บทที่ 1
เหยื่อโง่หรือเหยื่อฉลาด
ความรักนั้นแฝงอะไรไว้มากมายนัก เมื่อมีความรักก็ย่อมจะทำอะไรที่มันดูโง่ และถ้าในความโง่นั้นมันซ่อน มันแฝงอะไรซักอย่างมันจะเป็นอย่างไร …..
“ท่านครับ มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาขอพบครับ เธอไม่ได้บอกว่ามาด้วยเรื่องอะไร”
ลันโตลูกน้องคนสนิทรีบเข้ามารายงานเจ้านายหนุ่ม เมื่ออยู่ดีๆก็มีสาวสวยเซ็กซี่นางหนึ่งเข้ามาขอพบเจ้านายของเขา จะว่าเป็นสาวๆ ของเจ้านายก็คงไม่ใช่ เพราะเค้ามีความรู้สึกว่าไม่เคยเห็นหน้าเจ้าหล่อนเข้ามาใกล้ท่านเล็ตเลโอ วิทรี่ ทรานต์ ดาฟ ของเค้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ใคร…! ทำไมแกไม่ดูดีๆ”
น้ำเสียงเย็นเยือกแฝงไปด้วยอำนาจดังขึ้น เมื่อมีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาของพบเขาตอนนี้ เพราะอารมณ์เจ้าตัวมันไม่ได้เอื้ออำนวยเท่าไร ผลนั้นมาจากเรื่องการขนของเถื่อนที่ไม่เป็นไปตามความต้องการซึ่งความผิดนั้นตกไปอยู่ที่ลูกน้องทั้งหมดที่ทำให้มันเกิดขึ้น
“ไม่ ตอนนี้ไม่พบใครมันทั้งนั้นแหละ ไม่มีอารมณ์”
“แต่เธอบอกว่า…”ลันโตกำลังจะเอ่ยบอกอะไรบ้างอย่างกับเจ้านายหนุ่ม แต่น้ำเสียงฟ้าคำรามก็ดังขึ้นมาก่อน นั้นทำให้เขาถึงกับสะดุ้ง
“ฉันว่า... บอกคำเดียวแกน่าจะรู้เรื่องนะลันโต!”
เท่านั้นแหละลูกน้องคนสนิทจึงรีบหันหลังกลับเดินตรงไปยันหน้าประตูเพื่อบอกแขกสาวว่าเจ้านายหนุ่มของเข้ายังไม่พร้อมจะพบใครในตอนนี้ วันนี้ นาทีนี้ และวินาทีนี้ แล้วถ้าเขายังคงกล้าขัดคำประกาศิต ระเบิดได้ลงใส่หัวเขาเองแน่ๆ
“เออ…ขอโทษนะครับ คือ…ตอนนี้ท่าน เล็ตเลโอไม่สามารถให้คุณเข้าพบได้ครับ”
ลันโตเดินเข้ามาบอกกับสาวแสนเซ็กซี่ที่มาขอพบเจ้านายหนุ่มในวันนี้ เจ้าหล่อนหันกับมาตอบเขาว่า
“อืม…อย่างนั้นเหรอ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันขอตัวก่อนแล้วกันค่ะ ขอบคุณนะคะ”
เธอกำลังจะหันตัวเดินออกไป แต่อะไรก็ไม่รู้กับทำให้ลันโตรั้งหญิงสาวไว้ พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้กับเธอใหม่
“คะ…คุณพอจะมีนามบัตรไหมครับ เออ…คือผมจะได้ให้ท่านเอาไว้ให้ติดต่อกลับไปหาคุณในภายหลังครับ”
ได้ยินดังนั้นสาวสวยสุดเซ็กซี่จึงก้มลงหยิบนามบัตรส่วนตัวในกระเป๋า แล้วส่งให้กับชายหนุ่ม พร้อมทั้งมีความเชื่อมั่นว่าเมื่อเขานำไปส่งให้ชายหนุ่มภายในห้องที่เขานั้นพึ่งเดินออกมาเธอมั่นใจว่าจะต้องได้รับข่าวดีแน่นอน
“ครับ”
ลันโตตอบรับพร้อมกับรับนามบัตรขึ้นมาดู แล้วจึงเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณ กาเดียตาร์ อัลบาร์เดอร์”
“ค่ะ”
เธอตอบรับพร้อมทั้งยิ้มให้ลูกน้องคนสนิทของสุดที่…เธอได้แต่คิดในใจ แล้วจึงหันหลังเดินออกมา ได้แต่ปล่อยให้ลันโตมองหญิงจนลับหลังไปกับเจ้านายของเขาที่ยังหงุดหงิดจนไม่อยากพบเธอ แต่คนอย่าง กาเดียตาร์ อัลบาร์เดอร์มั่นใจว่าอีกไม่นาน เล็ตเลโอก็ต้องติดต่อกับมาอย่างแน่นอนหรือถ้าเขาไม่คิดจะสนใจเธอ เธอก็มีแผนสำรอง
“แล้วเราจะได้เจอกัน เล็ตเลโอ วิทรี่ ทรานต์ ดาฟ”
2เดือนผ่านไป…
ตูม!!! ปัง!! ปัง!! เสียงระเบิดบวกกับเสียงปืนดังขึ้นทั่วท้องถนน ที่ไกลออกมาจากตัวเมือง ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เกิดการทำสงครามระหว่างสองแก๊ง แก๊งอาแรนเย่ แก๊งแมงมุมของ เล็ตเลโอ กับอีกแก๊งแบสติออลแก๊งแมลงปีกแข็งของ อเล็กซ์
บึ้ม!! บึ่ม!! ฝ่ายของแก๊ง อาแร่นเย่ ปาระเบิดใส่แก๊งคู่อริต่างฝ่ายต่างสู้กันอย่างเมามันเพราะไม่มีใครยอมใคร สู้กันทั้งเจ้านายและลูกน้องของตนเอง
ทางด้าน เล็ตเลโอก็กำลังสู้กับคู่อริอับดับหนึ่งอย่าง อเล็กซ์ ดิสันไม่มีซะหรอกที่ทั้งสองจะยอมให้กัน ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ต่อให้ต้องตายกันไปข้างก็ไม่มีวันยอมเสียหรอกสำหรับสองแก๊งนี้
“มึงมันโง่เอง ที่ไม่คุ้มกันให้ดี มึงก็น่าจะรู้ว่าอะไรที่เป็นความพินาศของมึงกูทำหมด”
อเล็กซ์พูดใส่หน้าศัตรูอันดับหนึ่งแล้วจึงปล่อยหมัดใส่คางสากเข้ารูปของเล็ตเลโอไปเต็มๆหมัด ทำให้เล็ตเลโอหงายแผ่นหลังกระเทือกกับพื้นถนน แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เจ้าพ่ออย่างเขาเจ็บได้ ถึงแม้ว่าตามร่างกายของพวกเขาจะเต็มไปด้วยบาดแผลชะกัน
“ไอ้…อเล็กซ์ มึง!” เจ้าพ่อหนุ่มเหวี่ยงหมัดใส่คู่อริอย่างไม่ยั้ง
“หึ..หึ..” อเล็กซ์ยังสามารถหัวเราะขึ้นมาได้ในสถานะการอย่างนี้
ด้านอเล็กซ์ถึงแม้ว่าจะโดนเล็ตเลโอเหวี่ยงหมัดใส่ไปจนมึนแต่ก็ยังไม่วายหัวเราะกวนประสาทใส่เจ้าพ่อหนุ่มอีก ทำเหมือนว่าไม่ได้สะทบสะท้านเลย
“เผียะ…เผียะ”เสียงหมัดยังคงดังอย่างต่อเนื่องต่างคนต่างเลือดขึ้นหน้าแล้ว
“ตูม…ตูม ปัง!! ปัง!!” การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ กระสุนพุ่งใส่กันไปมา แต่การบาดเจ็บดูจะไม่ค่อยมากนักเท่าไร เพราะต่างฝ่ายไม่ได้ตั้งใจจะเอากันให้ถึงชีวิต เพียงต่างต่อสู้กันเพื่อเรียกความสนุกกับกลิ่นคาวเลือดเล่นๆเท่านั้น สำหรับพวกโรคจิตบ้าเลือดอย่างพวกเขา
ทุกอย่างเงียบลงภายในสองชั่วโมงให้หลัง เนื่องจากหัวหน้าแก๊งของพวกเขาต่างก็เหนื่อยจากการต่อสู้ในครั้งนี้ เนื่องจากปล่อยหมัดแลกหมัดกันมาหลายชั่วโมง จนได้บาดแผลกันไปทวนหน้า
“ตึก…ตึก…” ลันโตรีบวิ่งมาดูเจ้านายหนุ่มเมื่อเห็นว่าการต่อสู่ของหัวหน้าของพวกเขาจบลง
“ท่าน! ท่าน! เป็นยังไงบ้างครับ” ลันโตวิ่งมาถึงก็ก้มตัวถามเจ้าพ่อหนุ่มด้วยความเป็นห่วง แต่ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรเขาเอาแต่เงียบอย่างเดียว จากนั้นจึงลุกขึ้นหลังจากที่จบการต่อสู้ในครั้งนี้
“ไป กลับกันได้แล้ว” มาเฟียหนุ่มตะโกนสั่งลูกน้องที่เหลือที่ทำท่าจะสู้กันต่อแต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อคำประกาศิตของเจ้าพ่อดังขึ้น
“ไปส่งฉันที่คอนโด แล้วโทรฯบอกริต้าด้วยให้มาหาฉันที่ห้อง”
“ครับ”
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
“อืม… อืม…”
ใบหน้าคมเข้มของเล็ตเลโอโน้มลงต่ำ ริมฝีปากของเขาแนบชิดเข้ากับริมฝีปากเล็กของนางแบบสาว จูบคลึงเคล้าบดเบียดด้วยความเร่าร้อน ส่งปลายลิ้นหนาเข้าสำรวจลิ้นเล็กเพื่อดูดหาขนมแสนหวาน ซอกซอนเกี่ยวพันดึงรั้งลิ้นเล็กดูดเข้าออก ลิ้นแสนชำนาญกวาดไล่ไปทั่วช่องปากหวานหอม ฝ่ามือหนาก็รูปไล้ไปตามส่วนโค้งส่วนเว้า ส่งผลให้นางแบบสาวรู้สึกวาบหวาน ร้อนรุ่ม ระริกไหวด้วยความเสียวซ่าน
“เล็ตเลโอขา…ช่วยริต้าหน่อยค่ะ ริ…ริต้าไม่ไหวแล้วค่ะ”
นางแบบสาวเริ่มเสียวซ่าน เร่าร้อนมากขึ้น เมื่อหนุ่มนักรักนิ้วมือเริ่มไม่อยู่นิ่ง เขาเริ่มเล่นเกมปูไต่ไปตามเนื้อตัวของนางแบบสาว นิ้วสวาทเลื่อนลงไปเรื่อยๆจนเลยไปถึงสวนดอกกุหลาบช่ำซึ่งมีน้ำแสนหวานหลั่งออกมาตามลำดับ ซึ่งร่ากายหนาทำปฏิกิริยาตามกฎธรรมชาติที่ได้รับมาอย่างมากล้นของบุรุษเพศ
“อ๊า…อ๊า…อืม… เล็ตขา…อย่าแกล้งริต้าสิคะ ไม่ไหวแล้ว…อืม... ”
เสียงเสียวสาวดังขึ้นเมื่อมีพ่อมาเฟียหนุ่มเป็นผู้กุมเกมสวาทนี้
“ริต้าทำไมคุณเร่าร้อนนี้หือ” เล็ตเลโอพูดขึ้น ส่วนนิ้วร้ายกาจกับทำหน้าที่อย่างรู้งานดันเข้าออกอยู่ตรงหลุมดอกกุหลาบงามซึ่งมีน้ำหวานไหลออกมาเป็นจำนวนมาก เมื่อมาเฟียหนุ่มไม่สามารถทดรับแรงสวาทครั้งนี้ได้อีกแล้ว
จึงจับแก่นกายที่กำลังพร้อมรบในครั้งนี้ ดันแล้วกดใส่หลุมกุหลาบหวาน ยามที่เขาชำแรกแก่นกายเข้าไปในหลุมกุหลาบสวย
ค่อยๆ ขยับเข้าออก เมื่อเริ่มเข้าทางแล้วจึงขยับด้วยความถี่เร็ว ปากหนาแสนร้อนกลืนกินปลายถันไม่ยอมหยุด สร้างความเสียวซ่านให้นางแบบสาวขึ้นไปอีก แล้วจึงระรัวปลายลิ้นที่ตุ๋มไตแข็งชัน นางแบบสาวบิดกายรับความกระสันที่พ่อมาเฟียกำลังทรมานเธอทั้งส่วนบนและส่วนล่าง
“เล็ตขา…” เสียงครางดังกระเส่า ยามที่มาเฟียหนุ่มส่งจังหวะเข้าหาช้าๆเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นจังหวะที่เร็วรี่ กระชั้นถี่มากขึ้นเรื่อยๆเอวสอบทำงานอย่างหนักหน่วง ร่างกายสาวสะท้านขึ้นลงและกระเพื่อมไหวบนที่นอนมือเล็กยืดลำแขนหนไว้หนา ปากสวยส่งเสียงครางกระสันไม่หยุด ยกสะโพกลอยเด่นรับจังหวะกระโจนหนักหนากระชั้นชิดจากมาเฟียหนุ่ม เล็ตเลโอจึงเพิ่มแรงกระแทกลงไปอีก
“อืม…อืม…อ๊า…” แรงสุดท้ายจึงถูกส่งให้สาวใต้ร่างอย่างเต็มที่ เตียงขนาดคิงไซร์เริ่มสั่นไหวตามแรงโยกไหวมากขึ้น จนเกิดเป็นเสียง
“อ๊า…!!!”เสียงแห่งความเสียวซ่านถูกส่งออกมาจากปากหนาตามด้วยเสียงประสาของนางแบบใต้ร่างหนา เสร็จกิจกามเล็ตเลโอจึงถอดแก่นกายที่มีเครื่องป้องกันออกจากหลุมกุหลาบงามสำหรับเค้าในคืนนี้ออก แล้วจึงรุกออกจากในเตียงเดินตรงไปยันห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย โดยทิ้งนางแบบสาวสวยไว้บนเตียงหนานุ่ม