โปรยปราย
“นั้นคุณจะทำอะไรนะ!”
ร่างบางร้องเสียงหลงเมื่อถูกมือหนาฉวยโอกาสลูบไล้ขาอ่อนเธอ ในระหว่างที่เธอนั้งโซฟา แกล้งไม่สนใจเค้าอยู่นาน
“พูดได้แล้วหรอฉันนึกว่ามีเมียเป็นคนใบ้สะอีก”
ร่างหนายิ้มอย่างผู้มีชัย ในการแกล้งร่างบางที่งอลเค้าอยู่
“ใครเมียของคุณ” “เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
คำพูดประชดของ”นารา หรือ ซินเนีย”แสนจะเข้าทาง”แมททิว”เค้ายกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะค่อยๆขยับเข้าใกล้ร่างบาง
“ไม่เป็นใช้มัยแค่เมื่อคืนคงไม่พอยืนยันสินะ”
เมื่อได้ยินดังนั้นนาราถึงกับหน้ากับหน้าถอดสีพร้อมกับคิดในใจว่า”ซินแกพูดอะไรโง่ออกไปอีกแล้วหรอ”
ยังไม่ทันได้ทำอะไรร่างหนาของแมททิวก็กดร่างงามของซินเนียลงกับโซฟาสะแล้ว
“ปล่อยฉันนะคะคุณแมททิว!”
“เรียกที่รักสิน่าฟังกว่า”
ซินเนียได้ยินแบบนั้นใบหน้างามก็แดงขึ้นมาพร้อมเงยหน้าซบตาร่างหนาที่นอนทับอยู่ “พูดอะไรของคุณไม่อายบ้างหรอไง”
แมททิวได้ยินก็หัวเราะกับท่าทีเขิลอายของร่างงามที่เค้า..กำลังเปิดใจตกหลุมรักอย่างที่ไม่เคยเป็น พร้อมกับก้มหน้าลงไปประกบริมสีปากบางอย่างไว้ ความหวานจากเธอที่เค้าไม่เคยเบื่อและไม่เคยพอ
เค้าบดจูบปากบางพร้อมสอดลิ้นหนาเข้าดูดดื่มความหวานจากโพรงปากของหญิงสาว มือของชายหนุ่มไม่ปล่อยให้ว่างบีบคลึงอกร่างงามอย่างปลุกเร่า
“อือ...อาา”หญิงสาวได้แต่ทักทวงในใจ กับหัวใจที่เต้นแรงจนเหมือนจะระเบิดนี้เธอรักคนใจร้ายอย่างเค้าจริงๆหรือ เธอยอมเค้าทุกอย่างจริงๆ
ชายหนุ่มถอนจูบเมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มหายใจไม่ทันพร้อมถามเธออีกครั้ง
“ตกลงเราเป็นอะไรกัน”
ชายหนุ่มยิ้มหวานกับใบหน้าหล่อๆชวนฝันถามเสียงแหบพร่า
“ป...เป็นส..สามีภรรยาคะ”
ซินเนียได้แต่หน้าแดงและตอบตะกุกตะกักไป
ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ
“ดีงั้นเราไปต่อในห้องกัน”