@Suvarnabhumi Airport
“เที่ยวบินที่ประกาศเมื่อกี้เป็นเที่ยวบินของชายพันธ์รึเปล่าแม่บัว”
สตรีวัยกลางคนแต่ยังคงไว้ด้วยความสง่างามเอ่ยถามผู้ติดตามอย่างตื่นเต้น สตรีที่ว่านั้นก็คือ มรว.อรชร พินิจนัย ที่มารอรับหลานชายซึ่งจากไปร่ำไปเรียนอยู่เมืองนอกมาหลายปีแล้วนั่นเอง
“ใช่เพคะหม่อม”
แม่บัวซึ่งเป็นแม่นมของคุณชายอนุพันธ์พยักหน้ายิ้มแล้วหันไปมองหาคุณชายของตนอย่างตื่นเต้นไม่แพ้หม่อมผู้เป็นนายจนกระทั่งคุณชายอนุพันธ์เดินออกมาจากทางออกผู้โดยสารท่ามกลางผู้คนที่พากันเดินออกมาด้วยความรีบร้อนจนลายตาไปหมด แต่ทว่าราชนิกูลหนุ่มก็ยังคงเป็นจุดเด่นด้วยรูปร่างที่สูงสมส่วนและสง่างามสมกับเป็นคุณชายแห่งวังสวัสดิวงศ์
“ชายพันธ์” หม่อมอรชรรีบเดินเข้าไปกอดหลานชายสุดที่รักที่เดินตรงมาหาตนด้วยรอยยิ้ม
“ชายคิดถึงหม่อมยายที่สุดเลยครับ”
คุณชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเชยตาขึ้นมองแม่บัวที่เลี้ยงตนมาตั้งแต่อ้อดแต่ออด
“แม่บัวก็ด้วยครับ” เขาพูดต่อเมื่อเห็นแม่บัวทำท่าจะน้อยใจ
“คุณชายของนม”
แม่บัวมองคุณชายหนุ่มน้ำตาคลอ คุณชายตัวน้อยที่นางเฝ้าเลี้ยงดูมาแต่เล็กแต่น้อยเนื่องจากหม่อมพรรณพิลาศได้ด่วนจากไปตั้งแต่คุณชายตัวน้อยอายุได้เพียงไม่กี่ขวบเท่านั้นจนบัดนี้คุณชายอนุพันธ์ได้เติบโตเป็นหนุ่มรูปงามที่เพียบพร้อมไปด้วยรูป ทรัพย์สมบัติและหน้าที่การงาน
“ยายดีใจที่หลานกลับมาอยู่เมืองไทยถาวรสักที”
“ตอนนี้คุณชายของเรากลายเป็นคุณชายหมอที่เพียบพร้อมหมดทุกอย่างทั้งทรัพย์สมบัติ หน้าตาและหน้าที่การงาน คงขาดแต่เพียงอย่างเดียวแล้วล่ะค่ะหม่อม”
แม่บัวหันไปพูดกับหม่อมอรชร ในขณะที่คุณชายอนุพันธ์ยืนอมยิ้มอยู่เงียบๆ เพราะรู้ว่าคนทั้งสองหมายถึงเรื่องใด….
.
.
.
@วังพินิจอนันต์
“สวย ฝีมือปราณีตหาใครเทียบได้ยากแล้วหญิงเพ็ญ”
หม่อมดาวดีรับพวงมาลัยจากหลานสาวสุดที่รักที่เป็นคนร้อยมาให้นางไหว้พระมาดูพลางเอ่ยชม หลานสาวคนนี้ได้ดั่งใจนางไปเสียทุกอย่างโดยเฉพาะเรื่องงานในรั้วในวัง ในขณะที่หญิงเพ็ญดาลักษณ์ได้แต่ยิ้มกับคำชมนั้น
“ย่าได้ข่าวว่าชายพันธ์กำลังจะกลับมาจากเมืองนอกเมืองนาแล้ว เธอรู้รึเปล่าว่าวันไหน” หม่อมดาวดีถามหลานสาว
“วันนี้ค่ะหม่อมย่า ป่านนี้ก็คงจะลงจากเครื่องแล้ว” หญิงเพ็ญดาลักษณ์บอกผู้เป็นย่า
“อ้อ….” หม่อมดาวดีพยักหน้ารับรู้
“เธอกับชายพันธ์คงจะติดต่อกันอยู่ตลอดสินะ”
หม่อมดาวดีแสร้งถามหลานสาวยิ้มๆ เพราะรู้ว่าชายอนุพันธ์กับหลานสาวคนโตกำลังมีใจชอบพอกันอยู่ แม้จะยังไม่มีการคบหากันอย่างเปิดเผย แต่ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝั่งก็พอจะรู้ๆ กันอยู่
"ก็....คุยกันอยู่ตลอดค่ะ"
หญิงเพ็ญดาลักษณ์บอกผู้เป็นย่าอย่างเขินๆ แต่ก็ยังคงสงวนท่าทีไว้มิให้เกินงามตามฉบับของกุลสตรีที่ผู้เป็นย่าคอยพร่ำสอน
"แล้วนี่หญิงลักษณ์หายไปไหน วันนี้มันหยุดไม่ใช่หรอ?" หม่อมดาวดีถามหาหลานสาวอีกคนพลางมองหน้า
"เห็นขับรถออกไปข้างนอกตั้งแต่บ่ายแล้วค่ะ แต่หญิงก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าน้องออกไปไหน"
หญิงเพ็ญดาลักษณ์บอกหม่อมย่าได้เพียงเท่านั้นเพราะคงไม่กล้าถามอะไรน้องสาวที่ไม่ค่อยจะลงรอยกับตนเท่าไหร่นักหากถามมากไปก็กลัวว่าจะมีเรื่องผิดใจกันให้ผู้เป็นย่าและพ่อต้องปวดหัวอีกจนกระทั่งจันทรเดินผ่านมา
"จันทรเข้ามาหาฉันหน่อย" หม่อมดาวดีเอ่ยเรียกจันทรแม่นมของหญิงลักษ์ณารา
"ค่ะหม่อม"
"รู้รึเปล่าหญิงลักษณ์ออกไปไหน?" หม่อมดาวดีถามจันทร
"ค่ะหม่อมเห็นบอกว่าจะออกไปรับคุณชายอนุพันธ์ที่สนามบินนะคะ"
“เกินงาม” หม่อมดาวดีพูดขึ้น
“ทำไมต้องวิ่งแจ้นไปถึงสนามบินอีก ยังไงชายพันธ์ก็ต้องมาที่นี่อยู่ดี”
นางพูดต่ออย่างไม่ชอบใจกับพฤติกรรมที่เกิดงามของหลานสาวคนเล็กจนหญิงเพ็ญดาลักษณ์ต้องช่วยพูดแก้ต่างให้
“อย่าตำหนิน้องเลยค่ะหม่อมย่า หญิงลักษณ์ยังเด็กนัก”
“เลยไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้”
“เด็กที่ไหนกัน” แต่หม่อมดาวดีกลับไม่ได้มองเช่นนั้น
“เรียนจบมีงานมีการทำแล้ว เรื่องมันอยู่ที่เจ้าตัวเองมากกว่า ต่อให้ย่าพยายามบ่มเพาะนิสัยและกิริยามารยาทยังไงหญิงก็คงไม่ซึมซับอะไรแล้ว” นางเหนื่อยใจกับหลานสาวคนนี้เสียจริงๆ
“เธอก็ด้วยแม่จันทร” หม่อมดาวดีหันไปตำหนิแม่นมของหญิงลักษณ์ด้วยอีกคน
“อะไรที่เห็นว่าไม่เหมาะไม่ควรก็ห้ามหลานสาวฉันบ้าง ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ตามใจจนหญิงลักษณ์เสียนิสัยไปแล้วแบบนี้” นางพาลใส่แม่จันทรเพราะนายบ่าวคู่นี้ตัวติดกัน สนิทกันเสียยิ่งกว่านางที่เป็นย่าแท้ๆ ซะอีก
“ขอโทษค่ะหม่อม แต่คุณหญิงลักษณ์บทจะเอาแต่ใจอิฉันก็เกินกำลังจะห้ามเธอได้จริงๆค่ะหม่อม” จันทรบอกอย่างเกรงๆ เพราะหญิงลักษ์ณาราเป็นแบบนั้นจริงๆ
.
.
.
กลับมาที่สนามบิน….
“หลานพร้อมเมื่อไหร่ ยายก็จะไปทาบทามสู่ขอคุณชายศักดาธรกับหม่อมดาวดีให้” หม่อมอรชรบอกหลานชาย
“คงจะขอหมั้นหมายไว้ก่อนนะครับหม่อมย่า ถ้าแต่งงานเลยมันคงจะเร็วเกินไปสำหรับทางนั้น”
คุณชายอนุพันธ์บอกผู้เป็นยายเพราะถึงแม้ตนกับหญิงเพ็ญดาลักษณ์จะมีใจแอบชอบกันมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ตกลงที่จะคบหากันอย่างเพ็ญเรื่องเป็นราวให้ทางผู้ใหญ่ได้รับรู้ แต่ทว่าระหว่างที่ยายกับหลานกำลังหารือกันอยู่นั้นเสียงของบุคคลที่สามก็ดังขึ้น.
“พี่ชายพันธ์”
หญิงลักษณ์นั่นเอง เธอตะโกนเรียกคุณชายอนุพันธ์มาแต่ไกลพร้อมกับกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาชายหนุ่ม
“หญิงดีใจจังเลยที่พี่ชายพันธ์กลับมาแล้ว” หญิงลักษ์ณาราบอกคุณชายอนุพันธ์ด้วยความดีใจอย่างที่บอกจริงๆ
"เธอมาทำอะไรที่นี่หรอหญิงลักษณ์" คุณชายอนุพันธ์ถามเธอด้วยความแปลกใจ
"นั่นสิหญิงลักษณ์ วันนี้ไม่ได้ทำงานหรอ" หม่อมดาวดีถามเธอด้วยอีกคนพลางรับไหว้ของหญิงสาว
"คือวันนี้หญิงลางานเพราะอยากมารับพี่ชายพันธ์น่ะค่ะ" เธอบอกกับคนทั้งสองและหันไปยิ้มกับท่านชายอนุพันธ์ด้วยความจริงใจ.
................