แดดเริ่มอ่อนแสงลงและคล้อยไปทางทิศตะวันตกแล้วคุณนายมยุรีจึงเร่งให้บุตรชายรีบพาอดีตภรรยาไปเดินเล่นรับลมทะเลที่หาดทรายรีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดชุมพรและกำชับให้ปวีณ์ปรับความเข้าใจกับแพรวาให้ได้ภายในคืนนี้ ส่วนท่านและป้าฝ้ายจะพาสาวใช้สองคนไปค้างที่ร้านทองในตลาด
“ ต้องทำให้ได้นะวีแม่อุตส่าห์เปิดทางให้แกขนาดนี้แล้ว ถ้าแกพลาดอีกแม่จะไม่ยกมรดกอะไรให้แกเลย ” คุณนายมยุรีย้ำคำพูดท้ายประโยคอย่างหนักแน่น
“ แม่ไม่ต้องห่วงผมจะไม่ยอมให้พลาดอีกแน่นอน แม่รอฟังข่าวดีได้เลย ” ปวีณ์เองก็เชื่อว่าแพรวาจะต้องยอมใจอ่อนคืนดีกับเขาแน่ ๆ
“ รีบออกไปได้แล้วเดี๋ยวหนูแพรจะสงสัย ” พูดจบก็พากันเดินออกไปที่เฉลียงหลังบ้าน
ทางด้านแพรวาก็นั่งยิ้มฟังป้าฝ้ายเล่าเรื่องวีรกรรมแผลง ๆ ของปวีณ์สมัยเด็ก สองคนพากันหัวเราะกับเรื่องราวที่ป้าฝ้ายเล่าอย่างสนุกสนาน
“ คุณแพรเชื่อไหมคะว่าคุณวีเคยถูกคุณนายไล่ตีด้วยไม้เรียวเพราะเธอดื้อมาก สองคนวิ่งไล่กันจนคุณนายยืนหอบวิ่งต่อไม่ไหวสุดท้ายคุณวีก็ต้องกลับมาดูคุณแม่และก็ยอมให้ท่านตีแต่โดยดี ” ป้าฝ้ายพูดด้วยความเอ็นดูคุณวีของเธอ
“ พี่วีดูท่าจะทำให้คุณแม่เหนื่อยน่าดูเลยนะคะ ”
“ ไม่หรอกค่ะ เธอก็ซนไปตามประสาเด็กของเธอ คุณนายภูมิใจในตัวคุณวีมากนะคะ ตั้งแต่คุณผู้ชายเสียคุณวีก็เป็นหลักให้คุณนายยึดเหนี่ยวจิตใจมาตลอด เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยมีชื่อได้ เรียนจบด้วยคะแนนเกียรตินิยมและก็เป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียงด้วย คุณนายน่ะภูมิใจมากเลยนะคะ ” ป้าฝ้ายพูด
“ แพรทราบค่ะ พี่วีเก่งทุกเรื่องเข้าใจทุกคนยกเว้นแพร ” แพรวาพูดแล้วก็ถอนหายใจ
“ คุณแพรคะ ” ป้าฝ้ายโอบบ่าแพรวาและบีบไหล่เธอเบา ๆ “ คุณวีรักคุณแพรมากนะคะเชื่อป้า ”
ปวีณ์เดินออกมาพร้อมกับคุณนายมยุรีทันได้ยินที่ทั้งสองคนพูดกันแต่ก็ทำเป็นไม่ได้ยิน “ คุยอะไรกันอยู่ครับ ”
“ ก็คุยเรื่องทั่ว ๆ ไปค่ะ ” ป้าฝ้ายตอบ
“ แพรเราไปทะเลกันดีไหมแดดร่มแล้ว ” ปวีณ์ถามแพรวาที่นั่งนิ่งอยู่
“ ค่ะ ” แพรวาตอบรับ
“ รีบไปกันเถอะลูกแล้วไม่ต้องรีบกลับก็ได้นะ เดินเล่นกันให้สบายใจ ” คุณนายมยุรีสะกิดให้ป้าฝ้ายลุกขึ้นแล้วจูงมือป้าฝ้ายเข้าไปในบ้าน แต่พอเข้ามาในบ้านก็พากันแอบดูแพรวาและปวีณ์ที่ข้างหน้าต่างจนสองคนขึ้นรถและขับออกไป
“ ป้าไปบอกให้พวกสาว ๆ เก็บของ ”
ป้าฝ้ายทำหน้างง “ เก็บของอะไรคะ? ”
“ คืนนี้เราสี่คนจะไปค้างที่ร้านทองกัน ” พูดจบคุณนายมยุรีก็เดินฮัมเพลงขึ้นบันไดไปที่ห้องของเธอ ป้าฝ้ายมองตามขึ้นไปแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข
ปวีณ์พาแพรวาขับรถออกมาจากตัวเมืองประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงหาดทรายรีเขาพาเธอไปสักการะกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์แล้วจึงชวนเธอไปเดินเล่นที่หาดทราย
แดดร่มแล้วสายลมอ่อน ๆ ก็โชยพัดมาตลอดเวลาทำให้สองหนุ่มสาวเดินเล่นกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้สึกเหนื่อย
“ แพร ” ปวีณ์เรียกหญิงสาวที่เดินอยู่ข้างเขา
แพรวาไม่ได้ขานรับแต่เธอหันหน้าไปหาเขาและยิ้มให้
“ เรื่องที่พี่เคยถามแพร แพรจำได้ไหม ” ปวีณ์เดินช้าลงเหมือนกำลังรอคำตอบของเธออยู่
“ จำได้ค่ะ ” แพรวาตอบ
“ แล้ว... ” ปวีณ์หยุดเดิน เขาดึงมือแพรวาที่กำลังจะก้าวเท้าต่อให้หยุด แพรวาสบตาปวีณ์และยิ้มให้เขา
“ แพรตามพี่วีมาถึงที่นี่ พี่วียังไม่รู้คำตอบอีกเหรอคะ ”
ปวีณ์ดึงร่างแบบบางเข้ามากอดเอาไว้แน่นจนแพรวาแทบจะหายใจไม่ออก “ แพรพูดจริง ๆ ใช่ไหม เราสองคนดีกันแล้วจริง ๆ ใช่ไหม ” เขาถามคำถามเดิมซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น
“ พี่วีปล่อยแพรก่อน ” แพรวาดันอกของปวีณ์
“ พี่ขอกอดแพรเอาไว้แบบนี้ก่อนได้ไหม ” ปวีณ์ไม่ยอมปล่อย
“ คนมองกันใหญ่แล้วพี่วี ” แพรวาดุปวีณ์
“ ก็ได้ ๆ ปล่อยก่อนก็ได้แต่ขอจูงมือแพรไว้แบบนี้นะ ”
แพรวาพยักหน้าแทนคำตอบสองคนจึงจูงมือกันเดินต่อไปเรื่อยจนพระอาทิตย์เริ่มคล้อยลงมาใกล้ผืนน้ำทำให้ท้องฟ้าและน้ำทะเลตรงบริเวณนั้นเปลี่ยนสีเป็นสีแดงราวกลีบกุหลาบที่มีพระอาทิตย์ดวงใหญ่อยู่ตรงรอยต่อของขอบน้ำและขอบฟ้าดูงดงามและโรแมนติก
แพรวาและปวีณ์เดินเล่นอยู่ที่หาดทรายรีจนพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า พระจันทร์ขึ้นมาส่องแสงเงินยวงเด่นอยู่กลางฟ้าสีนิลจึงพากันกลับบ้าน
เวลานี้ในบ้านพักของคุณนายมยุรีมืดสนิทไม่มีไฟสักดวงเปิดอยู่เพราะไม่มีใครอยู่บ้าน แพรวามองเข้าไปในบ้านและหันกลับมามองปวีณ์
“ คุณแม่ออกไปธุระหรือคะ ”
“ เห็นบอกว่าจะไปค้างที่ร้านน่ะพรุ่งนี้บ่าย ๆ ถึงจะพากันกลับมา ” ปวีณ์ตอบ
“ เหรอคะ ” แพรวารู้สึกแปลกใจแต่ก็พอจะรู้ว่าทำไมคุณนายมยุรีเปิดทางให้ปวีณ์และเธอได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง
ปวีณ์เดินนำแพรวาเข้าไปในบ้านเขาเปิดไฟทุกดวงทำให้บ้านสว่างขึ้น
“ พี่เหนียวตัวจังเลย ” สายตาเจ้าเล่ห์ส่องประกาย วิบวับให้สาวตรงหน้าแล้วพูดต่อ
“ เราขึ้นไปอาบน้ำกันดีไหม ”
แพรวาสะอึกหน้าร้อนผ่าวแก้มแดงระเรื่อ เธอเสมองไปรอบบ้านเหมือนกำลังหาใคร “ นี่เขาไปกันหมดเลยเหรอคะ ”
“ ใช่ ตอนนี้มีเราแค่สองคน ” ปวีณ์พูดพลางขยับตัวเข้าใกล้
แพรวาขยับหนี “ แพรหิวน้ำ พี่วีไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ แพรจะไปหาน้ำดื่มหน่อย ”
ปวีณ์หัวเราะฮึ ๆ มองแพรว่าอย่างนึกเอ็นดู “ พี่จะขึ้นไปอาบน้ำเปิดแอร์ให้เย็น ๆ รอแพรบนห้องนะ ”
แพรวาทำหน้าง้ำจุ๊ปากพูดปรามปวีณ์ “ พี่วี! ”
ปวีณ์ยิ้มกว้างก่อนจะยักคิ้วหันหลังเดินผิวปากขึ้นบันไดไปอย่างอารมณ์ดี
แพรวาถอนหายใจเฮือกมองตามร่างสูงใหญ่ของปวีณ์ขึ้นไป หัวใจของหญิงสาวเต้นโครมครามราวกับจะกระเด็นออกมานอกอก “ ใจเย็นแพรวา ” เธอสูดลมหายใจเข้าและเป่าออกอยู่สองสามครั้งแล้วจึงเดินตรงไปยังห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่มดับความร้อนรุ่มในกาย