กลางสนามรบระหว่างอาณาจักรโฮเทนและจักรวรรดิฮิสทรอเรีย
ฟิ้ววววววววว!! ตู้มมมมมมมม!!
เสียงระเบิดและเสียงปืนดังไปทั่วสมรภูมิกลางสนามรบมีแต่ซากหุ่นยนต์สงครามและปลอกกระสุนกระจายเกลื่อน จากทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่มกลับกลายเป็นทะเลเพลิงที่มีแต่เครื่องจักรห้ำหั่นกันจากท้องฟ้าอันปลอดโปร่งกลับกลายเป็นท้องฟ้าอันมืดมิดไร้แสงอาทิตย์
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!”
“ไม่นะ ม่ายยยยยยยย!!”
“ฉันยังไม่อยากตาย! ฉันยังไม่อยา....”
“ไม่เอาแล้วพาฉันกลับบ้านที!!”
“อ้อกก...อ้อกกกกกกกกกกกกกกก” เสียงขาดอากาศหายใจ
เสียงร้องโหยหวนของทหารหลายนายที่ต้องตายอย่างทรมานในสนามรบ
ฟืดดดดด ตู้ม ฟืดดดดด ตู้ม เสียงของฝีเท้าที่ไม่ใช่มนุษย์กำลังเหยียบย่ำบนผืนหญ้าที่เคยเป็นสีเขียว
“อย่ายอมแพ้นะพวกเรายังมีหวังขอเพียงแค่ยิงไอเจ้าสองเขานั่นให้.......” เสียงหนึ่งตะโกนมาแต่ก็ต้องหายไปพร้อมกับแสงสว่างวาบของปืน
หลังจากสิ้นเสียงหุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่บินอยุ่บนท้องฟ้าหันมาสบตากับหุ่นยนต์ของอีกฝ่ายและหันกระบอกปืนเข้าหา ส่วนอีกฝ่ายเริ่มยิงก่อนที่มันจะยิงซะอีกแต่หุ่นตัวนั้นกลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนหนำซ้ำยังเดินตรงเข้ามาเรื่อยๆและยิงปืนทั้งสองข้างบนตัวของมันใส่อีกฝ่ายจนไม่เหลือซาก
เกร้ง เกร้ง เกร้ง เกร้ง ฉี่.............
เสียงปลอกกระสุนถูกดีดออกจากรังเพลิงพร้อมกับไอความร้อนของปืนออกมา
ความเงียบเข้าปกคลุมสายฝนไหลรินจากท้องนภาสู่ทะเลเพลิงที่พึ่งดับ หุ่นตัวหนึ่งที่บินอยุ่กลางสายฝนค่อยๆบินลงมาจนถึงพื้นหุ่นตัวนั้นมีท่าทางน่าเกรงขามสี่ขาอันแหลมเรียวและเขาสองเขาที่โค้งได้รูปปืนใหญ่สองกระบอกตรงหัวและปืนกลอีกห้ากระบอกข้างตัวมันตัวใหญ่บึกบึนและเสียงเครื่องยนต์อันน่าเกรงขามตาสีแดงลุกวาว ทันใดนั้นนักบินก็ออกมาจากหุ่นดังกล่าวพร้อมกับเดินลงมาคุกเข่าร้องไห้ให้กับหุ่นตัวหนึ่งที่ล้มอยู่ข้างๆตนห้องนักบินเต็มไปด้วยเลือดปลอกกระสุนเกลื่อนมีร่องรอยการหลบหนีหุ่นพังไปครึ่งตัว แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นหุ่นของอีกฝ่ายวิ่งตรงดิ่งทำท่าจะมายิงตนเองความเศร้าเปลี่ยนเป็นความเคียดแค้นนักบินคนนั้นวิ่งขึ้นหุ่นและพุ่งเข้าไปหาศัตรูผู้หมายจะเอาชีวิตนักบินคนนี้.......