+
เสาโทรเลข 1.8 Da
และอุกาบาตที่พุ่งชนรัสเซีย
(เ รื่ อ ง สั้ น ว า เ ล น ไ ท น์ เ ด ย์ )
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
[ ปล. ขอรับรองว่าชื่อเรื่องเกี่ยวข้องกับเนื้อหา ]
แด่... ใครก็ตามที่เข้าใจ
เสียงรองเท้าดังก้องไปทั่วโถงทางเดิน ฉันได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งเดินผ่านหน้าฉันไป ผมสีบลอนด์ของเธอพลิ้วไหว --- ฉันจ้องมอง --- รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอหวานฉ่ำ ใช่แล้ว หวานฉ่ำ เธอเป็นเด็กนักเรียนระดับพรีเมี่ยมที่ใครๆ ก็ต้องรู้จัก --- ฉันเองก็เป็นนักเรียนระดับพรีเมี่ยม --- แค่เฉพาะสมองเท่านั้น
‘ กลิ่นเธอหอมจัง แล้วก็... ’
ฉันคิดไล่หลังเธอไป แต่เสียงความคิดของฉันตามไปไม่ทัน เธอเลี้ยวซ้ายทีสุดทางเดินและหายไปจากสายตา หลังจากนั้นความคิดของฉันก็ลอยกลับมาหาตัวฉันเอง
‘ ช่างเถอะ ’
ฉันล้วงมือในกระเป๋าเพื่อหยิบกระดาษออกมา มันไม่เชิงว่าเป็นกระดาษเสียทีเดียว แต่เป็นกระดาษที่ใช้ทำกิจกรรมบอกรักกัน หรืออะไรทำนองนั้น ฉันได้ยินมาว่าพวกปี 3 สั่งให้นักเรียนทุกคนช่วยกันเขียนการ์ดวาเลนไทน์ไปติดที่ห้องโถงใหญ่ ตลอดทางเดินมีนักเรียนจากทุกๆ สาขาเดินสวนไปมา พวกเขาบางคนหัวเราะคิกคัก ใบหน้าแต้มสีชมพูหวานแหวว ฉันเดินเลี้ยวซ้ายเขาสู่ห้องโถงใหญ่ และดิ่งตรงไปยังจุดติดการ์ด
ใกล้ๆ กันมีนักเรียนจากสาขาอื่นยืนอยู่ด้วย ฉันไม่ทันได้มองหน้า รู้แค่ว่าเป็นนักเรียนชาย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ฉันเพียงแค่จะเอากระดาษมาติดเท่านั้น หลังจากที่กดหมุดตรึง กดแล้วกดอีก จนกระดาษติดลงบนบอร์ดเสร็จเรียบร้อย นักเรียนคนนั้นก็เดินลิ่วไปไกลแล้ว เขาสูงเหมือนเสาโทรเลข ขนาด 1.8 ไม่ถึง 2 เมตรดี ถ้ามองจากตรงนี้ หรืออาจเป็นเพราะฉันไม่สูงเท่าไหร่นัก
กร็อบ
เฮ่อ.. ฉันรู้ และเซ็งสุด.. พอหันหลังกลับไปก็เป็นอย่างที่คิดไม่ผิด เพราะว่าย้ำหมุดลงบนบอร์ดมากเกินไป ไม้เลยคลายตัวออก ทั้งการ์ดและหมุดของฉันร่วงลงพื้นเหมือนใบไม้กรอบหลุดออกจากขั้ว ฉันก้มลงเก็บมันปักลงบอร์ดใหม่อีกครั้ง ขยับสูงขึ้นกว่าเดิมเพื่อหลบรอยปักอันเก่า แล้วสายตาฉัน ทั้งที่ปักหมุดตัวเองอยู่แท้ๆ ฉันเห็นการ์ดข้างๆ ของเสาโทรเลขขนาด 1.8
Happy valentine's Da
ฉันอ่าน แล้วก็ฉงนว่า ... เสาโทรเลข 1.8 เมตร เขียนผิดรึเปล่า หรือ ? ลืมเขียนต่อเหรอ ? ฉันถอนมือออกจากการ์ดของตัวเองหลังจากแน่ใจว่ามันจะไม่ตกลงมาอีกเป็นครั้งที่สอง สายตายังจับจ้องที่ Da สีน้ำเงินไม่สมบูรณ์ เบี้ยวๆ ดูรีบๆ มันคาใจฉันเหลือเกิน และด้วยความไม่สมบูรณ์ที่อภัยไม่ได้ ฉันจึงหยิบปากกาของฉันขึ้นมาเขียนตัว y สีดำต่อจาก Da สีน้ำเงิน จากนั้นมันก็สมบูรณ์แบบในรูปของประโยค แต่แปลกประหลาดเพราะสีดำของฉัน
แต่ ... อย่างน้อยมันก็มี y และเป็น y ที่สวยสง่า มีศิลปะเสียด้วยสิ
ฉันหันหลังเดินจากบอร์ดนั้นอย่างสบายใจ เพราะตอนนี้ Da มี y ตามหลังแล้ว ในขณะที่สายตามองไปข้างหน้า เสาโทรเลขขนาด 1.8 วิ่งหน้าตั้งกลับเข้ามาด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ฉันจ้องหน้าเขาอยู่ครู่หนึ่ง มือหลบปากกาออกจากจุดที่คิดว่าเขาอาจมองเห็น และรีบเร่งจังหวะก้าวยาวขึ้น ร่างสูงโปร่งนั้นวิ่งผ่านฉันไปจนลมปะทะหน้า ฉันรู้ว่าเขากลับไปที่บอร์ด เขาอาจจะรู้ตัวแล้วว่า y หายไป ! ฉันเหลือบมองตามไปก็เห็นเขาหยุดชะงักอยู่ที่บอร์ด ท่าทางลุกลี้ลุกลนพิกล แล้วตาคู่นั้นก็ดันสบมาทางฉัน ฉันเห็นปลายเท้าของเขา ขยับ ชี้มาทางฉัน
ไม่ ไม่อย่าทำอย่านั้น นายกำลังจะเดินมาทางนี้ใช่ไหม อย่า ...
ฉันหันกลับมาที่ทางเดิน รีบก้าวเท้า แต่ได้ยินเสียงคนวิ่งตามหลังมา ใช่ เจ้า Da สีน้ำเงิน ! มันเหมือนกับว่าฉันมองเห็นประตูอยู่ข้างหน้า และรู้ตัวว่ากำลังจะตาย ไม่ ไม่มีทางที่ฉันจะหนีไปถึงประตูนั้นก่อนที่จะขาดใจได้ !
ไหล่ฉันถูกจับจนสะเทือน เสียง ปึ้บ ดังอยู่ในจิตสำนึกของฉัน และหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงของ Da สีน้ำเงินดังอยู่ข้างหลัง
“ นี่เธอ ! ”
นั่นทำให้ฉันคิดถึงเรื่องๆ หนึ่งที่ฉันเพิ่งอ่านไปเมื่อคืน มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ และผู้คนก็แตกตื่นกันมาก เรื่องถูกเขียนโดยนักข่าวชาวรัสเซียคนหนึ่ง เขาอ้างว่าอย่างนั้น... เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปี 13 (หนึ่งสาม) เกิดเหตุการณ์ สะเก็ดดาวตกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก เหนือประเทศรัสเซียและบางส่วนของประเทศคาซัคสถาน เกิดเป็นลูกไฟ พุ่งผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วอย่างน้อย 54,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อุกกาบาตก้อนนี้หนักราวๆ 10,000 ตันได้ในช่วงก่อนที่มันจะหลุดเข้ามาในชั้นบรรยากาศ... เมื่อมันกระทบบนผิวโลก มันสั่นสะเทือน ฝังตัวเป็นหลุมลึก ... เกิดรอยร้าวและความสูญเสียมากมาย ... หลังจากนั้นทั่วทั้งบริเวณกลายเป็นอัมพาต ทั้งการจราจร คมนาคม และอื่นๆ สาธารณูปโภคติดขัด ระบบทุกอย่างในบริเวณ และใกล้เคียงล่มสลาย บกพร่อง กินเวลายาวนาน ...
ใช่ ทุกอย่างเป็นอัมพาต
ใช่
นายคืออุกาบาตปี 13
“ ..... ”
ฉันเงียบใบ้ --- มองไปยังยังอุกาบาตที่วิ่งมาชนฉัน
ดวงตาสีฟ้าเข้มสุกใสเหมือนดาวเคราะห์ HD189733B ซึ่งอยู่ห่างจากโลกตั้ง 63 ปีแสง มันสว่างสดใส จับจ้องมายังฉัน นั่นยิ่งทำให้ฉันได้แต่เงียบใบ้ --- เพียงแค่ครู่เดียวอุกาบาตปี 13 ก็ยิ้ม ฟันขาวนวนค่อยๆ เผยแก่สายตาของฉัน
“ เอ่อ โทษทีนะพอดีว่าฉัน --- เธอพอจะรู้มั้ยว่าใครเขียนการ์ด ... ”
ไม่ ! ๆ อย่าพูดกับฉัน เอามือของนายออกไป ! ฉันนิ่งงัน ดาวเคราะห์สีฟ้าคู่นั้นจรดสายตาที่ปากกาในมือฉัน รอยยิ้มบนใบหน้าของอุกาบาตปี 13 ยิ่งแจ่มชัดขึ้นอีก
“ ปากกาพู่กันจีน อืม ดูดีนะ ใช่สีดำรึเปล่า ? ”
อุกาบาตปี 13 พูด
ฉันไม่รู้ว่าหลังจากที่อุกาบาตพุ่งชนประเทศรัสเซียแล้ว นานเท่าไหร่กว่าพวกเขาจะเก็บกู้ซากอุกาบาตออกไปได้ และนานเท่าไหร่ กว่าระบบทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ฉันยังอ่านไม่ถึงตรงนั้น ในวินาทีที่ก้อนอุกาบาตกระทบลงบนพื้นโลกอย่างไม่คาดคิด ประเทศรัสเซียสะเทือนเลื่อนลั่น ชาวรัสเซียที่รอดตายจะมึนงง พวกเขาหูดับจากเสียงปะทะ และทั้งเมืองจะถูกปกคลุมด้วยฝุ่นหนา พวกรัสเซี่ยนจะตาบาดชั่วขณะ
ฉันกำลังตาบอด หูดับ และตอนนี้คลานอยู่ในฝุ่นหนาจับทิศทางไม่ถูก...
จนกระทั่งรู้ว่าลืมซ่อนปากกาของตัวเอง
“ เอ่อ... ”
พูดต่อไปสิ ฉันต้องรีสโตร์สมองของฉันใหม่อีกครั้ง แต่ก่อนอื่นต้องตอบคำถามก่อน
“ หืม ? ”
ดาวเคราะห์สีฟ้านิ่งสองดวงยังคงจับจ้องมาที่ฉัน มันสวยทีเดียว และดูแปลกตา เขาใจไหม สงบนิ่งแต่ดึงดูด คิ้วคู่นั้นขยับไหวเหมือนกำลังตั้งคำถามบางอย่างกับฉัน
“ สีดำ ”
ฉันตอบ คำถามมีอยู่ว่าใช่สีดำหรือเปล่า ในขณะที่สมองกำลังรีสโตร์ ง่ายที่สุดคือการตอบคำถามที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งก็คือสีดำ... คราวนี้อุกาบาตปี 13 ยิ้มเพิ่มดีกรีความเป็นมิตรขึ้นอีก ดาวเคราะห์สีฟ้าถูกเปลือกตาบดบัง แต่ยังเห็นสีฟ้ารำไร ลึกลับ น่าค้นหา สสารกำลังถูกหลอมละลาย... มีบางอย่างกำลังติดไฟจากรอยยิ้มนั้น S (Smile) ของอุกาบาตเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่ลุกติดไฟในอากาศ ---- ไฟ ที่มองไม่เห็น
ฉันรู้สึกร้อน และฉันเป็นสสารที่ไม่ทนต่อไฟ ...
“ อ้อ งั้นเองเหรอ ”
เขาพูด
ฉันไม่แน่ใจว่าพยักหน้าตอบไปหรือเปล่า ตอนนี้ระบบของฉันยังไม่กลับมาสมบูรณ์ 100% แต่คงได้สักราวๆ 40% แล้ว แต่.... % ของฉันจะลดลงถ้าฉันจ้องนัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้น ฉันรู้สึกได้ ฉันจ้อง ดาวเคราะห์ข้างซ้าย แล้วขยับย้ายมาข้างขวา และกลับไปซ้ายอีกครั้ง
“ เธอ ชื่ออะไรเหรอ ”
อุกาบาตปี 13 ถามพร้อมกับเพิ่มเชื้อเพลิง S เข้าสู่มวลอากาศ สสารกำลังละลายและไหลลงไปที่พื้นของห้องโถง การฟื้นตัวลดลงไป 6% ดาวเคราะห์ HD189733B กำลังสร้างแรงดึงดูดอย่างมหาศาล ... และ ฉันกำลังลอยไปตามแรงดึงดูดของมัน... รู้สึกได้ว่าเท้าไม่แตะพื้น
“ เฮ้ ! เสร็จรึยัง ! ”
เสียงผู้ชายตะโกนข้ามไหล่ฉันไปชนกับอุกาบาตปี 13 เขาสะดุ้งและมองข้ามหัวของฉันไป ฉันรู้สึกว่าตอนนี้แรงดึงดูดหยุดลงแล้ว เมื่อก้มลงมองที่พื้นก็พบว่าเท้าทั้งสองข้างยังสนิทแนบกับพื้นดี ที่ด้านหลังของฉัน ตรงโถงทางเดินเชื่อมเข้ากับห้องโถงใหญ่ นักเรียนชายสองคน คนหนึ่งสวมเครื่องแบบนักเรียนขาวสะอาดตา อีกคนสวมเสื้อฮูดทับไว้ สองคนนั้นจ้องมายังฉัน สลับกับอุกาบาตปี 13 ฉันเห็นรอยยิ้มมีนัยยะ เปร่งประกายออกมาจากใบหน้าของพวกเขาทั้งสอง
“ กำลังไป ! ”
อุกาบาตตะโกนบอก ฉันจึงหันกลับไปมองยังเขาอีกครั้ง ดาวเคราะห์สีฟ้าสองดวงที่ทอดไปยังโถงทางเดินตอนนี้กลับมาหาฉัน จับจ้องฉัน แต่เชื้อเพลิง S ลดลง เพราะรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจางลง
อาจเพราะ ฉันไม่แน่ใจ
“ คืองี้นะ ฉันต้องไปแล้ว เธอ เอ่อ.... ”
เขาพูดพลางก้มหน้าลง มือตบมั่วไปทั่วเครื่องแบบของตัวเอง ตอนนี้ภาพของเสาโทรเลขขนาด 1.8 กำลังทับซ้อนกับอุกาบาตที่ถล่มรัสเซียจนเละเป็นจุล เสียงปุ้บๆ หยุดลงและเขาหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
เขายัดมันใส่มือของฉัน
อุกาบาตพุ่งชนรัสเซียเป็นครั้งที่สอง...
“ ขอบคุณเธอมาก แล้วก็ Happy valentine’s day ”
โฮโมเซเปียนส์ ....
โฮโมเซเปียนส์เป็นสิ่งมีชีวิตเลือดอุ่น นั่นจึงทำให้ร่างกายอบอุ่น มือของเขา... อบอุ่น เสียงซอร์ฟของอุกาบาตตกกระทบ หนักแน่นแต่นุ่มนวล ... แรงสั่นสะเทือนทำให้ฉันลอยจากพื้น เบาโหวงไร้น้ำหนัก และชาพล่าน..
“ หวังว่าจะได้เจอกันอีก ต้องเจอแน่ใช่มั้ย ฉันไปก่อนนะ ”
เขาพูด อย่างรีบร้อน มือของฉันถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ในขณะเดียวกันเขาก็วิ่งจากไป ทิ้งเอาไว้แต่ไอร้อนๆ ที่มือของฉัน ราวกับว่าผู้ชายสองคนที่โถงทางเดินคือผู้เก็บกู้ซากอุกาบาต ตอนนี้อุกาบาตถูกเก็บกู้ไปแล้ว เหลือทิ้งเอาไว้แต่รอยลึก แตกร้าว พื้นผิวไม่เรียบ เหมือนส่วนที่ลึกเป็นหลุมนั้น มีพื้นผิวบางส่วนขาดหายไป
ใช่ ขาดหายไป
และหลุมนั้นต้องการบางอย่างมาเติมเต็มอย่างที่มันไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อผายฝ่ามือออก สิ่งที่ถูกทิ้งเอาไว้เป็นวัตถุรูปหัวใจ น้ำหนักเบา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 เซนติเมตร มันถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์สีน้ำเงินเงาวับ ... แน่นิ่งอยู่บนฝ่ามือของฉัน
มวลสารรอบตัวเริ่มเข้าสู่สภาวะไร้น้ำหนัก ....
ฉันจ้องมองวัตถุลึกลับในมือของตัวเอง และคิด.. ว่าฉันควรทำอย่างไรกับมันดี ปกติแล้วช็อกโกแลตวาเลนไทน์ เราต้องกินมันเข้าไปให้หมด หรือเราควรเก็บเอาไว้จนกว่าโลกจะล่มสลาย ไม่ก็ จนกว่าสสารของจะมันสลายไปตามการเวลา ฟอยล์คงอยู่ได้ราว 30 ปี แต่ช็อกโกแลตคงอยู่ไม่ถึง
ฉันยืนนิ่งงัน
ดวงตาสีฟ้าเดียวกับดาวเคราะห์ HD189733B วกกลับเข้ามาในความคิดของฉัน วนเวียนอยู่อย่างนั้น
ฉันยังคงติดพันอยู่ในวงโคจรที่ไกลออกไปตั้ง 63 ปีแสง
เชื้อเพลิง S มลายหายไปแล้ว แต่ฉันอยากถูกเผาไหม้อีกครั้ง...
....
อุกาบาตถูกเก็บกู้เรียบร้อย... แต่รัสเซียยังคงเป็นอัมพาต...
จบ.
แด่ความรักที่ไม่อาจเข้าใจ และหาที่มาที่ไปไม่ได้ : )
- แมวจร
( ดาวเคราะห์ HD189733B )