชิ้นเหมือนจิ๊กซอที่สามารถประกบกันได้แอริมองไปที่หน้าของทั้งสอง
"เอาล่ะนะ-"
"เดี๋ย-"เอลควอรีบพูดห้ามแอริที่กำลังจะต่อชิ้นส่วนนั้นเข้าด้วยกันแต่ไม่ทันแอริได้ทำการประกบชิ้นส่วนนั้นเข้าด้วยกัน
ชิ้นส่วนสองชิ้นนั้นประกอบกันได้อย่างลงตัวและเกิดเเสงสีฟ้ากระจายไปทั่วแล้วระเบิดออกเป็นคลื่นกระจายออกไปรอบๆเป็นวงกว้างเช่นเดียวกันที่ชิ้นส่วนนั้นก็มีสัญลักษณ์สีแดงขึ้นรอบๆคล้ายเรดาร์จุดสีแดงค่อยๆคลื่นที่เข้ามามาที่จุดตรงกลางอย่างรวดเร็วพวกเรารู้ตัวอย่างไม่ต้องสงสัยว่าสิ่งนี้คือเครื่องตรวจจับศัตรูบริเวณโดยรอบ-เเต่สำหรับเผ่าอื่นเเล้วการปล่อยคลื่นตรวจจับออกไปนั้นก็หมายถึงการแสดงตำแหน่งตัวเองให้รู้
"เวรเอ้ย-ทุกคนวิ่ง!!"เอลควอสบถออกมาพร้อมกับสั่งให้ทุกคนวิ่งหนีสุดชีวิตถึงแม้โอกาศในการรอดจะเป็น0.01แต่ไม่ว่ายังไงก็ห้ามยอมแพ้เด็ดขาดห้ามให้ถูกฆ่าห้ามให้ถูกพบ
-ตูม!!!มีบางอย่างตกลงมาตัดหน้าพวกเขาจนเกิดหลุมหนาดย่อมขึ้น
มีส่วนสูงกว่ามนุษย์3เท่าร่างกายใหญ่ยักษ์มีขนหนา-สิ่งมีชีวิตที่กำเนิดมาจากการแปรธาตุของเผ่า"พาเรล"(เผ่าพลังงาน) โทรล มีพลังมหาศาลแต่ไม่ค่อยฉลาดจะไม่ซุ่มโจมตีแต่จะพุ่งเข้าหาตรงๆด้วยความคิดที่ว่าตนเเข็งแกร่งที่สุด
ต่อหน้าสัตว์ประหลาดที่มีร่างกายใหญ่ยักษ์และพละกำลังมหาศาลพวกเขาทำได้เพียงยืนแน่นิ่งอยู่เฉยๆ
Introduction Part 1 End