เสียงดนตรีบรรเลงขึ้นช้าๆเป็นทำนองรัก ริเวียล่าเริ่มร่ายรำตามจังหวะและเหมือนเล่นยิมนาสติกลีลา (ไม่รู้ว่าโลกนี้เรียกว่าอะไรแฮะฉันก็ติดเรียกแบบนี้ไปแล้ว) ผสมผสานกับเวทมนตร์ของเธอ เอริคก็เป็นผู้ช่วยริเวียล่าคอยให้เธอจับแขนไม่ให้เสียการทรงตัว ส่วนวินซ์เป็นคนคอยคุมพลังเวทที่ใช้ในการแสดงอยู่ด้านข้างเวที
เสียงดนตรีเร่งจังหวะมากขึ้นเรื่อยๆ ริเวียร่าก็เสกริบบิ้นแสงกับลูกบอลแสงออกมาพร้อมกัน เมื่อเธอหมุนริบบิ้นสะบัดไปมาก็มาดอกไม้แสงออกมาด้วย ผู้คนต่างปรบมือชื่นชมเพราะมันสวยมากจริงๆ และในจังหวะจบเอริคก็จับเอวเธอและดึงแขนริเวียล่าที่โยนลูกบอลแสงขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่มันจะแตกกระจายออกเป็นดอกไม้หอมและละอองเวทแสงที่หลงเหลืออยู่พอดีกับที่เพลงจบ ทุกอย่างอยู่ในความเงียบชั่วครู่ก่อนที่เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องจะดังขึ้นไปทั่วลานกิจกรรม ผู้คนโยนเหรียญขึ้นไปใส่กล่องอย่างล้นหลามเลยล่ะ
"ไม่นึกว่าพวกเขาจะทำอะไรแบบนี้นะเนี่ย ฮ่าๆๆ~ สุดยอด~"
"น่าจะมีเหตุให้ทำมากกว่า โหวตให้พวกเขากัน ฮะๆ~"
ฉันพยักหน้าให้โรเวลล์ที่พากันหัวเราะจนปวดแก้ม ก่อนจะส่งเหรียญให้ลอยไปยังกล่องด้านหน้าเวที ตอนนี้พวกเขาสามคนทำหน้าตาเหลอหลากันสุดๆไปเลยล่ะ ถ่ายรูปเก็บไว้แล้ว เสร็จฉันล่ะ~
"เสร็จโจร~ ถ่ายรูปเก็บไว้เพียบเลย ฮี่ๆ~"
"แต่ถึงยังไงก็ไม่ใช่ภาพตัวตนที่แท้จริงของพวกเขานี่"
"นายคิดว่าฉันเป็นใครกัน~"
"เป็นคนที่ฉันหวงไง"
"บ้า..."
ฉันเสหน้าออกไปอีกทางทันทีก่อนจะสะบัดๆรูปที่ถ่ายออกมาจากกล้องและส่งมันให้เขาดู
"...ทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ"
"แน่นอน~ ริเวียล่าสวยจังเลยเนอะ ขนาดเกล้าผมแบบลวกๆเองสมกับเป็นองค์หญิง อ๊ะ พูดถึงก็มากันพอดีเลย ทางนี้ๆ~~"
ฉันโบกมือให้พวกเขาที่กำลังเดินตรงมาทางนี้พร้อมกับผงกหัวขอบคุณคนที่ปรบมือให้ตลอดทาง ตลกจัง ฮ่าๆๆ~
"เป็นไงมาไงถึงไปอยู่บนนั้นได้ล่ะเนี่ย?" ฉันถาม
"...เรื่องมันยาวน่ะ เอาเป็นว่าพวกเราไปเที่ยวกันต่อดีกว่า"
"ไม่ได้ๆ ต้องรอประกาศผลก่อนสิ เมื่อกี้เธอสวยมากๆเลยนะริเวียล่า หนุ่มๆมองกันตาค้างเลยล่ะ~"
"...อย่าล้อกันเล่นสิ"
ฉันหัวเราะให้เธอก่อนจะพากันนั่งดูการแสดงจนจบชุดสุดท้าย และรอกรรมการนับเหรียญของแต่ละทีม จากนั้นพิธีกรก็เดินขึ้นไปบนเวทีและเริ่มประกาศอันดับที่สามและอันดับที่สอง
"และก็มาถึงรางวัลที่ทุกท่านจับตามองและรอคอย 'กุหลาบน้ำแข็งสีรุ้ง'!!"
กล่องแก้วที่มีผ้าคลุมด้านบนอยู่ก็ถูกยกขึ้นมาบนเวทีและทำให้ลอยอยู่กลางอากาศ เมื่อนำผ้าคลุมออกแสงสว่างจ้าก็ปรากฏขึ้นทันที เป็นดอกกุหลาบที่ใส แวววาว เมื่อต้องกับแสงจะเป็นสีรุ้งสบายตา สวยมากกก~~~
"และทีมที่จะได้ครอบครองของรางวัลสุดหายากนี้ได้แก่..."
เสียงดนตรีดังขึ้นเพื่อปลุกเร้ากันไปอีก~
"ทีมที่ 15 ครับ!!!"
"เฮ!!"
"หา...?"
ทั้งสามคนมองหน้ากันทันที ส่วนฉันกับโรเวลล์ได้แต่นั่งหัวเราะกับท่าทางเหวอของพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็พากันขึ้นไปเงินรับรางวัลแบบงงๆและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกพอจะรีบลงจากเวทีก็โดนพิธีกรรั้งตัวเอาไว้เพราะพิธีการยังไม่จบ
"ขอเรียญเชิญกรรมการผู้ทรงเกียรติ แสงสว่างอันอบอุ่นแห่งเมืองที่หนาวเหน็บ องค์หญิงลำดับที่หนึ่งแห่งอาณาจักรเทรลฟรอส ท่าน ลีฟา เดอ มิสฟรอยด์!!"
เสียงปรบมือดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหล่าองครักษ์พากันคั้งแถวและดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด องค์หญิงออกมาจากที่นั่งชั้นพิเศษและเดินขึ้นเวทีด้วยท่วงท่าสง่างาม เป็นหญิงสาวผมสีบรอนด์ทองยาวถึงกลางหลัง ดวงตาน้ำเงินใส ผิวขาวราวกับหิมะ โห~ สวยมากๆเลยย จะว่าไปบนเวทีนั่นก็องค์หญิงสองคนเลยนะ ฮะๆๆ~
"สวยจังเลยเนอะ"
"เธอสวยกว่าเยอะ"
"อะแฮ่ม...นั่นองค์หญิงกับองค์หญิงกำลังจับมือกันอยู่ล่ะ"
"หึ...เจอกันครั้งหน้าจะเจอริเวียล่าได้หรือเปล่าเถอะ"
"รู้จักกันหรอ..."
วิ้ง!~
หืม? เสียงอะไร...
ฟุ่บ!
"กรี๊ดดด!!"
เสียงใช้เวทระยะไกลที่เต็มไปด้วยจิตสังหารดังขึ้นตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของผู้เข้าร่วมงาน ลูกธนูเคลือบด้วยไฟพุ่งตรงไปยังองค์หญิงลีฟาแต่ก่อนจะถึงใบหน้าของเธอเพียงเสี้ยววินาทีวินซ์ก็ได้พุ่งด้วยความเร็วไปจับมันเอาไว้ เหล่าองครักษ์และทหารที่อยู่รอบๆรีบพุ่งเข้ามาคุ้มกันเธอทันทีและพาเดินลงไปยังด้านหลังเวทีพร้อมกับเพื่อนทั้งสามคนที่น่าจะโดนสอบปากคำด้วย
"เป็นเรื่องแล้วไง...โรเวลล์เราไปหาเพื่อนเรากันเถอะ"
"อืม"
พวกฉันเก็บของใส่กระเป๋าและรีบเดินฝ่าฝูงชนที่กำลังแตกตื่นเพื่อไปด้านหลังเวที พอมาถึงก็มีทหารและองครักษ์ยืนเฝ้าอยู่อย่างแน่นหนา
"พื้นที่ตรงนี้ไม่อนุญาตให้เข้า!"
"พวกเรามาหาเพื่อนที่โดนเรียกเข้าไป..."
"หากฝ่าฝืนคำสั่งจะถูกลงโทษ!!"
ฉันสะดุ้งกับคำที่ตะโกนออกมาจากทหารยามจนเกาะแขนโรเวลล์โดยทันที พูดเบาๆก็ได้ค่ะ...หัวใจจะวาย
"เดี๋ยวฉันพูดเอง"
โรเวลล์ก้มลงมากระซิบและลูบหัวฉันเบาๆเป็นการปลอบโยนก่อนจะหันไปพูดกับทหารคนนี้ด้วยหน้าตาไม่สบอารมณ์หน่อยๆ
"งั้นฉันขอพบลีฟา"
"กล้าดีอย่างไรถึงเรียกชื่อองค์หญิงห้วนๆ! เป็นแค่สามัญชนแท้ๆ!...นี่อะไร?"
รู้สึกโรเวลล์จะเริ่มรำคาญจึงหยิบหนังสือเดินทางให้เขาดูทันทีพร้อมกับถอดแว่นตาออก ไม่งั้นฉันว่ามีวางมวยแน่ๆ...
"โรเวลล์ รีเมียร์ โซแอสเตอร์...องค์ชายลำดับที่หนึ่งแห่งอาณาจักรเฮนน์เบิร์ก!!"
ทหารยามดูหนังสือเดินทางสลับกับหน้าของโรเวลล์ด้วยสีหน้าซีดเผือดก่อนจะส่งหนังสือเดินทางคืนและรีบก้มหัวขอโทษเรื่องก่อนหน้านี้
"เชิญทั้งสองท่านทางด้านนี้เลยขอรับ"
เมื่อเขาพาเดินเข้ามาด้านหลังเวทีก็มีห้องอยู่เต็มไปหมด ก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าห้องที่เขียนว่า 'ห้องรับรองพิเศษ' ติดอยู่ ทหารยามพูดกับองครักษ์ที่เฝ้าหน้าห้องครู่เดียวพวกเขาก็เคาะประตูแจ้งด้านในทันที สักพักก็เปิดประตูให้พวกฉันเดินเข้าไปก็เห็นว่าเพื่อนทั้งสามคนของฉันนั่งอยู่ที่โซฟารับรองมีเพียงริเวียล่าที่ถอดแว่นออกยกเว้นพี่น้องของฉัน
"ไม่ได้พบกันเสียนานนะคะท่านโรเวลล์"
"เช่นกัน"
สรุปรู้จักกันจริงๆด้วยสินะ...
"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ดิฉัน ลีฟา เดอ มิสฟรอยด์ องค์หญิงลำดับที่หนึ่งแห่งอาณาจักรเทรลฟรอสค่ะ พูดแบบเป็นกันเองก็พอนะคะ"
เธอแนะนำตัวกับฉันอย่างสุภาพฉันจึงย่อตัวตอบอย่างเลิ่กลั่ก
"เอ่อ...ดิฉัน เอลล่า แอชวูดส์ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักกับท่านเช่นกัน"
"สามพี่น้องนี่เอง"
ลีฟาพูดก่อนจะมองไปทางเอริคและวินซ์ที่นั่งประกบริเวียล่าอยู่
"เป็นสหายคนสนิทกับท่านโรเวลล์และท่านริเวียล่าได้ แสดงว่าอยู่ในตระกูลใหญ่สินะคะ"
"ไม่ใช่ธุระอะไรของเธอหรอก"
"ฮึๆ~ ท่านก็ยังคงเย็นชาเหมือนเมื่อตอนสมัยเด็กไม่มีผิดเลยนะคะ คู่หมั้นอย่างดิฉันได้ยินแบบนี้ก็เสียใจเหมือนกันค่ะ"
"เอ๋?!"
ทั้งเอริคและวินซ์ต่างอุทานออกมาพร้อมกัน ส่วนฉันก็หันขวับไปทางโรเวลล์ที่กำลังทำสีหน้าเบื่อโลกทันที คู่หมั้น?!
"อย่าพูดให้คนอื่นเข้าใจผิด เป็นเพียง 'อดีตคู่หมั้น' ที่ยกเลิกการหมั้นไปตั้งแต่ตอนเด็กและเป็นแค่เพียงในนามเท่านั้น"
"แหม~ ตอบแบบไม่ให้เหลือเยื่อใยเลยนะคะเนี่ย"
"อย่านอกเรื่องเลย ทำไมเธอถึงโดนลอบสังหารล่ะ"
โรเวลล์ถามไปยังลีฟาที่มีสีหน้าหมองลงเล็กน้อย ซึ่งดูก็รู้ว่าเธอยังไม่ค่อยโอเคกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อสักครู่
"ก็...ยังมีกลุ่มต่อต้านและคัดค้านเรื่องการยกเลิกการปิดประเทศอยู่ค่ะ เป็นผลสืบเนื่องมาจากกฎหมายฉบับใหม่ที่ท่านแม่ได้ร่างขึ้นมาใหม่ และผ่านการเห็นชอบจากประชาชนอย่างล้นหลามที่เกี่ยวกับการยกเลิกอัญเชิญนักบุญและการยกเลิกสงครามค่ะ"
"คนไม่เห็นด้วยเยอะงั้นหรือ"
"แค่ส่วนน้อยค่ะ แต่คนที่คัดค้านเป็นกลุ่มขุนนางใหญ่เพราะผลประโยชน์ของพวกเขาได้ขาดหายไป เลยกลายเป็นปัญหามาจนถึงปัจจุบัน เริ่มมีคนว่าจ้างให้มาลอบทำร้ายและสังหารคนที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์หรือแม้แต่พวกดิฉันเองก็ด้วย พอตามสืบสาวว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลับหาตัวการไม่เจอแม้แต่เงา ตอนนี้ก็มีท่านพี่เรยาสคอยตามสืบเรื่องพวกนี้อยู่เช่นกันค่ะ"
"แล้วเอาความลับพวกนี้มาบอกกันจะไม่เป็นอะไรงั้นหรือ"
"ไม่เป็นอะไรอยู่แล้วนี่คะ ยังไงพวกท่านก็ไม่เอาไปพูดกับผู้อื่นอยู่แล้วข้ามองคนไม่ผิดหรอกค่ะ"
"...ยังไงเธอเองก็ระวังตัวให้มากกว่าเดิมล่ะ"
"ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงค่ะ แล้วก็...ขอบคุณท่านวินซ์อีกครั้งที่ช่วยชีวิตดิฉันไว้ด้วยนะคะ"
เธอก้มหัวให้วินซ์ที่ลุกขึ้นแบบเด๋อๆรับคำขอบคุณนั้น
"ว่าแต่...ท่านรู้ได้อย่างไรกันคะว่ามีลูกธนูยิงมาทางดิฉัน"
"...น่าจะเป็นทักษะเฉพาะตัวล่ะมั้งครับ"
"อย่างนั้นเองหรือคะ...ถึงว่า เมื่อสักครู่ก่อนที่งานจะเริ่ม ดิฉันและผู้ติดตามได้เดินตามหลังพวกคุณภายในงานเพราะพวกคุณดูโดดเด่นไม่เหมือนคนในท้องที่ ไม่นึกว่าจะโดนท่านจับได้ แถมในกลุ่มยังมีท่านริเวียล่าอีกด้วย"
"เป็นท่านเองหรอกหรอ..."
วินซ์พูดพลางทำสีหน้าประหลาดใจ นี่พวกเขาไปทำอะไรที่ไหนกันมาเนี่ย...
ก๊อกๆ...
"องค์หญิงลีฟาขอรับ ท่านเรยาสได้เดินทางมาถึงแล้วขอรับ"
โรเวลล์จูงมือฉันไปนั่งที่เก้าอี้อีกฝั่ง คนที่เดินตามนำองครักษ์เข้ามาน่าจะเป็นองค์ชายลำดับที่หนึ่งของอาณาจักรแห่งนี้ เรยาส เดอ มิสฟรอยด์
"หืม?...มีแขกที่ไม่คาดคิดว่าจะเจออยู่ด้วยนะเนี่ย ไม่ได้พบกันเสียนานนะโรเวลล์ ริเวียล่า"
หนุ่มหล่อผมบรอนด์ทอง ดวงตาน้ำเงินใสคล้ายน้องสาวหันมาทักทายโรเวลล์และริเวียล่าที่ลุกขึ้นมาทำความเคารพเช่นเดียวกัน
"กี่ปีแล้วเนี่ย? นายดูไม่เปลี่ยนไปเลยนะโรเวลล์ ริเวียล่าก็ด้วย แล้วสาวน้อยคนข้างๆนายกับชายหนุ่มทั้งสองท่านนี้คือใครกัน?..."
"ผมเอริค แอชวูดส์ ส่วนสองคนนี้คือพี่น้องของผม เอลล่าและวินซ์ครับ"
เอริคลุกขึ้นก่อนจะแนะนำตัวแทนพวกฉัน
"ทั้งสามคนเป็นเพื่อนของพวกเราเอง"
ริเวียล่าพูดขึ้นด้วยแววตาเบื่อเล็กน้อยและดึงแขนเสื้อวินซ์ให้ลุกขึ้นตาม
"ถ้าเช่นนั้นเรื่องปัญหาก็ไม่เกี่ยวกับพวกดิฉันแล้ว พวกเราขอตัวก่อนก็แล้วกันค่ะ"
"จะรีบไปไหนกันล่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานไปรับประทานอาหารด้วยกันก่อนดีกว่า องค์หญิงกับองค์ชายจากอาณาจักรเพื่อนบ้านมาถึงทั้งที"
"พวกเราเพียงแค่ 'มาเที่ยว' ในวันหยุดยาวเท่านั้นค่ะ ยังไงก็อยากขอความเป็นส่วนตัวไว้ด้วย"
"ฮ่าๆๆๆ~~ ยังเย็นชากันเหมือนเดิมทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะเนี่ย"
เรยาสเดินเข้ามาตบไหล่โรเวลล์ที่ทำสีหน้าปลาตายพลางหัวเราะและมองหน้าฉันแบบอึ้งๆเพราะเพิ่งมองตรงๆครั้งแรก...หน้าฉันมีอะไรติดหรือเปล่า
"คุณหนูคนสวย...ไม่ทราบว่ามีเวลาว่างไปรับประทานอาหารที่พระราชวังหลวง..."
"อย่ายุ่งกับเธอ เธอคือคนสำคัญของข้า"
"เอ๋~ / เอ๋!!!"
โรเวลล์ดึงฉันมาอยู่ข้างๆตัวท่ามกลางเสียงของคนในห้องที่แตกต่างกันออกไป...พูดได้หน้าตาเฉยเลยนะ!
"งั้นหรอๆ~ เสียมารยาทกับเจ้าเสียแล้วสิโรเวลล์ งั้นพวกข้าไม่รั้งพวกเจ้าไว้แล้วล่ะ เที่ยวกันให้สนุกหากว่างก็ไปเยี่ยมกันที่วังบ้างนะ"
โรเวลล์ไม่รอตอบ เขาเพียงแค่ก้มหัวและจูงมือฉันเดินออกจากห้องทันที สามคนที่เหลือก็เดินตามกันมาติดๆ ไม่บอกลาพวกเขาหน่อยหรอออ~
"ท่านพี่ก็ยังจะไปแกล้งท่านโรเวลล์อีกนะคะ ฮึๆ"
"ก็เขาไม่เคยยิ้มให้ดูเลยนี่นา อีกอย่างนะ สาวน้อยคนนั้นสวยมากเลย เจ้าก็เห็นใช่ไหม"
"ใช่ค่ะ แถมรอบๆตัวเธอยังมีความรู้สึกแปลกๆต่างจากท่านอื่นๆด้วยนะคะ"
"ข้าก็รู้สึกแบบเดียวกัน...อืม...แอชวูดส์...เดี๋ยวนะ ตระกูลแอชวูดส์ไม่ใช่ว่าเป็นตระกูลดยุคใหญ่ในเฮนน์เบิร์กหรอกหรือ? ที่ท่านแม่เคยบอกเห็นว่ามี ตระกูลหนึ่งได้รับอุปการะหญิงสาวที่เป็นนักบุญ...อย่าบอกนะว่า...เธอคนนั้น?"
"แต่ท่านแม่บอกว่าท่านนักบุญมีเส้นผมสีเงินสว่างนี่คะ"
"แว่น...แว่นพรางตัวที่ต้องสั่งทำในราคาที่สูงลิ่ว เมื่อกี้ก็มัวแต่ตะลึงในความสวยของเธอ โอย~ เป็นเรื่องแล้วยังไงล่ะ ท่านแม่ทรงมีรับสั่งให้ตามหาตัวของนางกับเพื่อน แต่ไม่ยักรู้ว่าจะเป็นเพื่อนกับองค์รัชทายาททั้งสองคนนั้นด้วย แถมมาด้วยกันอีกต่างหากแล้วยังมาปล่อยให้หลุดมือไปแบบนี้ โดนท่านแม่บ่นหูชาแน่ๆเลยยย!~"
"ฮะๆ~ แต่เพื่อนของท่านโรเวลล์ได้ช่วยชีวิตฉันไว้ค่ะ ในขณะที่น้องยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ"
"เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว หากเจ้าเป็นอะไรไปข้าก็ไม่ปล่อยไว้แน่นอน ข้าจะให้คนตามสืบเรื่องของคนตระกูลแอชวูดส์เพิ่ม พวกเราเองก็กลับไปแจ้งท่านแม่กันเถอะ ป่านนี้ท่านน่าจะเป็นห่วงแย่แล้ว"
"ค่ะ ท่านพี่"
...
"เอลล่า"
"...อะไร"
"งอนงั้นหรอ"
"งอนอะไรของนายกัน"
"หรือว่า...หึง?"
"ใครหึงกันยะ?!"
ฉันแหวใส่โรเวลล์ที่พูดแบบยิ้มๆใส่ฉันทันทีจนอีกสามคนที่เหลือหัวเราะออกมา ตอนนี้พวกฉันทุกคนปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกทั้งหมด ฉันกับวินซ์เปลี่ยนเป็นผมสีครีมตาสีเขียว ส่วนอีกสามคนที่เหลือเป็นผมสีน้ำตาลตาสีดำกับสีเทาต่างกันไปแทน ทำไมมาเที่ยวทั้งทีต้องลำบากขนาดนี้ด้วย~~
"ขบวนพาเหรดกำลังจะเริ่มแล้ว"
ริเวียล่าพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกันอยู่ที่ริมระเบียงชั้นสองของร้านอาหารกลางเมือง ซึ่งสามารถมองเห็นขบวนพาเหรดประจำเทศกาลเฮอรันได้เต็มที่ตลอดสองชั่วโมงเต็ม ขบวนแรกเปิดตัวมาก็อลังการงานสร้างเลยแฮะ เป็นประติมากรรมน้ำแข็งที่แกะสลักออกมาอย่างประณีตเป็นรูปหญิงสาวถือช่อดอกไม้ประจำเทศกาลและยังมีผีเสื้อจำลองที่สร้างจากเวทมนตร์บินไปมาหยอกล้อกับผู้ชมด้วย สวยมากๆเลย~~
"เย็นมือหรอ เห็นถูมือหลายรอบแล้ว"
โรเวลล์พูดพร้อมยื่นมือที่สร้างไออุ่นมาจับมือฉันเบาๆ
"ก็...นิดหน่อย ยังไม่ชินอากาศสักเท่าไหร่น่ะ"
"หึ...ยังไม่หายงอนอีก"
"ก็บอกว่าไม่ได้งอน พูดไม่รู้เรื่องหรืออย่างไรกันฮึ"
"ไม่งอนก็ไม่งอน แล้วทำไมไม่เห็นมองหน้ากันเลยล่ะ"
"ดูขบวนอยู่ไม่เห็นหรือไง"
"ฮ่าๆๆๆ~"
แล้วเขาก็หัวเราะออกมาอย่างน่าหมั่นไส้จนฉันหันไปเขม่นใส่
"...เรื่องลีฟาเป็นการหมั้นตั้งแต่ฉันยังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ"
"ไม่ได้อยากฟังสักหน่อย..."
"ฉันกับเธอก็เคยเจอกันแบบนับครั้งได้ตามงานใหญ่ๆระหว่างอาณาจักรก่อนที่จะปิดเท่านั้น แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง..."
เขาก้มลงมากระซิบที่ข้างหูฉันเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน
"ฉันก็ไม่เคยสนใจใครอยู่แล้วล่ะนะ ยกเว้นเธอ"
ฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีก่อนจะดันหัวเขาออกไปด้วยความเขินอาย หยอดเก่งเหลือเกินนะพ่อคุณ!
"แน่ะๆ! ใกล้น้องฉันมากเกินไปแล้วนะ ออกห่างเดี๋ยวนี้เลย!"
เอริคที่นั่งอยู่ริมขวาสุดชะโงกหน้าและเอาส้อมชี้มาทางโรเวลล์ที่นั่งอยู่ด้านซ้ายสุดข้างๆฉัน แต่ก็โดนริเวียล่าตีมือไปหนึ่งทีข้อหาเอาส้อมมาชี้หน้าคนอื่น เอริคก็คือเอริคล่ะนะ~ ฮะๆ
"แล้วพรุ่งนี้วางแผนจะไปเที่ยวที่ไหนล่ะ?"
โรเวลล์ถามฉันเช่นเดียวกับวินซ์ที่หันหน้ามาเพราะอยากรู้ด้วย
"แน่นอนอยู่แล้ว~ ก็ต้องเป็น 'มหาวิหารลากลอส' ที่เป็นที่ตั้งของผลึกเวทแห่งอาณาจักรนี้ยังไงล่ะ~~"