บทนำ
.... บนโลกใบนี้มีมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับตัวคุณบ้างหรือเปล่า.....
ยามราตรีอันมืดสนิทไร้ซึ่งแสงแห่งดวงจันทร์ทราชวนให้บรรยากาศดูวังเวงยะเยือก บนยอดสูงของหอค่อยนาฬิกาใจกลางเมืองตีบอกเวลาเที่ยงคืนกังวาลก้องไปทั่วโดยฝีมือของชายหนุ่มหนึ่ง ในสี่ซึ่งอยู่ในชุดคุมสีดำเช่นเดียวกับสีของความมืด
หว่าง.....หว่าง~~~
“เฮ้ เจ้าอย่าเล่นไม่รู้เวลาสิออกัส นี่มันยังไม่ถึงเที่ยงคืนสักหน่อยหยุดเวทก่อกวนชาวบ้านเดี๋ยวนี้นะ”
ชายผู้มีใบหน้าเรียวยาวนันต์ตาสีเทาเหมือนหมอกควันรวมไปถึงสีผมที่ไปในทางเฉด เดี๋ยวกันต่อว่าแต่กระนั้นออกัสผู้มีใบหน้าหล่อเหลากับผมสีแดงเพลินเป็นประกายก็ยังแกว่ง นิวชี้ไปมาไม่หยุด ขาที่นั่งห้อยต่องแต่ง บนริมหลังคาหอสูงกระดิก ล้อเลียน พร้อมยักคิ้วหลิ่วตาให้อย่างกวน อารมณ์คนรอบข้างทั้งสามจากนั้นก็เอ่ยเสียงห้าวกล่าวความ
“ ไม่เอาน่าเกรย์ อย่าบ่นเป็นตาแกไปหน่อยเลย เสียงแค่นี้ยังไม่คคึกคัก เท่าที่ใจข้าอยากจะทำด้วยซ้ำนะ อุตส่าห์ดั้นด้นมาเมื่องนี้ที ดันเงียบ อย่างกับป่าช้าป่าสนุกเลย ฮู้~”
“ เจ้าจะเล่นอะไรนักหนา คราวนนี้พวกเราออกมาทำภารกิจนะอย่าลืม”
ฮันซ์ หนุ่มร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อคมนัยน์ตาสีเปลือกไม้ต้องอยากดูปราม ลมโซยเบาๆ. พัดเอาเส้นผมสีน้ำตาลเข้มพลิ้วไสว ไปพร้อมกับชายผ้าคลุม เค้าละสายตาจากโอกาสไปทางชายหนุ่มอีกคนที่ยืนมองภาพเบื้องหน้าอย่างเงียบงัน ผู้ชายที่มีรัศมีแห่งความน่าเกรงขามอีนเด่นสง่าท่ามกลางความมืด ชายผู้เป็นหนึ่งในบรรดาพ่อมดหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีพลังเวทเก่งกล้าเหนือเราพ่อมดรุ่นเดียวกันทั้งมวล
“โรม แน่ใจนะว่าเป็นเมื่องนี้”
เสี้ยวหน้าเรียวคมยาว ราวรูปสลักหันมายัง ฮันซ์ นัยน์ตาสีดำราวกับสี่ของรัตติ กาลเปร่าประกายวาบวับ วับดุจ ผลึกแก้วใส หากใครเผลอจ้องมองอาจต้องเผลอไผลคล้ายกับ ต้องมนต์สะกด
เส้นผมสีดำสนิทยาวไปรากไทร ปลิวไปตามสายลมโบกสะบัด ริมฝีปากบาง คลี่เหยียดตรงราวกับว่าจะเป็นรอยยิ้มหากแต่สามคนที่มอง เห็นนั้นตากรู้ ดีว่าไม่ใช่...... เพราะนับตั้งแต่รู้จักกันมา โรมไม่เคยมีรอยยิ้มมอบให้ผู้ใด
“................”
มีเพียงความเงียบเป็นคำตอบชวนให้ออกัส ขมวดคิ้วมุ่นย่อ หน้าใส่ ทันควัน
“เจ้าอย่ามาทําเป็นตี หน้าตายนักได้มั้ย เห็นแล้วมันขัดใจนะเว้ย”
“แล้วเจ้าจะมาเดือดร้อนอะไรนักหนาล่ะ ขนาดเจ้าตัวย้งดูเฉยเลยเนี่ย”
ฮันซ์พูด แต่ความหมายนั้นไม่อาจเดาได้ว่าจงใจกระแทกแดกดันฝ่าย ไหนมากกว่ากัน อันที่จริง เขาก็เริ่มจะเห็นด้วยกับออกัสนิดหน่อยแล้วแหละเมื่อโรม ยังทำใจเย็นอยู่ได้ทั้งที ร่วมชะตากรรมในภารกิจที่ถูกเดิมพันด้วยชีวิตแต่ตอนนี้ก็ยังตามหาเบาะแสไม่ได้ซักอย่างเห็นที่งานนี้คงต้องผ่อนหายใจกันจนอายุสั้นไป 100 ปีละมั้งเนี่ย
“เออ เอาแต่เฉยเข้าไปเรามีเวลาเยอะตายล่ะ ถึงแม้ว่าจะมีโรมที่สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเป้าหมายก็เถอะ แต่ขทนยังซักข้าอยู่
เดือนนี้เห็นทีพวกเราคงตายก่อน รู้อยู่ว่าองค์ราชาไม่เคยปราณีคนที่ทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จ คราวนี้แจ๊กพ็อตเวียงมาถึงพวกเราจึงได้ซวยไหมล่ะ
“ ถ้าเจ้าพูดน้อยๆช่วยกันคิดมากๆก็คงจะดีแน่ล่ะ”
เกรย์ ที่มันฟังอยู่นานพูดบ้างแต่ความจริงนะสมอง เขาก็เริ่มเกิดความรู้สึกที่เรียกว่ากังวลไม่แพ้ออกัสหรอก แต่ในเมื่อเค้าอายุมากสุดก็คงจะต้องแสดงความสงบนิ่งให้เป็นตัวอย่างจะดีกว่าเพราะลำพังแค่เจ้าเด็กบ้าออกัสมันร้องโวยวายตลอดทางที่มาแค่คนเดียวก็ปวดหัวมากพอแล้วน่ะสิ
“เฮ้อ ก็ได้ๆ ข้าจะหุบปากแต่ว่าขอถามหน่อยเถอะเจ้าว่าเราจะตามหาเจอหรอในเมื่อทุกคนที่ออกตามหา ต่างล้มเหลว มา 100 ปีแล้วพ่อมดไวเอ๊าะ อย่างพวกเรา มันจะไปได้เพื่ออะไรเนี่ยยิ่งคิดยิ่งเซ็ง”
“อืม เท่าที่รู้มา การที่พ่อมดแม่มดออกตามหาแล้วไม่เจอหน้าพ่อเวทมนตร์สายพิเศษนั่นแหละ”
“ หมายความว่าไงเกรย์ พ่อเจ้าเป็นหนึ่งในสภาสูงนี่. คงบอกอะไรเจ้าไว้ใช่มั้ย”
“ นางเป็น สายเลือด ของราชา องค์ก่อนผู้สืบทอด สายพิเศษที่ไม่มีสายตระกูลใดเท่าเทียมตระกูล เซลขต้าได้นั่นคือเวทมนตร์อ่านใจแต่ทว่าก็ยังต้อง พ่ายแพ้ ให้แก่ราชาองค์ปัจจุบันแห่งตระกูล ไมเออร์นาร์ด”
เกรย์กบืนนํ้าลายลง อยากฝืดๆ ก่อนจะเลือกมองไปทางรูมที่หนึ่งแต่ ผ้าคลุมพลิ้วไสอย่า ไม่ทันที่เค้าจะเอ่ยปากเสียงทุ่มฮาวก็เอ่ยขึ้นจากริมฝีปากบางสีสด
“ เพราะราชาองค์ปัจจุบันทำผิดคิดลมราชาก่อนเลยถูกสาให้ทายาทของตระกูลไร้ซึ่งพลังเวทและการจะลบล้างคำสาปได้คือ การให้อภัยจาก องค์หญิงแพลตติน่่า ทายาทคนสุดท้ายที่ถูก รูฟยูบีซอฟ พ่อมดองคนรักษ์ ผู้จงรักภักดีช่วย ให้หนี้ไม่อยู่ที่โลกมนุษย์ การตามหาเจ้าหญิง แพลตติน่า แห่งตระกูล เซเลบต้า ก็เพื่อให้กลับไปล้างคำสาปที่มีต่อตระกูลไมอาร์นาร์ด”
โรม ยังพูดไม่ทันจบความใจร้อนขอ ออกัสก็ ซิงสวนถามขึ้นมาเสียก่อน
เรื่องนี้ใครใครก็รู้กันทั้งนั้นแต่ขี้ข้าสงสัยคือทำไมเราพ่อมดแม่มด
จบตอนที่ 1
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ก๊อปมา ไม่ได้แต่ง
เพราะผู้เขียนบทนี้ ชอบเรื่องนี้มาก เลยขอมาทํา นิยายใน เว็บนี้
และอย่า ดราม่า เพราะดิฉันได้บอกไปแล้วว่า “ก๊อปมา”
ขอเตือนอย่าดราม่ากันน่ะค่ะ
โปรดใช้ สติในการรับชม
แล้วก็ขอ อภัยที่ตัดบท เพราะผู้เขียนเหนื่อย
ผู้เขียน ตั้งใจเขียนมาก
“ไงก็ฝากติดตามเรื่องนี้ด้วยน่ะค่ะ”