วิชญุ หนุ่มใหญ่ที่เพิ่งจะพ้นวัย 50 ใกล้เข้าสู่วัย 60 การศึกษาดีดีกรีเมืองนอก ล้นเหลือและมากความสามารถ ด้วยวัยที่สั่งสมประสบการณ์มายาวนานขนาดนี้ ทำให้วิชญุทำงานในแวดวงราชการในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง นอกจากนี้ เขายังมีงานด้านการสอน การบรรยาย และงานเขียนมือดีชนิดหาตัวจับได้ยากคนหนึ่ง หลายต่อหลายสมัยที่ทางการทางบ้านทางเมืองได้เชื้อเชิญให้เขาไปร่วมวงศ์ไพบูลย์กับบรรดานักการเมืองในตำแหน่งที่ปรึกษาบ้าง หรือเพื่อให้คำแนะนำในกรณีพิเศษบ้าง ในบางสมัยบางวาระ วิชญุจึงเป็นหนุ่มใหญ่ที่มีบุคลิกภาพดีคนหนึ่ง และเมื่อบวกกับเป็นเจ้าคารี้สีคารม วาจาคมคาย ทำให้เขาเป็นหนุ่มใหญ่ที่ทรงเสน่ห์ และน่าดึงดูดใจคนหนึ่ง หลายครั้งที่เขามีหน้าที่ที่จะต้องปรากฏตัวต่อหน้าสื่อแขนงต่างๆ เพื่อเป็นกระบอกเสียงบอกเล่าสิ่งที่ยากต่อความเข้าใจให้เข้าใจได้ง่าย
ลีญาภัทร เด็กสาวในวัยสามสิบปลายๆ จบนอกเช่นเดียวกัน ที่หากเมื่อเทียบกับวิชญุแล้ว อายุสามสิบกลางๆ นี้ เธอกลายเป็นเด็กเมื่อวานซืนไปถนัดตา พ่อของลีญาภัทรกับวิชญุรุ่นราวคราวไม่ห่างกัน ตำแหน่งในกระทรวงก็แทบไมห่างกัน พ่อเธอได้ฝากฝังเธอไว้กับวิชญุ เพื่อให้เรียนรู้งานราชงานหลวง ตระกูลของลีญาภัทรเอง ไม่ได้ขัดสนเงินทองอะไร กลับกัน เรียกว่ามีฐานะทางการเงินไม่ลำบากด้วยซ้ำไป การได้ทดลอง ทดสอบว่าชอบงานราชนี้เหมาะกับเธอหรือไม่จึงไม่ใช่เรื่องแปลก และด้วยปริญญาจากเมืองนอกเธอน่าจะช่วยวิชญุได้บ้าง
ทว่าบางสายตาในกระทรวงมองลีญาภัทรอย่างดูถูกดูแคลน ว่าเป็นเด็กเส้นใหญ่บ้างล่ะ เด็กสายป่านยาวบ้างล่ะ เด็กสปอยล์บ้างล่ะ และที่มาที่ไปของเรื่องทั้งหมด คงหนีไม่พ้นขี้ปากคน ว่าสักวันสมภารคงกินไก่วัดละอ่อนตัวนี้เข้าสักวัน แต่ใครจะไปรู้ว่าจริงๆ แล้วเธอเป็นเช่นไร
เรื่องราวคาวโลกีย์ของวิชญุและลีญาภัทรจะเป็นจริงดั่งคำพูดคนอื่นหรือไม่ วิชญุเป็นนายหื่นตัณหากลับ หรือเปล่า คนแก่กินเด็ก หรือเด็กลวงคนแก่ ต้องติดตามเท่านั้น ถึงจะรู้