จบ กรรมรัก [ดราม่า]
30
ตอน
17.7K
เข้าชม
58
ถูกใจ
114
ความคิดเห็น
224
เพิ่มลงคลัง
คำเตือนเนื้อหา
คำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องอาจมีการสปอยล์ถึงเนื้อเรื่องหลัก
เมื่อความรักที่เคยหวานชื่น...มันไม่ได้มีแค่ "เราสองคน" อีกต่อไป ! เมื่อรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เคยมีต้องเปลี่ยนเป็นคราบเลือดและหยดน้ำตา...กรรมใดที่ใจเราก่อ...กรรมนั้นจะสนองคืนสู่...หัวใจเราเอง

 

 

 

แนะนำจากไรต์ 

1.นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแนว ดราม่า คู่หลัก-คู่รอง เป็นนิยายชายรักชาย ไม่เหมาะกับคนโลกสวย ท่านใดรับไม่ได้ ให้รีบกดหนีออกไปทันทีนะคะ อย่าหลงเข้าไปเป็นอันขาด 

2.รูปภาพตัวละครต่างๆ เป็นเพียงบทบาทสมมุติ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในนิยายเรื่องนี้ 

3.นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นด้วยจินตนาการและภาพสมมุติเท่านั้น 

4.นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหา คำพูดหยาบคาย และการใช้ความรุนแรง ทั้งต่อร่างกายและจิตใจ เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรพิจารณา 

5.นิยายเรื่องนี้มีการใช้ภาษาพูดวิบัติบ้าง เพื่อการเพิ่มอรรถรสในการอ่าน ใครที่รับไม่ได้ ให้รีบกดหนีออกไปอย่างรวดเร็วค่ะ 

6.นิยายเรื่องนี้ถือเป็นลิขสิทธิ์ ห้ามคัดลอกดัดแปลงเนื้อหาภายใน นะคะ 

 

 

 

 

**** เป้ & ไนน์ **** 

 

“พี่เป้...” น้ำเสียงออดอ้อนร้องเรียกชื่อผมลากหางยาวจนผมรู้ทันทีว่าเจ้าน้องคนเล็กคงมีเรื่องมาอ้อนผมอีกแล้ว 

“ว่าไง” ผมกวาดตามองไปมองตัวเห็นว่ารอบๆ นั้นไม่มีใครคนอื่นนอกจากเราสองคนจึงแตะจมูกลงไปบนหน้าผากสีขาวของคนตักเบาๆ 

“วันๆ พี่เป้คิดถึงแต่ไอ้พีท พูดแต่เรื่องไอ้พีท พี่เป้รักไอ้พีทมากกว่าผมแล้วเหรอ” ไนน์ตัดพ้อผมเสียงอ่อนเสียงหวาน 

“พี่ไม่รักใครมากว่าไนน์หรอก ไอ้ตัวเล็กของพี่” ผมกดจมูกลงไปกับแก้มนุ่มของคนที่กำลังฉีกยิ้มจนแก้มยุ้ยเมื่อได้ยินผมยืนยันว่ารักมากกว่าคนอื่น 

เจ้าไนน์ตัวน้อยยกมือขึ้นมาล้วงเข้าไปในคอเสื้อของผมเพื่อดึงสร้อยคอหนังเส้นหนึ่ง ซึ่งห้อยจี้รูปหัวใจครึ่งดวงเอาไว้แล้วล้วงมืออีกข้างลงไปหยิบเอาหัวใจอีกครึ่งดวงซึ่งห้วยติดอยู่กับสร้อยบนคอตัวเองออก ผมก้มลงไปสบตากับคนบนตักแล้วก้มหน้าลงไปหาประกบริมฝีปากแตะลงไปกับริมฝีปากบางสีชมพูที่เผยอรอผมอยู่ 

กริ๊ก เสียงแม่เหล็กสองชิ้นซึ่งเคลื่อนเข้ามาใกล้กันถูกแรงดึงดูดดึงหัวใจทั้งสองซีกนั้นให้ประกบแตะรวมกันจนกลายเป็นหัวใจดวงเดียว เหมือนหัวใจของเราที่มันเชื่อมถึงกัน 

“ผมรักพี่นะ” เสียงกระซิบบอกรักแว่วหวานจากคนอายุน้อยกว่าผมหนึ่งปีบนตักทำให้ผมยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเหลือเกิน 

“พี่ก็รักไนน์นะ” 

 

 

 

**** ซัน & ไมล์  **** 

วันนี้ไอ้ซันกลับมานอนที่ห้องกับผม ใจจริงผมก็ไม่อยากจะถามอะไรที่จะทำให้มันอารมณ์เสียเพราะผมกลัวว่ามันจะหุนหันออกจากห้องไป แต่เพราะเห็นว่าเบลนั้นเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน จึงอยากให้ไอ้ซันมันยกเว้นเบลไว้สักคน ถึงแม้ตัวเบลเองจะแสดงออกชัดเจนว่าหลงใหลได้ปลื้มในตัวไอ้ซันมากก็ตามที 

“มึงจะอะไรนักหนาวะไมล์กูก็ไม่ได้จริงจังอะไรสักหน่อย” ไอ้ซันทำท่าทางหงุดหงิดขึ้นมาทันทีเมื่อผมเริ่มต้นที่จะพูดเตือนมัน 

“แต่เบลนั่นมันก็เพื่อนพวกเรานะ ในเมื่อมึงไม่ได้คิดจริงจัง มึงก็เว้นเบลไว้สักคนไม่ได้เหรอ” 

“กูอุตส่าห์กลับมาห้องเพราะคิดถึงมึงนะไมล์ มึงอย่าเปิดประเด็นชวนทะเลาะดิวะ” ไอ้ซันหันมาขมวดคิ้วตีสีหน้ารำคาญใส่ผมทันที ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วก็ยอมกลืนคำพูดทั้งหมดที่ตั้งใจจะอ้าปากพูดนั้นกลับลงไปข้างในเหมือนเดิมเพราะผมไม่อยากให้มันหงุดหงิดแล้วใช้เป็นเหตุผลหาเรื่องออกไปจากห้อง 

“ซัน...กูรักมึงนะ” ผมเอนตัวลงไปแล้วซบหน้าลงกับไหล่กว้างๆ ของคนที่ผมรักอย่างไม่มีเหตุผล ไม่มีข้อแม้และไม่มีเงื่อนไขใดๆ รักถึงขนาดยอมโง่เป็นควาย เจ็บเจียนตายแค่ไหนผมก็ยังรักมัน 

“อืม กูรู้...กูก็รักมึงนะไมล์ ถึงกูจะไปหาใครคนอื่นแต่มึงก็คือรักแรกของกูแล้วกูก็รักมึงที่สุด มึงอย่าคิดมากเลย...กูรักมึงนะรู้มั้ย” ไอ้ซันโอบแขนมากอดผมแล้วก้มหน้ามาหอมแก้มผมแรงๆ หลายครั้ง 

“อืม....กูเชื่อมึง” 

ทุกครั้งที่ผมกับไอ้ซันมีปัญหากันไอ้ซันจะใช้คำว่า “รัก” พูดขึ้นมาเพื่อยุติปัญหาทั้งหมดและเพราะมันพูดแบบนี้ผมถึงไม่เคยไปไหนรอดจากใต้ฝ่าตีนของมันได้เลย 

หัวใจของผมยอมสยบสงบนิ่งอยู่ใต้ฝ่าเท้าของไอ้ซันโดยไม่เคยพยายามที่จะดิ้นหนีไปไหน ไม่เคยจะเอาตัวเองให้ออกไปไกลเกินกว่าที่หัวใจจะหลุดพ้นจากมัน ผมเป็นของตายที่ยังมีลมหายใจและเป็นเหมือนลูกไก่นอนอยู่ในกำมือของมันเสมอ 

 

*** พีท & พี่ฟ้า *** 

“กลับมาแล้วเหรอ มานี่สิพวกพี่กำลังดื่มกันสนุกเชียว” 

พี่ฟ้ากวักมือเรียกให้ผมเข้าไปนั่งข้างๆ แขกผู้หญิงคนนั้น แล้วให้ผมทำหน้าที่คอยรินเครื่องดื่ม ส่วนคุณนายคนนั้นก็มือไม้ไม่อยู่นิ่งเพราะมักจะมาลูบเนื้อลูบตัวของผม แรกๆ ผมก็รู้สึกตกใจอยู่เหมือนกันเพราะกลัวพี่ฟ้าจะไม่พอใจแต่พอหันไปเห็นรอยยิ้มของพี่ฟ้าแล้วผมก็นึกรู้ทันทีว่าพี่ฟ้ากำลังจะให้ผมทำอะไร 

“ชื่อพีทอย่างนั้นเหรอ งานดีอย่างที่เธอคุยโวเอาไว้เลยล่ะฟ้า” ผู้หญิงคนนั้นหันไปทางพี่ฟ้าแล้วยกมือขึ้นมาเชยคางผมเล่น 

“ค่ะ คนนี้งานดีไม่อย่างนั้นฟ้าคงไม่เลี้ยงเอาไว้ ถ้ายังไงคุณพี่สนุกให้เต็มที่นะคะ ฟ้าไม่อยู่รบกวนเวลาความสุขของคุณพี่แล้ว” พี่ฟ้าลุกขึ้นแล้วเดินออกไป 

“พี่ฟ้าครับ คือผม....” ผมวิ่งตามหลังพี่ฟ้าออกมาจนถึงทางเดินก่อนที่พี่ฟ้าจะเปิดประตูออกไปจากห้อง 

“พีท เข้าใจใช่มั้ยว่าพี่ต้องการให้เธอทำอะไร” พี่ฟ้าหันมาพูดกับผมน้ำเสียงราบเรียบแต่ว่าช่างเลือดเย็นเหลือเกิน 

“แต่ว่าผม....” 

“ดูแล เอาใจแขกของฉันให้ดี ทำทุกอย่างให้คุณหญิงท่านพอใจ” 

“พี่ฟ้า...” ผมได้แค่กลืนน้ำลายลงคอแล้วหันไปมองดูผู้หญิงท้วมคนนั้นซึ่งกำลังนั่งคอตกอยู่บนโซฟาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ 

“ไปได้แล้ว ดูแลแขกพิเศษของพี่ให้ดี อย่าทำให้พี่ผิดหวังในตัวเธอล่ะ” 

คืนนี้พี่ฟ้าทิ้งคุณนายอายุคราวแม่จนเกือบๆ จะเป็นยายให้ผมรับใช้ดูแล ผมต้องทำตัวเป็นผู้ชายขายบริการที่พยายามทำให้คุณนายคนนั้นพอใจ ผู้หญิงอายุคราวแม่นอนร้องครวญครางอย่างสุขสมเหมือนได้ปลดปล่อยอารมณ์ต่างๆ ออกมาจนผมรู้สึกสะอิดสะเอียนเพราะเธอพ่นทั้งคำหยาบโลนร้อยแปดพันเก้าและท่าทางต่างๆ ออกมาจนผมแทบไม่เชื่อเลยว่าเธอเป็นคนเดียวกับคุณหญิงที่นั่งชูคออยู่บนโซฟาในห้องรับแขกเมื่อครู่ การร่วมหลับนอนกับผมเหมือนเป็นการได้ปลดปล่อยสัญชาตญาณดิบที่เธอคงเก็บกักมันเอาไว้ภายใต้มงกุฎจอมปลอมทางสังคม 

หลังจากผมทำหน้าที่บนเตียงปรนนิบัติคุณหญิงอายุมากคนนั้นเสร็จ จนหล่อนนอนหลับไปและทิ้งไว้เพียงเสียงกรนครืดๆ ดังมาเป็นระยะ ผมนั่งลงตรงปลายเตียงแล้วยกมือขึ้นมาดึงทึ้งผมเผ้าตัวเองด้วยความรู้สึกอดสูใจให้กับความน่าอัปยศของตัวเองที่ต้องมาทำเรื่องทุเรศๆ แบบนี้ 

 

ผมยืนแก้ผ้าอยู่ใต้ฝักบัวมีสายน้ำเย็นๆ ราดรดลงมาใส่ผมตั้งแต่หัวจรดเท้า พยายามสะกดกลั้นความรู้สึกสมเพชเวทนา ขยะแขยงตัวเองในสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะต้องมาทำเรื่องทุเรศน่ารังเกียจแบบนี้ ถ้าหากสายน้ำเย็นๆ นี่มันจะสามารถไหลลงมาเพื่อชำระล้างความสกปรกโสมมน่ารังเกียจออกไปจากตัวผมได้ก็คงดี 

หยดน้ำใสๆ ที่มันไหลพรั่งพรูออกมาจากข้างในตัวผมตรงบริเวณหัวตา มันถูกกลั่นออกมาจากจิตใต้สำนึกลึกๆ ในหัวใจผม ผมไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนผมจะเดินหลงทางมาไกลจนเกินกว่าจะหยุดมันได้ หยดน้ำตาเล็กๆ ของผมมันไหลผสมปนเปไปกับสายน้ำจนแยกไม่ออก ก็คงจะเหมือนผมเวลานี้ที่ผมเริ่มแยกไม่ออกแล้วว่าสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่นี้มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า 

“ฮึก ฮึก ฮือ” ผมพยายามกลั้นเสียงสะอื้นจนเนื้อตัวสั่นเทิ้มไปหมด พร้อมกับยัดกำปั้นเข้าไปในปากเพื่ออุดไม่ให้มีเสียงคร่ำครวญร้องไห้ดังเล็ดลอดออกมา ผมต้องใช้ท่อนแขนเปลือยเปล่าโอบกอดตัวเองเอาไว้เสมือนหนึ่งว่าอ้อมแขนนี้จะช่วยปลอบโยนผมให้คลายจากความทุกข์ระทม 

ผมกะเทาะเปลือกแห่งความอ่อนแอแล้วลอกคราบ สลัดมันทิ้งไปกับสายน้ำแล้วก้าวขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยหัวใจที่ด้านชามากขึ้น ผมเดินกลับออกมายืนมองดูร่างเปลือยเปล่าของคุณหญิงคนนั้นแล้วพยายามทำสมองให้กลวงที่สุดแล้วแกล้งทำเป็นหลงลืมเรื่องความถูกผิด และมองข้างคำว่าควรหรือไม่ควรไป แล้วสนใจเพียงแค่ผลลัพธ์ของสิ่งที่ผมกำลังทำคือผมได้ในสิ่งที่ผมต้องการ เงินทอง ความสะดวกสบายและอิสรภาพของพี่เป้ ถ้าสิ่งนี้มันต้องแลกเปลี่ยนกันผมว่ามันก็คงสมน้ำสมเนื้อ 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (1)

5.0