เวิ้ง
อารัมภบท
“เจ้า!!! มันปีศาจร้าย เจ้าไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์เยี่ยงข้าดอกชีจันทร์ เจ้าจงเลาะหนังของข้าให้สิ้นเสีย ข้าจักภาคภูมิในเลือดเนื้อที่แดงฉาน และความรู้สึกเจ็บปวดทรมานของข้ามันยังสูงกว่า เนื้อกายที่ไร้จิตของเจ้า ”
นางผู้กำหนด ไม่กล่าวอันใดต่อ เพียงแต่รู้สึกว่างเปล่าและเพิกเฉยต่อผู้แพ้ นางก้าวเข้าไปใกล้ๆ และจดจ้องลงไปยังมรานินทร์ ภาพของมรานินทร์ที่ยังคงสดใสอยู่ในวังหลังฉายขึ้นมาในโสตประสาท ฉากที่นางพบกับมรานินทร์ครั้งแรกจึงผุดขึ้น วันนั้นเป็นวันที่ท้องฟ้าเปิด ภายใต้ร่มดอกกระดังงา นางยังจดจำรอยยิ้มของมรานินทร์ได้อย่างดี ใสซื่อ และสะอาดบริสุทธิ์
“ในวันแรกที่ข้าพบกับท่านมรานินทร์ ข้ายังจดจำรอยยิ้มของท่านได้ มันสะอาดและสดใส ท่านมรานินทร์ที่ข้าเคยมองเห็น เป็นผู้ที่เห็นทุกสิ่งอยู่ในกรอบของความดีงาม ในวันนี้ที่ท่านมาถึงจุดจบของท่านแล้ว ข้าอยากให้ท่านมรานินทร์ยิ้มให้สะอาดและสดใส ให้ข้าดูอีกสักครั้ง”
มรานินทร์ผู้พ่ายแพ้ ไม่รีรอที่จะท้าทายผู้ที่อยู่ตรงหน้า นาง ‘สรวลยิ้ม’ ออกมาอย่างสง่างาม
“เจ้าไม่เคยยิ้มได้อย่างบริสุทธิ์เฉกเช่น ข้าเลยสักครั้งชีจันทร์ และเมื่อข้าตาย ข้าจะขอฟ้าดินอย่าให้เจ้าได้ยิ้มอย่างสุขใจอย่างข้า ได้สักครั้งเดียวในชีวิต ”
สิ้นวาจาสุดท้ายของมรานินทร์
“ฮึ่ยยย ฮึ่ยยย อีมรานินทร์!!”
ชีจันทร์ก็โกรธกริ้ว ลงมือทำร้าย ตบ ตี มรานินทร์อย่างบ้าคลั่ง มรานินทร์ไม่ต่อสู้ ไม่หนี และยังคงยิ้มอยู่อย่างผู้ชนะ
“ประหาร!!!”
ในที่สุด นางจึงเปล่งประกาสิทธิ์สุดท้าย เป็นอันจบสิ้นวาสนาของมรานินทร์
สุดท้ายชีจันทร์ต่างหากที่เป็นผู้แพ้ เพราะนางเองไม่เคยก้าวข้ามจิตใจอันวิปริตดังที่มรานินทร์สื่อนัยไว้ได้ แม้แต่สักครั้งเดียว......