1
เดี๋ยว**!**
ย้อนกลับไปเมื่อสิบวันก่อน
หญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่บริเวณลานน้ำพุวงกลมขนาดใหญ่ รอบกายรายล้อมด้วยตึกแฝดหน้าตาคล้ายกันจำนวนสามตึก กรุกระจกใสเรียงเป็นแนวไล่ขึ้นไปสูงลิบ ประมาณจากสายตาน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบชั้น เธอกระชับแฟ้มสมัครงานที่กอดไว้แนบอกขณะแหงนมองความหรูหราอลังการตรงหน้า อดประหม่าไม่ได้
ยังพอมีเวลาอีกกว่าชั่วโมงให้ทำใจ และเธอจะไม่ปล่อยเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เด็ดขาด เพราะจุดประสงค์หลักที่มาเร็วก็เพื่อมาเตรียมความพร้อมและหาที่พึ่งทางใจ
นัยน์ตาคู่ใสกวาดมองไปรอบบริเวณ กระทั่งเห็นสิ่งที่ตามหาก็เดินตรงไปอีกฝั่งซึ่งเป็นทางเลียบถนนด้านหน้า มีร้านสะดวกซื้อชื่อเป็นตัวเลขตั้งอยู่ เพียงก้าวมาถึงที่หน้าร้านประตูอัตโนมัติก็ทำงานตามปกติ เธอเดินตรงไปยังโซนตู้แช่สำหรับเครื่องดื่ม หยิบน้ำอัดลมสีจัดจ้านสามขวดมาต่อคิวจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ มีลูกค้าเยอะพอสมควรเพราะอยู่ในย่านธุรกิจ สองคนด้านหน้าก็คงเป็นพนักงานออฟฟิศเมื่อพิจารณาจากการแต่งตัว
หลังหยิบเงินจ่ายแบบนับเหรียญให้พอดีเป๊ะ ไม่ต้องทอน เธอก็รีบร้อนห้ามไม่ให้พนักงานทำบางสิ่ง
“ไม่ต้องใส่ถุงค่ะ เปลือง”
‘ไม่ต้องใส่ถุง’
เรียกความสนใจจากชายด้านหลังที่กำลังพิมพ์ข้อความตอบเพื่อนในแชต เรื่องที่เพื่อนไลน์มาถามว่าอยากได้ถุงยางอนามัยลายจุดไหม จะหิ้วมาฝากจากต่างประเทศ ซึ่งเขายังไม่ทันพิมพ์ตอบก็บังเอิญสะดุดกับคำพูดของเธอที่ยืนตรงหน้าซะก่อน มาในจังหวะนรกจนเขาอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ ชายหนุ่มเงยขึ้นมอง เห็นเพียงด้านหลังของเธอคนที่กำลังโกยทุกอย่างไว้ในอ้อมแขน แล้วเดินหอบน้ำอัดลมและแฟ้มหนาออกไปอย่างคล่องแคล่ว เห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างแวบหนึ่ง
ชายหนุ่มส่ายหัวอย่างขำๆ ก่อนรีบจ่ายเงินเมื่อถึงคิวพอดี แล้วเขาก็ลืมตอบเพื่อนชายในแชตไปเลยว่า ‘ไม่เอา! ไม่ชอบลายจุด ชอบแบบเรียบๆ’
มือบางหมุนฝาเครื่องดื่ม ใส่หลอด แล้วนำไปวางไว้ตรงหน้าศาลาขนาดเล็กที่อยู่บนแท่นบูชา ก่อนถอยออกมานั่งคุกเข่า พนมมือ ตั้งจิตอธิษฐานถึงการสมัครงานในครั้งนี้ ซึ่งเป็นที่แรกที่เรียกเธอเข้าสัมภาษณ์ หลังจากหว่านใบสมัครไปกว่าสิบบริษัท
“...สัญญาว่าถ้าได้งานที่นี่ ลูกจะถวายโค้กยกแพ็กให้เลยค่ะท่านเจ้าที่ สาธุ”
มือบางยกขึ้นพนมเหนือหัว ก่อนตบเบาๆ ที่เรือนผมเป็นการปิดท้าย อันที่จริงเธอก็ไม่ได้งมงายอะไรนัก เพียงแต่มีคนทักให้ฝากเนื้อฝากตัวกับเจ้าที่เจ้าทาง ก็เห็นเพื่อนทำแล้วได้งานเธอก็เลยทำบ้าง หวังว่าท่านจะไม่ทำให้ผิดหวังนะเจ้าคะ
ว่าแล้วคนอยากได้งานก็เดินเข้าไปในอาคารสูงสุดที่อยู่ตรงกลาง ตรงไปยังโซนที่เป็นทางเข้าออฟฟิศ แลกบัตรประชาชนกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เพื่อเข้าตึก ก่อนขึ้นไปยังชั้นที่สิบเก้า ซึ่งเป็นที่นัดสัมภาษณ์ในวันนี้
ฝั่งหนึ่งเป็นประตูกระจกใสที่มองเข้าไปเห็นชื่อบริษัทชัดเจน ด้านในคงเป็นส่วนของออฟฟิศแผนกต่างๆ ส่วนอีกด้านเป็นลานโล่งและห้องประชุมกรุกระจกหลายห้อง เธอเดินไปตามทางที่ฝ่ายบุคคลให้ข้อมูลไว้ ครั้นยังไม่เห็นใครนอกจากพี่แม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดจึงถอยออกมาและหาที่นั่งรอ เลือกนั่งที่มุมหนึ่งซึ่งเป็นมุมพักผ่อน คิดว่าตรงนี้ไม่มีใคร มีเพียงกระถางต้นไม้สูงใหญ่ตั้งประดับไว้ให้สบายตา
เธอวางกระเป๋าและแฟ้มสมัครงานที่เตรียมมาอย่างดีลงบนโต๊ะกระจกใส ก่อนล้วงเอาโพยที่จดสรุปทุกอย่างไว้ขึ้นมากางออก กระแอมสองสามทีแล้วเริ่มซ้อมแนะนำตัวด้วยโทนเสียงสองแสนสุภาพ
ครั้นมั่นใจว่าไม่ติดขัดจากการฝึกพูดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้คล่องปากไม่ต่ำกว่าห้ารอบ เธอก็เริ่มท่องข้อมูลบริษัท ตั้งแต่ประวัติการก่อตั้ง ข้อมูลสินค้า มีชอปกี่สาขา เรียกได้ว่าถามอะไรตอบได้ รวมไปถึงซ้อมตอบคำถามจิตวิทยาอื่นๆ ซึ่งทำการบ้านมาอย่างดี ก็ที่นี่เป็นที่แรกที่เรียกสัมภาษณ์ ซ้ำยังให้เงินเดือนในเรตที่เห็นแล้วถึงกับต้องอ้าปากค้างสำหรับเด็กจบใหม่อย่างเธอ
ฉะนั้นคีย์เวิร์ดของการสัมภาษณ์งานครั้งนี้ก็คือ...จงแสดงความกระเหี้ยนกระหือรือในการอยากทำงานที่นี่ออกมา!
ไม่ได้รู้เลยว่าชายหนุ่มที่นั่งห่างไปไม่ไกล แค่เสาต้นใหญ่และกระถางต้นไม้กั้นนั้นได้ยินหมดทุกอย่าง ตั้งแต่ที่เธอซ้อมแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลในจังหวะต่างๆ จนเขาอยากจะโผล่หน้าแหวกกิ่งไม้ออกมาเพื่อบอกเธอว่า
‘พอไหม เขาจะท่องแทนเธอได้อยู่แล้ว’
แต่พอได้ยินเธอเริ่มทวนข้อมูลบริษัทที่คงไปค้นมาอย่างละเอียดเขาก็หยุดความคิดนั้นลง เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ยิ้มให้กับการเตรียมพร้อมและความพยายามของเธอ แอบประทับใจอยู่ไม่น้อย
ผ่านไปหลายสิบนาทีก็มีพนักงานฝ่ายบุคคลมาเรียกหญิงสาวให้ไปเตรียมตัว พอเธอลุกเดินตามไป เขาจึงได้เห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างของเธอผ่านม่านใบไม้ และก็จำได้ทันทีว่า...นี่มันเธอคนที่ไม่ต้องใส่ถุงนี่นา
ก่อนชายหนุ่มจะยกโทรศัพท์มือถือแล้วต่อสายหาสาริศา ซึ่งเป็นเลขานุการส่วนตัวที่นั่งรออยู่แล้วในห้องเรียกสัมภาษณ์ เขาที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจรับพนักงานใหม่จึงเลียบๆ เคียงๆ ถามถึงแนวทางการสัมภาษณ์ ก่อนสั่งให้เพิ่มคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับบริษัทลงไปมากๆ อย่างแนบเนียน
-----------------------------
อ้ะ! เปิดเรื่องด้วยการย้อนอดีต (ไปสิบวัน)
มันก็จะมีนู่นนิดนี่หน่อยใส่เข้ามา
ไม่มากเท่าไหร่ แค่คงของเดิมไว้น้อยกว่า 30% เท่านั้นนนน
ขยันเน้ออออ ชั้นนี่!!!!