ประกาศจากหน่วยรักษาความปลอดภัยของราชอาณาจักร
ตั้งแต่วันที่ xx เดือน xx ปี xxxxx เป็นต้นไป จากสถานการณ์ที่อยู่ในความสงบเรียบร้อยและความร่วมมือกันของทั้งสามอาณาจักร พรมแดนทุกส่วนระหว่างอาณาจักรจะสามารถเดินทางเข้าออกได้ตามปกติ ขอให้ประชาชนได้โปรดไว้วางใจ การค้าขาย การท่องเที่ยวระหว่างอาณาจักร ต้องใช้หนังสือเดินทางและบัตรประจำตัวเช่นเดิม ท่านสามารถไปต่ออายุหรือจัดทำหนังสือใหม่ได้ ณ ที่ทำการกองกิจการระหว่างอาณาจักรภายในเวลาทำการ ขอความสงบสุขจงอยู่คู่กับประชาชนและเซน
อีธาน แอสวูดส์
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของราชอาณาจักร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
"โห~ พี่คะ ภูเขาน้ำแข็งล่ะ!"
"อื้มๆ~ เห็นเจ้าตื่นเต้นแบบนี้ข้าก็ยิ้มไม่หุบมาตั้งแต่เช้าแล้วล่ะเอลล่า อย่ายื่นหน้าออกไปเยอะสิ มันอันตราย"
ฉันหันไปยิ้มให้เอริคอย่างตื่นเต้น ใช่แล้ว...ตอนนี้พวกฉันกำลังเดินทางไปเที่ยวที่อาณาจักรทางเหนือกันล่ะ~ แถมตอนนี้ก็อยู่บนรถไฟแบบโบราณที่เคยเห็นแต่ในพิพิธภัณฑ์ในโลกก่อนด้วยล่ะแต่เป็นแบบไอน้ำและขับเคลื่อนด้วยเศษหินเวทแทน วิวด้านนอกตอนนี้ก็คือทะเลสาบน้ำแข็งที่กว้างขวางด้านหลังทะเลสาบก็คือภูเขาหิมะที่สูงเฉียดฟ้า จนตอนนี้เหมือนรถไฟถูกล้อมรอบไปโดยพวกมันเลยล่ะ สวยมากๆเลย
"ชอบไหม?"
"ชอบมากๆเลย เหมือนอยู่ในความฝันไปเลยนะเนี่ย"
ฉันหันไปยิ้มกว้างให้โรเวลล์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ตู้ที่พวกฉันนั่งอยู่เป็นตู้พิเศษนั่งได้หกคนเชียวล่ะ มีอาหารเครื่องดื่มคอยบริการครบครัน ฝั่งตรงข้ามคือสามเกลอที่นั่งอยู่ด้วยกันวินซ์กับริเวียล่านั่งหลับคอพับพิงกันอยู่ส่วนเอริคก็นั่งกินขนมไปเพลินๆ รถไฟนี่ก็วิ่งได้เงียบมากและเร็วมาก แทบไม่มีแรงสั่นสะเทือนเลยด้วยซ้ำ
"เตรียมแว่นเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?"
โรเวลล์พยักหน้าก่อนจะหยิบกล่องแว่นออกมาจากกระเป๋าและวางเรียงบนโต๊ะด้านหน้า เป็นแว่นที่พวกฉันเคยใส่เมื่อตอนงานเทศกาลเมื่อครั้งก่อนนั่นเอง เอริคเอากล่องไปและเอาแว่นออกมาลองใส่
"อืม...ข้าดูโอเคใช่ไหม"
เอริคที่เพิ่งสวมแว่นกะพริบตาเล็กน้อยด้วยความไม่เคยชิน ตอนนี้เขากลายเป็นหนุ่มผมแดงและมีดวงตาสีเทาแทน ดูบรรยากาศเปลี่ยนไปเลยแฮะ
"ท่านพี่หล่อเหมือนเดิมเลยค่ะ"
"แฮะๆ~ เจ้าก็น่ารักมากๆเลย สมแล้วที่เป็นน้องพี่!"
ฉันหัวเราะให้เขาเบาๆแก้เขิน ก่อนจะมองเงาตัวเองที่สะท้อนในกระจกตรงหน้าต่าง ผมสีน้ำตาลคาราเมลดวงตาสีเขียวน้ำทะเล เป็นสีนี้นี่เอง...รอบที่แล้วไม่ได้สำรวจตัวเองเลยมัวแต่เดินเที่ยว หน้าตาก็เปลี่ยนไปนิดหน่อยแต่ก็ยังคงเคล้าเดิมเอาไว้ ถ้าไม่ได้สังเกตตรงๆก็ไม่มีคนจับได้แน่นอน ส่วนโรเวลล์ก็เป็นหนุ่มผมทองตาฟ้าหน้าง่วงเหมือนเดิม
"หล่อจังเลยนะ~ ใจเต้นเลยเนี่ย~"
ฉันเอียงคอไปทางโรเวลล์ก่อนจะพูดแซวเค้าด้วยท่าทางกวนๆ
"หึ...อย่าลืมว่าอยู่ในใบหน้านี้เธอคือคนรักฉันอยู่นะ จำไม่ได้หรอ"
"มาเที่ยวไม่ต้องก็ได้ไหมล่ะ!"
"อะแฮ่ม! มาคนรงคนรักอะไรแถวนี้ ฝันอยู่ก็ตื่นซะองค์ชาย"
เอริคนั่งกอดอกไขว่ห้างก่อนจะมองไปยังโรเวลล์ด้วยสายตาเสียดแทงจนฉันหัวเราะ
หมับ!
"อยู่ฝั่งนั้นก็นั่งกินขนมไปเงียบๆสิ"
"หยุดเลยเจ้าบ้า!"
จู่ๆโรเวลล์ก็เอื้อมมือมาจับไหล่ฉันดึงเข้าไปโอบพร้อมกับเอาหัวมาซบจนเอริคลุกขึ้นมาชี้หน้าด้วยความหวง คิดจะทำก็ทำเลยหรือไงกันตาคนนี้นี่!
"...เสียงดังน่า ตาบ้าเอริค"
เสียงของริเวียล่าดังขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด ฉันกับโรเวลล์มองหน้ากันก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เรื่องนี้พวกฉันไม่เกี่ยวนะเอริค~~
"...แล้วนี่เราถึงไหนกันแล้วครับ"
วินซ์ที่เพิ่งหายจากอาการสะลึมสะลือหันไปถามโรเวลล์เพราะตอนนี้เอริคกำลังโดนริเวียล่าสวดอยู่เพราะโดนปลุก...
"...กำลังพ้นเขตพิวเรีย ใกล้จะถึงจุดหมายที่พวกเราจะลงแล้วล่ะ"
เขามองออกไปด้านนอกที่ตอนนี้ทิวทัศน์เริ่มเห็นบ้านพักอาศัยและใกล้เข้าเขตเมืองหลวงแล้ว โรเวลล์ส่งแว่นให้วินซ์และริเวียล่าพวกเขาก็รับมันไปสวมทันที วินซ์เปลี่ยนเป็นหนุ่มผมเทาตาสีส้ม ส่วนริเวียล่าก็เป็นสาวผมบรอนด์ตาสีฟ้าเช่นเดียวกันกับโรเวลล์ เจ้าพวกคนหน้าตาดี~~
"เตรียมตัวลงกันได้แล้วล่ะ...ยินดีต้อนรับสู่อาณาจักรที่ความหนาวเย็นอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง...เทรลฟรอส"
...
เสียงรถไฟหยุดลงจอดเทียบที่ชานชาลา ที่เป็นสถานีขนาดใหญ่ ผู้คนที่เดินทางมาเที่ยวมีจำนวนนับไม่ถ้วนและต้องไปตรวจสอบตัวตนที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า พวกฉันที่ไปรับกระเป๋าเดินทางก็เดินตามคนอื่นไปตามทาง ก่อนจะนั่งรอตามลำดับให้เข้าห้องที่แยกเอาไว้เกือบร้อยห้องที่ปิดมิดชิดไม่ให้เห็นด้านใน
เมื่อถึงคิวฉันก็เอากระเป๋าวางไว้บนสายพานเพื่อตรวจสอบของด้านในก่อนจะเข้าไปในห้องที่มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงนั่งอยู่ ฉันจึงส่งหนังสือเดินทางให้และถอดแว่นออกเพื่อยืนยันตัวตน
"อ๊ะ!"
เจ้าหน้าที่หญิงร้องตกใจทันที ก่อนจะหยิบหนังสือเล่มหนาที่อยู่ใต้โต๊ะขึ้นมาเปิดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองสลับกับหนังสือเดินทางและหน้าฉันด้วยความลนลาน
"เอ่อ...มีอะไรผิดพลาดตรงไหนหรือเปล่าคะ?"
ฉันถามเธออีกครั้งเพราะเธอดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสุดๆก่อนจะส่งจดหมายเวทที่จ่าหน้าว่าด่วนที่สุดลอยวับออกไปจากห้อง ก่อนจะลุกขึ้นยืนและก้มหัวให้ฉัน
"ขะ-ขอประทานอภัยด้วยค่ะ! ทางเราไม่ทราบว่าท่านจะมาเยี่ยมเยือนที่อาณาจักรเร็วขนาดนี้"
"...คะ?"
"ท่านมีอาได้กำชับให้ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองตรวจเข้มสำหรับการเปิดอาณาจักรและได้ส่งเอกสารลับให้แก่ทางองค์กรและเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบคนเข้าเมืองทุกคนว่า หากพบเจอหญิงสาวผมเงินสว่าง ดวงตาสีฟ้าใสราวกับอัญมณีเม็ดงามและมีนามว่า เอลล่า แอชวูดส์ ขอให้แจ้งไปยังสำนักพระราชวังโดยเร็วที่สุด เมื่อสักครู่ดิฉันจึงส่งจดหมายด่วนให้แก่ทางการไปแล้วอีกสักครู่คนของพระราชวังคงมาถึงที่นี่ ได้โปรดนั่งรอในห้อง..."
"เดี๋ยวก่อนนะคะ...คือว่า ดิฉันเพียงแค่มาเที่ยวกับเพื่อนๆในระยะสั้นเท่านั้น ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรเลยค่ะ ได้โปรดแจ้งทางการกลับไปอีกครั้งนะคะว่าไม่ต้องมา และเดี๋ยวก่อนกลับจะไปเยี่ยมท่านมีอาด้วยตนเองค่ะ"
"ไม่ได้ค่ะ! แขกคนสำคัญขององค์จักรพรรดินีมาเยือนทั้งที ยังไงก็ไม่ได้ค่ะ!"
"อ๊ะ เอกสารเรียบร้อยแล้วนี่คะ งั้นดิฉันขอหนังสือเดินทางคืนและขอตัวก่อนก็แล้วกันค่ะ ขอให้เป็นวันที่ดีนะคะ~"
"ดะ-เดี๋ยวก่อนค่ะ! คุณหนู! คุณหนูคะ! อย่าเพิ่งไป!~"
ฉันรีบใส่แว่นเดินออกมาจากห้องและไปเอากระเป๋าสัมภาระตรงจุดรับก่อนจะเดินไปหาเพื่อนที่ยืนรอกันอยู่ทันที เด่นซะจนมองเห็นได้จากที่ไกลๆเลย...
"มาแล้วหรอเอลล่า เป็นไงมั่ง"
"ดูเหมือนจะกลายเป็นแขกคนสำคัญของอาณาจักรอย่างไม่รู้ตัวเสียแล้วค่ะพี่"
"เธอก็ด้วยหรอ?"
"ทุกคนก็ด้วย?"
ทุกคนพยักหน้าพร้อมกันก่อนโรเวลล์จะพูดตัดบท
"ช่างเถอะ ตอนนี้ไปเข้าที่พักกันก่อนดีกว่า อยู่ที่นี่นานเดี๋ยวจะวุ่นวายเปล่าๆ"
เขาชี้นิ้วไปยังกองทัพทหารม้าของพระราชวังที่มารวดเร็วอย่างกับอะไร ก่อนจะพากันไปเช่ารถม้าและตรงไปยังโรงแรมทันที
...
"สวัสดีค่ะท่านแม่...พวกหนูถึงที่พักแล้วค่ะ"
[งั้นหรือจ๊ะ เดินทางปลอดภัยดีใช่ไหม?]
"ค่ะ สบายมากเลย แต่ติดอยู่อย่างเดียว...ดูเหมือนท่านมีอาจจะรู้เสียแล้วค่ะว่าพวกหนูมาเที่ยว"
[ตายจริง...ฮะๆๆ~ เอาเป็นว่าดูแลตัวเองด้วยนะ ถ้าเจอท่านมีอา แม่ก็ฝากทักทายท่านด้วยนะลูก อันที่จริงแม่ก็อยากไปเที่ยวด้วยจังเลย แต่ใกล้ปีใหม่ทีไรงานเยอะทุกทีสิน่า~ แถมปีนี้ยังมีเจ้าตัวน้อยสองคนนี้อีก]
"ฮะๆๆๆ~"
ฉันหัวเราะให้กับเอวาที่ทำหน้าเบื่อใส่งานที่กองเป็นภูเขาและลูบท้องที่ใหญ่ขึ้นอย่างเอ็นดู
[มีอะไรก็คอลมาหาแม่ได้ตลอดเลยนะ หากมีเรื่องอะไรจะรีบประสานคนให้ทันที]
"ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะท่านแม่ เดี๋ยวหนูจะซื้อของไปฝากค่ะ รักนะคะ"
[เช่นกันจ้ะ~ ห้าวันนี้เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะ]
ฉันวางสายจากเอวาและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หนาขึ้น โรงแรมที่พวกฉันอยู่ตั้งอยู่ใจกลางของเมืองหลวงซึ่งถ้าให้เทียบกับโลกก่อนก็คงเป็นโรงแรมห้าดาวเลยล่ะ
ก๊อกๆๆ~
"พวกฉันกลับมาแล้ว~"
ริเวียล่ากับเอริคที่ลงไปหาซื้อของขึ้นมากินที่ห้อง ใช้การ์ดเปิดประตูเข้ามา พวกฉันห้าคนตัดสินใจนอนรวมกันเพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของกันและกันเพราะอยู่ต่างถิ่น ที่ห้องจึงเป็นสองเตียงใหญ่และหนึ่งเตียงเดี่ยว ฉันนอนกับริเวียล่าดังเดิม เอริคก็นอนกับวินซ์ ส่วนโรเวลล์นอนเตียงเดี่ยว
"มีอาหารไม่คุ้นตาเพียบเลยล่ะ"
ริเวียล่าหยิบของกินเล่นมาวางไว้บนโต๊ะข้างหน้าจอเวทที่มีวินซ์นั่งดูรายการข่าวอยู่ (คล้ายๆโทรทัศน์ที่โลกเก่าแต่ใช้เป็นพลังงานเวทแทน)
"แล้วโรเวลล์ไปไหนล่ะ"
"อยู่นี่"
คนโดนเรียกเพิ่งอาบน้ำเสร็จก่อนจะเดินเช็ดหัวมานั่งข้างๆฉัน อากาศข้างนอกเย็นดีจริงๆแสงแดดนี่ไม่ต้องพูดถึง ขนาดมาถึงตอนช่วงเช้าฉันยังนึกว่าประมาณหัวค่ำเลยด้วยซ้ำ
"แล้ววันนี้มีแผนจะไปเที่ยวไหนไหม"
"เดี๋ยวดูแป๊บหนึ่งนะคะพี่"
ฉันหยิบสมุดที่เขียนข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเอาไว้ออกมาจากกระเป๋ามิติ ก่อนจะเปิดมันกางออกให้ทุกคนดูด้วย
"...ข้านึกว่าสมุดสรุปข้อสอบ หาที่เที่ยวต้องละเอียดขนาดนี้เลยหรอน้องพี่"
"ต่างอาณาจักรเลยนะคะพี่จะมาเล่นๆไม่ได้หรอก อืม...วันนี้ไปที่ไอซี่สแควร์กันไหมคะ มีเทศกาลฤดูหนาวที่ยาวยันปีใหม่ บวกวันนี้ก็ตรงกันกับเทศกาลแห่งความรักอีกด้วย สองเทศกาลควบกันแบบนี้น่าจะคึกคักน่าดูเลยนะ~"
"เทศกาลเฮอลันใช่ไหม เห็นว่าที่นี่หากถูกใจใครก็จะเดินเข้ามาทักเลยล่ะ ยิ่งถ้าคนคนนั้นยังไม่มีเจ้าของน่ะนะ"
"เจ้าของ?"
ฉันหันไปทางริเวียล่าอย่างสงสัย
"ก็ต้องมีสิ่งของบางอย่างที่เหมือนกันติดไว้กับร่างกายเช่น แหวน สร้อยคอ ต่างหู เข็มกลัด ประมาณนี้ เพื่อบ่งบอกความเป็นเจ้าของหรือคนรักน่ะ"
"อ๋อ..."
"ว่าแล้วก็เอานี่ไปสิริล"
"หืม?"
"ก็...เธอจะได้ไม่มีใครมายุ่มย่ามให้น่ารำคาญไง"
"ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่"
"เป็นสิ! เอ่อ...ไม่ใช่สิ ยังไงก็ต้องปิดบังตัวตนอยู่แล้วใส่ๆไปเถอะน่า"
"ก็ได้..."
ฉันกับวินซ์กลั้นหัวเราะกันสุดชีวิตจนปากสั่นไหล่สั่นไปหมด หวงเขาก็บอกไปตรงๆสิพ่อคุณ!
"อ๊ะ!"
ฉันร้องขึ้นอย่างตกใจเพราะจู่ๆโรเวลล์ก็ถอดต่างหูฉันออกไปหนึ่งข้างและเอามันไปใส่ทันทีแบบไม่บอกไม่กล่าว
"จะได้ไม่มีใครมายุ่งไง"
"ทีหลังก็บอกกันดีๆสิ ตกใจเป็นนะ!"
เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะส่งกำไลข้อมือให้วินซ์เช่นกัน ซึ่งเป็นกำไลที่มีกันคนละอันเอาไว้ระบุตำแหน่งของกันและกันเผื่อหลงทางหรือเป็นอันตราย จากนั้นพวกฉันก็นั่งกินของจุกจิกกันอีกสักพักก่อนจะเตรียมตัวไปเที่ยวกันต่อ
"ไปกันเถอะ~"
Icy Square
"ฮู่ววว~ หนาวจังเลยย~"
ฉันน่าจะพูดออกมาครั้งที่ร้อยได้แล้วล่ะมั้ง อากาศที่นี่หนาวอย่างนี้ตลอดทั้งปีเลยหรือเปล่าเนี่ย
"โกโก้ร้อนหน่อยไหม"
ฉันพยักหน้าให้โรเวลล์ทันที ตอนนี้พวกฉันสองคนแยกกันเดินกับสามคนนั้นและค่อยไปนัดเจอกันตอนมีขบวนพาเหรดในงานแทน
"ถ้าฉันอยู่ที่นี่ต้องแข็งตายก่อนที่ทุกคนจะรู้ว่าเป็นนักบุญแน่เลยล่ะ"
"ฮะๆ~ ถ้าท่านมีอาได้ยินคงเสียใจแย่"
"ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา"
"ตรงนั้นมีลานสเกตน้ำแข็ง ไปเล่นไหม?"
"เอ่อ...ไม่เคยเล่น ไปนั่งดูคนอื่นเล่นเพลินๆก็แล้วกัน"
เขาพยักหน้าและจูงมือฉันไปหาที่นั่งข้างๆลานสเกตที่มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานจนฉันเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
"ถ้าป่านนี้ยังไม่เปิดพรมแดนจะยังคึกคักแบบนี้ไหมนะ?"
"ไม่แน่นอน ทั้งหมดเปลี่ยนไปก็เพราะเธอเลย"
"ฉันคนเดียวที่ไหนกันล่ะ"
ฉันพูดก่อนจะถอดถุงมือออกและใช้เวทสร้างน้ำอุ่นล้างมือก่อนจะหยิบขนมที่ซื้อภายในงานขึ้นมากินและเอื้อมมือไปป้อนคนข้างๆด้วย
"...ทำเป็นเรื่องปกติเลยนะ"
"หืม? ไม่ต้องห่วงมือฉันสะอาดแน่นอนเพิ่งล้างเมื่อกี้รับประกันได้"
"อืม..."
เขาหัวเราะกับตัวเองเบาๆก่อนจะเอาหัวมาพิงไหล่ฉันและไม่ได้พูดอะไรต่อ
"มองดูรอบๆไม่ค่อยเห็นเผ่าอื่นนอกจากเผ่ามนุษย์เลยนะ"
"แน่นอน เผ่าอื่นนับว่าเป็นของแปลกสำหรับอาณาจักรนี้เลยล่ะ ประชากรของอาณาจักรนี้คือมนุษย์ร้อยละเก้าสิบเชียวนะ"
"โห~"
"ดังนั้นก็ระวังพวกโจรกับพวกค้าทาสให้ดีเลยล่ะ เป็นเหมือนกันทุกอาณาจักรเลยล่ะมั้งปัญหาพวกนี้"
"มีนายอยู่ทั้งคน ฉันไม่กลัวหรอก ใช่ไหมล่ะ~"
"ก็ลองดูสิ"
ฉันขยับไหล่แกล้งเขาอย่างหมั่นไส้จนเขาหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
"ทหารเยอะเหมือนกันนะเนี่ย"
"คงเป็นเพราะได้ข่าวว่าพวกเรามาเที่ยวด้วยนั่นแหละ"
"เฮ้อ~ แค่อยากมาเที่ยวเฉยๆเอง~"
ฉันพูดพลางลูบหัวโรเวลล์ไปด้วยอย่างลืมตัว จนฉันชะงักมือและรีบเอาลงทันที
"ลูบต่อสิกำลังเพลิน"
"เดี๋ยวก็ได้หลับคาไหล่ฉันหรอก"
เขายิ้มและกลับตาพริ้มปล่อยให้ฉันลูบเส้นผมที่นุ่มราวกับผ้าไหมนี้
"...โรเวลล์"
"ครับ"
"เรารู้จักกันมากี่ปีแล้วนะ"
"ถ้าให้นับตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรกก็...ประมาณแปดปีได้แล้ว ทำไมถึงถามล่ะ?"
"ฉัน...เป็นเพื่อนที่ดีของนายหรือเปล่า"
"ไม่"
"..."
"ก็บอกไปแล้วไงว่าไม่อยากเป็นเพื่อน"
ฉันชะงักมือเล็กน้อยและนึกถึงประโยคที่เขาเคยบอกมาก่อนหน้านี้ที่ฉันนั่งคิดนอนติดทั้งวันทั้งคืนถึงความหมายมันอย่างคนที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่องพวกนี้เท่าไหร่นัก...เอ่อ...จะว่าฉันมึนก็ได้
"รับนี่ไปสิ"
โรเวลล์ยื่นช่อดอกไม้เล็กมาให้ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำงานเทศกาลเอาไว้มอบให้แก่คนรัก
"...เป็นฉันจะดีหรอ"
"ทำไมล่ะ"
"ก็...ก็...นายเป็นถึงองค์ชาย องค์รัชทายาท...เป็นถึงผู้ที่จะชิงตำแหน่งคนปกครองอาณาจักรในอนาคตเลยนะ แถมฉันยัง..."
"เป็นเธอดีที่สุดแล้วล่ะ...ไม่เห็นเกี่ยวเลยสักนิดว่าเธอจะเป็นอะไร"
"แต่ว่า..."
"ไว้รอให้เธอพร้อม ฉันจะบอกเอง"
เขาจับมือฉันก่อนจะเลื่อนไปจุมพิตอย่างแผ่วเบาและหันมามองหน้าฉันที่กำลังร้อนผ่าวแทน
"ฉันจะบอกแน่นอน ไม่ว่านานเท่าไหร่ก็จะรอ"
"...พูดอะไรก็ไม่รู้"
ฉันหลบสายตาเขาก่อนจะเอาหัวไปซบที่ไหล่เขาแทนแก้เขิน เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะโอบฉันให้อยู่ในอ้อมแขนและกระซิบลงที่ข้างๆหูจนฉันหน้าแดงมากกว่าเดิม
"ก่อนจะถึงวันนั้น ฉันจะทนได้ไหมนะ..."
[Vince Side]
"ว้าว~ สองคนนั้นนั่งซบไหล่กันแล้ว!~"
"ฮึ่ย! อยากจะเข้าไปแยกออกตอนนี้เลยแต่ทำไม่ได้~"
"ห้ามเชียวนะยะ! เอลล่าจะได้รู้ใจตัวเองซะทีเถอะ"
"ฮะๆๆ~"
ผมหัวเราะให้กับเอริคและท่านริเวียล่า ที่พากันมาแอบดูท่านโรเวลล์กับเอลล่าเดินเที่ยวกันในบรรยากาศสีชมพูสุดๆ
"ผมว่าปล่อยให้พวกเขาสองคนใช้เวลาส่วนตัวไปดีกว่าครับ"
"อือ~~ อยากดูต่ออีกนิด แต่ก็จริงอย่างวินซ์ว่ามา อย่าไปวุ่นวายกับพวกเขามากจะดีกว่า ไปเที่ยวกันเถอะ!~"
"เฮ้! อย่าวิ่งไปเลยแบบนั้นสิริล! รอด้วย!~"
ผมส่ายแถมหัวเราะให้กับคู่นี้ทันที ผมว่าน่าลุ้นกว่าคู่นู้นอีกนะเนี่ย...
วิ้ง!
"เอ๊ะ...?"
เสียงแสบแก้วหูดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีคนจ้องมองอยู่ มันเป็นทักษะลับประจำตัวผมเวลาโดนคนแอบตามหรือลอบทำร้ายเหมือนจิตสัมผัสประมาณนั้น แต่พอหันกลับไปดูก็พบว่าที่ตรงที่จับเสียงได้ก็เป็นที่ว่างเปล่าไปเสียแล้ว...หรือจะคิดมากไปเองนะ อยู่ต่างเมืองแบบนี้ใครจะตามมากัน...
"วินซ์!~ ทำอะไรอยู่!~~"
"ไปแล้วๆ..."
...
"จะว่าไปแล้ว...วินซ์ไม่มีคนที่ชอบบ้างหรอ?"
"แค่ก!"
อยู่ๆท่านริเวียล่าก็ถามขึ้นขณะที่นั่งอยู่ที่ร้านอาหารข้างทาง
"...ไม่มีหรอกครับ"
"งั้นหรอ...เสียดายเนอะ นายออกจะหน้าตาดี ว่าไหมเอริค"
"ฉันก็เคยถามแล้ว หมอนี่ก็ตอบแต่ไม่ได้สนใจๆ หึ! อย่าให้เห็นก็แล้วกันว่าคุยกับใคร จะล้อซะให้เข็ดเลย"
"ฮะๆ...ผู้หญิงที่ผมนับถือจากใจก็มีแค่ท่านเอวาและเอลล่าเท่านั้นแหละครับ"
"แล้วฉันล่ะ~"
"ท่านริเวียล่าก็เป็นเพื่อนที่ผมรักเหมือนกับทุกคนไงครับ"
"ฮี่ๆ~ พวกฉันก็รักนายนะ!"
เธอพูดและยิ้มให้อย่างน่ารัก พร้อมส่งมือมาแปะให้ทั้งผมและเอริค...บางทีความรักที่ผมมีอยู่ มันอาจจะอยู่สูงเกินเอื้อมก็ได้นะครับ...
"ระหว่างเดินเที่ยวกันฉันเจอนี่ด้วยแหละ เห็นว่าเป็นกิจกรรมของเทศกาลวันนี้"
เอริคพูดและหยิบกระดาษใบปลิวขึ้นมาวางบนโต๊ะ
Herlan Special Event
การแสดงที่ตราตรึงใจผู้คนได้มากที่สุด จะได้รางวัลสุดพิเศษประจำเทศกาลไปครอบครอง
และได้รับคำอวยพรจากเทพธิดาประจำเมืองของเรา ท่านลีฟา เดอ มิสฟรอยด์ องค์หญิงอันดับที่หนึ่งแห่งอาณาจักรเทรลฟรอส
งานจะเริ่มในเวลา 16:00 นาฬิกา ถึง 18:00 นาฬิกา ท่านที่สนใจสามารถไปลงทะเบียนได้ที่ลานอเนกประสงค์กลาง
ฝ่ายกิจกรรม
"น่าสนแฮะ ทั้งสองคนอยากไปนั่งดูกันไหม?"
"ไปสิ อีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาแล้ว ไปหาที่นั่งดูกันเถอะ"
ผมพยักหน้าให้ทั้งคู่ มีกิจกรรมทั้งทีก็ต้องไปดูให้คุ้มที่มาเที่ยวล่ะนะ...ผมมองไปรอบๆอีกครั้ง บ้านเมืองที่มีลักษณะต่างจากเฮนน์เบิร์กสุดๆ ล้อมรอบด้วยภูเขาหิมะสูงตระหง่าน ด้านบนหัวก็มีกระเช้าลอยฟ้าให้นั่งเล่นดูบรรยากาศเหมาะแก่การท่องเที่ยวสุดๆและอย่างที่ท่านโรเวลล์เคยบอกไว้ ที่นี่แทบไม่มีคนจากเผ่าอื่นเลยนอกจากมนุษย์จะเห็นแค่เพียงคนสองคนเท่านั้นตั้งแต่เดินเที่ยวในงานมา หรือจะใช้แว่นพรางตัวเหมือนกันนะ?
"นายท่านสองคนกับคุณหนูหนึ่งคนนะครับ รอบการแสดงคิวที่ 15 ขอให้โชคดีนะครับ!~"
"หา??"
ผมหันไปหาสองคนที่เหลือที่กำลังทำหน้างงทันทีเมื่อมาถึงลานกิจกรรม จู่ๆก็มีชายวัยกลางคนเข้ามาคุยกับทั้งคู่ก่อนจะส่งบัตรเลขลำดับมาให้ แล้วไหงเป็นอย่างงี้ได้ละเนี่ย?!
"ทำยังไงดีล่ะทีนี้" ท่านริเวียล่าด้วยความหนักใจ
"เอาไปคืนเขาได้ไหม" เอริคพูดพลางขมวดคิ้ว
"ไม่น่าได้นะ เดินไปนู่นแล้วด้วย อีกอย่างเมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องการรักษาสัญญาที่สุด หากหนีแทบจะโดนประจานแลยล่ะ..."
"ทำยังไงดีล่ะวินซ์~ / ช่วยคิดทีสิวินซ์~"
ผมกุมขมับทันที นี่ละสายตาไปแค่แป๊บเดียวเองนะ...
"...งั้นก็คงต้องขึ้นแสดงแล้วล่ะ"
"...เอาจริงหรอ อายคนอื่นเขาตายเลยนะ" ท่านริเวียล่าพูดขึ้นด้วยสีหน้าวิตกกังวล
"ยังไงพวกเราก็ปลอมตัวกันอยู่แล้วนี่ครับ ครั้งเดียวจบ"
"ก็-ก็จริงของนาย"
"แล้วจะแสดงอะไรล่ะ" เอริคพูดขึ้นมาแบบปลงๆ
"งั้นเอาเป็น..."
แล้วพวกผมก็พากันปรึกษาเรื่องการแสดงเฉพาะกิจนี้อย่างเร่งด่วน...ใช่เรื่องที่จะต้องมาทำแบบนี้ไหมเนี่ย!~~~
[Ella Side]
"โรเวลล์ ไปนั่งรอดูการแสดงกันเถอะ"
"ไปสิ"
ฉันอ่านใบปลิวที่แจกภายในงานเห็นว่ามีกิจกรรมแจกของหายากด้วย เหนือสิ่งอื่นใดฉันอยากเห็นหน้าองค์หญิงลำดับที่หนึ่งมากกว่า จะสวยเหมือนท่านมีอาไหมนะ~
"นั่งตรงนี้ก็แล้วกัน"
โรเวลล์พูดก่อนจะเอาผ้าปูรองที่นั่งให้ฉันก่อนจะมานั่งข้างๆ วิวดีใช้ได้มองเห็นเวทีชัดเจนคนเยอะมากๆเลยนะเนี่ย ระหว่างเดินในงานพวกฉันสองคนโดนทักจนเบื่อเลยล่ะ (คนเบื่อคือโรเวลล์) แหงสิ มีแต่สาวๆหันมากรี๊ดกร๊าดใส่เขาจนฉันหมั่นไส้แซวเขาไปหลายทีเหมือนกัน ฮะๆๆ~
"ยังไม่รู้ตัวอีกว่าโดนงอน"
"อะไรล่ะ~ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ฮุ..."
ฉันปิดปากและเริ่มหัวเราะใส่เขาอย่างอารมณ์ดีจนเขายิ้มตามและก้มลงมาหอมแก้มฉันเบาๆจนฉันสะดุ้ง
"...ได้ทีแล้วเอาใหญ่เลยนะ"
"หึ...ช่วยไม่ได้นี่ อยากน่ารักเอง"
"นี่รู้ใช่ไหมว่าฉันเขินอะไรแบบนี้ถึงพูดออกมาน่ะ"
"ฮะๆๆ~"
เขาหัวเราะออกมาอย่างน่ารักจนโดนฉันจิ้มแก้มด้วยความมันเขี้ยว ก็เล่นเป็นซะแบบนี้แล้วฉันจะสงบใจได้ยังไงล่ะ...
"การแสดงแรกเริ่มแล้ว"
โรเวลล์พูดขึ้นก่อนจะกระชับผ้าพันคอที่พันเข้ากับเขาและฉันให้แน่นหนาขึ้น การแสดงแรกเป็นการแสดงระบำพื้นเมือง ทั้งสนุกสนาน รื่นเริง ผสมผสานเข้ากับเวทมนตร์ทำให้ยิ่งดูสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม การลงคะแนนของแต่ละการแสดงจะนับจากเหรียญที่ได้จากผู้ชมที่ได้รับมาตอนเข้างานคนละหนึ่งเหรียญ พอการแสดงนี้จบก็มีคนโยนเหรียญลงกล่องใสอย่างมากมาย แต่ฉันขอดูไปเรื่อยๆให้หนำใจก่อนดีกว่านี่เพิ่งการแสดงแรกเอง มีอีกตั้งประมาณ 20 การแสดงแน่ะจากที่เห็นบนกระดานหน้างาน จากนั้นฉันก็ดูไปเรื่อยๆจนมาถึงการแสดงของทีมที่ 15 เดี๋ยวนะ...
"โรเวลล์...นั่นเพื่อนเราไม่ใช่หรอ"
"อืม...ตาก็ไม่น่าจะฝาดพร้อมกันทั้งคู่นะ"
"แล้วไหงพวกเขาถึงไปอยู่ตรงนั้นได้ล่ะเนี่ย?!"