*จบแล้ว*สมรสพระราชทานบันดาลรัก [สามพี่น้องตระกูลหาน]

จีน

จบ *จบแล้ว*สมรสพระราชทานบันดาลรัก [สามพี่น้องตระกูลหาน]

*จบแล้ว*สมรสพระราชทานบันดาลรัก [สามพี่น้องตระกูลหาน]

หานยวี่ / เมิ่งลี่มาวหู / Momo_24

จีน

35
ตอน
2.87K
เข้าชม
5
ถูกใจ
7
ความคิดเห็น
34
เพิ่มลงคลัง

เรื่องไม่มีพิษภัยอ่านได้ทุกวันสาระก็ไม่มีเช่นกัน (เดี๊ยววว) ตามสโลแกนสามพี่น้องตระกูลหาน 

กวนมึนฮาให้สุด และไปหยุดที่ตอนอวสาน  

นางเอกเป็นคนรั่วๆ บ้าๆ มึนๆ ส่วนคุณพระเหมือนจะเย็นชาแต่เปล่า แค่ไม่สนใจโลก 

เป็นไทป์ลุกลี้ลุกลนปุบปับหน่อยๆ แต่ก็อ่านได้เรื่อยๆ แหละ 

ส่วนใครชอบดราม่า แนะนำตามไปสามบุพเพสกุลซือนะคะ ^^ 

ซึ่งเล่มแรกของชุดนี้ก็คลอดแล้วนั่นคือแต่งกับเจ้าแล้วไง! ข้าก็ไม่ได้รักเจ้าเสียหน่อย! 

สถานะ:วางโครงเรื่อง พล็อตหมดแล้ว ลงเอาปกและชื่อเรื่องไว้ก่อนค่ะ 

นางเอกเป็นคนอารมณ์สวิงกิ้งมาก แกว่งๆ ไปมาๆ ตามอายุ ส่วนคุณพระคือสิ่งมีชีวิตที่ทุกคนอ่านแล้วจะต้องทำหน้างงว่ามีคนประเภทนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอ btw มีจริงๆ ค่ะ 

หลังเคลียร์หัวเราะทีหลังดังกว่าจะมาเริ่มเรื่องนี้ตามคิวที่จัดไว้ในเพจ หานยวี่ (ติดตามไว้นะคะบางทีก็แจกอีบุ๊คฟรีถถถ) 

ส่วนทีม#ดราม่า #สามบุพเพสกุลซือรอก่อนน้า 

. 

. 

วิญญาณของ ‘ขนมผิง’ สาว (เหลือ) น้อยวัยใสสามสิบสี่ ได้หลุดเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องหนึ่งที่เจ้าของแต่งทิ้งไว้เมื่อห้าปีที่แล้ว ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับจีลู่ฟาง สตรีงามผู้หนึ่งที่ต้องแต่งงานกับสามีจอมเจ้าชู้ รับอนุเข้ามาเป็นสิบ ทำให้นางเจ็บช้ำจนทนไม่ไหว ขอหย่าและใช้เล่ห์อุบายยั่วยวนบุรุษคนนั้นคนนี้ เพื่อจะได้ยืมมือกลับมาแก้แค้นสามีเก่า เป็นเรื่องที่เธออ่านแล้วรู้สึกชอบมากและอยากให้คนเขียนแต่งต่อจนจบ.. 

เพราะยิ่งอ่านก็ยิ่งสะใจ! 

ทว่าเมื่อได้มาเป็นหนูน้อยจีลู่ฟางแล้ว...จากที่เคยนึกสนุกกลับมองว่านี่เป็นพล็อตที่งี่เง่าที่สุด!! 

นี่นางจะต้องเล่นเป็นสตรีงี่เง่าที่ปลงใจแต่งงานตั้งแต่อายุสิบห้า จนอายุสิบเจ็ดก็ขอหย่าแล้วยั่วยวนชาวบ้านไปทั่วเพื่อการแก้แค้นจนอายุยี่สิบจริงหรือ?! แถมตอนจบก็ไม่รู้จะเป็นยังไง... 

ไม่อะ! ไหนๆ นางนักเขียนก็เทเรื่องนี้แล้ว เรื่องราวต่อจากนี้ขอดำเนินเองละกัน!! 

เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ขนมผิงที่พอจะปรับตัวได้จึงวางแผนแกล้งเป็นคนขี้โรค ที่ดูซีดเซียวไร้เรี่ยวเเรงตลอดเวลา แม้ท่านพ่อท่านแม่จะให้หมอมาตรวจ นางก็ให้เงินปิดปากไปมากโขทั้งขู่จะฆ่าตัวตายอีกต่างหาก! 

กะว่าจะทำตัวนอนเปื่อยอยู่บนเตียง จนอายุรอดพ้นวิกฤตยี่สิบปีไปก่อน ทำให้ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นคุณชายหรืออ๋องต่างก็พากันขีดชื่อนางออกจากสมุดเล่มน้อยในดวงใจเป็นที่เรียบร้อย เกิดเป็นเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่านางเป็นผลงานที่ผิดพลาดของสรวงสวรรค์ ด้วยเกิดมามีหน้าตาสวยงามแต่กลับต้องนอนป่วยติดเตียง มิอาจทำหน้าที่เป็นมารดาและภริยาที่ดีได้ 

แน่นอนว่าจีลู่ฟางปลื้มอกปลื้มใจกับข่าวลือนี้มาก อีกไม่นานชีวิตหลังจากนี้ นางจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องชีวิตที่สุดแสนจะรันทดอีกต่อไป 

ปีนี้นางก็สิบเก้าแล้ว!! อีกแค่ปีเดียวเท่านั้น... 

ทว่า...ขนมผิงหารู้ไม่ว่าพล็อตเรื่องได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยยัยนักเขียนที่มีไฟกลับมาเขียนนิยายอีกครั้ง หล่อนได้ทุบเนื้อหาของจีลู่ฟางทิ้งแล้วแทนที่ด้วยเรื่องใหม่ของตัวละครในภพเดียวกัน นั่นหมายความว่า... 

ตอนนี้จีลู่ฟางเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ... 

ก็ควรจะเป็นอย่างนั้นหรอก...แต่... 

ชคชะตากลับเล่นตลกเมื่อเสียงลือเสียงเล่าอ้างของตัวประกอบได้ไปเข้าหูของพระเจ้าต้าเทียน ซึ่งพระองค์ก็ประสงค์จะเห็นหน้านาง จึงได้สละเวลาเสด็จออกจากวังหลวงเพื่อมาเยี่ยมด้วยความกลัวว่าจะโดนเอาไปเป็นพระสนมในวัง ขนมผิงเลยเล่นใหญ่จัดเต็ม 

(อ้อ...นี่ก็คือความจริงอีกอย่างที่หล่อนไม่รู้...ต้าเทียนฮ่องเต้คนนี้ก็ได้เปลี่ยนไปเช่นกัน...ด้วยฝีมือของยัยนักเขียนตัวร้าย...นอกจากจะเป็นคนสมัยใหม่ข้ามภพมาแล้ว ยังกะล่อนปลิ้นปล้อนและฉลาดเป็นกรดอีกด้วย!) 

...วัชรวีร์ในร่างของต้าเทียนฮ่องเต้ทอดสายตามองร่างบางที่ตอนนี้อายุสิบเก้าหนาวที่กำลังโค้งตัวทำความเคารพอย่างเชื่องช้า เพียงแวบเดียวก็รู้แล้วว่านางนั้นแกล้งทำ จึงเกิดความหมั่นไส้จนนึกไปถึงใบหน้าหานหมิงเทียน ผู้ที่กวนบาทาพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่าจนถูกคาดโทษไว้ชนิดที่ว่ามีสิบหัวคงไม่พอ.. 

เหมาะสมกันยิ่ง!! 

'หากเป็นสมัยก่อนการหลอกลวงเบื้องสูงมีโทษถึงตาย แต่ข้าขอมอบทัณฑ์อื่นให้แทนละกัน' 

ดังนั้น...การใช้อำนาจด้วยความรู้สึกส่วนตัวจึงเกิดขึ้น...เพราะพระองค์ก็ไม่รู้ว่ายัยจีลู่ฟางนี่ย้อนเวลามาเหมือนกัน เลยคิดว่าทั้งหมดทั้งมวลที่นางจงใจวางแผนเพราะกลัวเขาเอาไปเป็นสนม (วัชรวีร์ไม่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้เลยคิดไปอีกทาง) 

"ข้าขอพระราชทานการสมรสให้แก่หานหมิงเทียนและจีลู่ฟาง ณ บัดนี้!! " 

...ในวันแต่งงานจีลู่ฟางแกล้งทำตัวเจ็บออดๆ แอดๆ จะเป็นลมหลายครั้งหลายครา แต่สุดท้ายนางก็ถูกจับเข้าหออย่างทุลักทุเล และวินาทีที่ผ้าคลุมหน้าสีแดงถูกถอดออกนั้น... 

มารดามันเถิด! นี่มันบุรุษหน้าเงินที่ขโมยเงินห้าอีแปะของนางไปอย่างหน้าด้านๆ เมื่อวันก่อนนี่ 

โอ้พระเจ้า! เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนจริงๆ ครั้นจะกรีดร้องชี้หน้าด่าก็ไม่ได้เพราะเขาไม่ได้พบเจอนางในคราบนี้จีลู่ฟางจึงได้แต่ยิ้มหวานให้หานหมิงเทียน เจ้าของใบหน้าเรียบเฉย แต่กลับช่วยประคองนางไปทำนั่นทำนี่ 

ทั้งที่นั่งภาวนากับตัวเองและเตรียมใจว่าคงไม่พ้นต้องเข้าหอแล้ว 

ทว่า...หลังจากประคองจีลู่ฟางไปส่งที่เตียงแล้ว 

หานหมิงเทียนกลับเดินไปที่โต๊ะมงคลแล้ว... 

หยิบตำรากฎหมายที่ซ่อนไว้ในอกเสื้อขึ้นมาอ่าน!!! 

"....." จีลู่ฟางมองเขาอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไร เมื่ออีกฝ่ายหันมาเห็นก็เอ่ยเสียงเรียบว่า 

" มิต้องกลัว ข้าไม่เอาเวลาอ่านหนังสืออันมีค่าของข้ามารังแกคนป่วยเช่นเจ้าหรอก" 

ว...เวลาอ่านหนังสืออันมีค่า 

บุรุษผู้นี้แม้แต่เวลาก็ยังงก! 

ช้าก่อน แล้วที่พูดเมื่อครู่หมายความว่าตัวนางไม่มีค่าหรืออย่างไร?! 

…....... 

"ไม่หึงหวงข้าสักหน่อยหรือเจ้าคะ!?” ลู่ฟางถามหมิงเทียนอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง 

“เจ้าจะไปไหนกับใครก็เรื่องของเจ้าสิ” 

“แต่ข้าเป็นฮูหยินท่านนะเจ้าคะ!” 

“เรื่องของเจ้าสิ! หากหมดเรื่องก็ออกไปได้แล้ว ข้าจะร่างกฎหมายต่อ!” 

คนผู้นี้...จะบ้างานเกินไปแล้วกระมัง! ในหัวเมมโมรี่ไว้แต่คำว่างานกับเงินเหรออออ 

นี่เจ้าฮ่องเต้นั่นพระราชทานนางให้กับคนแบบไหนกัน!!! 

เอาเถอะ ไหนๆ ชีวิตเป็นโสดที่วาดฝันไว้ก็พังทลายลงไปแล้ว สามีที่ได้แต่งงานด้วยก็หน้าตาดีชนิดที่เป็นในโลกเดิมคงมีแต่สาวๆ ตามมาเกาะแกะ แม้จะงกไปหน่อยก็ตาม 

ทว่าเขาคนนี้นั้นเย็นชาและตายด้านกับเหล่าสตรีมาก ไม่สิกับบุรุษก็เช่นกัน... 

ขนมผิงจึงตั้งปณิธานไว้ว่า... 

หากบุรุษผู้นี้เป็นหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึก ข้านี่แหละจะทำให้เขากลับมามีหัวใจเอง!!!!!!! 

สามีที่น่าตาย หัวใจท่านต้องเป็นของข้า! 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว