คริสต์ศักราช 618 ยุคสมัยราชวงศ์ถังมีความเปิดกว้างเรื่องเพศสูงมาก สตรีนั้นจะสวมชุดบางเบา เผยเนินอก หากยิ่งเป็นนางรำในงานเลี้ยงรับรองจะเรียกว่าระบำเปลือยเลยก็ว่าได้ ความคิดนี้เป็นนิยมทั้งในราชวังและสามัญชนชี้ให้เห็นถึงรสนิยมทางเพศที่เปิดเผย แม้แต่หนังสือภาพเสพสังวาสก็ยังเป็นที่ต้องการอย่างแพร่หลาย
หญิงในยุคสมัยนั้นจึงไม่รักนวลสงวนตัวหรือเคร่งเรื่องพรหมจรรย์เท่าใดนัก หญิงที่แต่งงานใหม่นับว่าเป็นเรื่องปรกติ ในยุคสมัยถัง ค่านิยมการเที่ยวหอนางโลมหรือนางคณิกาจึงไม่ใช่เพียงแค่ไปซื้อบริการทางเพศ แต่หอนางโลมนับเป็นสถานที่ผ่อนคลายพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนความคิดของคนมีวิชาความเสียรู้มากกว่า
หญิงคณิกาจึงมิใช่อาชีพที่ต้อยต่ำ พวกบัณฑิตขุนนางกลับยกย่องชมชอบว่านางคณิกาชั้นสูงนั้นทั้งงดงามมากความสามารถ พวกนางเชี่ยวชาญทั้งการดนตรี หมากรุก ศิลปะ ร่ายรำ แม้กระทั่งศิลปศาสตร์เรื่องบนเตียง
หากใครได้อี้จีมาครองจึงถือเป็นเรื่องได้หน้าได้ตามากกว่าแต่งกับคุณหนูในห้องหอเสียอีก เพราะคุณหนูเหล่านั้น เก่งเพียงงานบ้านงานเรือน เหมาะจะเป็นมารดาเลี้ยงดูบุตร ต่างกับอี้จี้ที่ทั้งรอบรู้ และร้อนแรง
นางคณิกาชั้นสูงในยุคสมัยถังจึงไม่ต่างกับเซเลปที่มีบุรุษทุกชนชั้นต้องการเชยชม
"ซินซิน บุรุษมิได้ชื่นชอบสตรีอ่อนหวานยามอยู่บนเตียง แต่เจ้าต้อง รุก ร่ำร้อง ร้อนแรง นี่ต่างหากคือสุดยอดแห่งวิชาที่ข้าจะสอนเจ้าข้ามิเคยสอนผู้ใดละเอียดเท่านี้มาก่อนข้าหวงวิชาเป็นเช่นกัน เห็นแก่เจ้าเป็นคนของนายน้อยหรอกนะ ข้าจะสอนให้ทุกกระเบียด"
อวี้เจินเชิดคางอย่างผู้ชนะ เคล็ดลับวิชาที่นางหวงแหนในที่สุดก็มีผู้เหมาะสมจะสืบสาน
== คำเตือน นางเอกคือนางโลม นางโลมแปลว่าอิสระ 😚 กอปรกับยุคสมัยถังที่เปิดกว้างเรื่องนี้ เราเข้าใจตรงกันก่อนนะคะ ❤️