พระอาทิตย์กับดอกหญ้า
0
ตอน
5.39K
เข้าชม
157
ถูกใจ
2
ความคิดเห็น
2
เพิ่มลงคลัง

Cr.มุนิน ( นักวาดที่ผู้เขียนชอบ )

 

 

การทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่....ในวันหนึ่งของผู้เขียน...!! และแล้วกล่องกระดาษเก่าๆ กล่องใหญ่ก็หล่นลงมาทับตัวผู้เขียนทำเอาปวดจนมึนไปเลย....ขาสั้นๆ ของผู้เขียนจึงก้าวเร็วๆ เข้าไปเตะกล่องดังกล่าวดังป๊าบ!ด้วยแรงของความโกรธที่ผู้เขียนมี แรงเตะทำให้กล่องสีน้ำตาลเก่าๆ กล่องนั้นแตกและขาดออกทันทีทำให้เห็นสิ่งของที่อยู่ข้างใน....!! สิ่งที่มันโผล่พ้นส่วนที่แตกของกล่องออกมาพอที่จะทำให้ผู้เขียนเดาออกว่าข้างในกล่องนั่นคืออะไร!!  หนังสือเรียน และสมุดการบ้าน สมุดจดโน๊ต สมัยที่ผู้เขียนยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ตอนนั้นผู้เขียนอายุประมาณ สิบหกสิบเจ็ด โอ้ววววว!!!แม่เจ้ามันนานมาก สิบกว่าปีเห็นจะได้ เมื่อเห็นว่าเป็นกล่องหนังสือและสมุดเก่าๆ สมัยเรียนผู้เขียนจึงไปลากเอาเก้าอี้เตี้ยๆ มาทรุดตัวลงนั่ง แต่ไม่ลืมหยิบมีดคัตเตอร์และกรรไกรติดมือมาด้วย ผู้เขียนเริ่มแกะกล่องด้วยความรู้สึกคิดถึง! หนังสือเรียนสมัยมัธยมมันเก่าจนซีดทั้งๆ ที่ผู้เขียนเป็นคนที่รักหนังสือหรือตำราของผู้เขียนทุกเล่มมาก ( เข้าขั้นมากที่สุด ) ผู้เขียนจึงเก็บเอาไว้ไม่ได้ให้คนอื่นๆ ต่อเอาละและแล้วผู้เขียนก็เริ่มหยิบหนังขึ้นมาดูทีละเล่ม แต่ละเล่มผู้เขียนจะเขียนชื่อ นามสกุล เลขที่และระดับชันทับห้องอีกที ฮ่า ฮ่าๆ ถึงตอนนี้ผู้เขียนชักจะคิดถึงเพื่อนเก่าแฮะ! และแล้วผู้เขียนก็หยิบหนังสือขึ้นมาดูทีละเล่ม ทีละเล่ม จนมาถึงสมุดการบ้านภาษาไทย ผู้เขียนบอกตามตรงว่าผู้เขียนไม่ชอบวิชานี้ เพราะตัวผู้เขียนเองมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสารกับผู้อื่นเสมอและวิชานี้หากยังจำกันได้ต้องได้ออกไปพูด อ่าน และเขียนหน้าชั้นเรียนตลอด....ยอมรับผู้เขียนไม่ชอบอย่างรุนแรง...ฮ่า ฮ่า ( ทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นแบบนั้น ) ผู้เขียนหยิบสมุดเล่มนั้นขึ้นมาเพราะมันมีความทรงจำบางอย่าง และแล้วผู้เขียนก็จำได้ว่าเรื่องนั้นมันถูกบันทึกเอาไว้ในสมุดเล่มนี้ วันหนึ่งในชั่วโมงเรียนภาษาไทย วันนั้นชั่วโมงนี้มีเรียนในตอนเช้าและอาจารย์ก็เข้าชั้นเรียนมาบอกหัวข้อในการเรียนวันนั้นว่า วันนี้เราจะมาเรียนเรื่องการเขียนเรียงความและการเรียนก็ดำเนินการไปเรื่อยๆ จนมาถึงท้ายชั่วโมงอาจารย์ได้สั่งการบ้านเอาไว้ว่าให้เขียนเรียงความ หรือว่าเราจะเขียนเรื่องสั้นเรื่องอะไรก็ได้มาส่งในคาบเรียนของวันพรุ่งนี้และให้ออกไปนำเสนองานของตัวเองหน้าชั้นเรียน....เอาละสินั่นแหล๊ะ! ปัญหาใหญ่ของผู้เขียนเลยทีเดียวเชียว ผู้เขียนกลับบ้านและมานั่งคิดเรื่องสั้นที่จะเขียน.....และแล้วผู้เขียนก็ตัดสินใจเขียนเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งขึ้นมา แบบว่าเรื่องสั่นเรื่องนี้ ผู้เขียนเขียนขึ้นมาด้วยประมาณอารมณ์ที่สับสนของวัยรุ่น...อิอิ เรื่องราวจึงสรุปแล้วได้ชื่อว่า เรื่องสั้นเรื่องพระอาทิตย์กับดอกหญ้า

 

ในวันรุ่งขึ้น ณ ชั่วโมงเรียนภาษาไทย เพื่อนๆ ทุกคนต่างทยอยกันออกไปนำเสนอผลงานของตัวเอง และแล้ว ก็ถึงคิวของผู้เขียน ผู้เขียนออกไปยืนเงอะๆงะๆ อยู่หน้าชั้นเรียนมองเห็นเพื่อนๆ หันหน้ามาทางผู้เขียนทุกคนอย่างตั้งอกตั้งใจอยากจะฟังเรื่องที่ผู้เขียนจะอ่าน....และแล้วผู้เขียนก็เริ่มอ่านดังนี้

 

เรื่องสั้นเรื่องพระอาทิตย์กับดอกหญ้า

 

เมื่อพระอาทิตย์แอบรักดอกหญ้า.....แต่ว่าพระอาทิตย์หยิ่งในศักดิ์ศรีเกินไปที่จะบอกรักดอกหญ้าดอกน้อยด้อยค่าบนพื้นดิน อยู่มาวันหนึ่งดอกหญ้าเอ่ยถามพระอาทิตย์ว่า

“ คุณพระอาทิตย์ค่ะ เมื่อยบ้างไหมที่ต้องอยู่บนนั้นเป็นเวลานานๆ แถมยังต้องเปล่งแสงอันร้อนแรงแบบนั้นมายังโลกคงจะเหนื่อยใช่ไหม? ” ดอกหญ้าถามด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม พระอาทิตย์เมื่อได้ยินดอกหญ้าถาม ก็รู้สึกเขินอายแต่ก็ตอบออกไป

“ ไม่เหนื่อย และไม่เมื่อยฉันอยู่บนนี้มีความสุขดี ได้มองเห็นทุกๆ คนอย่างชัดเจนและมองเห็นคนที่ฉันรักด้วย ”  พระอาทิตย์พูดไปแก้มพระอาทิตย์แดงน้อยๆ แดง เพราะความอาย พระอาทิตย์อยากจะบอกว่าเขาชอบเฝ้ามองเธอนั่นเองดอกหญ้าดอกน้อยแต่เขาเป็นถึงพระอาทิตย์ผู้ยิ่งใหญ่ทำไมตองเป็นฝ่ายบอกรักดอกหญ้าที่อยู่บนพื้นดินก่อน มันเสียศักดิ์ศรี เธอนั้นเป็นแค่ดอกหญ้าน่ะ! พระอาทิตย์คิดในใจ

“ เหรอค่ะยินดีด้วยที่คุณมีความสุข ”  ดอกหญ้าพูดและยังยิ้มแฉ่ง พระอาทิตย์เขินอายอีกครั้ง และจ้องมองดอกหญ้าที่กำลังยิ้มเริงร่ามาให้ตัวเอง

“ ดูท่าทางเธอมีความสุขเหมือนกัน ” พระอาทิตย์พูดขึ้น

“ ใช่ฉันมีความสุขทุกครั้งที่ฉันได้เฝ้ามองคนที่ฉันรักและได้พูดคุยกับเขาและอยากจะยิ้มให้เขาทุกวัน”  ดอกหญ้าดอกเล็กยังคงยิ้ม คืนนั้นคำพูดของดอกหญ้าทำให้พระอาทิตย์นอนไม่หลับคำพูดที่ได้คุยกันในตอนกลางวัน ทำให้พระอาทิตย์รู้สึกว่าดอกหญ้ามีคนที่ชอบอยู่แล้วนั่นก็หมายความว่าพระอาทิตย์อกหัก!!  เช้าวันใหม่แสงพระอาทิตย์ที่อบอุ่น ทำให้ดอกหญ้าค่อยๆ ลืมตา และส่งยิ้มมาให้พระอาทิตย์  ในตอนกลางวันแสงพระอาทิตย์ร้อนแรงขึ้นแต่เมื่อพระอาทิตย์หันไปมองดอกหญ้า เธอก็ยังคงยิ้มให้เขา

เมื่อพระอาทิตย์ใกล้จะตกตินแล้วในยามเย็นพระอาทิตย์หันไปมองดอกหญ้าดอกเล็กอีกครั้งก่อนลับขอบฟ้า เธอก็ยังคงยิ้มให้เขา

“ บ๊าย บาย คุณพระอาทิตย์ ” คำพูดสุดท้ายของดอกหญ้าก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า คืนนั้นพระอาทิตย์นอนคิด วันนี้ทั้งวันเมื่อเขาหันไปมองดอกหญ้าดอกเล็กทุกครั้งเธอเขาจะเห็นเธอหันมายิ้มให้เขาเสมอ ทำไมน่ะ พรุ่งนี้เขาจะถามเธอดูให้เข้าใจ

“ นี่แหน่ะ ดอกหญ้า ทำไมเธอชอบมองฉันและยิ้มให้ฉันตลอดเวลา ” เมื่อพระอาทิตย์โผล่ขอบฟ้ามาในเช้าวันใหม่เขารีบถามดอกหญ้าทันที แต่วันนี้เขาดูท่าทางของดอกหญ้าเปลี่ยนไปดอกหญ้าท่าทางอิดโรย อ่อนแรง รอยยิ้มก็ไม่สดใสเหมือนเก่ากลีบดอกสีขาวเล็กๆ ที่ดูน่ารัก ร่วงโรยลงทำให้กลีบดอกแหว่งไปสอง สามกลีบแต่ดอกหญ้ายังคงยิ้ม

ดอกหญ้าดอกน้อยตอบกลับพระอาทิตย์ไปว่า

“ ฉันเคยบอกคุณว่า ฉันชอบเฝ้ามองคนที่ฉันรัก นั่นก็คือคุณ ฉันชอบคุยกับคนที่ฉันรัก นั่นก็คือคุณ ฉันชอบยิ้มให้คนที่ฉันรักนั่นก็คือคุณ ถ้าคุณชอบรอยยิ้มแววตาและเสียงของฉันฉันก็มีความสุข ”  ดอกหญ้าดอกเล็กพูดพลางกลีบดอกก็ร่วงหล่นอีกสองสามกลีบ ดวงตาของดอกหญ้าหลับลงอย่างเหนื่อยล้า รอยยิ้มก็เริ่มจางหาย คำพูดของดอกหญ้าทำให้พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่งบ้าง จริงเหรอ ? ดอกหญ้าชอบเขางั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเราใจตรงกัน พระอาทิตย์ดีใจไม่ทันได้สังเกตุว่าตอนนี้กลับดอกของดอกหญ้าร่วงหล่นหมดแล้ว จนกระทั้งพระอาทิตย์หันกลับมามองดอกหญ้าอีกครั้ง

“ เอะ! ดอกหญ้าเธอเป็นอะไรไปเหรอ กลีบดอกของเธอร่วงหล่นหมดแล้ว” พระอาทิตย์ถามขึ้นด้วยความแปลกใจ

“ พระอาทิตย์อันเป็นที่รักของฉัน เวลาการมีชีวิตอยู่ของฉันมันสั้นนัก และตอนนี้เวลาของฉันหมดลงแล้ว”  ดอกหญ้าพูดพลางหลับตาลงช้าๆ

“ ทำไมล่ะดอกหญ้า ฉันมองดูเธอตลอดเวลา เธอดูเข้มแข็ง และอดทนถึงแม้จะมีลมพายุ น้ำท่วม หรือแม้ว่าเธอจะถูกเหยียบย่ำจากเท้าของมนุษย์แต่เธอก็ยังคงลุกขึ้นมาชูช่อความงดงามได้เหมือนเดิม แต่แล้ววันนี้ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไป อ่อนแอลง อ่อนแรง และดูร่วงโรย ไม่! ไม่!  ฉันยังไม่ได้บอกรักเธอเลย....!! ฉันรักเธอดอกหญ้าที่น่ารักของฉัน ฉันรักเธอ!!  พระอาทิตย์พูดเสียงดังตะโกนบอกคำรัก ด้วยน้ำเสียใจ และกังวล

“ พระอาทิตย์จ๋า ฉันก็รักเธอ รักเธอ แต่ตอนนี้เวลาของฉันหมดแล้ว ฉันต้องไปแล้ว เธอดูสิตอนนี้กลีบดอกของฉันร่วงโรยลงหมดแล้วนั้นก็คือเวลาของฉันก็หมดลงด้วย แต่ได้โปรดรับรู้เอาไว้ว่า ฉันยังมีตัวแทนอีกหลายๆรุ่นที่จะงอกขึ้นมาใหม่ในไม่ช้าและจะคอยเฝ้ามองเธอเหมือนๆ กับที่ฉันคอยเฝ้ามองเธออยู่อย่างนี้ตลอดไป ” พระอาทิตย์เริ่มร้องไห้เมื่อเห็นดอกหญ้ากำลังจะจากไป

“ อย่าร้องไห้ไปเลยน่ะพระอาทิตย์ หน่อเนื้อเชื้อไขของฉันจะเฝ้ามองเธอแข้มแข็งแบบนี้ตลอดไป รักน่ะ ”  คำพูดสุดท้ายของดอกหญ้า คือรักน่ะ !! พระอาทิตย์เสียใจกับการจากไปของดอกหญ้า หลบหน้าหายไปจากท้องฟ้าในวันที่ฝนพร่ำ ผ่านไปหลายวันกว่าฝนจะหยุด และพระอาทิตย์ก็กลับมาอีกครั้ง พระอาทิตย์ยังคงเศร้าและหม่นหมอง พระอาทิตย์ก้มมองลงไปที่เดิมที่ดอกหญ้าดอกน้อยเคยอยู่ ตอนนี้ดอกหญ้าดอกเล็กน่ารักไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วมีแต่พื้นดินที่มีหญ้าขึ้นปกคลุมจนเขียวชอุ่ม เวลาผ่านไป พระอาทิตย์ยังคงส่องแสงแรงกล้าอยู่บนท้องฟ้า แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้เห็นดอกหญ้าดอกเล็กๆ สีขาวที่กำลังจะเบ่งบานอีกครั้ง

“ นี้ดอกหญ้านั่นเธอใช่ไหม ”  พระอาทิตย์เอ่ยถามด้วยความดีใจที่ได้เห็นดอกหญ้าอีกครั้ง

“ ใช่ฉันเป็นดอกหญ้า มีอะไรเหรอค่ะพระอาทิตย์ ”  ดอกหญ้าดอกเล็กถาม คำพูดนั้นทำให้พระอาทิตย์เสียใจดอกหญ้าที่เคยบอกรักเขา จำเขาไม่ได้

“ เธอจำฉันไม่ได้แล้วเหรอเราเคยคุยกันและเราก็รู้จักกัน เธอเคยบอกรักฉัน ”  พระอาทิตย์พูดต่อ

“ ฉันไม่ใช่จำคุณไม่ได้!!  แต่ฉันไม่รู้จักคุณมาก่อนตางหากค่ะ เพราะฉันเป็นดอกหญ้ารุ่นใหม่ที่พึ่งถือกำเหนดมาจากรากเก่าของดอกหญ้ารุ่นก่อน แต่ฉันยินดีที่ได้รู้จักคุณค่ะ”ดอกหญ้าดอกเล็กพูด

“ เอ่อแป็นแบบนี้เองเหรอ ฉันก็ยินดีที่ได้รู้จักเธอจ๊ะ ” พระอาทิตย์พูดด้วยรอยยิ้มใจดี เขายังจำคำพูดของดอกหญ้าได้ดี ว่าเธอจะมีตัวแทนของเธอออกมาอีกหลายรุ่น และจะเฝ้ามองเขาเหมือนเธออีกครั้ง บางทีดอกหญ้าคงจะรู้ตัวเองว่าเธอมีเวลาไม่มากนักจึงไม่กล้าที่จะบอกรักเขา.....แต่ก่อนจากกันเธอก็ยังรวบรวมความกล้าที่จะบอกรักเขา ถึงแม้จะเป็นเพียงดอกหญ้าเล็กๆ แต่ก็ยังมีความกล้าหาญกว่าเขา เธอกล้าจะบอกรักคนที่อยู่สูงเกินเอื้อมทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีวันที่จะสมหวังในรักนั้นได้ เจ้าดอกหญ้าช่างกล้าหาญพระอาทิตย์ก้มมองดอกหญ้าดอกเล็กพวกนั้นอีกครั้ง ถึงแม้ดอกหญ้ารุ่นใหม่จะมีหน้าตาเหมือนๆ ดอกหญ้ารุ่นเก่า แต่ก็ใช่ว่าพวกเธอจะตกหลุ่มรักเขาเหมือนกับดอกหญ้าของเขา และใช่ว่าเขาจะตกหลุ่มรักดอกหญ้ารุ่นใหม่ที่มีหน้าตาเหมือนดอกหญ้าของเขาเช่นกัน ต่อให้เหมือนกันแค่ไหนก็ทดแทนกันไม่ได้สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ความเหมือน หรือไม่เหมือนแต่มันอยู่ที่ความรู้สึก และหัวใจของทั้งสองตางหาก ดอกหญ้าของฉันเธอจะอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดไป !!! พระอาทิตย์คิดในใจก่อนที่จะหันหลังกลับมาทำหน้าที่ของตัวเอง นั่นคือเปล่งแสงเรืองรองอันร้อนแรงลงมายังโลก ทุกคนมีหน้าที่หลักของตัวเองก็จริงอยู่ แต่อย่าลืมใส่ใจคนข้างๆ น่ะ!! อย่าลืมล่ะถ้าหากคุณตกหลุ่มรักใครสักคนหรือมีคนที่คุณรักอยู่แล้วอย่าลืมบอกเขาน่ะว่าคุณรัก ถึงแม้รักนั้นจะไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดหวังแต่อย่างน้อยก็ชัดเจนในความรู้สึกที่มี ความรักยิ่งใหญ่กว่าที่เรารู้จักนัก รักน่ะ ดอกหญ้า รักน่ะพระอาทิตย์ รักน่ะความรัก รักน่ะความทรงจำ รักน่ะทุกๆความรู้สึกที่เกิดขึ้นและออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

พอผู้เขียนอ่านจบปุ๊บ

!

ผู้เขียนก็ไม่กล้าเงยหน้ามองเพื่อนๆ จนกระทั้งเสียงปรบมือเสียงแรกดังออกมาจาก ข้างหลังสุดของห้อง...จากอาจารย์ประจำวิชาภาษาไทยของผู้เขียนนั่นเอง

....และแล้วผู้เขียนก็ได้ยินเสียงปรบมือของอีกหลายๆ คนตามมา.....อาจารย์เดินเข้ามาบอกผู้เขียนว่าเธอชอบ ชอบมาก และไม่บอกก็รู้ว่าเพื่อนๆ ก็ชอบด้วยผู้เขียนดีใจมากการอ่านนำเสนอเรื่องสั้นเรื่องนี้ในวันนั้นทำให้ผู้เขียนนึกชอบวิชาภาษาไทยเป็นครั้งแรกและนึกชอบการนำเสนองานหน้าชั้นเรียนเป็นครั้งแรก และแน่นอนนั่นคือจุดเริ่มต้นของการชอบงานเขียนครั้งแรกของผู้เขียนด้วย

รักน่ะ......แค่อยากเล่าให้กันฟัง

 

จากใจ

 

ญาริติกานัน

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว