ณรินรับคำ “ค่ะ แล้วเราทำอะไรกันอยู่เหรอคะ”
“มีเซ็กครับ” ณริณอยากจะบ้าตาย ทำไมท่านรองประธานถึงได้ตรงไปตรงมาขนาดนี้ ตอนอยู่ในบริษัทเขาดูสุขุมมาก ถึงมองเห็นเพียงผ่านๆ เพราะตำแหน่งเล็กๆอย่างเธอไม่ได้เฉียดเข้าใกล้ผู้บริหารอย่างเขาบ่อยๆอยู่แล้ว แต่ทำไมท่านรองประธานที่กำลังจะเลื่อนเข้าสู่ตำแหน่งท่านประธานในอนาคตถึงได้เป็นคนมักมากในกาม จนเธอไม่อยากจะเชื่อสายตา
มือนุ่มยังไม่หยุดผลักเขาออก ดวงตาที่เมื่อยล้าจากการทำงานช้อนมองที่ภามพรางขมวดคิ้ว ถามเขาอีกครั้ง
“มีกับฉันเนี่ยนะ คุณขอแล้วหรือเปล่า”
คราวนี้ภามสบตาเธอ ก่อนมองลงไปยังเนินอก จนณรินต้องเชยปลายคางได้รูปให้เงยหน้ามองเธออีกครั้ง แล้วเขาก็ให้คำตอบที่ทำเอาเธอฉุนเล็กๆว่า
“งั้นคุณอยากได้เท่าไหร่”
เขาคิดว่าเธอขายตัว
ณริณไม่อยากเชื่อ โอเค ถึงสภาพและตำแหน่งหน้าที่การงานของเธอในตอนนี้ดูไม่ต่างนักหรอก แต่เธอไม่ได้ทำไง แล้วที่ลากเขามานี่ก็เพราะความใจบุญทั้งนั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังจะถามกลับไป เพราะอยากรู้ว่าเขาดูถูกเธอเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่กัน
“งั้นคุณให้เท่าไหร่” รวยมากนักนี่ ผลประกอบการณ์เป็นพันล้าน ดูสิว่า ลูกเจ้าของบริษัท จะให้เธอสักเท่าไหร่กันเชียว
“ห้าหมื่น”
ณริณเลิกคิ้ว “แค่ห้าหมื่น”
“คุณอยากได้เท่าไหร่” ใช่ มีหนี้เกือบล้านนี่ เรียกเยอะน้อยแล้วกันเผื่อได้ เธอไม่ได้คิดจะขายตัวหรอกแต่จะหลอกให้เขาตายใจก็เท่านั้น
“ห้าแสน”
ใช่แล้ว เขาต้องไล่ตะเพิดเธอออกจากห้องตัวเองแน่นอน คนบ้าอะไรจะยอมจ่ายให้เด็กดริ้งห้าแสน โดยที่ไม่อะไรกันมาก่อน อีกอย่างเธอไม่ใช่ดารานักแสดงที่ค่าตัวแพงแสนแพง ดูสิ ท่านรองประธานคนเก่งจะใจป้ำใจป๋ายอมจ่ายหรือเปล่า
“คุณร้อนเงินเหรอ” ทว่าณริณกลับต้องหน้าชาเมื่อเขาเดาเธอได้ถูกจุด
ใช่ เธอร้อนเงินมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำสองงานควบกันหรอก แต่สีหน้าที่เหมือนจะขำเธอนี่มันยังไง