Intro
แนะนำตัวละคร
คำเตือนนิยายเรื่องนี้เป็นความรักระหว่าง ชาย/ชาย
พระเอก วายุ หรือ ลม นักศึกษาปี1หมาดๆ ดีกรี เดือนคณะบริหาร หล่อรวยขาวตี๋ กวนทะเล้น ที่บ้านมีธุรกิจโรงแรมหรู เป็นที่หมายปอง ของสาวแท้ สาวเทียมทั้งหลาย
เวลาว่าง ชอบเล่นกีฬา และ ชอบสังสรรค์ปาร์ตี้
นายเอก เวหา หรือ ฟ้า ปี3นิเทศ เป็นหนึ่งในคนดังระดับตัวท็อปของมหาลัย เป็นคนสนุกสนานแต่ขี้เบื่อเป็นที่1 ปากร้ายใจดี เฮฮาปาตี้ แต่มักไม่เปิดใจกับความรัก ที่บ้านเป็นเจ้าของบริษัท เครื่องปรับอากาศ ไม่ว่าจะเป็น แอร์บ้าน แอร์รถ แอร์ห้องน้ำ และทุกอย่างที่เกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศ
น่าเบื่อ น่าเบื่อ น่าเบื่อ เฮ้อ ผมบ่นในใจเป็นรอบที่10 กับการต้องมานั่งร้านเหล้าในคืนวันเสาร์ ที่คนเยอะโคตรๆแบบนี้ มันเข้าขั้นแออัดชุมชนแออัดชัดๆ ถ้าไม่ติดว่านี่วันเกิดเพื่อนผม ผมคงไม่ยอมมาแน่ๆ
“พวกมึงกลับกันเหอะคนเยอะสัส” ในที่สุดความอดทนผมก็ถึงขีดสุด
“มึงจะรีบไปไหน ไอ้ฟ้า” นี่คือผึ้งสาวน้อยที่ตัวไม่น้อย เพื่อนสนิทผมเอง ถึงมันจะเป็นผู้หญิงแต่ด้วยขนาดตัวที่สวนทางกับชื่อมันอย่างชัดเจน ผมคิดว่าถ้ามันต้องการมันคงสามารถแบกผู้ชายกลับบ้านได้สบายๆ
“นั่นดิวันเกิดกูทั้งที” นี่เฟรินเจ้าของวันเกิด เฟรินเรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารักคนนึง แต่ด้วยนิสัยเกินผู้หญิงของมันทำให้ผู้ชายที่หาญกล้ามาจีบต้องหงายเงิบไปทุกราย
“เสียดายไอ้ส้มมัน หนีรักไปพักร้อนซะก่อน ไม่งั้นวันนี้ก็ครบองค์ละ” ส้มสมาชิกคนสุดท้ายของกลุ่มผม เป็นคนตลกเฮฮาคารมดี แต่ที่เค้าว่า สวยมักนกตลกมักได้ คงใช้กับมันไม่ได้ เพราะนี่มันก็เพิ่งโดนเทจนต้องหนีไปเลียแผลใจที่บางแสน”
“พวกมึงไม่เบื่อหรอ กูเบื่อจะตายห่าละ” พวกมึงไม่เข้าใจหรอว่ากูอยากกลับบ้าน
“เบื่ออะไรของมึง มึงดูนี่มีแต่ ผู้แซ่บๆกูอยู่ดูได้ทั้งคืนไม่มีเบื่อ” เฟรินมึงเป็นผู้หญิงนะมึงควรจะสำรวมคำพูดบ้าง
“กูไม่สนใจ โอเคปะ” ผมตอบด้วยความรำคาญ
“งั้นผู้หญิงก็มีให้มึงเลือกเยอะนะ” ผึ้งพูดขึ้น
“ไม่ว่าหญิงจะชาย เด็ก คนชรา เกย์ กระเทย กูไม่สนทั้งนั้น กูพอละกับความรัก” สำหรับผมผมคบมาแล้วทั้งผู้หญิง ผู้ชาย แต่ไม่ว่าจะอะไรมันก็ไม่เวิร์คสักอย่างผมเลยคิดว่าผมพอดีกว่า
“เพื่อนอย่าเพิ่งรีบพูด เพื่อนดูดีๆดิ วันนี้มีแต่เด็กปีหนึ่งเฟรชๆทั้งนั้น เพื่อนหาดูดีๆอาจจะพบรักแท้” เฟรินว่าพร้อม ชี้ไปที่กลุ่มเด็กผู้ชายปีหนุ่มกลุ่มหนึ่ง
“นั้นไงมึงคนนั้นอะที่ตี๋ๆ ดูดีที่สุดในกลุ่มอะ เดือนบริหารเว้ยมึง ตัวเต็งเดือนมหาลัย ด้วยนะมึงเป็นไง”
“กูว่าก็ดีแต่ กูก็เฉยๆวะ” เด็กนั่นมันก็ดูหล่อ มีสเหน่ แต่สำหรับผม ผมก็ยังไม่รู้สึกอะไร
“โอเค กูยอมแพ้มึง” ผึ้งกับเฟรินพูดพร้อมยกมือทำท่ายอมแพ้พร้อมกัน
“วันเกิดกูมึงขึ้นไปร้องเพลงให้กูฟังสักเพลงสิฟ้า”
“กูขี้เกียจ”
“แต่กูอยากฟังมึงร้องเพลง มึงร้องเพราะจะตาย นะเพลงเดียวแล้วกลับเลย” เฟรินพูดพร้อมทำท่าทำทางชี้นิ้วเป็นเลข1
“ได้ถ้าเพลงเดียวไม่กลับนะ กูจะเอาไม้ตีกบาลพวกมึงให้” เอาวะร้องสักเพลงกูจะได้กลับซักที คิดได้ดังนั้นก็เดือนไปบอกพี่นักดนตรีที่หน้าเวทีร้านนี้พวกผมมาบ่อยตั้งปี1 เลยสนิทสนมกับนักดนตรีเป็นอย่างดี
“วันนี้ เราได้รับเกียรติ จากน้องฟ้า นะคับ จะขึ้นมาร้องเพลงให้เราฟังกันนะคับ ขอเชิญรับฟังได้เลยคับ”
ผมมีเพลงในใจสำหรับช่วงเวลานี้ไว้อยู่แล้ว เพลงที่บ่งบอกความรู้สึกผมตอนนี้ได้เป็นอย่างดี ผมหันไปบอกพี่ๆนักดนตรีด้านหลังถึงเพลงที่จะร้อง เสร็จแล้วก็เอาไมค์จ่อปาก
“จริงๆผมไม่ถนัดร้องเพลงแนวนี้นะคับ แต่ตอนนี้ไม่มีเพลงอะไร ที่ตรงใจผมที่จะมอบให้เพื่อนเท่านี้แล้ว ลองฟังดูนะครับ”
รวมความว่าเธอจำเป็นต้องไป ตามใจละกันนะ
เอาไงก็เอา ไม่ต้องลวดลาย ทำอะไรก็ทำซะ
คิดจะทิ้งก็ทิ้งซะเลยไม่ต้องคิด ชีวิตของใครก็ของมัน
เช็ดมันซะเช็ดน้ำตาไม่ต้องร้อง ไอ้นั่นมันเรื่องของฉัน
กลับบ้านนอนเถอะนะ นะเธอนะ ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองก็แล้วกัน
หลับฝันดีเถอะนะ นะเธอนะ
(ราตรีสวัสดิ์ซะเลยก็แล้วกัน/ไอ้ที่มันหลับไม่ลงก็ช่างมัน)
ขณะ ที่ผมร้องไปหลายโต๊ะก็เริ่มลุกขึ้นมาโยกตาม พวกที่เมาหนักหน่อย ก็เริ่มปีนนู้นป่ายนี่ บางคนก็แค่โยกหัวตาม เมื่อร้องท่อนสุดท้ายจบพร้อมเสียงปรบมือ ผมพอจะร้องเพลงเป็นบ้างเพราะตอนเด็กๆแม่อยากให้เป็นนักร้องเลยพาไปเรียน แล้วก็ประกวดไปทั่ว
“ก่อนอื่นเลย ผมต้องขอขอบคุณพี่แมวจิรศักดิ์ เพราะถ้าไม่มีเพลงนี้ของพี่แมวผมคงไม่รู้จะสรรหาเพลงไหนมาร้องแทนสิ่งที่ผมต้องการบอกเพื่อนผม”
“เฟริน กลับบ้านนอนเถอะนะนะเธอนะ กูง่วง” เสียงหัวเราะร่าดังไปทั่วร้าน บางทีทุกคนอาจจะคิดว่าเปนมุกแต่ผมพูดจริง
“ไอ้เพื่อนเหี้ย” เสียงไอ้เฟรินตะโกนสรรเสริญผมดังมาจากโต้ะยิ่งเรียกเสียงหัวเราะให้คนในร้านได้อีก
ผมโค้งขอบคุณพร้อมได้รับเสียงปรบมืออีกหนึ่งยก ก่อนจะเดินกลับไปที่โต้ะ
“ไปมึงกลับตามสัญญา”ผมทวงสัญญาทันทีที่ถึงโต๊ะ
“มึงแม่งแล้วกลับก็กลับกูไม่มีหน้าจะอยู่ละ”เฟรินพูดขึ้นอย่างเซงๆ
“หมดกันมึงภาพพจน์ในสายตาเด็กๆ”ไอ้ผึ้งโอดครวญขึ้น
ผมได้แต่หัวเราะกับท่าทีของพวกมัน พอเก็บเงินเสร็จผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนกลับ
ขณะที่ผมกำลังล้างมือหลังทำธุระส่วนตัวเสร็จ มันรู้สึก เย็นวาบที่ท้ายทอยแปลกๆ เหมือนมีคนจ้องอยู่ หรือกูจะเจอผีวะ เอาวะค่อยแหงนหน้าขึ้นมองในกระจก ไม่ใช่ผีนิไอ้หนุ่มนี่มันใครวะมายืนจ้องกู ถ้าดูไม่ผิดเหมือนจะเป็นเด็กปีหนึ่ง ที่ไอ้เฟริน กะไอ้ผึ้งบอกเป็นอะไรนะ เกร็งๆ นิ้วเกร็งหรืออะไรนี่ละ
“มีอะไร?” ผมถามไอ้เด็กที่เอาแต่มองผมไม่ละสายตา
“เอ่อ คือ เพื่อนผม ฝากผมมาขอไลน์พี่อะคับ”
“ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย”
“ผู้หญิงคับ น่ารักนะพี่” เด็กนั้นรีบโฆษณาเพื่อน
“ไม่อะพี่ไม่ชอบผู้หญิง” หน้าเด็กคนนั้นดูจะอึ้งไปนิดนึงก่อนจะถามต่อ
“งั้นถ้าเป็นผู้ชายละพี่”
“ผู้ชายกูก็ไม่ชอบ”
“อ้าวแล้วพี่ชอบอะไรอะ”
“สรุปกูไม่ชอบอะไรเลย แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงกูจะแจ้งให้ทราบ เคนะ” พูดจบ ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำ
“พี่ร้องเพลงเพราะนะ มุกพี่ก็จี้ดี น่าประทับใจ” เด็กคนนั้นพูดขึ้นขณะที่ผมกำลังจะเดินผ่าน
“ขอบคุณมากวันหลังค่อยคุยนะ กูกลับละ”
“กลับบ้านนอนเถอะนะ นะเธอนะใช่ปะพี่” เด็กนั้นพูดพร้อมหัวเราะร่า
ผมเพียงแต่ยิ้มให้มันไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะเดินออกไป
“เดี๋ยวพี่โทรสับพี่ตก” ผมจับดูในกระเป๋ากางเกงพบว่าว่างเปล่าแล้วโทรสับผมหล่นอยู่ที่พื้น มันตกตอนไหนวะ
เด็กนั้นเก็บขึ้นมาพร้อมกับกำลังเดินเอามาในผม แต่ทันใด
“ไอ้เหี้ยฟ้าเกิดเรื่องใหญ่แล้วมึง” เฟรินกับผึ้งวิ่งเข้ามาในห้องน้ำผู้ชาย ย้ำว่าห้องน้ำผู้ชาย พวกมันออกแรงฉุดกระชากลากถูกผมให้ออกไป
“เหี้ยมึง2คนเข้ามาทำไมนี่ห้องน้ำผู้ชาย”
“กูไม่สนแล้วมึง เรื่องใหญ่มากๆๆๆ ไอ้ส้มมัน ~~~~~~~~~~” ไอ้เฟรินพูดเร็วมากจนฟังไม่รู้เรื่อง
“ไอ้ส้มมันทำไมมึงพูดช้าๆ”
“ไอ้ส้มมันจะโดดน้ำตายไอ้สัส รีบไปห้ามมัน” ไอ้ผึ้งสวนขึ้นมา ตาผมสว่างทันทีที่ได้ยิน
“ชิบหายละมึง”
“เออชิบหายไปเร็วไอ้ฟ้า”
พวกผม3คนวิ่งมาที่รถพร้อมไอ้เด็กนั่นวิ่งตามมาติดว่าแต่มันจะวิ่งตามมาทำไม
“พี่ พี๊ โทรสับคับ” มันวิ่งตามมาพร้อมโบกไม้โบกมือ
เออใช่โทรสับกูยังไม่ได้เอาคืน
“เห้ยพวกมึงเดี๋ยวก่อนกูเอาโทรสับแบบ” ผมบอกพวกมันพร้อมจะวิ่งกลับไปเอาโทรสับ
“ไอ้เหี้ยฟ้าไม่ทันแล้วโทรสับไว้ก่อนไปมึงขึ้นรถเพื่อนจะตายห่าละ” ไอ้ผึ้งว่าพร้อมดันผมเข้าไปในรถ
“เดี๋ยวมึงเดี๋ยวก่อน”ดูเหมือนตอนนี้จะไม่มีใครฟังผม
“พี่คับอะโทรสับพี่”เด็กนั่นวิ่งตามมาถึงรถพร้อมกับดึงประตูรถไว้
“ไอ้ผึ้งไหนๆน้องมันมาละเอามันไปด้วยคนเยอะๆจะได้ช่วยกัน มีไอ้ฟ้าเป็นผู้ชายคนเดียว เอาไปเพิ่มอีกคนเผื่อฉุกเฉิน”
“ห้ะ เดี๋ยวพี่ เดี๋ยว” เด็กนั้นร้องเสียงหลงขณะที่ถูกไอ้ผึ้งเหวี่ยงเข้ามาในรถ ก่อนจะปิดประตูพร้อมวิ่งไปนั่งข้างคนขับ
“ไม่ทันแล้วลูกเพื่อนพี่มันจะฆ่าตัวตาย แกไปกะพวกพี่แหละดีแล้ว เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยกัน น้องมึงใช่ไหมไอ้ฟ้า” เฟรินถามขึ้น
“ไม่ใช่มึงกูไม่รู้จักกูแค่จะเอาโทรสับ”ผมรีบพูดขึ้น
“ช่างมันมึงไอ้ส้มมันชอบผู้ชายหล่อๆ เอาไอ้น้องนี่ไปล่อมันเผื่อมันจะเปลี่ยนใจ”
“เดี๋ยวพี่ ผมไม่ไปพี่เพื่อนผมรอยู่” ไอ้เด็กนั่นโวยวายขึ้น
“หุปปากแล้วนั่งเฉยๆลูก เพื่อนหนูอะเรื่องเล็กตอนนี้เข้าใจนะ”ไอ้ส้มตวาดขึ้น เด็กนั้นดูเหมือนจะเข้าใจว่าตอนนี้มันคงต้องตกกระไดพลอยโจรไปกับพวกผมแล้ว
“ไอ้เฟรินมึงรีบไปได้แล้วเดี๋ยวไอ้ส้มตายห่าก่อนพอดี” ผึ้งพูด ยังไม่ทันจบประโยคดีรถก็พุ่งทะยานจากร้านออกสู่ถนนใหญ่ พร้อมภาระกิจกู้ชีพ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราววุ่นที่กำลังจะตามมา
ลม talk
ผมชื่อ วายุ ชื่อเล่น ลม เฟรซชี่ปี1บริหาร
ตอนนี้พวกผมกำลังโยกตัวตามจังหวะเพลง ร็อค ของพี่แมวจิรศักดิ์ ซึ่งรุ่นพี่ที่มหาลัยผม คนนึงกำลังร้องอยู่ในตอนนี้ เห็นเพื่อนผมว่าพี่เค้าชื่อฟ้านี่ละ นิเทศปี3 เพื่อนผมนี่เป็นแฟนคลับตัวยงของพี่เค้า
มันว่านี่ละผู้ชายในสเปคมันน่ารักแบบมีความกวน ผมก็ว่าพี่เค้าเป็นคนตลกดีผมยังอดยิ้มไปมุกของพี่เค้าที่ปล่อยบนเวทีไม่ได้
แต่เห็นเพื่อนผมบอกว่ามีข่าวว่าพี่เค้าเคยคบผู้ชาย มันเลยกล้าๆกลัวๆที่จะเข้าหาพี่เค้า
มันคลั่งไคล้มากขนาดรบเร้าให้ผมช่วยเป็นพ่อสื่อไปขอไลน์ ให้ซึ่งผมก็ต้องจำยอม และส่วนหนึ่งผมก็อยากรู้ด้วยว่าที่ว่าพี่เค้าคบได้ทั้งชายหญิงมันจริงรึป่าว ขณะที่ผมกำลังมองหาพี่เค้าก็เห็นแว่บๆเหมือนเค้าจะเดินไปทางห้องน้ำ ว่าแล้วก็รีบไปปฎิบัติภารกิจพ่อสื่อให้เพื่อนให้สำเร็จดีกว่า
ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าผมได้เอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับเรื่องวุ่นวายชนิดถอนตัวไม่ขึ้นซะแว้ว
นิยายเรื่องนี้เขียนเป็นเรื่องแรกนะครับหวังว่าทุกคนจะชอบ ผิดพลาดประการใดขอ อภัยมา ณ ที่นี้ครับ