นักบอลโควต้ากับเซ่อซ่าห้องคิง (ปฐมบท)

Y

จบ นักบอลโควต้ากับเซ่อซ่าห้องคิง (ปฐมบท)

นักบอลโควต้ากับเซ่อซ่าห้องคิง (ปฐมบท)

ยิ้มเสมอ

Y

27
ตอน
13.7K
เข้าชม
33
ถูกใจ
8
ความคิดเห็น
61
เพิ่มลงคลัง

"อีกห้านาทีจะหมดเวลาสอบ ขอให้นักเรียนทุกคนตรวจสอบกระดาษคำตอบของตัวเองให้เรียบร้อยนะคะ"

สิ้นเสียงประกาศจากคุณครูผู้คุมประจำห้องสอบ เอ็มก็วางดินสอลงพอดี แล้วก็พลิกกระดาษข้อสอบกลับคืนสู่หน้าแรก เอ็มเริ่มมองทบทวนแบบผ่านๆคำตอบทั้งหมดอีกครั้งเพื่อตรวจทานสิ่งที่ตอบทั้งหมดตั้งแต่หน้าแรก แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ลมเย็นพัดสบายๆผ่านเข้ามารอบกาย

เค้ามองออกไปนอกหน้าต่างของห้องสอบ มันช่างเป็นโรงเรียนที่ใหญ่โตเสียนี่กระไร ถ้าเปรียบเทียบกับโรงเรียนที่เคยเรียนที่ต่างจังหวัด นักเรียนมากมายที่มาด้วยความมุ่งหวังเดียวกับเค้า ที่จะได้มีโอกาสเข้าเรียนที่โรงเรียนชื่อดังแห่งนี้

แต่เค้ากลับไม่เคยรู้จักโรงเรียนนี้ ในเมืองฟ้าอมรอันกว้างใหญ่แห่งนี้มาก่อนแม้แต่น้อย

"ไปลองสอบเข้าโรงเรียนนี้ที่กรุงเทพดูซิ..พี่ชายของเอ็มก็เรียนที่นี้ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้"

แม่พูดเปรยขึ้นมาในขณะที่มือก็กำลังง่วนกับการทำงานของตัวเอง ส่วนเอ็มก็กำลังนั่งกินข้าวอยู่ไม่ห่างจากแม่มากนัก เอ็มเงยหน้าขึ้นมามองไปทางต้นเสียงอย่างสงสัยเพราะเค้าไม่เคยคิดว่าจะต้องเข้ามากรุงเทพฯ เข้ามาเพื่อเรียนต่อชั้นมัธยมต้น

เอ็ม เป็นเด็กต่างจังหวัดที่ไม่เคยรู้จักกรุงเทพและไม่เคยเข้ามากรุงเทพมาก่อน

ชีวิตของเอ็มที่ต่างจังหวัดมีเพียงบ้านและโรงเรียนเท่านั้น ไม่เคยไปที่อื่นนอกเหนือจากนี้ พอได้ยินคำว่า "กรุงเทพ" ใจนึงเค้าก็ยังมีนงงกับประสบการณ์ใหม่ที่รออยู่ข้างหน้า ใจนึงก็แอบกลัวและใจนึงก็แอบตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย

"เอ็มสอบเข้าที่โรงเรียนในเมืองไม่ได้หรอแม่ ไม่เห็นต้องไปเรียนกรุงเทพเลย"

"ไปเรียนกรุงเทพแหละ จะได้เรียนโรงเรียนดีๆ มีโอกาสดีๆ"

แม่ละสายตาจากงานที่ทำแล้วหันมามองด้วยแววตาที่อบอุ่น เอ็มสบตาแม่กลับ ในแววตานั้นคือความรู้สึกรักและเป็นห่วงที่มีให้เค้าเสมอ แม่เป็นคนขยัน ประหยัดและอดทน แม่ทำงานตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ทุกวันไม่เคยหยุด เพื่อหาเงินให้ลูกๆทุกคนได้เรียนให้ได้มากที่สุด

"พี่อาร์มก็อยู่กรุงเทพ อยู่ด้วยกันจะได้ช่วยเหลือกัน ดูแลกันนะลูก"

แม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เอ็มรู้สึกได้ถึงความสั่นเครือจากเบื้องลึกของความรู้สึก ที่ถึงวันที่ลูกชายคนเล็กของแม่จะต้องมาใช้ชีวิตในเมืองใหญ่แห่งนี้ด้วยตนเอง

"หมดเวลาคะ นักเรียนทุกคน เอากระดาษข้อสอบวางไว้บนโต๊ะ แล้วออกจากห้องสอบได้"

เสียงประกาศทำให้เอ็มตื่นจากภวังค์ กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง

นักเรียนทุกคนเริ่มทยอยเดินออกจากห้องสอบ บางคนที่มาด้วยกันก็จับกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับข้อสอบที่ได้ทำผ่านมา โดยหยิบยกเอาคำตอบของตัวเองเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดมาทับถมเพื่อนอย่างสนุกสนาน พ่อแม่บางคนกำลังพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับการสอบที่ผ่านมา

แต่เอ็มกลับเดินออกจากห้องสอบอย่างเงียบเชียบเพียงลำพังเพราะมาสอบเพียงคนเดียว ไม่มีเพื่อนจากต่างจังหวัดมาสอบด้วย

พี่อาร์ม พี่ชายของเอ็มมาส่งหน้าห้องสอบและบอกให้กลับบ้านด้วยตัวเองหลังสอบเสร็จ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเค้ามากนักเพราะเอ็มพอจะรู้วิธีการกลับบ้านด้วยรถเมย์สายที่พี่ชายบอกเอาไว้

"ทำอะไรต่อดีละ...เดินไปดูรอบๆโรงเรียนดีกว่า"

เอ็มใช้เวลาหลังสอบเสร็จเพื่อสำรวจโรงเรียนแห่งนี้ ว่ามันมีอะไรบ้างหนักหนา ทำไมเด็กนักเรียนประถมปีที่หกจำนวนมากมายจึงอยากเข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ ต้องมาสอบแข่งขันกันเพื่อให้ได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในนักเรียนมัธยมปีที่หนึ่งของโรงเรียนชื่อดัังแห่งนี้

โรงเรียนแห่งนี้มีตึกเรียนมากมายหลายตึก บางตึกเป็นตึกเก่าแต่โบราณที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ตึกบางตึกถูกสร้างขึ้นใหม่ก็เป็นตึกสูงหลายชั้นดูตระการตาสำหรับนักเรียนต่างจังหวัดอย่างเอ็ม

สองเท้าของเอ็มเดินไปเรื่อยเปื่อยแบบไร้จุดหมาย จนมานั่งหยุดพักอยู่บนอัฒจันทร์ข้างสนามฟุตบอลในโรงเรียน

สายตาของเอ็มก็มองไปแบบเหม่อ..เหม่อ

"นั่งเล่นสักพักละกัน ไม่รู้จะไปไหนดี"

กลางสนามฟุตบอลกำลังมีกลุ่มนักฟุตบอลกลุ่มใหญ่กำลังทำอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งเค้าก็ไม่ได้สนใจมากนัก กีฬากับเอ็ม มันเป็นเรื่องไกลตัวอยู่ พอสมควร ไม่ใช่ว่าไม่เล่น ไม่ดูนะ ก็เล่นบ้าง ดูบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทุ่มเท อะไรมากนัก เล่นไปงั้นๆ เองพอแก้เซ็ง เพราะเวลาส่วนใหญ่ของเอ็ม จะหมดไปกับการอ่านหนังสือซะมากกว่า

สายตาของเค้าก็มองไปเรื่อยเปื่อยกับเกมส์การแข่งขันที่เกิดขึ้นภายในสนาม ดูบ้าง ไม่ดูบ้างตามนิสัยของเอ็มที่ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก บางจังหวะก็พลิกดูหนังสือที่ถือติดมือมาทบทวนก่อนสอบ จนกระทั่ง

"................ฟิ้ว...............เปรี้ยง.............เชี่ยยยยยย...................."

เสียงร้องพร้อมกับสมุด หนังสือและเครื่องเขียนที่กระจายด้วยความตกใจจากแรงกระแทกของลูกบอลที่อัดเข้าอัฒจันทร์ไม่ห่างนักจากตัวเค้ามากนัก เคราะห์ดีที่ไม่โดนกระแทกแบบตรงๆแต่แรงอัดก็รู้สึกได้ถึงความรุนแรงของบอลที่เตะมา

"ใครแกล้งเราวะ......"

เอ็มสบถอยู่ในใจและมองหาที่มาของลูกบอลที่อัดมาอย่างเต็มแรง ลูกบอลยังคงหมุนอยู่ข้างๆที่นั่งของเค้า

แต่สมุด หนังสือ และเครื่องเขียนที่กระจายไปทั่วอยู่รอบๆ

"เฮ้ย นาย เก็บบอลให้เราหน่อย.........มานั่งทำไรแถวนี้เนี่ย"

เจ้าของเสียงพร้อมยิ้มที่มุมปากนิดๆแสดงความขำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีแม้แต่คำว่าขอโทษสักคำเดียวแถมมากวนปาทาอีก

"เร็วดิ ชักช้าอยู่ได้..."

เห้ย...ใช้งานคนอื่นแล้วยังมาว่าอีกหรอ ยังไงกันวะ เอ็มชักของขึ้นเบาๆ แต่ก็เก็บอาการไว้อย่างสงบ

เอ็มโยนบอลคืนให้ไปให้ แต่ไปทางอื่น เพื่อให้ไปเก็บเอาเอง.....

"เห้ย โยนไปไหนว้าาาาา"

"อยากได้ก็ไปเก็บเอาเองดิ"

เอ็มคิดในไนใจเพราะเสียงนั้นไม่ได้หลุดรอดออกไปจากปากของเค้าแม้แต่น้อย แม่สอนเสมอให้เป็นเด็กสุภาพ ไม่พูดคำหยาบคาย แม้เค้าจะเคยได้ยินเด็กๆคนอื่นพูดกันเหมือนเป็นคำติดปาก

เอ็มอมยิ้มกับการกระทำตอบกลับของเค้า อย่างน้อยเค้าก็ได้โต้ตอบออกไปบ้าง

คนอะไร ทำคนอื่นตกใจ ไม่มีคำขอโทษสักคำ

เอ็มจึงรีบเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายอย่างดูเก้ๆกังๆ แล้วเดินลงไปจากอัฒจันทร์อย่างอารมณ์เสียนิดๆ ระคนสะใจหน่อยๆ เดินจากสนามฟุตบอลไป โดยที่ไม่รู้ว่า

มีสายตาคู่นึงจับจ้องกลับมาที่เค้าด้วยแววตาขบขันและเอ็นดู

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว