“ไอซ์ซึ ช่วยดูเครื่องของรถหน่อยนะ พอดีพี่จูนให้มันไม่กินน้ำมันแล้วเครื่องไม่แรงอ่ะ”
เสียงของหวังจุนไคพูดกับน้องสาวคนเล็กของทีมรถแข่ง ทีมนี้มีทั้งหมด4คนด้วยกันคือ
1หวังจุนไค พี่ใหญ่สุดเป็นหัวหน้าทีมแข่งรถ ดูแลเรื่องการจูนเครื่องให้เหมาะสม
2หวังหยวน น้องชายคนถัดมา ดูแลเรื่องความเร็วของรถ การเกาะถนนของยาง
3อี้หยาง เซียนซี น้องชายคนที่3 อายุเท่ากับหยวนแต่เกิดทีหลัง เป็นคนที่สำคัญอันดับ2เพราะเป็นนักแข่งประจำทีม
4อี้หยาง ไอซ์ซึ สาวน้อยเล็กสุดในทีม ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการดูแลเครื่องยนต์ให้มีความเร็วแต่ปลอดภัย
พวกเขาทั้ง4คนคือ ทีมแข่งรถ The fitting G-Boys
หรือฉายาของพวกเขา “นามแห่งศรัทธา”
“พี่ว่าอะไรนะเสี่ยวไค”
“พี่บอกว่าให้เราดูเครื่องให้พี่หน่อย”
“มันเป็นอะไรหรอเสี่ยวไค” เสียงหยวนพูดขึ้น
“คือฉันจูนเครื่องเพื่อให้มันประหยัดน้ำมันอะ แต่พอให้เซียนลองแล้วความเร็วลดลงมากเลย”
“มาพี่เดี๋ยวฉันสอนการปรับให้ ว่าแต่เมื่อกี๊พี่ได้จูนอะไรอีกไหมนอกจากน้ำมัน”
“ก็ไม่นะ จูนแค่น้ำมันอย่างเดียว”
“เวลาที่พี่ปรับหรือจูนเครื่องอะ พี่ต้องล็อคสิ่งที่พี่ไม่ต้องการปรับก่อน ไม่งั้นมันจะกลับคืนค่าเริ่มต้น” เธอพูดไปพร้อมกับปรับล็อคการจูนทุกอย่างยกเว้นความเร็ว และสอนเสี่ยวไคไปในตัว
“อะ เสร็จแล้ว ทีนี้รถของพวกเราก็จะทั้งเร็วแรงและประหยัด”
“ทุกคน กับข้าวเส็ดแล้ว มากทานข้าวกัน” เสียงเซียนซีดังขึ้น พวกเขาทั้ง3จึงเดินขึ้นไปบนรถที่พักของพวกเขา
“วันนี้ทำอะไรกับเครื่องล่ะ”เซียนซีเป็นบทสนทนา
“อ๋อ ก็พี่เสี่ยวไคอะดิ จูนเครื่องไม่ปรึกษาเค้าเลย” ไอซ์ซึตอบเซียนซีไปอย่างเพลียๆ
“ฮ่าๆ ก็คนมันไม่รู้อ่า จะให้พี่ทำไง”เสี่ยงเสี่ยวไคพูดอย่างเขินๆ
“ไม่รู้ก็ถาม ไม่เห็นจะยากเลย เน้อไอซ์ซึ”หยวนพูดพร้อมกับหันไปหาน้องสาวคนเดียวในทีม
“เอาล่ะๆ คุยกันพอละ กินข้าวเถอะ”ไอซ์ซึหยุดบทสนทนานั้นไว้แล้วกินข้าวต่อ ทั้งหมดกินข้าวกันอย่างสนุกสนาน เมื่อกินเส็ดวันนี้เป็นคิวของเสี่ยวไคและไอซ์ซึต้องเป็นคนเก็บจานและล้างจาน ส่วนเซียนซีและหยวนก็ออกไปนั้งดูดาวด้วยกัน[ทำอย่างกับเป็นคู่รัก555]
เรามาดูทางฝังเสี่ยวไคไอซ์ซึกันดีกว่า
“ไอซ์ซึ”
“คะ”
“เธอคิดยังไงกับพี่”
“ก็รักพี่ แบบที่พี่น้องเค้ารักกัน”
“ถ้าพี่คิดกับเธอมากกว่าพี่น้องล่ะ”
คำพูดนี้ทำให้ไอซ์ซึสะดุดเล็กน้อย
“ฉันรู้ว่าพี่คิดยังไงกับฉัน แต่ว่าเรื่องนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้ ฉันรักพี่แค่พี่ชาย”
“พี่ตัดใจไม่ได้”
“อย่าทำลายคำว่าพี่น้องเลยพี่ รักกันแบบพี่น้องยังยืนยาวกว่ารักแบบนั้นอีก เชื่อฉัน สักวันพี่จะทำได้”
‘ถึงทำได้พี่ก็ไม่ทำ’เสี่ยวไคคิดในใจ ตอนนี้เขาทั้งคู่ก็ล้างจานเส็ดแล้ว ไอซ์ซึจึงขอตัวไปนอน ทำให้เสี่ยวไคเดินออกมานั่งกับเซียนซีและหยวน
“เสี่ยวไค”หยวนเปิดบทสนทนา
“หื้ม”
“นายคิดยังไงกับน้องสาวฉันกันแน่”คราวนี้เป็นเซียนซีที่พูดขึ้น เขาทั้ง2ได้สังเกตพฤติกรรมของเสี่ยวไคมาตลอดจนวันนี้
“ฉันเอ่อ......”เสี่ยวไคเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“พูดมาเถอะ”
“ฉันรักน้องสาวนาย”
“ฉันว่าเรื่องนี้ฉันไม่ควรยุ่ง ขอตัวไปนอนก่อนนะ”หยวนพูดขึ้น
“เธอรู้เรื่องหรือยัง”
“รู้แล้ว”
“นายรักเธอตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ฉันก็ไม่รู้ รู้อีกทีก็รักไปแล้ว”
“นายยังไม่รู้หรอ”
“รู้อะไร”
“เธอกับหยวนคบกัน”
“หรอ”
“ใช่”
“เอาล่ะ ฉนรู้สึกง่วงแล้ว ฉันไปนอนก่อนนะ ส่วนนานก็ควรจะนอนได้แล้วเพราะพรุ่งนี้เราจะไปซ้อมไปลองเครื่องกันแต่เช้า”
“อืม”
Wang Jun Kai say.
‘เธอกับหยวนคบกัน’ คำพูดคำนี้ยังติดอยู่ที่หัวผม มันเจ็บจี๊ดไปที่ใจของผม เธอคบกับหยวน ทำไมผมไม่เคยรู้ เธอตั้งใจปิดบังมันเพื่อไม่ให้ผมรู้ ผมนอนพลิกไปพลิกมา บอกตรงๆครับ ผมข่มตาให้หลับไม่ได้ พอผมหลับเสียงของเซียนซีก็ดังเข้าในหัวของผม ผมไม่อยากตัดใจจากเธอเลยครับ แต่ผมต้องทำมันจริงๆใช่ไหม
Yi Yang Qian xi say.
จริงๆแล้ว หยวนกับไอซ์ซึไม่ได้คบกันหรอกแต่ที่ผมพูดเพราะน้องขอผมไว้ เขารักเสี่ยวไคแค่พี่ชาย กับหยวนก็เช่นกัน บอกเลยน้องผมไม่เคยมีแฟนหรือมีความรักเลย เธอจริงจังกับงานมาก ตอนนี้ผมมองเสี่ยวไคนอนพลิกไปพลิกมา เขาคงนอนไม่หลับ
“นอนไม่หลับหรอ เสี่ยวไค”
“อืม”
“ขอโทษนะที่ต้องพูดความจริง”
“ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันเริ่มง่วงแล้ว ฝันดีนะเซียน”
“อืม ฝันดี”
>>วันรุ่งขึ้น<<
6:30 น.
“ตื่นได้แล้วทุกคน มีซ้อมนะ ตื่นได้แล้ว ไปล้างหน้า”
เสียงไอซ์ซึตะโกนซะลั่นรถทำให้พวกผมทั้ง3คนตื่น
“ขออีก5นาที”
เสียงหยวนและเสี่ยวไคครับ พูดขึ้นพร้อมกัน ผมจึงเดินไปปลุกเสี่ยวไคและให้ไอซ์ซึไปปลุกหยวน
“ต้าหยวน ตื่นเลยนะ วันนี้ซ้อมนะ”
“เสี่ยวไคตื่นได้แล้ว”
“ขออีก5นาทีนะไอซ์/เซียน”
ผมและไอซ์ซึมองหน้ากัน
“เฮ้ย” เสียงไอซ์ซึถอนหายใจแบเหนื่อยๆ
“ถ้าไม่ตื่นพวกเราไม่รอนะ ไปไอซ์ซึ ไปซ้อมกัน” ผมพูดพร้อมดึงมือน้องสาว
“เครๆ ฉันตื่นแล้วๆ”เสียงเสี่ยวไคพูดขึ้น
“ต้าหยวน ถ้านายไม่ตื่นก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก”
“จ้ะๆ ตื่นก็ตื่น แฟนใครเนี่ย ดุจัง”
“แฮ่ม คนนี้เสียใจอยู่ อย่าหวานกันมาก อิจฉา”
“อู้ย พ่อคุณ เวอร์ครับเวอร์”
“เหอะๆ ตลกน้อ จะไปกันได้ยัง” เสียงน้องสาวสุดโหดคนเดียวของผม จะโหดไปไหนก็ไม่รู้
“ไปครับไป”
2ชม.ผ่านไป
พวกเรามาถึงสนามแข่งที่ใช้สำหรับซ้อม ผมลองเครื่องที่น้องสาวตั้งไว้ ผมว่าเครื่องมันแรงกว่าเดิมเยอะมาก แต่หยวนเปลี่ยนยางและทำเข็มขัดนิรภัยให้ผมเลยอุ่นใจว่าอุบัติเหตุถึงจะเกิดแต่ก็ยังปลอดภัยอีกอย่างผมใส่หมวกกันน็อคด้วย
“เป็นไงบ้างเซียน”เสียงเสี่ยวไคถาม
“ก็ดี เครื่องแรกกว่าเดิมเยอะ ยางเกาะถนน เข็มขัดเข็งแรง”
“น้ำมันล่ะ”เสียงน้องสาวคนเล็ก
เซียนซีมองไปที่เข็มชี้บอกปริมาณน้ำมัน
“ประหยัดมากเลย เกือบเต็มอยู่เลย”
“ดี งั้นฉันไปพักก่อนนะ นาย หยวนและไอซ์ซึ มีใครจะไปไหม”
“ฉันกับเซียนว่าจะลองรถอีกหน่อย เผื่อเครื่องยังไม่ได้ที่จะได้ปรับ”
“นายล่ะหยวน จะเอาไง”
“พักดีกว่า พวกนายอย่ากลับเย็นก็แล้วกันนะ เซียน ไอซ์”
“ได้เลย” เซียนซีและไอซ์ซึตอบพรอมกัน
เมื่อจุนไคและหยวนกลับแล้วเซียนซีจึงพูดขึ้น
“ไอซ์ซึ พี่สอนขับดีไหม เผื่อวันนึงไม่มีพี่ เธอจะได้เป็นตัวแทนพี่”
“ก็ดี แต่พี่อย่าพูดแบบนี้อีกนะ มันเป็นลาง”
หลังจากนั้นเซียนซีก็สอนไอซ์ซึขับรถจนถึงเย็น
17:00 น.
“กลับเถอะพี่ เย็นมาแล้ว”
“อืม”
19:00 น.
“กลับมาแล้วจ้า”
“มาซะมึดเลยนะ”
“พอดีฉันพาน้องสาวตัวดีไปนั่งรถเล่นน่ะ”
“มาๆ มากินข้าวกัน”
“วันนี้นายทำกับข้าวหรอหยวน”
“ใช่สิ”
“กินได้ปะต้าหยวน”
“นี่ๆ ถึงต้าจะไม่ชอบทำแต่ต้าก็ทำเป็นนะ”
“เอาล่ะๆ เลิกแซวกันได้ละ มาๆกินข้าวๆ”
>>หวอ เจิ่น เมอะ เปี้ยน เจ้อ ย่าง<<
เสียงโทรศัพท์ของจุนไคดังขึ้น
“ใครโทร.มาอะ ไปรับดิพี่” จุนไคลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์
“ครับ หวังจุนไคพูดครับ”
[จำฉันได้ไหม]
“แกเองหรอหลิวจื่อหง”
[ใช่ ทำไมหรอ]
“แกมีอะไรก็พูดมา”
[ฉันจะท้าแกแข่งรถกับฉันโดยมีข้อแม้ว่าคนที่แข่งต้องไม่ใช่ไอ้เซียนซี]
“แล้วใคร”
[หวังหยวน]
“ทำแบบนี้มัน.....”
[ตู๊ดๆๆ.....]
“โถ่เอ้ย”
“เสี่ยวไค พี่เป็นอะไร”
“ก็ไอ้หลิวจื่อหงน่ะสิ มันขอท้าแข่งรถกับหยวน แต่เธอก็รู้ว่าหยวนน่ะ ขับไม่เก่ง”
“ขอเบอร์มันหน่อยพี่”
“09XXXXXXXX”
“เอาไปทำไมน่ะ”หยวนเปิดปากถาม ไอซ์ซึไม่ตอบแต่กดโทร.หาใครบางคน
[ว่าไงคนสวย]
“แกต้องการอะไร”
[อยากรู้หรอ ก็ถ้าไอ้หวังหยวนคนเก่งของเธอแพ้ เธอก็ต้องมาเป็น ‘เมีย’ของฉันน่ะสิ]
“แก แกกล้ามากนะ”
[เอางี้ก็ได้นะ ให้ใครก็ได้มาแข่งกับฉันเลย จะเป็นไอ้เซียนพี่ชายตัวเก่งของเธอก็ได้ แต่มันคงอาจจะไม่มีขาไว้แข่ง ตู๊ดๆๆ.....]
“มันเอาไง”
“มันบอกว่าให้ใครก็ได้มาแข่งกับมันจะเป็นพี่เซียนก็ได้แต่พี่เซียนคงอาจจะไม่มีขาไว้แข่ง”
“ช่างเถอะ เดี๋ยวเรื่องนี้พวกพี่จัดการเอง”
“นอนเถอะ”
“ค่ะต้าเก้อ ต้าหยวน”
“ฝันดีน้องสาว ฝันดีทุกคน”
“ฝันดีค่ะ”
“อืม”
2วันต่อมา
“เซียน นายทำอย่างนี้ได้ยังไง นั่นน้องสาวนายนะ นายจะยอมให้เธอเป็นเมียมันหรอ”
“ฉันไม่มีทางเลือกแล้วหยวน”
“มีสิ ฉันจะแข่งไง”
“นายคิดว่านายแข่งแล้วจะชนะหรอ นายมันกากจะตาย”
โครม!!!!!!!!!!!!!!!
“เกิดอะไรขึ้น เซียนหยวน”เสียงจุนไคดัง แต่ทั้งเซียนและหยวนไม่สนใจ
“นายกล้าผลักฉันหรอหยวน”พูดจบเซียนก็กระชากคอเสื้อหยวน
“อะไรกันน่ะ”
“ก็พี่ชายเธอน่ะสิ มันจะให้เธอไปเป็นเมียไอ้พวกนั้น”
“ฉันเป็นคนบอกเอง พี่เซียนห้ามแล้วแต่ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ทำให้พวกพี่เดือดร้อน”
“พอๆ หยุดทะเลอะกันสักที หยวนฉันรู้ว่านายห่วงเธอ เซียนซีฉันรู้ว่านายแข่งได้ นายลองลงแข่งสักหน่อยเถอะ”
“ก็ได้”เสียงเซียนซีแผ่วเบาก่อนจะเดินออกไป หยวนเดินตามไปอีกคน
“ต้าเก้อ”
“หืม”
“จำที่มันบอกไม่ได้หรอ ว่าพี่เซียนอาจจะไม่มีขาไว้แข่งอีกน่ะ”
“มันอาจจะแค่ขู่ก็ได้ ไม่มีอะไรหรอก”
ปัง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“เซียนซี!!!!”
“ไม่นะพี่เซียน พี่เป็นยังไงบ้าง”
“ขา ขาฉัน”เสียงเซียนซีเบามากจนแทบไม่ได้ยินจนจมเข้าสู่นิทรา
“เซีนซี นายอย่าหลับสิ นายอย่าหลับนะ”เสียงของหยวนสั่นเครือน้ำใสๆค่อยๆไหลออกจากดวงตา
“ละ.....เลือด ที่ขาพี่เซียนมีเลือด”
“อะไรน่ะที่ตกตรงนั้น สีดำอะ”เสียงจุนไคดังขึ้นหลังจากที่ตั้งสติได้
หยวนเดินไปหยิบขึ้นมาดูก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ปลอกกระสุนปืน”
“แล้วอย่างนี้ใครจะ....”
“ค่อยคิดเรื่องนั้น เราพาพี่เซียนไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ”
จุนไคพูดไม่ทันจบประโยคไอซ์ซึก็พูดแทรกขึ้น
1อาทิตย์ผ่านไป
เซียนซีนั่งซึมอยู่บนรถเข็น 2ข้างมีจุนไคและหยวนยืนปลอบ ข้างจุนไคมีไอซ์ซึนั่งกอดเข่าอยู่
“พี่ขอโทษนะที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เห็นทีความหวังที่เราจะชนะมันคงเป็นแค่ความฝัน พี่ไม่น่ารับคำท้ามันเลย”
“ช่างมันเถอะพี่ ถ้าไอซ์ต้องเป็นเมียมันจริงๆก็คงไม่มีใครห้ามหรือหนีความจริงได้”
“เอาล่ะ เราจะมัวมานั่งเศร้าให้มันได้อะไรขึ้นมาล่ะ ไปฉันจะไปซ้อม ลองดูสักตั้งนึง คนอย่างฉันนี่แหละที่จะชนะมัน คนกากๆอย่างหวังหยวนนี่แหละที่จะชนะมาเฟียอย่างหลิวจื่อหง”
2เดือนต่อมา
“พี่หยวน พี่ขับได้เร็วเท่าพี่ซียนเลย”
“เอาล่ะหยวนฉันว่านายควรจะพักผ่อนได้แล้ว อีก2วันก็แข่งแล้ว นายชนะแน่”
>>กลางดึกคืนนั้น<<
“อ้า พวกนายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
“ถ้าฉันปล่อยก็หมาแล้ว มากับพวกเราซะ”
“เห้ย!!ทำอะไรน่ะ หยุดนะเว้ย”
“อย่าตามมา ไม่งั้นไอ้หยวนตาย”
จุนไคพยายามเข้าไปช่วยหยวนแต่กลับถูกดึงไว้
“ดึงพี่ทำไม”
“อยากตายหรอ พวกมันมีปืนนะ”
“ถ้าอยากชนะและไม่อยากให้ไอ้นี่ตาย พรุ่งนี้เจอกันที่สนาม”
“พรุ่งนี้/พรุ่งนี้”
“อ่าวเห้ย ไปไหนแล้ววะ”
“เอาไงดีล่ะเสี่ยวไค มีแค่นายกับไอซ์ซึแค่2คนนะ”
“ไอซ์แข่งเอง”
“แต่ไอซ์.....”จุนไคยังพูดไม่ทันจบไอซ์ซึก็พูดแทรกขึ้น
“ถ้าจะมีใครตายขอให้เป็นไอซ์ ไม่ใช่พี่2คน”
“หมายความว่าไง แล้วตายคืออะไร พี่งงไปหมดแล้วนะ”
“พรุ่งนี้พี่ก็จะรู้เอง แต่ก่อนที่ฉันจะไม่มีโอกาสฉันขอบอกอะไรพี่สักอย่างนะ”
“อะไร”
“คือจริงๆแล้วฉันกับต้าหยวนไม่ได้คบกัน ส่วนคนที่คบกับฉันพี่จะได้เจอเค้าในวันสุดท้ายของชีวิตฉัน”
“หมายความว่าไง เซียนซี นายรู้เรื่องนี้ใช่ไหม”
“พรุ่งนี้นายก็รู้”
>>วันรุ่งขึ้น<<
ณ.สนามแข่ง
“พี่ขอกอดเราเป็นครั้งสุดท้ายนะ”
“ลาก่อนนะพี่เซียน ดูแล ‘หวางหยู่หาง’ด้วยล่ะ”
“ได้”
จุนไคเหลือบมองไปเห็นอะไรบางอย่างเข้าที่ข้างรถคันที่ไอซ์ซึใช้แข่ง
กึก
“อะไร”
“พี่แข่งเอง”
“ไม่ ลาก่อนต้าเก้อ”
“พี่อยู่ไม่ได้.....”
“ต้องได้”
ไอซ์ซึพูดจบก็เดินไปขึ้นรถที่แข่งมีวัตถุสี่เลี่ยมวางอยู่นั่นคือสิ่งที่จุนไคเห็นในตอนแรกใช่แล้ว มันคือ ‘ระเบิด’
บื้นนนนนนนนนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตู้ม!!!!!!!
“อี้หยางไอซ์ซึ!!!!!!”เสียงของเซียนซีและจุนไคพูดพร้อมกับวิ่งไปที่ตัวรถของคนที่ตนเรียก
“อยากเป็นอะไรนะ เดี๋ยวเก้อจะเรียกรถพยาบาลให้”
“ไม่มีประโยชน์ครับพี่ เค้าตายแล้ว”เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มร่างสูงเกือบเท่าเซียนซีพูดขึ้น
“นายคือ......”จุไคพูดเสียงยาวเชิงเป็นการถาม
“ผมชื่อหวางหยู่หางคนรักของไอซ์ซึครับ”
“นายไม่คิดจะช่วยคนรักของนายหรือไง”
“เธอตายแล้วครับ”
“เธอยังมีโอกาสรอด”
“อย่าทรมารเธอเลยครับ ผมทำใจมาสักพักแล้ว”
2ปีผ่านไป
“หางๆ นายจูนเครื่องเป็นไหม พี่ลืมแล้วอ่ะ”
“พี่จะทำไรล่ะครับ”
“พี่จะจูนให้มันแรงและประหยัดน้ำมันอ่ะ ตอนนี้มันไม่ค่อยแรงเลย”
“พี่ก็ล็อคพวกที่ไม่ต้องทำอะไรสิครับแล้วก้จูนน้ำมันให้มันน้อยลง ส่วนความแรงพี่ก็ปรับระดับสูงขึ้น แค่นี้เองครับ”
“ขอบใจนะ”
>>ทางฝั่งไอซ์ซึ<<
“เก็บมันซะ”เสียงหลิวจื่อหงพูดขึ้น
“งานนี้ฉันทำไม่ได้ นั่นเท่ากับว่าฆ่าคนเลยนะพี่”
“พี่อยากรู้ว่าเธอจะไม่หักหลังพี่ เก็บมัน”
ไอซ์ซึมองดูรูปรูปหนึ่งแล้วพูดขึ้น
“ถ้าเป็นอื่นฉันทำได้แต่คน2คนนี้ฉันทำไม่ได้จริงๆ”
“ยังรักพวกมันอยู่ล่ะสิ”
“ใช่ คนนึงคือพี่ชายฉันอีกคนนึงคือคนที่ฉันรัก ฉันทำไม่ได้ ฉันฆ่าพวกเขาไม่ได้”
“เลือกเอานะ เธอจะฆ่าพวกมันด้วยตัวเธอเองหรือจะให้คนที่ฆ่าพวกมันป็นฉัน เธอเลืกทางตายของมันได้ เธอเลือกสถานะของฉันกับเธอได้ถ้าเธอไม่ทำอย่าหาว่าฉันทำร้ายเธอก็แล้วกัน นี่ตั่ว”
“ตั่ว?”
“ไปที่ฉงฉิ่งซะ แล้วเก็บพวกมัน ถ้าเธอไม่ทำฉันทำเอง”
“ได้ ฉันจะไป”
2ชม.ผ่านไป
“นี่หางๆ นายรู้จักกับเซียนซีได้ยังไงหรอ”เสียงหยวนพูดขึ้น
“ไอซ์แนะนำน่ะครับ”
>>ติ๊งหน่อง<<(เสียงไลน์จุนไคดังขึ้น)
“ใครไลน์มานะ”พูดพร้อมกดดูปรากฏว่าเป็นชื่อของ ‘ไอซ์ซึ’
“ไม่จริงอะ”
“เกิดอะไรขึ้นหรอพี่”หางๆเอ่ยถาม
“ไอซ์ซึไลน์มาบอกว่ากลับมาแล้ว”
“ห้ะ!!!!!!!”
“ทุกคน ฉันกลับมาแล้ว”เสียงไอซ์ซึตะโกนมาจากหน้ารถที่พักทุกคนจึงรีบวิ่งออกมาดู
“อี้หยางไอซ์ซึ/อี้หยางเซียนซี”สองพี่น้องต่างเรียกชื่อกันและวิ่งเข้ากอดกันแต่มีอยู่คนหนึ่งที่ดูจะไม่แปลกใจที่ไอซ์ซึกลับมา
“มันส่งเธอกลับมาหรอ”หางๆเอ่ยเสียงเรียบ
“ใช่ เขาอยากให้ฉันเก็บนายกับพี่เซียน”
“มันนี่ใคร?”เสียงหยวนพูดขึ้น
“จื่อหง/หลิวจื่อหง/ไอ้จื่อหง”เสียงหางๆไอซ์ซึเซียนซีพูดพร้อมกัน
“พวกนายรู้ว่าไอซ์ซึยังไม่ตายแต่ปิดพวกเรางั้นหรอ”จุนไคพูดขึ้นด้วยความโกรธ
“อย่าโกรธพวกเขาเลยต้าเก้อ เพราะฉันรู้ว่าถ้าต้าเก้อกับต้าหยวนรู้พวกมันต้องมาเล่นงานแน่ๆ”เสียงไอซ์ซึห้ามปราม
“แล้วที่กลับมาเพื่อจะมาเก็บพวกเราหรอ”หางๆถาม
“กะว่าใช่ แต่ฉันทำไม่ได้ ฉันฆ่าพวกพี่ไม่ได้”
“แล้วมันจะไม่กลับมาหรอไอซ์ซึ”
“ถ้ามันมามันก้ไม่มีวันได้ฉันเป็นเมียมันหรอก ถ้าให้เลือก ฉันยอมตายดีกว่า”
“เหอะๆ ดีนะที่ฉันไม่หลงกลเธอน่ะไอซ์ซึ”
“ละ หลิวจื่อหง!!!!!”
“ไม่ต้องตกใจขนาดนี้นะหางๆ”
“ต้องการอะไรจากฉันอีก”
“เธอยังชดใช้ฉันไม่หมดเลยนะ”
“เวลา2ปีมันก็มากพอแล้วที่ฉันจะรับใช่พี่นะจื่อหง”
“พี่ไม่อยากให่เธอรับใช่พี่แต่พี่อยากให้เธอเป็นคนรักของพี่”
“ไม่ ฉันไม่ได้รักพี่”
“แต่เธอรักหางๆ มันดีกว่าพี่หรอ หืม?”
“ใช่”
“ยังไงล่ะ บอกพี่ที”
“เค้าอบอุ่นกว่า นิสัยดีกว่า ไม่รังแกใคร ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่ป่าเถื่อนเหมือนพี่!!!!”
“มันไม่มีอะไรสู้พี่ได้เลยนะ ดูแลเธอหรือป่าว ปกป้องเธอได้หรือป่าว เวลา2ปีที่มัไม่เจอเธอมันเคยคิดที่จะมาช่วยเธอออกไปจากชีวิตพี่ไหม เอคิดดูสิ พี่ใช่เธอให้ทำนู้นทำนี่แต่พี่ก็ไม่ปล่อยให้เธออด แต่เธออยู่กับมันเธอมีความสุขหรอไอซ์ซึ”
“ใช่ฉันมีความสุข มีความสุขที่ได้อยู่กับคนที่ฉันรักคนที่อบอุ่นแม้ว่าเค้าจะไม่ใช่พี่ชายแท้ๆของฉันก็ตาม ผิดกับพี่ พี่อยากให้ฉันเป็นคนรักทั้งๆที่ฉันบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้”
“แล้วถ้าไอ้เซียนซีมันไม่ใช่พี่ชายแท้ๆของเธอแล้วใครล่ะ ใครเป็นพี่ชายเธอ”
“โง่มาตลอดเลยหรอจื่อหง”เสียงเซียนซีพูดขึ้น
“นายหมายความว่าไง”
“หางๆไม่ใช่คนรักของไอซ์ซึ หางๆคือน้องชายไอซ์ซึ ส่วนนายคือพี่ชายแท้ๆของไอซ์ซึยังไงเล่า”
“นี่มันอะไรกันน่ะ พวกเรางงนะ”เสียงจุนไคพูด
“เรื่องมันยาวไว้เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟังจะจุนไค”เสียงหยวนพูดขึ้นทำให้จุนไคยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่เพราะมีแค่เขาที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“เรื่องนี้เองหรอไอซ์ซึที่เธอบอกพี่ว่าเรารักกันไม่ได้”
“ใช่ เพราะเราเป็นพี่น้องกัน หางๆคือน้องชายของเรา”
“แล้วใครล่ะ คนที่เธอบอกว่าเป็นคนรัก”
“ฉันเอง”เสียงจุนไคพูดขึ้น
“ที่จริง เราไม่ได้คบกันนะ”
“พี่ล้อเล่น พี่รู้ว่าเธอไม่ได้รักใครเกินพี่เกินน้องเลย”
“จื่อหง นายมาร่วมเป็นทีมเดียวกับพวกเราเถอะ”เซียนซีเอ่ยชวน
“เหอะ!!!!!อย่าหวังเลย ถ้าอยากให้ฉันร่วมทีมล่ะก็ ฝันไปเถอะ พวกเรา กลับ!”
“พวกเรากลับเข้าที่พักเถอะ เตียงไอซ์ซึที่เดิมนะ”
“จ้า”
วันรุ่งขึ้น
“ตื่นจ้าตื่นๆ ใครไม่ตื่นอดกินข้าวนะจ้ะ”
“ขู่ตลอดอะไอซ์”
“ก็ถ้าไม่ขู่พวกพี่ๆทั้งหลายจะตื่นกันไหมคะ แล้วนี่น้องชายตัวดีล่ะ”
“อยู่นี่ขอรับพี่หญิง ท่านจะรีบตื่นแต่เช้าเสด็จไปที่แห่งใดหรือขอรับ”
“ไม่ต้องมาลิเกไอ้หาง”
“555ไปๆกินข้าวๆหิวแล้ว”เสียงหยวนพูดขึ้น
“ไอซ์ซึ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วไปเดินเล่นกับเก้อหน่อยนะ”
“ค่ะต้าเก้อ”
“ยิ้มไรหางๆ หยวน”เสียงเซียนซีถาม”
“เอาหูมาสิพี่เซียน”
เซียนซีขยับเข้าไปใกล้ๆหางๆ หางๆจึงกระซิบว่า
“พี่จุนไคจะขอพี่ไอซซึแต่งงาน”
“จริงอะจุนไค จะขอจริงอะ”
“อืม”
“แหมๆ ไม่ปรึกษาเลยนะ คิดว่าจะช่วยเตรียมเซอไพร์555”
“อะไรกัน”ไอซ์ซึถามขึ้นอย่าง งง
“อิ่มยังล่ะ”
“อืม อิ่มแล้ว”
“ฝากจานด้วยนะครับทั้ง3”
“สู้ๆนะจุนไค ทำให้ได้ล่ะ”เซียนซีให้กำลังใจ
“ครับพี่เซียนซี555”
“เดี๋ยวๆ ต้าเก้ออายุมากกว่าพี่เซียนไม่ใช่หรอ”
“เดี๋ยวก็รู้น่าไอซ์ซึ ตามจุนไคไปสิ”ไอซ์ซึเดินตามจุไคไปแบบงงๆเธอไม่รู้เลยว่าจุนไคจะขอเธอแต่งงาน
ณ.สวนสาธารณะ
“ไอซ์ซึ”
“ว่าไงคะต้าเก้อ”
“จำเรื่องที่เก้อพูดกับเราได้ไหม”
“ที่เก้อบอกว่าเก้อรักฉันหรอ”
“อืม ใช่ ไอซ์ซึรักเก้อหรือเปล่า”
“ไม่บอก”พูดพร้อมกับเดินหนี
“เดี๋ยวสิ”จุนไคกล่าวพร้อมกับดึงเอวร่างบางเข้าหาตัวเอง
“เก้อ!!!!!”ร่างบางตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนคนร่างสูง
“แต่งงานกับเก้อนะอี้หยางไอซ์ซึ”
“ต..ต้าเก้อ”
“นะครับคนดี”
“แต่เรายังไม่ได้เป็นแฟนกันเลยนะเก้อ”
“เรื่องนั้นสำคัญด้วยหรอ จำเป็นด้วยหรอ แค่รักกันแล้วแต่งเลยไม่ได้หรอ”
“แต่ว่า...”
“เก้อเข้าใจแล้ว เธอไม่ได้รักเก้อหนิ เธอไม่เคยรักผู้ชายคนไหนมากกว่าเพื่อนหรือพี่น้องอยู่แล้ว”ร่างสูงพูดในสำเนียงตัดพ้อ
“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น”
“แล้วจะให้เก้อคิดยังไงล่ะ เธอไม่ตกลงเก้อก็จะไม่บังคับ”
“แล้วสิ่งที่เก้อทำวันนั้นล่ะ ทำไมๆๆ ทำไมถึงพูดว่าตัวเองอยู่ไม่ได้ ทำไม”
เมื่อร่างบางพูดจบร่างสูงก็นึกถึงเรื่องในวันนั้น
“พี่แข่งเอง”
“ไม่ ลาก่อนต้าเก้อ”
“พี่อยู่ไม่ได้.....”
“ต้องได้”
ในวันนั้นร่างบางหลั่งน้ำตาออกมาเพราะคิดว่าจะไม่ได้เจอคนที่ตนรักที่สุดอีกคนๆนั้นก็คือ หวังจุนไค
“หมายความว่า...”
“ฉันรักพี่ จุนไค ฉันรักพี่ รักมานานมาก แต่ที่ฉันต้องเก็บความรู้สึกนั้นไว้ก็เพื่อช่วยพี่ พี่จะได้ไม่ต้องเจ็บเพราะจื้อหงอีก เพราะฉะนั้นฉันถึงต้องเก็บความรู้สึกนั้นไว้”
“แล้วเรื่องที่พี่ขอล่ะ จะตกลงไหม”
“ตกลงค่ะ ฉันจะแต่งงานกับพี่ หวังจุนไค”
>>3เดือนผ่านไป<<
“โห่....ฮู้โห่ๆๆๆๆๆ ฮี้วววววว”
เสียงโห่ร้องในงานแต่งของหวังจุไคและอี้หยางไอซ์ซึดังกึกก้องงานแต่งผ่านๆไปอย่างราบรื่นจนทั้งคู่ใช่ชีวิตอยู่ร่วมกันได้4เดือนก็เกิดเหตุการณ์ที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
“อุ แหวะ”เสียงอาเจียนของร่างบางในตอนเช้าทำให้ร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่น
“ไอซ์ซึ เป็นอะไร อ้วกอีกแล้วหรอ”
“ใช่พี่ แต่วันนี้หนักกว่าทุกวันอะอุแหวะ”
“ไปหาหมอไหมเผื่อจะดีขึ้น”
“ไปสิ”ร่างสูงอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวแล้วเดินไปที่รถพร้อมขับออกไป ใช้เวลาไม่นานทั้งคู่ก็ถึงที่หมาย ร่างบางถูกส่งเข้าห้องตรวจทันที
“หมออยากทราบว่าอาการของคุณมีอะไรมากกว่าอาเจียนหรือเปล่าครับ”
“ก็มีเวียนหัวค่ะ แล้วก็ทานอาหารได้น้อยลง ทานเข้าไปก็อาเจียนออกมาหมดเลย”
“หมออยากให้คุณนำปัสสาวะมาตรวจนะครับ”เมื่อหมอพูดจบร่างบางจึงออกมาทำธุระแล้วจำมาให้หมอตรวจ
“ผลตรวจจะได้ภายใน1ชั่วโมงนะครับ”
>>1ชั่วโมงผ่านไป<<
“ผลตรวจออกมาแล้วครับ ดีใจกับคุณหวังจุนไคและคุณอี้หยางไอซ์ซึด้วยนะครับ ตอนนี้คุณอี้หยางไอซ์ซึตั้งครรณ์ได้ประมาณ3เดือนแล้วครับ”
“จริงหรอครับหมอ”ร่างสูงถามอย่างดีใจจนได้รับคำตอบจากหมอโดยการพยักหน้า
“กลับกันเถอะ พี่จะเอาข่าวดีไปบอกทีมเรา”
“จ้ะ”
>2ชม.ผ่านไป<
“ไปไหนกันมาน่ะ2คน”
“เชียนเก้อ ให้ทายว่าเกิดอะไรขึ้น ผมพาไอซ์ซึไปหาหมอมา”
“อะไรอ่ะ”
“ฉันท้อง”
“ห้ะ/ห้ะ”
“จริงหรอ”เป็นเชียนซีที่ตั้งสติขึ้นมาได้ก่อนจึงถามขึ้น
“อื้อ”
“แล้ว อายุครรณ์เท่าไหร่แล้วล่ะ”หลังจากที่หยวนตั้งสติอยู่นานก็พูดขึ้น
“3เดือนจ้า”
“กูมีหลานแล้วโว้ยยยยย”
“เดี๋ยวผมพาเมียผมขึ้นไปบนห้องก่อนนะ เขาต้องพักผ่อน”
“อืมๆ”
(จุนไค)
“ไม่ต้องอุ้มก็ได้มั้งเสี่ยวไค”โหย คนมันเป็นห่วงนะรู้เปล่า
“ก็เค้าอยากอุ้ม”
“เอาที่เตงสบายใจ”
“งั้น เค้าอุ้มนี่แหละ สบายใจที่สุด”
“โง้ยยยยยยยย เค้าอยากเดินเองอ่า น้าเตง ให้เค้าเดินน้า” นั่น มี่ลูกอ้อน
“ก็ได้ๆ เดินก็ระมัดระวังหน่อยนะ”
“จร้า ปล่อยได้แล้ว”
“ป่อยก็ปล่อย” ผมพูดจบก็ปล่อยที่รักของผมลง
70%เท่านั้นนนนนนนนนนนน
ก