หรือเพราะผูกพันธ์ จึงทำให้ผมรัก

รักวัยรุ่น

หรือเพราะผูกพันธ์ จึงทำให้ผมรัก

หรือเพราะผูกพันธ์ จึงทำให้ผมรัก

ข้อความ

รักวัยรุ่น

1
ตอน
36
เข้าชม
1
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง
คำเตือนเนื้อหา
คำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องอาจมีการสปอยล์ถึงเนื้อเรื่องหลัก
เพราะการช่วยเหลือ การดูแลกันและกันในวันที่ต่างคนต่างรู้สึกดี มันจึงเป็นความรัก ความเข้าใจ บทพิสูจน์ความรักฉบับไหน จะมาเทียบเคียงปรับใช้กับเราได้ไหม เพราะแค่รัักเลยรู้สึกดี หรือเพราะรู้สึกดีถึงได้รัก

แรกพบ 

“มันเป็นไปไม่ได้หรอก สมัยนี้ คนเราเวลารักใครแล้ว เขาจะรัก และเชื่อมั่นกับแค่คนๆ นั้นคนเดียวจริงๆ” จู่ๆ ---- ก็พูดขึ้นมา ขณะนั่งดูข่าวคู่รักดาราที่กำลังให้สัมภาษณ์ว่ารักกันหวานซึ้ง ปานจะกลืนกินปานใด บนโซเชียล ที่มือถือนั้น

“พี่พูดอย่างนี้ พี่จะบอกว่าในโลกนี้ คนเรามันจะไม่มี ไม่เจอรักแท้เลยหรอ?” -- ถามกลับ ขณะนั่งเล่นมือถืออยู่ข้างๆ

“มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก เพียงแค่แต่ว่า ทุกวันนี้ คนมันเจอกันง่าย มันไม่เหมือนสมัยก่อน ไม่เหมือนสมัยรุ่นปู่ รุ่นย่า ที่เขากว่าจะเจอกัน ที่เขากว่าจะรักกัน มันยากนะ เพราะกว่าจะมีโอกาสเจอกัน จะรู้จักกันก็แค่ช่วงงานประเพณี งานบุญ งานต่างๆ ของหมู่บ้าน งานตำบล หรือ งานระดับอำเภอ สมัยก่อนจีบกันแบบเขียนจดหมายหากัน กว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับ สามถึงห้าวัน มันใช้เวลา ใช้ความรัก และความมั่นคงของจิตใจมากๆ ไม่เหมือนคนสมัยนี้ ที่เจอกันง่าย ทั้งในเฟส ในไลน์ อินสตาแกรม หรือ ติ๊กตอก เวลาคนๆ หนึ่ง โสด หรือ อกหัก ก็แค่โพส แค่ตั้งสถานะบนโลกออนไลน์ ก็มีคนมาจีบ มาให้กำลังใจแล้ว ทุกวันนี้ มันถึงรักกันง่าย เลิกกันง่าย แม้จะมีคน หรือคู่ที่รักกันจริงอยู่บ้างก็เหอะ แต่มันก็เป็นส่วนน้อย” ---- ตอบกลับ -- ชุดใหญ่ เป็นเพราะไม่อินในสื่อที่กำลังเผยแพร่ ข่าวคู่รักดารา ที่ดูสวยหรู ขณะนั่งดูข่าวนั้นในมือถือ

-- นิ่ง และพูดตอบกลับ เบาๆ

“หรือ เพราะพี่อาจจะไม่เคยเจอรักแท้ แบบนั้นหรือเปล่า” บรรยากาศเงียบ ไม่มีการตอบกลับ มีแต่เสียงจากข่าวคู่รักดารา ที่ ---- กำลังเปิดมือถือดูอยู่

############# 

ณ งานกิจกรรมคืนสู่เหย้าของชมรม มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่อยู่ในภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบน บรรยากาศเป็นการจัดงานแบบรุ่นน้องชมรมในมหาลัย ช่วยกันจัดขึ้น โดยแบ่งส่วนของงาน เป็นงานด้านสถานที่ งานด้านอาหาร งานกิจกรรมบนเวที พาร์ค รุ่นพี่ปีสอง กำลังทำหน้าที่ด้านอาหาร กับพวกเพื่อนๆ และน้องๆ ที่ช่วยกัน หั่นผัก ทอดลูกชิ้น เตรียมเครื่องยำ ส้มตำ มีทั้งกับข้าวแกงหม้อ ที่พวกพี่ๆ ศิษย์เก่านำมา และรุ่นน้องชมรมช่วยกันทำ

“ตักอาหาร ไปกันได้เลยนะ ทุกคน เอาไปนั่งกินด้วยกัน เป็นวงๆ อะไรพอ ไม่พอ มาตักไปได้อีกนะ” เสียงคนในครัวตะโกนบอกกันมา

คนเริ่มทยอยมางาน รุ่นพี่ รุ่นน้องพบปะ พูดคุย ช่วยงานกัน คนละไม้คนละมือ

“สถานที่ๆ ขอเสื่อมาปูเพิ่มตรงนี้หน่อยค่า พี่ๆ มาเพิ่มกันแล้ว” มีเสียงผู้หญิง ตะโกนบอกงานฝ่ายสถานที่

“ปู ตรงไหนดีครับ ต่อจากตรงนี้เลยไหมครับ” หนุ่มน้อย คิ้วเข้ม ผิวขาว สูงราว 170 กว่าๆ เดินมาถาม และจะปูเสื่อ ตามที่เสียงนั้นบอก

“ปู ตรงนี้เลยจ๊ะน้อง หรือ จะปูในใจพี่ก็ได้นะคะ” ปุ๋ย รุ่นพี่ปีสอง เจ้าของเสียงนั้นบอก ขณะมองดูป้ายชื่อสีฟ้าที่ติดอยู่ที่อก

“แก ก็แซวน้อง” แพรว่าปุ๋ย และหันไปบอก

“ปูในใจพี่ดีกว่านะจ๊ะ ใจพี่ปุ๋ยมันกว้าง คนข้างในมันเยอะ คิคิ”

หนุ่มคิ้วเข้มคนนั้น ยิ้ม และปูเสื่อผืนนั้นลง

จากนั้น แพร และปุ๋ย ตะโกนบอกคนในงาน ที่มีทั้งรุ่นพี่ศิษย์เก่า พี่ศิษย์ปัจจุบัน และรุ่นน้อง

“พี่ๆ ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน เชิญเข้ามานั่งล้อมวงกันได้เลยนะคะ มานั่งรับประทานอาหารร่วมกัน มานั่งคุยกัน มาเลยคะๆ”

ขณะรับประทานอาหารกัน ทุกคนก็พูดคุยกันถามสารทุกข์ สุกดิบ ตามประสารุ่นน้อง รุ่นพี่ ทำงานอะไร อยู่ที่ไหน รุ่นน้องเรียนอะไร ปีไหน พาร์ค แพร ปุ๋ย และเพื่อนๆ อีก สองคน นั่งอยู่ในวงกินข้าวเดียวกัน มีรุ่นพี่ศิษย์เก่าในวงด้วยสองคน และตอนนั้น หนุ่มคนนั้นก็เดินถืออาหารมา กำลังมองหากลุ่มที่จะนั่ง เสียงพิธีกรพูดประกาศผ่านลำโพง

“อ้าวๆ กลุ่มไหนยังไม่ครบ บ้างครับ ยกมือ เรียกคนยืนๆ อยู่มานั่งได้เลย ส่วนคนที่ยืนๆ อยู่ก็หากลุ่มนั่งเลยนะครับ เราจะประกาศจับของขวัญรางวัลกันแล้ว” พิธีกรที่เป็นศิษย์ปัจจุบันกล่าว

กลุ่มปุ๋ย แพร ก็ยกมือขึ้น แต่ก็ไม่ได้มองว่าใครจะมานั่งด้วย เพราะก็พูดคุยกันอยู่กับพี่ๆ น้องๆ ในกลุ่ม สักพัก หนุ่มคนนั้นก็ถือจานอาหาร จะมานั่งร่วมในกลุ่มด้วย

แพรหันไปเห็น และพูดดังๆ “อ้าวน้องอิต มานั่งใกล้ๆ พี่ก็ได้นะจ๊ะ พี่ไม่กัดหรอก อยากกินไรเดียวพี่ป้อน” แพรพูดแซวแล้วยิ้ม ปุ๋ยที่อยู่ข้างๆ ก็มองและยิ้ม แล้วทำตามองบน พร้อมเบะปาก

อิสวางจานอาหารลง และนั่งข้างๆ พาร์ค ที่นั่งต่อมาจากแพร และปุ๋ย

อิตเป็นหนุ่มวิศวะปีหนึ่ง คิ้วเข้ม ผิวขาว สูงประมาณ 170 กว่าๆ รูปร่างล่ำสันทัด จนเห็นเส้นเลือดปูดๆ ที่แขนขาวๆ อิสเพิ่งเข้ามาชมรมนี้เป็นครั้งแรก จึงเป็นน้องใหม่ ที่ยังดูเขอะเขิน และสุขุม หล่อ น่ารัก จนรุ่นพี่ๆ ผู้หญิงชอบแซว ล้อ แซวหยอก

ระหว่างนั่งกินอาหาร และสนนทนากันไปได้สักพักนั้น ก็มีการประกาศจับของรางวัล ที่ทุกคนนำมาร่วมสนุกกัน พาร์คกำลังจะลุกไปตักอาหารมาเพิ่ม พาร์คก็ถามอิต ที่นั่งข้างๆ

“อิต เอาไรเพิ่มเปล่า พี่จะไปทำยำมาเพิ่มหน่ะ” พาร์คถาม ขณะกำลังจะลุกขึ้น

อิตมองตามขึ้น ทำท่าครุ่นคิด และยื่นจานใบหนึ่งให้พาร์ค

“เอิ่ม...ผมขอลูกชิ้น กับฮอตดอกทอดเพิ่มครับ” อิตตอบ

แพร กับ ปุ๋ย มองขึ้นไปที่พาร์คที่ยืนอยู่ แล้วตะโกนแซว

“ถามพวกกู มั้งก็ได้นะ ถามแต่น้อง” แพรพูดแล้วยิ้ม

"แต่ถ้าน้องจะเอาอะไร บอกพี่ได้นะจ๊ะ เดียวพี่ไปเอาให้" แพร วกกลับมาแซวเอส

“เออๆ พวกมึง จะเอาอะไรละ เดียวกูตักมาให้” พาร์ค ถามกลับ

“กูเอาเกี๊ยวทอด แล้วก็แกงขาไก่ แต่ไม่เอาเนื้อไก่ ที่เป็นอกไก่นะ ขอเป็นเห็ด กับน่องไก่ประปรายๆ” แพรตอบ ยักคิ้ว

“เยอะเนอะมึงเนี้ย เดียวได้ไปตักเอง” พาร์คพูดหน้ายิ้ม แบบหมั่นไส้

“กูเอายำ มึงจะไปทำยำอะไร” ปุ๋ยถามพาร์ค

“ว่าจะเอายำรวม ไม่รู้ว่ามันเหลืออะไรบ้าง ไปดูก่อน” พาร์คบอก

“งั้นมียำประเจ็ดมะ” ปุ๋ยถาม แบบแซวๆ แล้วยิ้ม มองพาร์ค

“มีแต่ยำคนเท็ด มึงจะเอาม่ะ” พาร์คตอบเสียงแข็ง แล้วทำตาโตใส่เพื่อน

“เออๆ เอาไรก็เอามาเหอะ ไม่มีกูก็กินกับมึงแหละ” ปุ๋ยตอบกลับ แล้วยิ้ม ยักคิ้ว

“รอสักครู่นะครับ ท่านผู้มีเกียรติทั้งสองท่าน” พาร์ค แซวตอบกลับ แล้วก็เดินไป

มีเสียงหนึ่งตะโกนตามหลัง

“เดียวผม ไปช่วยถือดีกว่าครับ พี่คงเอามาไม่หมดหรอก” เสียงนั้น คือ อิต

พาร์ค กับ อิต ก็เดินมาที่โต๊ะทำยำ ดูข้าวของ เครื่องปรุง และวัตถุดิบ เอสก็ตักลูกชิ้นทอด เกี๊ยวทอด ที่ตั้งอยู่บนถาด ด้านหน้าโต๊ะทำยำ เอสตักของทอดเสร็จแล้ว ก็มองดูพาร์ค แล้วถามว่า

“ให้ผมช่วยอะไร ไหมครับพี่” อิต เอ่ย

พาร์คมองไปรอบๆ โต๊ะ แล้วบอกอิต

“ช่วยหั่นมะนาว กับมะเขือเทศ เพิ่มให้หน่อย”

อิตจับลูกมะนาวมาหั่น แต่ไม่รู้จะหั่นยังไง เลยฝานออกมาแบบเบี้ยวๆ ทั้งมะนาว ทั้งมะเขือเทศ เตรียมใส่ถ้วยไว้ให้ พาร์คมองมาแล้วขำ และบอกอิต

“ไม่ได้หั่นอย่างนั้น นี่เราทำกับข้าวไม่เป็นหรือไง ฮาๆ” พาร์คหัวเราะ

“นี่มะนาวหั่นแบบนี้ ผ่าครึ่งลูกเลย แล้วเอาเม็ดออก ส่วนมะเขือเทศ ผ่าครึ่งลูกก่อน แล้วก็ผ่าครึ่งอีกที แล้วก็ผ่าครึ่งอีกที” พาร์คพูด แล้วหั่นมะนาว กะมะเขือเทศให้อิตดู

อิต หัวเราะ

“ฮาๆ ขอโทษครับ ว่าจะช่วยสักหน่อย พี่เลยต้องทำเองเลย ฮาๆ” อิตหัวเราะ แล้วยิ้ม

พาร์คหั่นมะนาว และผักเสร็จ ก็ใส่เครื่องปรุงต่างๆ น้ำมะขาม น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา พริกตำละเอียด ต้นหอมผักชีที่ซอยไว้แล้ว ใส่กะลามัง คนๆ แล้วก็ชิม จากนั้นก็ใช้ช้อนตัก แล้วให้อิตชิม

“อื้มมม โอ้.. โอเคร เลยครับพี่” อิตบอก พร้อมทำตาโตเมื่อได้ชิม

“เคร งั้นขอจานหน่อย” พาร์คบอก พลางชี้นิ้วไปที่จานที่วางเรียงเป็นชั้นๆ อยู่

อิต ยื่นจานให้

“พี่ทำอาหารเก่งนะเนี้ย รอบเดียวรู้เรื่องเลย” อิตกล่าวชมฝีมือ หลังจากที่ได้ชิม

“ธรรมด๊า ฝีมือระดับพี่นี้แล้ว งานครัวมา 3 ค่ายเลยนะพี่เนี่ย” พาร์ค คุยโว

สองคนหัวเราะ ขำ แล้วตระเตรียมข้าวของ เพื่อจะไปนั่งที่กลุ่มเหมือนเดิม

“มากันแล้วหรอสองคน หายไปนานเลยนะ” แพรแซว อิตกับพาร์ค นำอาหารวางลง และยื่นส่งให้เพื่อนในกลุ่ม งานกิจกรรม ก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ พอพิธีกรบนเวทีประกาศ แล้วเป็นชื่อพาร์คได้รางวัล พาร์คก็ดีใจ และขึ้นไปรับของขวัญรางวัล แล้วพิธีกรให้พาร์คจับของรางวัลให้กับคนต่อไป แล้วคนที่เดินขึ้นไปรับของรางวัลต่อจากปาร์ค ก็คือ อิต  คนในงานปรบมือ และตะโกนแซวอิต โดยเฉพาะสาวๆ ทั้งหลาย

“น้องอิตๆ จับได้พี่นะๆ พี่ติดเบอร์ไว้ที่ตัวพี่แล้ว” เสียงผู้หญิงตะโกนแซว

"ว้าย ตัยล้าวๆ พูดอะไรนะ จับได้ชั้นสิย๊ะๆ" กลุ่มรุ่นพี่กะเทย ก็แซว ไม่ยอมน้อยหน้า

“หมีๆ จับชื่อเค้าๆ ของขวัญของเค้าๆ” มีผู้หญิงตะโกนแซว คาดว่าน่าจะเพื่อนปีหนึ่งเหมือนกัน

อิตจับของรางวัลได้จากพี่ศิษย์เก่าคนหนึ่ง ซึ่งเป็นชุดอุปกรณ์ทำครัวเล็กๆ ที่มีมีด มีเขียง มีตะแกรง และถาดรองสแตนเลส ทุกคนแซว

"ขาดคนทำงานครัวไหมจ๊ะ ตัวเอง" เสียงกะเทยรุ่นพี่

"พี่ทำอาหารเก่งนร้า" รุ่นพี่ ผู้หญิง

"พี่มีร้านอาหารอยู่ สามร้านจ้า พี่ทำกับข้าวขายจ้า" เสียงพี่ผู้หญิงศิษย์เก่า ที่มากับครอบครัว และมีลูกสาววัยมัธยมต้นนั่งดึงแขนแม่อยู่

..เสียงปรบมือ เสียงร้องแซว กรี๊ดกร้าด กันชลมุน

อิตเดินกลับมาที่กลุ่มนั่งกินข้าว คนในกลุ่มแซว

“อิตจะทำกับข้าวกินวันไหนหรอ เดียวพี่ๆ ไปกินด้วยที่หอนะ” แพรแซว และยิ้มพร้อมกับปุ๋ย

อิตตอบกลับ

“ผมทำกับข้าวไม่เป็นนะสิครับ ทำไงดีละเนี่ย" พูด และมองไปที่ของรางวัล

"พี่พาร์ค แลกกันไหมครับ พี่ได้อะไรมาหรอ”

อิตพูด ขณะนั่งอยู่ใกล้ๆ พร้อมยกของรางวัลที่ได้มาขึ้นมอง

“ถ้าไม่อย่างนั้น ผมเอาไว้ให้ชมรมแหละ เผื่อไว้ใช้ตอนไปทำค่ายกัน” อิตยิ้มเพราะนึกขึ้นได้

“เออ ก็ดีนะ ไว้ชมรมแหละ งั้นเอานี่ไป พี่ได้มาสองอัน พวงกุญแจรูปหมี” พาร์คยื่นพวงกุญแจรูปหมีให้

ในตอนนั้น ไม่มีใครมองมาที่สองคนนี่ เพราะต่างลุ้นของรางวัล ที่ยังมีการจับฉลากอยู่ และมีรางวัลพิเศษที่ยังไม่มีคนจับได้อีกด้วย

หลังจากกิจกรรมสันทนาการ การจับฉลากของขวัญ การรับประทานอาหารร่วมกัน จบลง ทุกคนต่างพากันช่วยเก็บข้าวของ พี่ๆ ศิษย์เก่าบางส่วนหนึ่งก็ขอตัวกลับก่อน เพราะมีลูกน้อย เด็กๆ มาด้วย ส่วนพวกรุ่นน้อง ศิษย์ปัจจุบัน และพี่ๆ ศิษย์เก่าบางคน ที่ยังอยู่ ก็ช่วยกันเก็บข้าวของ ล้างจาน กิจกรรมดำเนินไปด้วยเสียงหัวเราะ แซวกันอย่างสนุกสนาน

"ล้างจานต้องใช้ซันไลน์ แต่ถ้าจะล้างอิตที่อยู่ในใจ ต้องใช้อะไรหรอ แอร้ยย" รุ่นพี่กะเทยแซว ระหว่างล้างจาน

"คิงบ่าต้องล้างน้องละก๊ะ เพราะน้องบ่าเกยอยู่ในใจคิง สลิดแต้ว่า" แพรพูด พร้อมเบะปากแซวเพื่อนกะเทย

"น้องอิต น้องอิตหนีไป พี่จะปกป้องน้องเอง" แพร หันมาตะโกนบอกอิต ที่เดินยกกาละมังใส่จานมากับเพื่อนผู้ชายอีกคน

ทุกคนหัวเราะ สนุกสนาน ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ จนทุกอย่างเริ่มเรียบร้อย ก็มีคนบางกลุ่มชวนกันไปเที่ยวต่อ บางกลุ่มเพื่อนๆ ก็ชวนกันไปร้องคาราโอเกะ บางกลุ่มก็ชวนกันไปร้านนั่งชิลล์ บางกลุ่มก็แยกย้าย เพื่อกลับหอพักของแต่ละคน โดยเฉพาะรุ่นน้องๆ ปีหนึ่ง ทุกคนต้องกลับเข้าหอพักในมหาวิทยาลัย พวกพี่ๆ ปีสอง ปีสาม จึงต้องคอยจับคู่มอเตอร์ไซต์ หรือหาพี่ๆ คนที่มีรถ มีมอเตอร์ไซต์ไปส่งน้องๆ เข้าหอพักใน ซึ่งก็พยายามให้เป็น พี่ผู้หญิงขับไปส่งน้องที่เป็นผู้หญิง พี่ผู้ชายก็ไปส่งน้องที่เป็นผู้ชาย แต่ทั้งหมดก็ค่อยๆ เดินทางไปด้วยกัน พาร์ค ก็ได้ยืมรถเพื่อนผู้หญิงไปส่งน้อง เพราะว่าน้องๆ มีจำนวนผู้ชายเยอะกว่า และอิตก็ได้พาร์คไปส่ง

ระหว่างทางที่ขับรถไปส่งนั้น

“สนุกไหม วันนี้ กับคืนสู่เหย้าของชมรม” พาร์คหันไปถามอิต ขณะที่ขับมอเตอร์ไซต์ไปกับชุดกลุ่มแรก เป็นแถวๆ เพื่อไปส่งน้องๆ

“สนุกดีครับพี่ ทุกคนตลก และเป็นกันเองหมดเลย ทั้งที่แรกๆ ผมก็กลัว กลัวว่าจะทำตัวไม่ถูก กลัวไม่รู้จะคุยกับใคร อย่างไร แต่...ทุกคนสนุก ตลก เป็นกันเองมากๆ เลยครับ” อิตก้มตะแครงมาตอบพาร์คค่อนข้างดัง เพราะนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง มีลมคอยปะทะ และมีเสียงมอเตอร์ไซต์แต่ละคัน

“ดีแล้วๆ ชมรมเราสนุกมาก แต่ละคนที่เข้ามาเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ช่วยเหลือกันและกัน ไม่มีอะไรก็แวะเข้ามาเล่น แวะมาที่ชมรมได้นะ อย่าเพิ่งเบื่อ หนีไปไหนละ” พาร์คบอก

“ได้เลยครับพี่ ผมจะมาเรื่อยๆ เมื่อมีโอกาส ผมอยากไปออกค่ายด้วย อยากรู้ว่าประสบการณ์ค่ายมันสนุกไหม ได้เจอเพื่อนๆ พี่ๆ ต่างคณะบ้าง มันคงสนุกดี” อิตยังก้มตะแครงตอบ

พอมาถึงหน้าบริเวณหอพักใน พาร์คกับอิต ก็จอดรถ นั่งรอพวกน้องๆ และคนอื่นๆ ที่กำลังเดินทางทยอยๆ มาส่งน้องๆ เข้าหอพักใน พาร์คหยิบมือถือขึ้นมาเล่นระหว่างรอ

...สักพัก!!!

“มันเป็นไปไม่ได้หรอก สมัยนี้ คนเราเวลารักใครแล้ว เขาจะรัก และเชื่อมั่นกับแค่คนๆ นั้น คนเดียวจริงๆ” จู่ๆ พาร์ค ก็พูดขึ้นมา ขณะนั่งดูข่าวคู่รักดาราที่กำลังให้สัมภาษณ์ว่ารักกันหวานซึ้ง ปานจะกลืนกินปานใด บนโซเชียล ที่มือถือนั้น

“พี่พูดอย่างนี้ พี่จะบอกว่าในโลกนี้ คนเรามันจะไม่มี จะไม่เจอรัก หรือใครสักคนรักเราจริงในชีวิตเลยหรอ?” อิต ถามกลับ ขณะนั่งเล่นมือถืออยู่ข้างๆ

“มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก เพียงแค่แต่ว่า ทุกวันนี้คนมันเจอกันง่าย มันไม่เหมือนสมัยก่อน ไม่เหมือนสมัยรุ่นปู่ รุ่นย่า ที่เขากว่าจะเจอกัน ที่เขากว่าจะรักกัน มันยากนะ สมัยก่อนจีบกันแบบเขียนจดหมายหากัน กว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับ สามถึงห้าวัน มันใช้เวลา ใช้ความรัก และความมั่นคงของจิตใจมากๆ ไม่เหมือนคนสมัยนี้ ที่เจอกันง่าย ทั้งในเฟส ในไลน์ อินสตาแกรม หรือ ติ๊กตอก เวลาคนๆ หนึ่ง โสด หรือ อกหัก ก็แค่โพส แค่ตั้งสถานะบนโลกออนไลน์ ก็มีคนมาจีบ มาให้กำลังใจแล้ว ทุกวันนี้ มันถึงรักกันง่าย เลิกกันง่าย แม้จะพอมีคน หรือคู่ที่รักกันจริงอยู่บ้างก็เหอะ แต่มันก็เป็นส่วนน้อย” พาร์คตอบกลับเอส แบบชุดใหญ่ เป็นเพราะไม่อินในสื่อที่กำลังเผยแพร่ข่าวคู่รักดารา ที่ดูสวยหรู ขณะนั่งดูข่าวนั้นที่มือถือ

อิตนิ่ง และพูดตอบกลับ เบาๆ

“หรือ เพราะพี่อาจจะไม่เคยเจอรัก หรือความรู้สึกดีๆ แบบนั้นหรือเปล่า” บรรยากาศเงียบ ไม่มีการตอบกลับ มีแต่เสียงข่าวคู่รักดารา ที่พาร์คกำลังเปิดดูในมือถืออยู่

 

พอคันสุดท้ายที่มาส่งน้องๆ มาถึง น้องๆ ยกมือไหว้ ขอบคุณพี่ๆ ที่มาส่ง พวกพี่ๆ โบกมือ มองน้องๆ ที่ทยอยๆ เดินเข้าหอพักในไป เสียงน้องๆ ตะโกนบอก

“ขอบคุณนะค่ะ ขอบคุณครับ ขอบคุณที่มาส่งพวกเรานะค่า” น้องๆ ปีหนึ่งตะโกนบอก ขอบคุณรุ่นพี่ๆ ที่มาส่ง

ทุกคนแยกย้ายเข้าหอพักใน พวกพี่ๆ ขับรถกลับหอพัก และบางคนก็พากันไปต่อที่หอเพื่อน

                                                 ______________________

                  

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว