[A/B/O AU] One-shot for NonXBoss (R)
0
ตอน
4.8K
เข้าชม
78
ถูกใจ
2
ความคิดเห็น
12
เพิ่มลงคลัง

 

บางที แอลฟ่าอย่างไอนน ก็อาจจะไม่ได้แย่อย่างที่เขาคิด

 

---------------------------------------------------------------------

 

โชคดีที่กีฬาสียกเลิก คือสิ่งที่เขาคิดในตอนนี้ นอกเหนือจากนั้นคือความคิดสมเพชร่างกายตัวเอง

 

เขาเกลียด ที่เขาเกิดมาเป็นโอเมก้า

 

ทำไมนะเหรอ

 

เพราะผู้ชายที่เกิดเป็นโอเมก้าถูกมองต่ำกว่าเบต้าและแอลฟ่า ถูกมองว่าไม่มีความคิด เป็นพวกไม่เอาไหน มีดีแค่เรื่องเซกส์ มันเป็นความผิดของพวกโอเมก้าเหรอที่พันธุกรรมกำหนดให้พวกเขาไม่ได้มีร่างกายบึกบึนหรือมีกล้ามเป็นมัดๆ ซึ่งที่จริงต่อให้โอเมก้าอยากเล่นกล้ามแค่ไหน มันก็ไม่งอกออกมาสักลูก

 

ที่จริงงานวิจัยไม่นานมานี้พบว่าโอเมก้ามีไอคิวเฉลี่ยสูงกว่าเบต้า และแอลฟ่าด้วยซ้ำ

 

แต่แล้วไงล่ะ

 

ใครจะสนงานวิจัย ไอพวกแอลฟ่ายอมเสียความควบคุม เสียคะแนนนิยมสะที่ไหน ได้อยู่ในจุดที่เป็นเป้าสายตา ก็ใส่ไอเดียความคิดให้ใครๆก็มองโอเมก้าไร้ความสามารถ เทียบกับผู้หญิงยังไม่ได้ ถูกมองเป็นได้แค่สุนัขที่มีช่วงเวลาติดสัด

 

ถุย

 

แล้วใครหน้าไหนวะที่พอเจอโอเมก้าin heatแล้วสูญเสียความเป็นตัวเอง ใช้อวัยวะเพศต่างสมอง

 

แม่ง

 

คิดแล้วก็เจ็บใจ

 

“กริ๊งงงงงงงง”

 

เสียงโทรศัพท์บ้านที่ดังขึ้นทำเอาเขาสะดุ้งหลุดจากกระบวนการความคิด

 

หงุดหงิดกับเสียงโทรศัพท์ หงุดหงิดกับร่างกายตัวเอง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

 

เขาพยายามควบคุมตัวเอง ลุกขึ้นมาจากเตียง แล้วเดินไปรับโทรศัพท์

 

“บ้านอรรถประจักษ์ครับ”

 

“บอส เป็นไงบ้างลูก โอเคมั้ย” น้ำเสียงเป็นห่วงของแม่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น

 

ปกติแล้วโอเมก้าสามารถกินยายับยั้งheatได้ แต่ยาก็มีข้อบ่งใช้ไม่ให้ใช้ติดต่อกันนานเกินไป หมดแผงหนึ่งก็ต้องยอมปล่อยให้ร่างกายปรับสมดุล แต่นี่ ไม่ได้พอดีช่วงเวลาปรับสมดุลของเขา แต่เพราะไองานกีฬาสีที่สุดแสนจะวุ่นวาย ทั้งนโยบายการบ้าน ทั้งงบ ทั้งสภา ทำเอาเขาหงุดหงิดไปหมด จนลืมกินยาตามกำหนด

 

พลาดจริงๆ

 

“โอเคครับแม่ บอสดูแลตัวเองได้ครับ” ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาอยู่บ้านคนเดียว อยู่บ้านคนเดียวในเวลาแบบนี้เขากลับชอบด้วยซ้ำ พ่อแม่เขาก็คงรู้แหละ แต่ก็อดห่วงไม่ได้เลยโทรมาหา

 

“ถ้าหิวก็อุ่นอะไรกินนะลูก”

 

“ครับแม่” พอวางสายเขาก็อยากจะคลานขึ้นเตียงโดยเร็ว ไอความรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวบวกกับร่างกายที่มันร้อนรุ่ม ทำให้เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ก็ดูจะผิดที่ผิดทาง

 

ถอดเสื้อผ้าเดินในบ้านได้มั้ยวะ

 

เดินกลับห้องนอนตัวเอง ปิดผ้าม่าน เปิดแอร์ และถอดชุดนอนที่โชกเหงื่อออกไป ล้มตัวลงนอนและดึงผ้ามาห่มตัวเอง

 

ที่จริงก็ไม่อยากจะห่มไอผ้าบ้านี่นะ แต่เขารู้สึกแปลกๆที่จะมานอนเปลือยล่อนจ้อนอยู่บนเตียง

 

เขาหลับตา ควบคุมลมหายใจเข้าออก นอนฟังเสียงคอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน พยายามไม่คิดถึงความรู้สึกวูบวาบบริเวณท้องน้อย หรือความรู้สึกยุกยิกในบางบริเวณ

 

ปล่อยตัว ปล่อยใจ ปล่อยให้ร่างกายตอบสนองตามสัณชาติญาณ

 

….

 

“ติ๊งหน่อง”

 

เสียงออดบ้านปลุกเขาขึ้นมาให้พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในสภาพไหน เขากำลังนอนหอบแบบไร้เสียง มือทั้งสองข้างกำลังตอบสนองความต้องการของร่างกาย ผ้าห่มที่เขาห่มไว้ หล่นหายไปอยู่นอกบริเวณสายตา ผ้าปูเตียงยับย่นแนบเข้ากับผิวกายชื้นเหงื่อของเขาที่แอร์ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่

 

เดี๋ยวนะ

 

เสียงออด

 

ใครมาวะ

 

“ติ๊งหน่อง”

 

เขากัดริมฝีปากแน่น พยายามควบคุมตัวเอง ยันตัวเองลุกขึ้นนั่งก่อนจะคว้าผ้าห่มที่กองอยู่ตรงพื้นขึ้นมาคลุมตัว เผยแค่เพียงช่วงเหนือคอขึ้นมา สายตามองดูนาฬิกาเห็นตัวเลขบอกเวลา 13:35

 

บ่ายโมงครึ่ง?!!!!????

 

ไม่ใช่พ่อแม่เขาแน่ ไม่สิ พ่อแม่เขาไม่กดออดหรอก

 

บุรุษไปรษณีย์? กองของไว้ตรงนั้นแหละ มันใช่เวลามาส่งของไหม

 

แล้วถ้าไม่ใช่ล่ะ?

 

เขาถอนหายใจเหือกใหญ่ แล้วค่อยๆเดินลงบันได ระวังตัวเองไม่ให้สะดุดปลายผ้าห่มที่ใช้คลุมตัวเองอยู่

 

พอเขาเดินไปใกล้ประตู ยังไม่ทันจะได้มองว่าเป็นใครที่มา กลิ่นฟีโรโมนของแอลฟ่าก็กระแทกฆานประสาทของเขาทันที

 

แอลฟ่า…

 

กล้ามเนื้อขาเหมือนจะเป็นตะคริว หัวใจเต้นรัวเร็ว ทำให้หายใจเอากลิ่นของแอลฟ่าเขาไปอีก สมองสูญเสียความควบคุม ท้องน้อยก็รู้สึกมวลขึ้นมาจนเขาอยากจะคู้ตัวลงนอน

 

ใครวะ ทำไมกลิ่นแม่งคุ้นๆ

 

“หรือว่าไม่มีใครอยู่บ้าน”

 

พอได้ยินเสียงเท่านั้นแหละ เขาก็ไม่ต้องคิดแล้ว

 

ไอเชี่ยนน

 

เขาอยากจะร้องไห้

 

“เลขที่บ้านก็ถูกนี่หว่า ป้ายหน้าบ้านก็อรรถประจักษ์”

 

เสียงไอนนเงียบไปแล้ว เขาเอาหัวพิงประตู ฟีโรโมนแอลฟ่าทำให้เขาไม่มีแรง ในขณะที่บางส่วนของร่างกายเขากลับเกร็งกระตุกอย่างน่าหมั่นไส้

 

ใจเย็นๆบอส หายใจเข้า หายใจออก

 

“บอส?” เสียงเรียกชื่อที่เบาประหนึ่งกระซิบแต่กลับทำให้ร่างกายเขาสั่นสะท้าน เขาเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเผลอส่งเสียงครางต่ำๆ ความรู้สึกเปียกชื้นด้านในของต้นขาย้ำให้เขารู้ถึงสถานการณ์ปัจจุบัน

 

“บอสใช่มั้ย มึงเป็นไรป่าววะ” น้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใย กับฟีโรโมนของแอลฟ่าที่โอบรอบตัวเขา เขาเปลี่ยนเป็นหายใจทางปาก รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจมดิ่งลงไปในกลิ่นของไอนน

 

“หรือไม่ใช่วะ แต่กุว่ากุได้กลิ่นนะ”

 

ไอเชี่ยนน

 

“มึงมาทำไมวะ” ตัดใจพูดออกไป ถ้ารู้ว่ามันมาทำไม จะได้ไล่มันกลับไปได้

 

“มาหามึง คือ มึงโอเคป่ะวะบอส กุไปหามึงที่ห้อง มึงก็ไม่ได้มาเรียน โทรหา ก็ติดต่อไม่ได้ กุ เป็นห่วง”

 

อื้ออออออออออออออ ไม่ เขาห้ามตัวเองไม่ได้

 

“บอส พูดอะไรสักคำดิวะ หรือ ให้กุเข้าไปได้มั้ย กุ….” เขาพิงตัวเองกับประตู แค่ประตูกั้นเท่านั้น แค่เปิดประตูเท่านั้น

 

แอลฟ่า

 

แอลฟ่าของเขา

 

“บอส?”

 

ปลายขากระตุก ทำให้ผิวที่ต้นขาด้านในเสียดสีกันเอง

 

สองมือเขากำผ้าห่มไว้แน่น

 

โคตรอยากจะร้องไห้เลยวะ

 

“เรื่องเมื่อวาน กุขอโทษนะเว้ย ถ้ามึงจะเกลียดกุจนไม่อยากเห็นหน้ากุอีก กุก็เข้าใจ กุแค่ อยากรู้ว่ามึงโอเค มึงไม่มาเรียนกุเลยเป็นห่วง”

 

“กุไม่โอเค…” แล้วนี่เขาจะตอบมันทำไมวะ

 

ไอนนเงียบไปอีกครั้ง

 

“บอส...ขอกุเจอมึงหน่อยได้มั้ยอ่ะ ได้ยินมึงตอบกุแบบนี้ กุยิ่งไม่สบายใจ”

 

“มึงไม่ควรมาที่นี่วันนี้ นน”

 

เขาพยายามลุกขึ้นยืน กางฝ่ามือแนบกับประตูเพื่อพยุงตัวเองให้ยืนอยู่ได้

 

แอลฟ่า

 

มึงควรกลับไป

 

อย่าไป

 

มึงไม่ควรห่วงกุ

 

ได้โปรด

 

กุจะเป็นยังไงก็ช่าง

 

ต้องการ

 

“งั้นพรุ่งนี้กุ…”

 

“แกร๊ก...” เขาว่าเมื่อกี้ไอนนมันจะพูดอะไรสักอย่างนะ และทำไมอยู่ดีๆมันหยุดไป เขายังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู สายตามองที่มือตัวเอง แน่นอนว่าข้างหนึ่งยังรวบผ้าห่มอยู่ แต่อีกข้าง…

 

อยู่ที่ลูกบิดประตู

 

เขาทำอะไรลงไป?

 

แล้วเขาก็รู้สึกได้ว่ามีคนพยายามหมุนลูกบิดประตูจากอีกฝั่ง เขาหายใจเอาอากาศเข้าปอดด้วยอารามตกใจ มือข้างที่จับลูกบิดประตูหมุนไปตามแรงบิด แล้วประตูก็เปิดดันเข้ามา

 

เขาเดินถอยหลังทั้งๆที่มือยังคงจับที่ลูกบิดประตู

 

แสงแดดจ้าสาดผ่านช่องประตูเข้ามา เขาเลยต้องปล่อยมือขึ้นมาเพื่อบังตา จนกระทั่งเห็นว่าแสงสว่างในห้องกลับสู่สภาพปกติเขาเลยลดมือลง

 

เผยให้เห็นไอนนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา หลังมันพิงประตู หน้าตามันดูตกใจประหนึ่งเห็นผี แล้วมันก็หายใจเหือกใหญ่เหมือนคนที่ลืมหายใจ

 

ตามันเบิกโพลง ปากเม้มแน่น สายตาที่สบกันอยู่เริ่มไล่ลงจากใบหน้าของเขา ลงมาตามลำตัว

 

เขามองตามมันเลยนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพไหน โอเค เขาไม่ได้เปลือยต่อหน้ามัน ก็แค่มีผ้าห่มผืนเดียวคลุมกาย

 

ชิบหายละ

 

แอลฟ่า 

 

เขาพยายามเดินถอยหลัง แต่อยู่ดีๆก็เหมือนขาจะอ่อนแรง

 

“บอส…”

 

ได้โปรด

 

เขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ร่างกายร้อนวูบวาบขึ้นมาอีกครั้ง ผ้าที่ห่มอยู่ก็เสียดสีไปทั่วทำให้เขายิ่งรู้สึกไม่สบายตัว

 

“บอส กุขอโทษ กุไม่รู้ว่า…”

 

“มึงเลิกขอโทษสักทีได้มั้ย กุไม่อยากได้ยินมึงขอโทษแล้ว” เขาเกลียดมัน เกลียดคำขอโทษของมัน เกลียดที่มันอยู่ตรงนี้ เกลียดที่มันทำเหมือนแคร์ ทำเหมือนเป็นห่วงเขาจริงๆ

 

เกลียดที่เขารู้สึกอยากเอื้อมมือไปหามัน อยากให้มันกอดเอาไว้ อยากให้มันช่วยให้เขาผ่านสถานการณ์ตอนนี้ไปได้

 

“งั้นมึงจะให้กุทำอะไรให้มึงหายโกรธ มึงบอกกุได้เลยนะเว้ย” เขาก้มหน้ามองพื้น มือกำผ้าห่มที่คลุมตัวเองไว้แน่น เห็นนนที่กำลังคุกเข่าลงตรงหน้า

 

“ ออกไป ”

 

มันชะงัก

 

อีกแค่ก้าวเดียว แค่เอื้อมมือ

 

แอลฟ่า

 

ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นจากพื้นก็เห็นว่ามันเปลี่ยนใจ มันยันตัวขึ้น ถอยห่าง เว้นระยะจากเขา

 

ไม่

 

อย่าไป

 

“งั้น ดูแลตัวเองนะ มีอะไรให้ช่วย ก็บอกกุได้ กุ...”

 

“ไอนน…..ช่วยกุที” เขาหลับตา พ่ายแพ้ต่อคลื่นอารมณ์ที่ทำให้ร่างกายเขาสั่นจนคุมไว้ไม่อยู่

 

“บอส มึงอยากให้กุช่วยอะไร” คำถามโง่ๆจากปากมัน ทำให้เขาหลุดเงยหน้าขึ้นตวาดมัน

 

“มึงเป็นแอลฟ่าประสาอะไรวะ เห็นกุอยู่สภาพนี้แล้วยังต้องถาม”

 

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มันมานั่งคุกเข่าตรงหน้า ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สองมือมันจับที่ต้นแขนเขา

 

เขาจ้องตากับมัน รู้สึกเหมือนกำแพงบางอย่างถูกทลายลง

 

“ก็กุไม่รู้ว่าสิ่งที่กุคิด จะใช่สิ่งที่มึงต้องการ บอส ถึงกุจะเป็นแอลฟ่า กุก็ไม่คิดจะฉวยโอกาสกับมึงในสภาพนี้นะเว้ย”

 

แววตามันบอกว่ามันพูดจริง

 

เขาหายใจเอากลิ่นไอนนเข้าไปเต็มปอด ความร้อนรุ่มยังสุมอยู่ในตัว อาการมวลท้องยังไม่หายไปไหน ความต้องการในส่วนลึกยังคงร้องเรียกการถูกเติมเต็ม

 

แต่ ตอนนี้เขารู้สึกปลอดภัย รู้สึกหายกังวล

 

เขาละสายตาจากมัน หลับตา ทำใจ ก่อนจะโน้มเข้าไปในอ้อมแขนคนตรงหน้า

 

แขนไอนนกอดเขาแบบเกร็งๆ ที่จริงไม่ใช่แค่แขน ทั้งตัวมันก็เกร็งไปหมด เหมือนคนไม่กล้าจะขยับหรือทำอะไร เขาลืมตาขึ้นมองสำรวจในสิ่งที่เขาสงสัย สายตามองเห็นความแข็งขันภายใต้ร่มผ้าของอีกฝ่ายแล้วก็ทำให้เขาอดยิ้มมุมปากไม่ได้

 

ก็นึกว่าจะไม่รู้สึกอะไร

 

“นน แล้วถ้ากุบอกว่ามึงไม่ได้กำลังจะฉวยโอกาส เพราะกุอนุญาติให้มึงทำทุกอย่าง ตามที่มึงต้องการ มึงจะช่วยกุมั้ย” เขาเริ่มพูดทั้งๆที่อยู่ในวงแขนของมัน ก่อนจะดันตัวเองมาสบตากับแอลฟ่าที่ลอบกลืนน้ำลายเมื่อได้ยินข้อเสนอ

 

“มึงแน่ใจเหรอวะบอส”

 

เหอะ พ่อคนดี

 

เขายิ้มมุมปาก คลายมือที่กำผ้าห่มไว้นิดนึง ก้มลงมองตัวเอง ก่อนจะส่งสายตามองไปที่บางส่วนที่นูนเด่นของคนตรงหน้า

 

“ดูจากสภาพกุกับมึง กุว่ากุแน่ใจนะ นอกสะจากว่ามึงไม่อยาก”

 

เห็นไอนนมันกลืนน้ำลายอีกครั้ง เขาก็ได้แต่สงสัยว่า มันไปเอาน้ำลายมาจากไหนมากมาย ป่านนี้ปากยังไม่แห้งอีกเหรอ

 

“มึงแน่ใจนะบอส มันไม่ได้เกี่ยวว่ากุอยากหรือไม่อยาก สิ่งที่สำคัญกับกุ คือความรู้สึกมึงหลังมึงหมดช่วง heat ไม่ใช่อะไรที่มึงบอกกุตอนนี้”

 

แม่ง

 

หงุดหงิดมาก

 

เขายกมือขึ้นผลักไอนน จนมันหงายหลังไป พอให้เขามีพื้นที่ในการลุกขึ้นยืน เขากระชับผ้าห่มรอบตัวแล้วก้มลงมองไอนนอีกครั้ง

 

“อย่าแสร้งทำตัวเป็นคนดีเลยว่ะ ที่ผ่านมาแอลฟ่าอย่างมึงไม่เคยสนใจที่กุพูดที่กุบอกสักอย่าง วันนี้อยู่ดีๆมาบอกเป็นห่วง มาบอกว่าสนใจความรู้สึกกุ มึงบอกกุมาตรงๆเลยดีกว่า ว่ามึงรังเกียจ ว่ามึงเกลียดกุ และต่อให้กุเป็นโอเมก้าในช่วงติดสัดที่กำลังร้องขอให้มึงนอนกับกุ มึงก็ยังไม่อยากยุ่งกับกุ”

 

ตะโกนใส่หน้ามัน มันก็ไม่เถียงอะไร

 

บอกแล้ว เกิดเป็นโอเมก้ามันน่าสมเพช

 

“มึงกลับไปเหอะนน กุช่วยตัวเองได้”

 

เขาไม่รอให้ไอนนขยับหรือตอบ ตัดสินใจเดินจากมา เดินกลับมาที่ห้องนอนตัวเอง โยนผ้าห่มทิ้ง ล้มตัวลงนอน ซุกหน้าลงกลับหมอนแล้วร้องไห้ในแบบที่เขาไม่ได้ร้องมานาน

 

เขาเกลียด

 

เกลียดแอลฟ่าโอเมก้า

 

เกลียดไอนน

 

เกลียดตัวเอง

 

“กุขอโทษนะบอส” พลันได้ยินเสียงใครบางคน เขาไม่ทันจะได้หันไปด่า ตัวเขาก็ถูกดึงขึ้นมานั่ง ก่อนที่ริมฝีปากจะถูกบดจูบ ความคิดแวบเข้ามาในหัวว่าอยากจะใช้สองมือออกแรงผลัก แต่มือแกร่งที่กำลังลูบไล้ไปตามแผ่นหลังทำให้เขาล้มเลิกความตั้งใจ

 

แอลฟ่า

 

สัมผัสจากสองมือเริ่มหนักหน่วงพอๆกับการกดจูบตามริมฝีปากและข้างแก้ม

 

รู้ตัวอีกทีเขาก็แทบจะขึ้นไปนั่งคร่อมตักไอนน สองมือยึดเสื้อนักเรียนมันไว้ประหนึ่งมันจะหนีเขาไปไหน

 

นนผละริมฝีปากจากไป ยอมให้เขาได้หายใจได้สะดวก เปลี่ยนเป็นสัมผัสจากมือที่ข้างแก้ม ลูบผ่านรอยน้ำตาเมื่อครู่ เขากระพริบตามองคนตรงหน้าที่ใบหน้าแดงเถือกไม่ต่างจากเขา ชุดนักเรียนที่มันสวมอยู่ยับย่น ไม่ต้องทายก็รู้ว่าฝีมือใคร ในขณะที่ตัวเขา…

 

นั่งเปลือยอยู่บนตักมัน

 

โอ้

 

เหมือนไอนนมันจะรู้ว่าเขาคิดอะไร เพราะอยู่ดีๆมันก็ฉีกยิ้มกว้างใส่เขา

 

โคตรเขินเลย

 

แต่ก็โคตรรู้สึกดี ที่ร่างกายตัวเองทำให้แอลฟ่ายิ้มได้

 

เขาโน้มตัวเข้ากอดไอนน เอาคางซุกตรงคอ เขินจนไม่อยากให้มันเห็นหน้า ไม่กล้าสบสายตา ได้แต่หายใจเอาฟีโรโมนแอลฟ่ามาช่วยบรรเทาความเขินนี้ ไอนนมันก็หัวเราะจนเขารู้สึกได้ก่อนที่มันจะเอนตัวเขาให้นอนหงายลงกับเตียงโดยมีมันคร่อมตัวเขาไว้

 

“บอส เป็นของกุนะ” สายตามันจริงจัง จริงจังจนความบอสในตัวเขาอยากจะเอาชนะความโอเมก้าแล้วตอบประโยคนี้ว่า ไม่

 

แค่ครั้งนี้

 

มันหมายถึงครั้งนี้

 

เขาหายใจเอาอากาศเข้าเต็มปอด หลับตาลงแล้วพยักหน้าตอบรับคำแอลฟ่า

 

แอลฟ่าของเขา

 

เขาไม่เคยรู้หรอกนะว่าการมีกับไม่มีแอลฟ่าอยู่ด้วยเวลาที่โอเมก้าอยู่ช่วงheatมันจะต่างกันยังไง หมายถึง รู้จากประสบการณ์ตรงหน่ะ จริงอยู่ที่เขาเคยค้นดูข้อมูลแล้วได้อ่านคำตอบไปในทางเดียวกันจากปากโอเมก้า

 

แต่ถ้าถามว่าเขาอ่านแล้วเชื่อไหม ขอตอบเลยว่าไม่

 

มันดูเหมือนการสะกดจิตหมู่

 

ว่าโอเมก้าต้องมีแอลฟ่าดูแลนะ พวกแกจะผ่านช่วงheatไปแบบลำบากลำบนถ้าพวกแกไม่ไปนอนอ้าขาให้แอลฟ่าสักคนช่วย ต่อให้เหมาเซ็กทอยมาหมดตลาดก็ไม่มีอันไหนจะเทียบกับknotของแอลฟ่าได้

 

คือ เขาไม่เข้าใจ และไม่คิดว่าวันนึง หรือคือวันนี้ เขาจะได้เข้าใจ

 

จากแผนที่เขาว่าจะฝืนข่มตานอนให้พ้นตลอดช่วงheat กลายเป็นตอนนี้มีแอลฟ่าที่คอยปรนเปรอต่อความต้องการเขา

 

ปรนเปรอ คำนี้แหละ

 

ทั้งฟีโรโมนที่แสดงออกถึงการปกป้องดูแล ที่สามารถคุมให้สัญชาติญานโอเมก้าในตัวเขาสงบลงได้

 

ทั้งมือที่ลูบไล้ไปตามตัวเขา บ้างกอบ บ้างเค้น บ้างคลึง หนักบ้างเบาบ้างแล้วแต่จุดสัมผัส

 

ทั้งริมฝีปากที่พรหมจูบไปทั่ว

 

ทั้งนิ้วและลิ้น ที่เขาคงไม่ต้องบรรยายว่าไอนนมันใช้ทำอะไร

 

จากการนอนหอบเหนื่อยและหงุดหงิด กลายเป็นการนอนสำลักความสุขและความอิ่มเอม

 

ไม่อยากจะคิดว่าเป็นตัวเขาเองที่กำลังร้องครวญครางพร่ำเรียกชื่อไอนน อ้อนวอนขอให้มันทำอะไรต่อมิอะไร สองมือโอบรั้ง สองขาเกาะเกี่ยว สะโพกยกขยับตอบรับกับจังหวะของอีกฝ่าย

 

แต่จะไม่คิดว่าเป็นตัวเองได้ไง ในเมื่อ แอลฟ่าที่คร่อมร่างเขาอยู่ พร่ำเรียกชื่อเขาอยู่ตลอด

 

พลันความคิดทุกอย่างหยุดชะงัก เมื่อเขารู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

 

ความบอสในตัวเขาโดนความโอเมก้าผลักกระเด็น

 

knot!

 

alpha knot!

  

please

  

i’m ready

 

I’m yours.

  

Fill me.

  

I want it,

  

please.

 

“บอส…” อื้อ มึงไม่ต้องเรียกชื่อกุก็ได้นน กุจำชื่อตัวเองได้ แค่คิดนะ ไม่ได้พูด กำลังง่วนกับการซุกหน้าเข้ากับซอกคอชื้นเหงื่อของมันอยู่

 

เขารู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อที่เกร็งเขม็ง

 

คือ มึงควรจะฟินมั้ย มึงเกร็งเชี่ยไร เขานี่ที่รู้สึกแน่น คับ ประหนึ่งว่าร่างกายจะฉีกขาด จะนึกจะพูดอะไรก็สับสนไปหมด เหมือนว่าระบบควบคุมร่างกายเสียศูนย์ วงจรช๊อต รู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อบางส่วนที่เกร็งกระตุกถี่ๆ

 

“...มึงเจ็บรึเปล่า?”

 

ฟังคำถามแล้วความบอสในตัวก็อยากจะตอบไอนนมันนะ แต่ไม่ไหวจริงๆ ความโอเมก้ามันไม่ยอม เขาเลยเลือกที่งับเบาๆไปบนบ่าของไอนนมันแทน

 

คือมึงโดดเรียนวิชาสุขศึกษาตอนเรียนเรื่องเพศศึกษาของแอลฟ่าโอเมก้าใช่มั้ยมึง

 

แต่นั่นแหละ จังหวะที่เขางับมันเล่นๆ knotมันก็ขยายเต็มที่ ทำให้ตอนนี้เขาคงต้องค้างเติ่งอยู่กับมันไปสักพัก แค่คิดสภาพตัวเองก็...

 

ไอนนขยับ

 

แล้วบางส่วนของมันก็ดันเลื่อนไปโดนบางจุดในร่างกายเขา รู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านกระดูกสันหลังขึ้นมา ทำให้เขาเผลอกัดบ่ามันแบบจริงจัง

 

แล้วรีเฟล็กส์ต่างๆก็ตามมา

 

พอเขากัดมันแรงขึ้น ไอนนมันเจ็บ มันก็เผลอขยับตัวกระแทกเข้ามาอีก พอมันโดนจุดนั้นอีก คราวนี้ร่างกายเขาก็เกร็งเขม็งทุกส่วน ทำให้….

 

นั่นแหละ

 

เขาอยากจะร้องไห้ สายธารอุ่นร้อนที่หลั่งไหลเข้ามาในตัวช่วยผ่อนคลายความเกร็ง ความโอเมก้าคือยินดีปรีดามากกับการได้รับน้ำเชื้อจากแอลฟ่า

 

ส่วนความบอสอยากจะร้องไห้

 

ห้ามลืมกินยา ห้ามๆๆๆๆๆ ท่องไว้ ห้าม

 

แล้วที่ท่องๆอยู่ก็สติกระเจิงด้วยมือของไอนนที่เข้าสัมผัสส่วนอ่อนไหวของเขา

 

หือ?

 

ไอนนก็เป็นแอลฟ่าที่ดีนะ ความโอเมก้าให้คะแนนไอนนเกินสิบจากเต็มสิบไปแล้ว

 

ส่วนความบอสก็ได้แต่คิดว่า ถ้าโอเมก้าไม่หลั่ง เวลาknotก็จะยาวขึ้น มันก็คงแค่อยากทำให้จบๆไป

 

แล้วทั้งความบอสความโอเมก้า ก็หายไปพร้อมกับการปลดปล่อย

 

เขาตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะความเย็น พอลืมตาขึ้นมาก็เจอไอนนยิ้มแหยๆ มือมันถือผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดที่ดูเหมือนว่าจะเป็นต้นตอความความเย็นที่ปลุกเขาขึ้นมา

 

“มึงเป็นไงบ้างวะบอส”

 

เขามองไอนนที่กลับมาสวมเสื้อนักเรียนยับๆของมัน แล้วยกหัวขึ้นมองสภาพตัวเอง

 

ดูเหมือนว่าไอนนจะเช็ดตัวให้เขาแหะ

 

ก็ดีนะ ดีขึ้นเยอะอ่ะ

 

“กี่โมงแล้ววะ”

 

“บ่ายสามครึ่ง นี่มึงหิวป่ะ หรือหิวน้ำมั้ย มึงกินอะไรรึยังตั้งแต่เช้า” เขาเห็นไอนนแสดงความเป็นห่วงแล้วก็อดข้องใจไม่ได้

 

โทษทีนะ ตอนนี้ความโอเมก้ายังไม่ตื่น

 

“ทำไมมึงยังทำดีกับกุอีกวะ มึงจะทำอย่างงี้ไปเพื่ออะไรวะนน”

 

เท่านั้นแหละ ไอนนชะงัก แววตามันแสดงออกว่าเจ็บปวดชัดเจน

 

นี่ถ้าไม่ได้พึ่งมีเซ็กซ์กับมัน เขาคงจะสงสัยว่าไอนนมันเป็นแอลฟ่าแน่รึเปล่า โอเคละ เขายังรู้สึกตึงๆเพราะknotมันอยู่เลย เพราะงั้นอันนี้คงไม่ต้องถาม

 

“บอส กุต้องทำยังไงวะ มึงถึงจะเลิกสงสัยว่าที่กุทำดีกับมึง เป็นเพราะกุมีแผนอะไร”

 

เขาอยากจะเชื่อมันนะ

 

แต่ตอนนี้ความโอเมก้าตื่นแล้ว แถมกำลังโมโหความบอสที่ทำอะไรให้แอลฟ่าของเขาไม่พอใจ

 

แอลฟ่าของเขา

 

ไอนน

 

“กุหิวข้าว” เขาเบือนสายตาไปจากไอนน พยายามลุกขึ้นนั่ง

 

“มึงช่วยหยิบเสื้อผ้าให้กุหน่อย” ไอนนฟังคำขอที่ติดออกจะสั่งด้วยความงง แต่มันก็ทำตามโดยดี พอเขารับมาใส่ เขาก็เตรียมลงไปหาอะไรกิน

 

แต่พอเดินไปถึงประตู เขาก็หันกลับมามองที่ไอนน คนที่มองตามการกระทำเขาทุกอย่างแต่ไม่เอ่ยทักอะไร

 

“มึงจะกินด้วยกันมั้ยอ่ะ กุจะได้อุ่นเผื่อ” ไอนนดูไม่แน่ใจ แต่ก็พยักหน้า

 

แล้วมันก็เดินตามเขาลงมาที่ครัว แล้วก็นั่งกินข้าวด้วยกันเงียบๆ

 

เขาชอบกลิ่นไอนนมันนะ ไม่รู้เพราะมันเป็นแอลฟ่า หรือเพราะเขาพึ่งผ่านอะไรๆกับมันมา แต่ตอนนี้เขากำลังรู้สึกดีเลยไม่อยากคิดอะไรมาก

 

พอกินเสร็จก็เก็บจานชาม มองดูเวลาก็ยังไม่ถึงเวลาที่พ่อแม่เขาจะกลับบ้าน แล้วพอหันมามองดูไอนน ก็เห็นมันนั่งเจี๊ยมเจี้ยมเป็นหมาหงอย

 

“นน” พอเรียก มันก็เงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา

 

“เมื่อกี้กุขอโทษนะ แล้วก็ขอบคุณด้วย” แววตาเศร้าๆเปลี่ยนเป็นดีใจทันที

 

“มึงไม่โกรธกุจริงๆใช่มั้ยวะ บอส” อื้อหือ ดีนะ มีแอลฟ่าที่หงอให้โอเมก้า

 

“ไม่อ่ะ เมือ่กี้กุงี่เง่าเอง” เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปหามัน เห็นไอนนมีสีหน้าดีขึ้น แถมถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

มันเป็นความรู้สึกที่ดีนะ เวลามีแอลฟ่ามาห่วงใยเราจริงๆ

 

“แล้วนี่มึง ต้องรีบกลับป่ะ” พอเขาถาม ไอนนก็หน้าเสียไป หืม? มันคงคิดว่าเขาไล่

 

เขาแอบพ่นลมหายใจเพราะขำกับท่าทีของมัน ก่อนจะยกมือไปจับปลายเสื้อนักเรียนไอนน มองความยับของเสื้อ มองดูมือตัวเอง

 

“ถ้ามึงไม่รีบ กุ ยังอยากขอให้มึงช่วยอีก”

 

คราวนี้พอเขาเลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้าของแอลฟ่าตรงหน้า ก็เห็นว่าจากหน้าเศร้าๆหงอยๆ กลายเป็นใบหน้าเปื้อนยิ้ม

 

มันดีอย่างที่เขาว่าจริงๆด้วย เวลาที่มีแอลฟ่าคอยดูแล

 

นั่นคือความคิดของความโอเมก้าในตัวเขา

 

ในขณะที่ความบอส กำลังคำนวนการให้คะแนนไอนนใหม่อยู่ ว่าเต็มสิบควรให้เท่าไหร่ดี

 

.

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว