สูบฉีด...รัก
4
ตอน
6.05K
เข้าชม
69
ถูกใจ
9
ความคิดเห็น
21
เพิ่มลงคลัง

 

 

บทนำ

 

 

ฝีเท้าหลายคู่เดินย่ำผ่านน้ำขังบนทางเท้าข้างถนนเส้นหลักเส้นหนึ่งในเมืองหลวงของประเทศไทย กรุงเทพมหานครฯ...เมืองที่วุ่นวายแต่กลับมีแรงดึงดูดให้คนต่างจังหวัดหลั่งไหลกันเข้ามาเสาะแสวงหาความฝันในอาชีพต่างๆ ไม่หยุดหย่อน เสียงแตรรถบีบลั่นให้รู้ถึงอารมณ์คนขับที่เร่งรีบในแต่ละวัน พ่อค้าแม่ค้าห่ามเร่ตามข้างทางที่ต้องค่อยหลบเทศกิจที่จะมาไล่ที่ทำกินอยู่เสมอ ทุกนาทีของที่นี่ล้วนต้องดิ้นรน แข่งขันกับคนและเวลาตั้งแต่ยามตื่นจนยามนอน...

 

เช้าวันนี้ก็เช่นกัน..ทันที่ทีฝนได้ซาลง 'เขมมิก' หญิงสาวร่างเพรียวจัดว่าหุ่นนางแบบ สวมชุดนักศึกษาพร้อมกับแต่งหน้าบางสมวัยออกจากหอพักมุ่งหน้าไปยังป้ายรถเมล์ที่ห่างออกไปเพียง 200 เมตร เป้าหมายของเธอคือห้างสรรพสินค้าในเครือ C-H Group ซึ่งเธอให้ความไว้วางใจในการฝึกงานเพื่อจบการศึกษาเป็นอย่างมาก เขมมิกเป็นเด็กต่างจังหวัดที่มีภาพฝันว่าอยากใช้ชีวิตในเมืองหลวง ในแง่คิดของเธอคือมันดูโก้ดี เวลานำเรื่องนี้ไปอวดบรรดาเพื่อนและญาติๆ ของเธอ แต่เอาเข้าจริงภาพฝันอันสดใสกลับพังครืดไม่เป็นท่า ก็เพราะชีวิตที่นี่มันช่างเร่งรีบไปซะทุกอย่าง จนเธอนับวันกลับบ้านที่ภูเก็ตทุกคืนวัน อีกตั้งสองเดือนกว่า..เธอถึงจะได้ไปซบอ้อมอกบุพการีที่แสนรักเธอดั่งไข่ในหิน ซึ่งกว่าจะปล่อยให้เธอออกมาเผชิญโลกกว้างแห่งนี้ได้ เล่นเอาเขมมิกแทบแย่.

 

รถเมล์คันแดง สายที่เธอนั่งประจำทุกวันถูกคนที่มารอท่าโบกให้จอดเทียบป้าย โชคดีที่ป้ายจุดนี้เป็นจุดแรกๆ ที่รถเมล์ผ่านจึงยังไม่มีคนหนาแน่นเท่าไหร่นัก เขมมิกจึงสามารถจับจองที่นั่ง VIP ชนิดหนึ่งคนติดหน้าต่างแบบลมโกร่งสุดๆ มาครอบครองชั่วคราวไว้ได้ ไม่รอช้า... เธอหยิบสมาร์ทโฟนและหูฟังคู่ใจมาเสียบแปะที่รูหูทั้งสองข้างทันที พร้อมกับหลับตาเพื่อหลับไหลฆ่าเวลารถติดอีกครั้ง

 

'ษาทธรี' ในชุดสูททางการนั่งหัวเสียภายในรถสปอร์ตไม่ต่ำกว่าสิบล้านบาท ภายใต้เท้าที่ห่อหุ้มด้วยรองเท้าหนังแบรน์เนมเหยียบคันเร่งและเบรกไปพร้อมๆ กัน  ทำให้ล้อฟรีจนเกิดควันและเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณสี่แยก เช้านี้นอกจากจะถูกปลุกด้วยเลขาฯ คนโปรดก็ไม่วายทำให้เขาหงุดหงิดได้ เมื่อเลขาอย่าง 'พราววาว' โทรมารายงานว่างานสื่อโฆษณาที่เป็นป้ายทั้งหมดที่ปล่อยออกไปติดภาษีทำให้ต้องเสียเงินให้กับสรรพากรอู้ฟู้ สำหรับเขาเงินจำนวนที่ต้องจ่ายไปใช่ว่าจะมากมายอะไร แต่เขาแค่ไม่พอใจที่แผนกงาน Advertising ปล่อยให้ Art ทำงานยังไงให้ป้ายติดภาษีทั้งหมดได้ ทั้งๆ ที่ป้ายโฆษณาพวกนี้มีวิธีปล่อยออกไปโดยไม่ติดภาษีและถูกกฏหมายได้แท้ๆ เขาจะเอาเรื่องไอคนที่ทำงานสะเพร่านี้ให้ได้เลยค่อยดู

 

รถเมล์ที่เขมมิกนั่งมาจอดเทียบข้างพร้อมกับรถของษาทธรี ต่างคนต่างตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองไม่สนใจรอบข้าง และทันทีที่ไฟเขียว รถสปอร์ตที่เบิร์นเครื่องรออยู่ก่อนแล้วออกสตาร์ทได้ทันที ส่วนรถเมล์ค่อยๆ ไหลไปตามซองทางและจอดรับคนขึ้นลงเรื่อยๆ

 

 

45 นาที ผ่านไป

 

หลังจากที่เขมมิกลงไปตอกบัตรเข้างานเธอมุ่งหน้าขึ้นลิฟท์ไปยังออฟฟิตชั้น 15 ทันที แต่ใครจะนึกว่าการเปิดประตูเข้าไปเพื่อทำงานด้วยความสดใสจะถูกกลืนหายไปด้วยความมืดของอารมณ์ที่ดุดันของษาทธรีในตอนนี้ เพราะเมื่อเขมมิกก้าวขาเข้ามาในโซนแผนก Advertising เธอต้องเจอเข้ากับกองงานป้ายโฆษณาแบบย่อส่วนที่ตัวเธอเองอุตส่าห์นั่งปั่นมันตลอดทั้งเดือนฟาดลงบนใบหน้าอย่างจัง กระดาษเหล่านั้นลอยปลิวลงพื้นอย่างช้าๆ พร้อมกับความชาบนใบหน้าของเขมมิก ทีมงานที่เธอทำงานด้วยต่างมองภาพที่เขมมิกโดนอย่างตะลึงงัน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่ายืนอ้าปากค้างมองเจ้าของบริษัททำโทษผู้ทำผิดพลาด

"นี่มันอะไรกันคะ?" เขมมิกทั้งงงทั้งตะลึงทั้งหน้าชาหลายๆ ความรู้สึกไปพร้อมกัน เธอมองผู้ชายตรงหน้าที่แต่งตัวดูดีแต่ทำตัวต่างจากชุดที่สวมใส่ราวฟ้ากับนรก เธอต้องการคำอธิบายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 30 วินาทีที่แล้ว เดี๋ยวนี้!!!

"เธอใช่ม่ะ!? เขมมิก" สายตาษาทธรีแข็งกร้าวมองเขมมิกอย่างพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะแสยะยิ้มเหยียด

"ค่ะ" เขมมิกขานรับเสียงแข็งด้วยความงง

"ดี ต่อจากนี้เธอไม่ใช่เด็กฝึกงานของที่นี้แล้ว ฉันจะส่งตัวเธอกลับมหาลัยตั้งแต่ตอนนี้!!"

"เดี๋ยวๆ เดี๋ยวค่ะ ฉันทำอะไรผิดมิทราบ" เขมมิกไม่วายมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าอย่างต้องการคำตอบ แต่เธอยังมองกวาดไปยังเพื่อนรุ่นพี่ในแผนกเดียวกันเผื่อมีใครสักคนใจดีอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้เธอกระจ่างมากกว่านี้

"ไม่น่าถาม เธอก็แหกตาดูผลงานตัวเองซะ"

"แล้ว? มันไม่สวยเหรอค่ะ" เธอพูดพรางก้มเก็บแผ่นงานตัวเองพร้อมกับดูมันอย่างชื่นชม

"หึ สวย. แต่มันติดภาษี มันก็ไม่คุ้มหรอกยัยโง่!! แล้วก็ไม่ต้องมาฝึกงานกับห้างฯ ของฉันแล้ว ฉันไล่ออก!!"

"ไม่ได้นะคะ อีกแค่สองเดือนกว่าเท่านั้น ถ้าเขมออกตอนนี้ กว่าจะทำเอกสารยื่นเรื่องเปลี่ยนที่ใหม่กับมหาลัยเวลาฝึกก็ไม่ครบกันพอดี แถมเขมก็จบไม่พร้อมเพื่อนด้วยนะคะ"

"เธอสร้างปัญหากับฉันก่อนนะ.. จะมาเรียกร้องอะไร" ษาทธรีนั่งยองๆ ข้างหญิงสาวที่ก้มเก็บกระดาษงานเมื่อครู่ก่อนจะยื่นมือหนาจับปลายคางเขมมิกอย่างถือวิสาสะ

"ฉันไม่ให้เธอจ่ายค่าเสียหายก็บุญเท่าไหร่แล้ว คนอย่างเธอ ทำงาน 10 ปี ก็คงใช้หนีฉันไม่หมด"

เขาเหยียดเธอด้วยรอยยิ้มร้าย มันทำให้เขมมิกรู้สึกหมั่นไส้อยากเข้าไปตะบันหน้าหล่อๆ ของเขาเสียจริง เพียงชั่วครู่ทั้งสองต่างมองหน้ากันและกันอย่างพิจารณา สายตาเขมมิกมองกวาดใบหน้าชายหนุ่มที่มีความหล่อเข้มสมชาย หัวคิ้วเข้มหนาที่ชนกันมันช่างทำให้เธออยากจับมันแยกออก ดวงตาเรียวคมอย่างกับหญิงสาวของเขามันช่างรับกับคิ้วด้านบนได้อย่างพอดิบพอดี สันจมูกที่โด่งย้อยลงมาเป็นหยดน้ำค้างสวยกลับทำให้ใบหน้าเขายิ่งโดดเด่น ไหนจะริมฝีปากที่บางเป็นกระจับนั้นมันช่างน่าสัมผัสเหลือทน เมื่อเธอมองสำรวจจนทั่วดวงหน้ากลับไปสบตากับชายหนุ่มจนตัวสะดุ้งโหยง ก็เพราะสายตาของเขานั้นได้มองสำรวจบนใบหน้าของเธอไม่ต่างกัน

เขมมิกกระแฮ่มแก้เก้อก่อนจะลุกยืนพรางหันรีหันขว้างเพราะสายตาเยิ้มเมื่อครู่มันช่างมีอิทธิพลกับเธอเหลือเกิน สายตาที่เหมือนมีความหมายบางอย่างที่บอกว่าต้องการอะไรในตัวเธอ หญิงสาวสะกดใจข่มไว้ให้เย็นลงกับคำพูดและท่าทางดูถูกเมื่อครู่ของชายหนุ่ม

เขมมิกนับไป นับไปจนกว่าเธอจะใจเย็น 1...2...3...

แต่เอาเข้าจริงการนับเลขในใจนั้นไม่ได้นับข่มความโกธรคำดูถูกเลยแม้แต่น้อยแต่เป็นการนับข่มอารมณ์ความรู้สึกที่ได้สบตากับชายหนุ่มเสียมากกว่า

"แต่เดี๋ยวนะ.." ษาทธรีลุกขึ้นยืนขนาบข้างหญิงสาวมาติดๆ ทำให้มองเห็นชัดว่าชายหนุ่มนั้นตัวสูงใหญ่กว่าเขมมิกมากแค่ไหน ศรีษะหญิงสาวสูงเท่าหน้าอกของษาทธรีเท่านั้นเอง

"ฉันหาทางออกให้เธอได้ละ ไปเจอกับฉันบนชั้น 40" ษาทธรีใช้มือลูบคางก่อนจะมองเขมมิกอย่างพินิจอีกครั้ง ท่ามกลางสายตาสนใจของพนักงานที่เดาความคิดของษาทธรีไม่ออกว่าจะจบบทสรุปให้กับเด็กฝึกงานที่สร้างปัญหาคนนี้ได้อย่างไร แต่สำหรับเขมมิกรู้ทันทีว่ามันคงไม่ใช่วิธีที่เธอถูกใจแน่นอน ก็ดูสายตาโลมเลียที่เขามองมาสิ ทุเรศที่สุด!!

 

 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นี้เป็นแค่การเริ่มต้นของทั้งคู่เท่านั้น จะดุเด็ดเผ็ดมันแค่ไหน ติดตามตอนที่ 1 ได้เลยค่ะ :D

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว