บทที่ 25
ปีใหม่วันหยุดได้ผ่านพ้นไปอย่างราบเรียบ พร้อมกับที่สามีของฉันได้เข้าเรียนในมหาลัยเป็นที่เรียบร้อย ทุกอย่างกำลังผ่านไปได้ด้วยดี
เพียงแต่การหาเงินนั้นจำต้องหาเพิ่มอีกหลายเท่าตัว ไม่แปลกที่ตอนนี้เราสองคนดูจะหัวหมุนเป็นลูกข่างไม่หยุด ถึงจะมีเวลาพักสามีของฉันก็เอาแต่สนใจหนังสือและการเรียนอย่างหนัก แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็มีความสุขทุกครั้งที่เห็นเขาตั้งใจมากแบบนี้
“ไม่คิดเลยนะว่าชีวิตของเธอจะดีแบบนี้” เสียงแหบของหญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้น พร้อมกับมองบรรยากาศรอบๆ บ้านของฉันไม่วางตา สีหน้านั้นดูจะผ่อนคลายและวางใจที่ได้เห็นว่าสภาพของฉันนั้นดีกว่าที่คิด
“ก็อยู่ตามที่มีแหละค่ะ ไม่ลำบากมากอย่างที่เคยเป็นมาก่อน” ฉันตอบกลับออกไป
วันนี้เป็นวันหยุดของฉันและสามี แน่นอนว่าถึงวันหยุดเขาก็เอาตัวฝังห้องหนังสือในมหาลัยไม่ยุ่งกับใครเลย เพียงแต่วันหยุดของฉันรอบนี้นั้นมีกลับมีแขกที่คุ้นตามาเยี่ยม นั่นก็คือป้าอุบลหรือคนที่เก็บฉันมาเลี้ยง
ฉันก็พอรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนบอกที่อยู่ของฉัน แต่ก็ดีเหมือนกันที่ฉันได้พบคนที่มีพระคุณอีกครั้ง
“แล้วสามีของเธออยู่ไหนล่ะ ไม่พามาแนะนำหน่อยหรือไง” ป้าอุบลเอ่ยถามหาชายร่างสูงผู้ที่ขึ้นชื่อว่าสามีของหลาน แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงา
“เขาออกไปอ่านหนังสือที่มหาลัย คงจะกลับมาเย็นขอโทษที่ไม่ให้รั้งรอ” เพราะตามจริงป้าอุบลนั้นก็มาอย่างกะทันหันด้วยแหละ ฉันจึงไม่สามารถรั้งให้เขารออยู่ได้
“คงรักมากเลยสินะ” ยิ่งเห็นหน้าหลานสาวที่เลี้ยงมามีความสุขตอนพูดถึงเขา เธอก็พอรับรู้ได้แล้วแบบนี้ก็พอหายห่วงเบาใจขึ้นมาบ้าง
“เขาดีกับฉันมาก ดีมากจนไม่คิดว่าทั้งชีวิตจะได้พบเจออีกแล้ว”
มันดีมากจนฉันได้รับรู้ถึงความรักของครอบครัว ต่างจากที่หนาวเหน็บในบ้านหลังใหญ่นั้นที่ไม่มีใครรักใครสนใจ
“ฉันเลี้ยงเธอมาแย่จริงๆ นั่นแหละ เพราะยังไงเธอก็ไม่ใช่ลูกของฉันหรือญาติฉันสักนิด” ป้าอุบลยกยิ้มให้กับความเห็นแก่ตัว “แต่ก็นะ…ฉันก็รักและเอ็นดูเธอเหมือนกัน เพียงแต่การรักของฉันนั้นมันดูเย็นชาและกดขี่เกินไป”
คนผิดที่ทำให้เธอมีนิสัยร้ายและหวังสูงนั้นก็ย่อมเป็นคนที่เลี้ยงมา เพราะไม่ได้ความรักจากคนที่สมควรได้รับ จนทำให้เธอไปไขว้คว้าหาความรักจากคนอื่น จนร่างกายแปดเปื้อนและไร้ศักดิ์ศรีแบบนั้น
“แต่ฉันดุด่าก็เพราะไม่อยากให้ไปยุ่งกับไฟอย่างคุณปรัง เพราะอย่างไรสุดท้ายเขาก็หวังแค่ร่างกายเท่านั้น”
ป้าอุบลเอ่ยความในใจออกมา โดยที่ฉันก็นั่งลอบกำมือของตัวเองแน่น พร้อมกับสองตาที่กำลังร้องผ่าวกับความเสียใจ
“เรื่องมันเก่าไปแล้วก็ปล่อยผ่านไปเถอะ เพราะฉันลืมมันหมดแล้ว...ลืมมันไปตั้งแต่สามีของฉันยอมรับในตัวฉันได้แล้วล่ะ”
ฉันยกยิ้มออกมาพร้อมกับบอกกับป้าอุบลว่าตัวฉันนั้นไม่เป็นอะไร แถมตอนนี้ฉันก็พบเจอคนสำคัญในชีวิตแล้ว ถึงจะไม่ได้อยู่สุขสบายเหมือนอย่างแต่ก่อน แต่ฉันก็มีความสุขในทุกๆ วันที่ลืมตาตื่นเช้าขึ้นมา
“แบบนี้ดีแล้วล่ะ ฉันก็พอวางใจหายห่วง” พอเห็นว่าหลานสาวใช้ชีวิตสงบสุขไม่มีปัญหา เธอก็หายใจโล่งอกขึ้นมา
ตั้งแต่ที่หลานหายไปเธอก็กังวลและเป็นห่วง เพราะว่าเด็กสาวตัวคนเดียวที่อ่อนต่อโลกอย่างนั้นถ้าเจออันตรายขึ้นมาคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ พร้อมกับคุณปรังเจ้านายหนุ่มก็พร้อมจะช่วยหาอย่างเต็มที่อีกด้วย
เธอเพิ่งได้รับรู้ว่าตัวเองนั้นเลี้ยงหลานแย่ก็ตอนนี้นี่แหละ ทั้งดุด่าว่าคำหยาบเท่านั้นไม่พอ เธอยังตัดอนาคตของหลานทิ้งอย่างไม่ไยดีอีกด้วย ทั้งๆ ที่หัวสมองของหลานนั้นสามารถพาเรียนจบสูงๆ ได้อย่างสบาย แต่เธอก็เป็นคนตัดมันอย่างไร้ใจ
“ฉันได้ข่าวมาว่าสามีกำลังเรียนต่อไม่ใช่หรือไง แถมต้องใช้เงินมากด้วย” ป้าอุบลเปิดอีกเรื่องขึ้นมา ก่อนจะควักเงินในกระเป๋าออกมาวางไว้ตรงหน้าหลานสาว
“นี่คือ…”
“เงินที่เธอทิ้งไว้ให้นั่นแหละ ฉันให้เพิ่มอีกด้วยเพราะอย่างไรพวกเธอต้องใช้เงินดำรงชีวิตอยู่แล้ว” ป้าอุบลตอบกลับ ก่อนจะยัดเงินก้อนนั้นใส่มือของหลานสาว
“แต่นี่มันมากเกินไป ถ้าป้าให้มาแบบนี้แล้วป้าจะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะ” ฉันปฏิเสธและเอ่ยถามอย่างอยากรู้
“ฉันอยู่ฟรีกินฟรีในบ้านเจ้านาย เรื่องเงินๆ ทองๆ ฉันก็ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว ถึงเก็บไว้ก็ไม่รู้จะเก็บไว้ให้ใคร ดังนั้นเอาไปใช้เถอะอย่างไรฉันก็เป็นคนเลี้ยงมา ถ้าไม่ดูแลหลานตัวเองแล้วจะดูแลใคร”
ฉันที่ได้ยินแบบนั้นน้ำตาจากที่ไหนไม่รู้ก็ไหลรินออกมาไม่หยุด เพราะไม่คิดเลยว่าป้าที่เลี้ยงมานั้นจะใส่ใจฉันขนาดนี้ รอยยิ้มที่ส่งมาให้นั้นมันช่างอบอุ่นและชวนถวิลหามากเหลือเกิน
“ขอบใจมากนะคะที่ยังไม่ทิ้งฉัน”
“หยุดร้องไห้เถอะนะ ยังไงฉันเลี้ยงมากับมือจะทิ้งลงได้ไงกัน” ป้าอุบลไม่รอช้ารีบปลอบหลานสาวของตน
“ส่วนเงินนี่ก็รับไว้เถอะ เอาไว้เป็นค่าเทอมให้สามีของเธอได้ร่ำเรียนศึกษา”
จนแล้วจนรอดฉันก็ต้องรับเงินของป้าอุบลจนได้ โดยที่ป้านั้นได้อ้างชื่อของสามีฉันมายกแลกเปลี่ยน แต่ป้าอุบลก็พูดถูกค่าใช้จ่ายค่าเทอมและค่าอุปกรณ์ของสามีนั้นมันเยอะและแพงมาก ถึงจะมีเงินเก็บใช้แต่ก็ไม่เพียงพอเท่าที่ควร ถ้าได้เงินของป้ามาเพิ่มก็คงน่าจะดีขึ้น
“ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยฉัน อย่างไรวันหลังว่างๆ ฉันจะกลับไปเยี่ยมนะ” ฉันมายืนส่งป้าอุบลที่หน้าปากซอย เพราะป้านั้นออกมานานเกินไปแล้ว เธอกลัวว่าเจ้านายจะเรียกและตามหาให้ไปใช้งาน
“อย่าลืมพาสามีไปด้วยล่ะ ฉันอยากเห็นหน้าตาบ้างว่าจะหล่อเหลาเหมาะสมแค่ไหน”
ป้าอุบลอยากรู้จริงๆ ว่าหน้าตาคนที่สามารถขโมยหัวใจหลานสาวได้ แถมยังทำให้เธอนั้นหลงจนโงหัวไม่ขึ้นอีกต่างหาก เขาคนนั้นต้องเป็นคนดีและใส่ใจเธอมากอย่างแน่นอน
“ฉันจะหาเวลาพาเขาไปค่ะ” ร่างเล็กยืนโบกมือป้าอุบลผู้มีพระคุณขึ้นแท็กซี่จากไป พร้อมกับแวะไปซื้อของในตลาดเล็กน้อยเพื่อทำอาหารรอสามี แต่ไม่ทันไรฉันก็เห็นสามีเดินลงจากรถเมล์มาเจอฉันเข้า
“คุณเดินออกมาเองคนเดียวหรอครับ ผมบอกแล้วนะว่ามันอันตราย”
เสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยบ่นขึ้นพร้อมใบหน้าที่ดูหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะถึงเธอจะอยู่คุ้นเคยกับที่นี่แล้วก็ใช่ว่าจะปลอดภัย
“พอดีป้าอุบลที่เคยเลี้ยงฉันเขามาเยี่ยมนะคะ ฉันเลยเดินมาส่งป้าเขาที่ปากซอย” ฉันตอบกลับพลางเกาะแขนเขาแน่น เพื่อขอโทษที่ไม่ระวังตัวเท่าที่ควร
“ป้าอุบลมาเยี่ยมคุณหรอครับ ผมไม่ได้อยู่รั้งรอต้อนรับเลย”
หลังจากที่รู้ว่าเธอออกมาทำไม เขาก็ดูจะรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าคนที่มีพระคุณของภรรยาจะมาเยี่ยมเยือนถึงที่บ้าน ตามจริงเขาก็พอรู้แล้วว่าใครเป็นคนบอกที่อยู่ แต่เขาก็รู้สึกผิดมากจริงๆ ที่ไม่รออยู่ต้อนรับ
“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ป้าอุบลมาเยี่ยมแป๊บเดียวก็ขอตัวกลับ” ฉันกล่าวออกไปตามจริง “แต่ป้าก็ฝากมาบอกกับฉันว่าอยากพบคุณมากเหมือนกัน ป้าเขาอยากรู้ว่าคุณทำอะไรฉันกันแน่ ถึงทำให้ฉันหลงหัวปักหัวปำแบบนี้”
ฉันว่ากล่าวติดตลก โดยที่สามีของฉันนั้นดูจะตัวแข็งทื่อหน้าเริ่มเขินอาย
“ผมไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะครับ ทำไมป้าอุบลถึงพูดแบบนั้น”
“ที่รักทำนะคะ”
“เอ๊ะ” เขาร้องขึ้นอย่างสงสัย
“ก็ที่รักทำตัวน่ารักและแสนดีแบบนี้ไง ฉันถึงได้หลงอย่างโงหัวไม่ขึ้น”
ความน่ารักใสซื่อของสามีนั้นมันเป็นอะไรที่ดูสบายตาอย่างมาก แถมเขานั้นก็เป็นคนดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอมา
“งั้นเชิญที่รักหลงผมให้พอใจเลยนะครับ เพราะผมก็หลงรักคุณมากเหมือนกัน”
จบคำพูดของเขาตัวของฉันก็บิดม้วนขวยเขินยิ่งกว่างู ยิ่งตอนที่ดวงหน้าของเขายามเอ่ยนั้นมันแพรวพราวเสน่ห์เจ้าเล่ห์เหลือเกิน มันช่างเป็นอะไรที่อยากจะจับกดขึ้นเตียงจังเลย
ไม่ไหว…ฉันหลงรักผัวตัวเองอีกแล้ว
“อีกสักสองสามวันเราไปเยี่ยมป้าคุณกันดีไหมครับ พอดีผมมีเรื่องอยากจะขอด้วย” เขาเอ่ยขึ้น ในระหว่างที่กำลังจะเดินกลับบ้านของเรา
“เรื่องที่ขออะไรหรอคะ”
“ผมไม่บอกหรอกครับ”
ต้นแบบยกยิ้มตอบกลับทิ้งปมไว้ให้เธออยากรู้ แต่กระนั้นเธอก็เอาแต่ถามคะยั้นคะยออยากรู้ให้ได้ไม่หยุด เขาที่ไม่อยากให้เธอทรมานก็เลยยอมบอกออกไปตามตรง
“ผมตั้งใจจะไปสู่ขอคุณเพื่อแต่งงานให้ตรงตามประเพณีนะครับ” เขาอยู่กินกับเธอมาก็นานพอควร และเขาก็รักเธอมากจนคิดว่าต้องสู่ขอตกแต่งเธอให้สมศักดิ์ศรีเสียหน่อย
“จะไปสู่ขอป้าฉัน ถามฉันหรือยังว่ายอมแต่งด้วยหรือเปล่า” ฉันเชิดหน้าเล็กน้อย เพราะถ้าว่ากันตามตรงเขาต้องขอฉันแต่งงานก่อนสิ
“ทำไมผมต้องขอคุณด้วยล่ะครับ เพราะยังไงคุณก็ต้องอยากแต่งกับผมอยู่ดี” เขาหัวเราะร่าออกมา เนื่องจากเดาทางคำตอบของเธอถูกอยู่แล้ว “หรือว่าคุณไม่อยากใช้ชีวิตร่วมกับผม”
“อยากสิ! ฉันอยากจะอยู่กับที่รัก อยากให้คุณเป็นเจ้าบ่าวของฉันมากเลยด้วย”
ฉันรีบแย้งตอบออกไปทันควัน มีผัวดีเลิศแบบนี้ใช่ว่าจะหาง่ายๆ นะ ในมีเมื่อโอกาสเป็นเจ้าของก็ต้องรีบคว้าสิ จะปล่อยให้ลอยผ่านไปได้ยังไงกัน
“ผมก็อยากให้คุณเป็นเจ้าสาวของผมเหมือนกันครับ สุดที่รัก”
ก็หวานสวีทมดขึ้นทำรังบนตัวไปเลยสิค่ะ
ล่าสุดก็คือวางแผนไปสู่ขอกันแล้ว
ความในใจของไรท์คือยกยัยน้องให้พี่ฟรีเลยค่ะ ไม่คิดสักแดงเดียวเลย
5555555