IS LOVE คือความรัก
“ผู้ชายที่ฉันหลงรักตั้งแต่แรกเจอ ทำทุกวิถีทางจนได้เขามาครอบครอง
แต่ความรักนั้นไม่ง่ายเลย ความสุขและความเจ็บปวดเป็นเรื่องปกติของความรักสินะ”
วันนี้วันลอยกระทง วันที่พระจันทร์เต็มดวง ดีใจจังที่วันครบรอบของเราทุกๆปีจะมีพระจันทร์สวยๆแบบนี้ให้มองด้วยกัน จำปีที่แล้วได้เลย ฉันวิ่งตามเขาเข้าไปในเวทีรำวง เพราะเขาน่ะฮอตมากเลยมีสาวๆมาต้อนให้เข้าไปรำอยู่ตลอดจนในที่สุดเขาก็ต้องจำใจตามยัยพวกนั้นไป ฉันที่ทนมองเขาถูกกระทำไม่ไหวก็เลยไปคว้าไมค์จากป้าที่กำลังร้องเพลงอย่างสนุกสนานมาถือไว้แทน ไม่รู้ว่าตอนนั้นไปเอาความกล้ามาจากไหน
'ปล่อยเขานะยัยบ้า!' ทันทีที่พูดออกไปแบบนั้นทุกคนในงานรวมทั้งยัยบ้าที่ฉันพูดถึงก็หันมามองฉันเป็นตาเดียว แต่ฉันไม่กลัวหรอก เพราะเขาก็มองฉันอยู่เหมือนกัน 'ยูดายน่ะ ของฉันนะ' ตอนที่พูดประโยคต่อมาฉันถึงกับหลับตาปี๋ ไม่อยากรับรู้ว่าเขาจะมองฉันด้วยสายตายังไง จนกระทั่งมีมืออุ่นมาคว้าแขนฉันให้ออกมาจากผู้คนตรงนั้น
และแน่นอนว่าคือเขา
'ทำบ้าอะไร' เขาถามเสียงนิ่ง ไม่รู้ว่าโกรธหรืออะไร เพราะเสียงของเขาเป็นแบบนี้แทบจะตลอดเวลา
'ก็ฉันหวงนาย มาเป็นแฟนกันสักทีสิจะได้ไม่มีผู้หญิงกล้ามายุ่ง' ฉันตะโกนใส่เขาเพราะอัดอั้นมานาน น้ำตาจากไหนไม่รู้พากันพรั่งพรูออกมาไม่หยุด เขาถึงกับนิ่งไป 'จะเป็นมั้ยแฟนน่ะ ถ้าไม่เป็นจะเลิกจีบแล้วนะ ไอ้หมอบ้า' ปาดน้ำตาตัวเองออกไปเมื่อเริ่มมองหน้าเขาไม่ชัด แต่เขาก็ยังเงียบ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาทั้งนั้นจนฉันทนไม่ไหว 'เออ! งั้นเลิกจีบจริงๆแล้ว ตั้งปีนึง ไร้ค่าชะมัด ยัยโง่เอ๊ย'
ฉันหันหลังเดินออกมา เพิ่งรู้ว่าการจีบเขามันเหนื่อยแค่ไหนก็วันนั้นเอง ปีนึงเชียวนะที่ฉันเพียรพยายาม จากคนที่ไม่รู้จักกันกลายเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้สำหรับเขา ตอนนั้นอยากจะตัดใจจริงๆ แต่...
'เออ แฟนก็แฟน พอใจยัง' เขากลับพูดคำที่ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินออกมา ฉันรีบหันกลับไป อยากจะเห็นสีหน้าของเขาตอนที่พูดมันออกมา แต่มันกลับนิ่งเฉยเหมือนเดิม 'ฉันไม่ค่อยมีเวลามาเจอหรอกนะ' เขาสาวเท้าเดินมาใกล้ฉันเรื่อยๆ 'แล้วก็ไม่เคยมีแฟน มันทำตัวไม่ถูก'
'มะ...ไม่ต้องทำอะไรสักหน่อย ทำแบบที่เป็นตัวนายนั่นแหละ' ฉันตอบออกไป พยายามบอกตัวเองว่าไม่ได้ฝันไป
'อือ เดี๋ยวไปส่ง'
ตั้งแต่นั้นมาฉันก็เดินตามเขามาตลอด รู้ตัวอีกทีก็ครบปีแล้ว ไวหมือนกันนะ และเขายังทำเหมือนตอนแรกๆที่คบกันอยู่เลย