2
ทำแบบนี้ทำไม
หญิงสาวกำลังยืนอยู่ด้านหน้าตึกสูง ด้วยอารมณ์ที่เดือดดาล ในวันนี้…เธอต้องคุยกับไอ่โรคจิตนั่นให้รู้เรื่อง! เป็นใครถึงมีสิทธิ์มายกเลิกงานคนอื่นแบบนี้ มันมากเกินไปแล้ว!
.
.
.
“ขอโทษครับ เข้าไปไม่ได้ครับ” ไออุ่นเดินดุ่ม ๆ เข้าไปด้านใน แต่ดูเหมือนผู้รักษาความปลอดภัยจะไม่อนุญาต เขาเดินมากันเธอเอาไว้
“หนูมาหาดีเลย์ค่ะ ช่วยไปบอกเขาที ว่าไออุ่นมาขอพบ” ไออุ่นบอก พร้อมกับเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้ด้านหน้าอย่างใจเย็น เธอต้องรออย่างใจเย็น อย่าหัวร้อนนะอุ่น ใจเย็นไว้…
เกือบชั่วโมงที่เธอยังคงนั่งรออยู่ชั้นล่างและด้านหน้า
“เชิญครับคุณไออุ่น” คราวนี้ไม่ใช่ผู้รักษาความปลอดภัยคนเดิม แต่เป็นผู้ชายใส่สูทสีดำผูกไทสีดำ รองเท้าก็สีดำเงาวับ ทรงผมใส่ Waxเก็บทรงอย่างดี ดูเป็นผู้ดีมาก ซึ่งต่างจากเธอ ที่มาใน Look ผมทรงดังโงะ เสื้อยืดสีดำตัวโคร่ง กับกางเกงยีนขาเดฟยาว รองเท้าผ้าใบสีขาวที่มันดูไม่ค่อยสะอาดเพราะว่าไม่ค่อยได้ซัก และสะพายกระเป๋าผ้ารูปทรงคล้ายย่ามสีดำคาดข้าง แล้วก็มีนาฬิกา Garmin ที่พอจะอัพราคาร่างกายเธอขึ้นมาได้บ้าง
หญิงสาวเดินตามชายผู้ดีขึ้นลิฟต์ไปชั้น…ยี่สิบสอง ซึ่งดูจากตัวเลขบนแผงลิฟต์ มันคือชั้นบนสุด หวังว่าไอ่โรคจิตนั่นคงไม่ได้หลอกเธอมาฆ่าหรอกนะ
หลอกอะไร...เธอมาขอพบเขาเองนะ
“เชิญครับ บอสรออยู่ด้านในครับ” บอสเหรอ? หรือชื่อจริง ๆ เขาชื่อบอส
“ยินดีต้อนรับ ไออุ่น” ชายหนุ่มที่คุ้นหน้าคุ้นตาสำหรับไออุ่น ค่อย ๆ หมุนเก้าอี้นวมหนาสีดำมาประจันหน้ากับเธอแบบช้า ๆ
“คุณใช่มั้ย ที่เป็นคนยกเลิกงานฉันทั้งหมด” หญิงสาวเปิดบทสนทนาและเข้าประเด็น
“ใจเย็นก่อน นั่งลงก่อน” ชายตรงหน้าในLookเสื้อเชิ้ตสีขาวถลกแขนเสื้อจนเผยให้เห็นรอยสักเต็มแขนทั้งสองข้าง ยังไม่รวมกับบริเวณลำคอแกร่งของเขาด้วย เขาสวมกางเกงขายาวสีดำ และเสื้อไม่ได้ทับใน “คุณลองไม่มีรายได้สิ คุณจะใจเย็นมั้ย?” ไออุ่นจ้องชายหนุ่มตาเขม็ง
“อาจจะ…” เขาเดินเข้ามาหาเธอช้า ๆ จนเธอต้องก้าวเท้าถอยหลัง
คิดถูกคิดผิดวะเนี้ยที่มาถึงถิ่นขนาดนี้!!
“คุณทำแบบนี้ทำไมคุณดีเลย์” ใจดีสู้เสือ ท่องไว้ไออุ่น อย่าไปกลัว!
“ไปทานข้าวกับฉัน” ไออุ่นขบเม้มริมฝีปากแน่น แค่ไม่ได้กินข้าว ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยหรือไงวะ!
“ทำไมฉันต้องไป! อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าสมองของคุณคิดอะไร!” เธอจนมุม ขาเรียวก้าวถอยหลังจนมันไปชนเข้ากับอะไนบางอย่าง ขอเดาว่าโซฟา แล้วเธอก็เกือบจะหงายหลังลงไป แต่ดีที่มีมือหนาของดีเลย์คว้าเอาไว้ทัน
แต่เธอไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งหรืออยากขอบคุณเขาแม้แต่น้อย เธอดันแผงอกของชายหนุ่มให้ถอยหลังไป ก่อนที่เธอจะนั่งลงบนขอบโซฟาขนาดใหญ่ แล้วจับสายกระเป๋าผ้าของเธอเอาไว้แน่น
“ฉันคิดอะไร…ไหนพูดสิ” ดีเลย์ย่อตัวลง และขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ไออุ่น เธอมองเข้าไปในดวงตาที่สุดแสนจะเจ้าเล่ห์ของเขา จนเธอต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
ดีเลย์แสยะยิ้มร้ายกาจเมื่อเห็นท่าทีตื่นกลัวของเธอ ยิ่งเขาอยู่ใกล้เธอแบบนี้ กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของเธอก็ตีเข้าจมูกเขาอย่างจัง มันเป็นกลิ่นที่ทำให้เขารู้สึกดี ดีในที่นี้ที่เขาหมายถึงก็คือ เขาไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้ผู้หญิงคนไหนมาก่อน ผู้หญิงตรงหน้าคือคนแรก
หอมจัง…
“ขยับออกไปนะ!” ในขณะที่เขากำลังหลงใหลกับกลิ่นหอมจากคนตัวเล็ก เธอก็หันมาแว๊ดใส่เขา แถมยังออกแรงผลักเขาอย่างแรงอีกด้วย
“หึ เล่นตัวจัง” มือหนาเอื้อมไปเชยคางมน แต่ก็โดนมือเรียวปัดออก พร้อมกับเสียงจิ๊ปาก
“จิ๊ ฉันไม่ได้มาเล่นกับคุณนะ ถ้าฉันไปทานข้าวกับคุณ คุณจะคืนงานทั้งหมดให้ฉันใช่มั้ย?” หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“อืม” ดีเลย์เอ่ย
“โอเคงั้นตามนี้ ไปกินเลยตอนนี้” มันจะได้จบ ๆ ไป
“รีบเหรอ? ฉันยังทำงานไม่เสร็จ” ไออุ่นกำลังจะเดินออกจากห้อง แต่พอได้ยินประโยคที่ชายหนุ่มเอ่ย เธอก็หันกลับมามองหน้าเขา พร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันทันที
พอตกลงก็ลีลาเก่ง!
“ฉันจะรอ” เธอถอนหายใจออกด้วยท่าทีที่สุดจะเหลืออด ยังไงวันนี้เธอก็ว่างอยู่แล้ว ไม่มีงานมีการทำแล้วนิ ก็นั่งรอไอ่ตัวต้นเหตุของเรื่องมันซะตรงนี้เลยแล้วกัน
“ตามใจ” ชายหนุ่มบอกอย่างยิ้ม ๆ เขาบอกเธอเสร็จก็เดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของตน
ระหว่างที่ทำงานสายตาชายหนุ่มก็ไม่วายแอบมองหญิงสาวเป็นระยะ เธอเอาแต่จ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองอย่างไม่วางตา นิ้วเรียวยังคงไถหน้าจอทัชสกรีนอยู่เรื่อย ๆ จนเขาเองก็อดสงสัยไม่ได้เลยว่าเธอกำลังทำอะไร หรือคุยกับใคร
หรือว่าเธอจะมีชายในใจอยู่แล้ว…
ถ้าหากข้อมูลที่คนของเขาหามามันไม่ตรงกับความเป็นจริงล่ะ…
ถ้าเธอมีแฟนล่ะ…
ช่างแม่งดิ! กูจะแย่ง!