Media love in the middle of books (วาดรักผ่านอักษร)

รักโรแมนติก

Media love in the middle of books (วาดรักผ่านอักษร)

Media love in the middle of books (วาดรักผ่านอักษร)

zenza14141

รักโรแมนติก

0
ตอน
181
เข้าชม
7
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
2
เพิ่มลงคลัง

ถ้าคุณมาที่ห้องสมุดคุณจะมาทำอะไร? อ่านหนังสือ? แอบหลับ? โดดเรียน? แอบกินขนม?

แล้วคุณเคยมาที่ห้องสมุดเพื่อคิดถึงใครสักคนไหม?

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อน้ำฝน เป็นบรรณารักษ์ ของหอสมุดแห่งหนึ่ง ทุกๆวันหลังเลิกเรียนฉันจะต้องมาที่นี่เพื่อมาจัดหมวดหมู่ของหนังสือและดูแลความเรียบร้อย นั่นรวมไปถึงการเก็บขยะที่ถูกทิ้งในห้องสมุดด้วย หลายๆคนมาที่นี่เพื่อนอน และอีกหลายๆคนมาที่นี่เพื่อกินขนม จนฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่านี้คือห้องสมุดหรือโรงอาหารกันแน่ ฉันพยายามเตือนหลายครั้งแล้วแต่ดูเหมือนคนพวกนี้จะไม่ฟังกันเลยแม้แต่นิดเดียว เรื่องราวการดำเนินชีวิตในทุกๆวันของฉันผ่านไปอย่างราบรื่นและปกติจนวันหนึ่งฉันก็ได้มาพบกับเขา ในตอนแรกนั้นเขาเป็นคนที่เข้ามาอ่านหนังสือที่นี่ตอนห้าโมงตรงเป๊ะทุกวันไม่เว้นแม้แต่วันเสาร์ไม่นับวันอาทิตย์นะเพราะที่นี่ปิด ฉันเคยจะจับผิดเขาโดยการที่ทุกๆ 16.59น ฉันจะมองดูนาฬิกาเสมอเพราะหวังว่าเขาจะมาเรตสัก 1-2 นาที แต่.....ฉันก็ต้องผิดหวังทุกครั้ง จากที่ดูๆเขาเป็นคนที่ดูเงียบๆและชอบอ่านหนังสืออยู่คนเดียวที่มุมห้อง ดูเหมือนเขาน่าจะหยิบแต่หนังสือชีวประวัติของนักเขียนหลายๆคนมาอ่าน ฉันเห็นเขานั่งอ่านด้วยบรรยากาศที่ดูเหมือนกับเศร้าๆหรือเหงา ซึ่งทำไมฉันถึงรู้งั้นเหรอเพราะฉันเป็นบรรณารักษ์ไงล่ะคะฉันเองก็เห็นบรรยากาศของคนที่มาอ่านหนังสืออยู่มากมายจนนับไม่ถ้วน บางคนพอหยิบหนังสือแล้วบรรยากาศกลับดูเครียดหรือบางคนพออ่านหนังสือได้ซัก 2-3 นาทีก็หลับไปเลยและที่สำคัญฉันเองก็คุ้นเคยกับบรรยากาศนั้นดีบรรยากาศที่ดูเหงาๆนั้นเพราะมันเหมือนกับตัวฉันสมัยก่อน การมองเขาอ่านหนังสืออยู่นั้นไม่ต่างอะไรกับการมองตัวเองในอดีตเลยฉันเลยมักจะพยายามหาเรื่องชวนเขาคุยเสมอๆแต่ผลตอบรับงั้นเหรอ เหอะๆ

"นายๆนายชอบอ่านชีวประวัติเหรอ ให้ฉันแนะนำหนังสือให้ไหม ฉันเป็นบรรณารักษ์ของที่นี่ ฉันอาจจะ....."

"ช........ไ........ผ........อ.........ส...."

"หือนายพูดอะไรทำไมเบาจังเจ็บคออยู่เหรอ"

"ผมพูดว่า ช่วยอยู่เงียบๆได้ไหมผมจะอ่านหนังสือ"

"อ่ะ.........ฉันก็แค่..."

"ถ้าคุณไม่มีธุระอะไรก็ไปทำหน้าที่ของคุณเถอะ"

"ค...ค่ะ"

หึอีตาบ้าเอ๊ย!! ไล่กันชัดๆเลยแบบเนี้ย คนเขาอุตส่าห์หวังดีแท้ๆ ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้นิสัยแย่จริงๆเลย ถ้าไม่ติดว่าฉันเป็นบรรณารักษ์ของที่นี่ล่ะก็ฉันจะหยิบหนังสือเล่มหนาๆและใหญ่ๆที่สุดในนี้มา ทุ๊บๆๆๆๆ นายให้ตายกันไปข้างนึงเลย แต่ยังไงเขาก็ดูน่าส่งสารอยู่ดี เฮ้อ.....แต่ถ้าฉันอยากจะสนิทกับเขาฉันควรทำยังไงดีน้าาา ฉันยังไม่ยอมแพ้หรอก

เฮ้อ...วันนี้ก็ยังงานเยอะเหมือนเดิมเลยมีหนังสือถูกวางทิ้งเกลือนกราดไปหมด บางคนเอาห่อขนมทิ้งไว้และเอาหนังสือวางทับอีกต่างหาก ให้ตายเถอะคนพวกนี้นิ น่าจับมาตีมือซะให้เข็ด ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะฉันต้องรีบเก็บให้เสร็จไวๆ 

16.59น แล้ว เดี้ยวพอ 5 โมงเขาต้องเปิดประตูมาแน่นอน และก็เป็นอย่างที่ฉันคิดไม่มีผิด ถ้าฉันทายถูกอย่างนี้ตอนสอบชั้นคงได้ที่หนึ่งของชั้นแน่นอนเลย ดูเหมือนเขาจะนั่งที่เดิมเสมอเลยแหะทำไมต้องนั่งอ่านในมุมมืดด้วยนะเขาคิดว่าเขาเป็น มนุษย์ที่อยู่ในถ้ำค้างคาวรึไงนะ วันนี้แหละฉันต้องสนิทกับเขาให้ได้!!

"นี่นาย นายชอบนั่งอยู่ตรงนี้ทุกวันเลยนะบรรยากาศดีเหรอฉันว่ามันมืดไปหน่อยนะ เดี้ยวนายจะปวดตาเอาน้าา"

"เลิกยุ่งกับผมสักทีได้ไหม"

"อะไรกัน คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง ไม่เห็นต้องพูดกันขนาดนี้เลยนี่นา"

"ทำไมคุณถึงต้องมายุ่งกับคนอย่างผมด้วยคนอื่นมีเยอะแยะทำไมไม่ไปยุ่งกับเขาบ้างล่ะ ชิ่วๆ"

"นี่นายกล้าไล่ฉันอย่างกับหมูกับหมาเลยเหรอ คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วงเห็นชอบมานั่งอยู่มุมมืดทุกๆวัน"

"นี่คุณแอบมองผมทุกวันเลยเหรอ อย่าบอกนะว่าคุณเป็น.......สตอล์คเกอร์"

"นี่นายจะบ้าหรือไงฉันบอกว่าฉันเป็นบรรณารักษ์ของที่นี่ไม่ใช่ไอ้....สตอล์กก้ง สตอล์กเกอร์อะไรของนายสักหน่อย"

"รู้สึกขนลุกนิดๆเลยแหะที่อยู่ดีๆก็ถูกคนแปลกหน้ามาแอบมองทุกๆวัน"

"นี่นาย....ไม่ฟังกันเลยใช่ไหม ไม่ยุ่งด้วยแล้ว จะทำอะไรก็ทำไปเลยอีตาบ้า!!!"

ผู้ชายอะไรปากเสียชะมัดไม่อยางยุ่งด้วยแล้ว แบล่!! ทำงานต่อดีกว่า......

ผู้ชายคนนั้นกลับไปและเหรอดูเหมือนเขาจะกลับเวลาเดิมทุกวันเลยสินะ แปปนะไม่สิไม่ๆๆๆๆ ทำฉันต้องคิดถึงเรื่องของอีตาบ้านั้นด้วยนะ แต่.....พอคิดๆดูแล้ว......ฉันก็ทำตัวไม่ต่างจากสตอล์กเกอร์อย่างที่เขาว่าเลยนี่นา ไม่น้าาาาาาาาา

"ฮ้าววววว.....ให้ตายเถอะเพราะเรื่องของอีตาบ้านั้นแท้ๆเลยทำให้เรานอนไม่พอจนได้ มีแต่คำว่าสต๊อล์กเกอร์ๆๆลอยอยู่เต็มไปหมดทำเอาฉันตอนไม่หลับเลย"

"บ่นอะไรของคุณอยู่คนเดียวน่ะ"

"อ่ะน....น....นาย...ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ และนายมาทำอะไรที่นี่"

"คุณพูดเรื่องอะไรน่ะ ที่นี่มันหอสมุดนะทำไมผมจะมาไม่ได้ และผมก็แค่มาหาหนังสืออ่านเท่านั้นเอง"

"จริงด้วยสิ"

"ว่าแต่เมื่อกี้คุณยืนบ่นอะไรอยู่คนเดียวล่ะ"

"ไม่เกี่ยวกับนายสักหน่อยตาบ้า แบร่!!"

ให้ตายสิแค่เห็นหน้าก็เริ่มหงุดหงิดและแหะ

"ทำไม.....ฉันรู้สึกง่วงจัง สงสัยเพราะแอร์ด้วยมั้งเพราะอีตาบ้านั้นคนเดียวเลยฉันต้องเอาคืนให้ได้ แต่ง่วงจังเลยหลับสักหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง"

"นี่คุณ นี่จะหลับอีกนานไหม"

"หือ....อะไรนะคะ...จะคืนหนังสือเหรอคะ......วางไว้ด้วยเลยยยค่าาา....."

"คุณๆไฟไหม้ห้องสมุดแล้วตื่นเร็ว"

"ห๊ะ!! ไหนๆไฟไหม้ที่ไหน"

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณนี่ตลกจังเลย"

"น....นาย นี้นายแกล้งฉันเหรอ"

"เปล่าซะหน่อยก็ผมปลุกดีๆแล้วคุณไม่ตื่นอ่ะให้ผมทำยังไงล่ะ"

"แล้วคุณปลุกฉันทำไม"

"ก็หอสมุดมันถึงเวลาปิดแล้วหน่ะสิ ผมแค่คิดว่าถ้าไฟไหม้จริงๆคุณคงตายอยู่ในนี้แน่นอนผมเลยปลุกน่ะ"

"หือ....นี่นายเป็นห่วงฉันเหรอ ทำตัวน่ารักอย่างนี้ก็เป็นทำไมไม่ทำซะตั้งแต่ทีแรกล่ะ"

"เปล่าผมแค่สงสารหนังสือที่ต้องมาถูกไหม้ไปพร้อมกับคุณน่ะ"

"ห๊ะ......อีตาบ้า...."

"เอ้า...ผมซื้อมาฝากถือว่าเป็นการขอโทษเรื่องเมื่อวานก็แล้วกัน"

"อ๊ะ!.......นี่มัน.......ขนมเค้กเจ้าดังของย่านนี้นี่นา!......ใช่แน่นอนไม่ผิดแน่รูปกล่องอย่างนี้และตราของร้าน ตอนนั้นฉันต้องไปตอคิวนานถึง3ชั่วโมงเลยนะแต่ของก็หมดก่อนฉันเลยอดกิน นายจะให้ฉันจริงๆเหรอ ไมเปลี่ยนใจแน่นะ แต่เดี๋ยวนะไม่สิ....นายจะเอาขนมเค้กมาล่อฉันเหรอไม่มีทางหลงกลคนอย่างนายหรอก"

"สรุปไม่เอา? งั้นผมเก็บละนะ"

"ม๊ายยยยย......เอามานี่ฉันจะรับฝากมันไว้ก่อน"

"แล้วเมื่อไหร่ผมถึงจะได้คืนล่ะ"

"ก็เมื่อคิวของร้านนั้นสั้นน่ะสิ"

"ถือว่าหายโกรธแล้วนะ"

"เห็นแก่เค้.....ไม่ๆเห็นแก่ความตั้งใจของนายเรื่องคราวนี้ฉันจะยกให้ก่อนและกัน"

"ว่าแต่นายยังไม่กลับอีกเหรอ"

"พอดีอ่านหนังสือเพลินไปหน่อยนะ"

"อ๊าาาา.....แย่แล้วฉันยังไม่ได้จัดหนังสือเลยนี่นา ไม่ทันแน่ๆเลยพรุ่งนี้มีหวังฉันโดนด่าจนหูชาแน่เลย เพราะนายน่ะแหละเพราะนายคนเดียวเลยแย่แน่ๆคราวนี้"

"หือ...ทำไมเป็นเพราะผมล่ะ"

"ไม่ๆเพราะนายนั้นแหละ แล้วฉันจะทำยังไงดีเนี้ยมีหวังโดนไล่ออกแน่เลย"

"งั้นให้ผมช่วยนะ"

"ทำไมล่ะ"

"ก็มันเป็นความผิดของผมไม่ใช่เหรอ และถ้าคุณทำคนเดียวคงไม่ทันแน่นอนให้ผมช่วยเถอะ"

"อื้มก็ได้ ฉันเองก็ไม่อยากถูกไล่ออกหรอกนะ"

 

"เฮ้อ......เสร็จสักทีขอบใจนายมากนะถ้าไม่ได้นายฉันต้องแย่แน่ๆ"

"ไม่เป็นไรหรอก แต่ตอนนี้ก็มืดแล้วด้วยเธอกลับยังไงล่ะ"

"ฉันเหรอก็เดินกลับน่ะ"

"บ้านคุณอยู่แถวไหนล่ะ"

"ทำไมจะไปปล้นเหรอยะ"

"จะบ้าเหรอผมไม่ทำอย่างนั้นหรอก"

"งั้นเหรอ"

"ถ้าวางเพลิงก็ว่าไปอย่าง"

"นี่!!"

"ใจเย็นๆผมแค่ล้อเล่น"

"บ้านฉันอยู่ที่........."

"จริงเหรอ บ้านผมก็อยู่แถวนั้นเหมือนกันแต่ทำไมผมไม่เคยเจอคุณเลยล่ะ"

"ฉันต้องถามนายมากกว่าว่าทำไมฉันไม่เคยเจอนาย"

"บ้านผมอยู่ท้ายซอยน่ะ"

"ว่าแล้วเชียวฉันอยูหน้าปากซอย"

"งั้นให้ผมเดินไปส่งนะ"

"นายวางแผนที่จะทำอะไรฉันหรือเปล่าเนี่ย"

"คุณเนี้ยนะ!!.....ผมเอาเวลาไปดูแมวเต้นยังมีประโยชน์กว่าอีก ตกลงจะไปไหมคนที่น่ากลัวกว่าผมมีเยอะแยะน่า ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก"

"ก็ได้......ถือว่ายังไงฉันก็ต้องกลับทางเดียวกับนายอยู่แล้ว แต่......ถ้านายคิดจะทำอะไรฉันล่ะก็ ฉันจะ......ฉันจะตะโกนให้คนทั้งหมู่บ้านตื่นกันเลย"

"ตื่นมาเขวี้ยงของใส่คุณรึไง"

"หรือนายจะลอง"

"จ้าๆกลัวและจ้า"

 

"ขอบใจนะที่มาส่ง"

"อื้มไม่เป็นไร ผมไปก่อนนะ ฝันดี"

"เดินดีๆล่ะ ฝันดี แต่.......แปปนึงสิว่าแต่ลืมไปเลยนายชื่ออะไรเหรอ"

"ผมเหรอผมชื่อ โฮชิ"

"โฮชิ ที่แปลว่าดวงดาวสินะ ชื่อไม่เหมาะกับหน้าเลยแหะ"

"นี่!!เดี๋ยวเถอะ แล้วว่าแต่แล้วคุณล่ะชื่ออะไร"

"ฉันชื่อน้ำฝน"

"เหอะ!! ก็พอกันแหละน่า"

"นี่!! เมื่อกี้นายว่ายังไงนะ"

"เอาเป็นว่าผมไปก่อนนะดึกมากแล้ว"

"ไปไหนก็ไปเลยตาบ้า!!"

"เฮ้อ......ให้ตายเถอะไปได้สักที"

"เด็กผู้ชายคนเมื่อกี้น่ารักดีนะ แฟนเหรอ"

"อ๊ะ!!แม่......ออกมาทำอะไรข้างนอกเนี้ย"

"ก็แม่ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ตะโกนอยู่หน้าบ้านนึกว่าลูกข้างบ้านเลยออกมาดูหน่อยหน่ะ พอออกมาก็เจอลูกข้างบ้านจริงๆด้วย"

"แม่อ๊ะ!!"

"ว่าแต่แม่ดีใจนะที่ลูกของแม่โตเป็นสาวแล้วแถมมีเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักมาจีบซะด้วยสิ เอ๊ะหรือว่าลูกแม่ไปจีบเขา"

"แม๊!!....พอเลยเข้าบ้านเล๊ย!!"

"จ้าๆ อ๊ะอย่าดันสิรู้แล้วแม่เดินเองได้นะ ดูสิลูกของแม่หน้าแดงไปหมดแล้วคงเขินที่โดนแซวสิท่า"

"แม๊!!"

"อย่าลืมเล่าให้ฟังด้วยล่ะว่าทำไมวันนี้ถึงกลับดึก อย่าบอกนะว่าลูกสาวของแม่......"

"แม๊!!.....พอได้แล้วเข้าบ้าน"

"จ้าๆดูสิหน้าแดงหมดแล้วน่ารักจัง"

ให้ตายสิแม่นี่ล่ะก็ จะว่าไปหมอนั้นก็มีมุมน่ารักเหมือนกันแหะแล้วทำไมฉันถึงต้องมานั่งคิดถึงหมอนั้นด้วยนะพอๆนอนดีกว่า

 

ในที่สุดทุกอย่างก็ดูกลับมาเป็นปกติอีกครั้งและหมอนั้นก็ยังนั่งอยู่มุมมืดเหมือนเดิม

"นี่นายคิดว่าที่นี่เป็นเมืองก็อด......ก็อดอะไรนะช่างมันเถอะ ทำไมนายชอบมานั่งอยู่มุมมืดเนี้ยอ่านถนัดเหรอ"

"อื้มมันเป็นมุมที่เงียบดีหน่ะ"

"อ๊ะ......นั้นมันหนังสือชีวประวัติของ วิลเลียม เชคสเปียร์ นี่นายชอบอ่านอะไรแบบนี้หรอกเหรอ"

"อื้มผมมีความฝันว่าสักวันหนึ่งผมจะเป็นนักเขียนน่ะ"

"มิน่าล่ะนายถึงอ่านแต่ชีวประวัติของเหล่านักเขียน"

"อื้ม ผมก็อยากที่จะเป็นแต่คงเป็นไปไม่ได้หรอก"

"ทำไมถึงคิดอย่างนั้นหล่ะ ฉันเชื่อว่าถ้านายพยายามนายต้องทำได้แน่"

"งั้นเหรอ.....อื้มขอบใจนะ"

"ถ้านายอยากเป็นนักเขียนงั้นนายก็ต้องมีเรื่องที่นายเขียนสิขออ่านบ้างได้ไหม"

"ได้สิ"

"จริงเหรอ"

"แต่มันยังเขียนไม่เสร็จนะพอดีเพิ่งเรื่มอ่ะเอาไว้ถ้าเขียนเสร็จแล้วจะเอามาให้อ่านนะ"

"อื้มแล้วจะรอนะ"

"ว่าแต่....พูดถึง เชคสเปียร์ แล้วมีนิยายเรื่องหนึ่งที่ฉันชอบมากๆเลยล่ะ"

"เรื่องอะไรล่ะ"

"โรมิโอ แอน จูเรียส"

"เรื่องนั้นเหรอผมก็ชอบเหมือนกันอ่านจบไปหลายรอบเลยล่ะ"

"น่าสงสารพวกเขาเนอะ"

"อื้มเป็นเรื่องที่เศร้ามากเลยล่ะ"

"ฉันคิดว่าคงจะดีมากเลยถ้าจบแบบมีความสุข"

"ผมก็หวังอย่างนั้นแต่เขาเขียนอย่างนี้นี่นะ"

"ทำไมเขาต้องเขียนอย่างนั้นด้วยเหรอ"

"อืม......คงเป็นเพราะเขาอาจจะต้องการสื่อถึงความรักในอีกรูปแบบมั้ง"

"งั้นเหรอ"

"อื้ม.....เพราะตัวผมเองคิดว่าความรักนั้นถึงจะมีสมหวังมันก็ต้องมีผิดหวังด้วยเหมือนกัน แต่ผมเชื่อนะว่าความตายไม่สามารถพรากความรักไปจากพวกเขาได้และถ้าเป็นจริงพวกเขาคงมีความสุขอยู่ที่ไหนสักที่นึงแหละมั้งและคนที่เสียใจที่สุดคือพ่อและแม่ของทั้งสองฝ่าย"

"อื้ม.....งั้นเหรอดูงงๆแหะไม่เห็นเข้าใจเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

"และจะถามทำไมเนี้ย"

"นี่นายช่วยอะไรหน่อยได้ไหม"

"ช่วยอะไรล่ะ"

"พรุ่งนี้นายว่างไหม"

"ทำไมเหรอ"

"ตอบมาเถอะน่าา"

"อืม......ว่างทำไมเหรอ"

"พอดี........แม่ฉันจะให้ไปซื้อของในตัวเมืองปกติแล้วฉันจะไปกับแม่แต่ว่าวันนี้ไม่รู้ทำไมแม่ถึงให้ฉันไปคนเดียวฉันไม่กล้าไปคนเดียวเลยว่า...จะมาชวนนาย.....ไปด้วยกัน...."

"เป็นอะไรหน้าแดงไม่สบายเหรอ มาขอดูหน่อย"

"ไม่ๆๆๆ ฉันปกติดีว่าแต่นายจะไปไหมอ่ะ"

"อื้มได้สิผมจะไปด้วย"

"จริงเหรอ!!......นายจะไปด้วยจริงๆนะ"

"อื้มๆจริงสิ"

"งั้นฉันจะรอนะ"

 

"เฮ้อ......ถึงบ้านสักทีวันนี้เหนื่อยจัง แต่พรุ่งนี้ฉันต้องไปซื้อของกับ......อ๊ายยย แล้วทำไมฉันต้องหน้าแดงด้วยเนี้ย หรือว่าฉันชอบเขาไม่ๆๆคงไม่ใช่หรอกมั้ง แต่ว่าฉันอาจจะชอบเขาจริงๆก็ได้นะ........อ๊ายยย หน้าแดงอีกแล้ว ไม่เอาพอๆน้ำฝนเธอต้องตั้งสติ ไปลองชุดดีกว่าจะเอาชุดไหนดีนะ เดี้ยวลองไปแต่งหน้าดูด้วยดีกว่า"

"อื้มโอเคเสร็จแล้วเพอร์เฟค ดูไปดูมาฉันเองก็สวยเหมือนกันนะเนี้ย "

"แล้วลูกสาวสุดสวยของแม่มายืนละเมออะไรอยู่ตรงนี้เนี้ย"

"อ๊ะ!!แม่มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"

"ก็ยืนตั้งแต่ พรุ่งนี้ฉันต้องไปซื้อของกับ อ๊ายยยย"

"แม่อ๊าาาาาอย่าล้อหนูสิ"

"ดูเหมือนลูกสาวแม่คงจะโตเป็นสาวแล้วสินะแม่ละดีใจจริงๆอีกไม่นานแม่คงจะได้อุ้มหลาน"

"พอเลยแม่คิดไปไกลแล้วออกไปเลยหนูจะนอนแล้ว"

"จ้าๆ พรุ่งนี้เที่ยวให้สนุกนะ"

 

แล้วก็ถึงเวลานัดหมายให้ตายเถอะตื่นสายอีกจนได้เมื่อคืนนอนไม่หลับทั้งคืนเลยหมอนั้นจะไปถึงรึยังนะหรือว่าอาจจะรอเราจนถอดใจแล้วกลับไปแล้วก็ได้ ไม่เอาน๊าาาา

"อยู่ไหนกันนะ"

"น้ำฝน หาใครอยู่เหรอ"

"ว้าย!! ให้ตายสินายทำให้ฉันตกใจนะ"

"ขอโทษๆ ว่าแต่ของที่จะไปซื้ออยู่ตรงไหนล่ะ"

"เดินตรงไปอยู่หัวมุมหน่ะ"

"อื้ม งั้นปะ"

"ว่าแต่......วันนี้เธอแต่งหน้าด้วยเหรอ"

เขาสังเกตเห็นด้วยล่ะดีใจจัง

"ทำไมล่ะแต่งไม่ได้รึไง หรือว่ามันแปลก"

"ไม่ๆก็เห็นปกติเธอไม่ค่อยแต่งหน้านี่นา"

"ก็ปกติฉันทำงานหลังเลิกเรียนนี่นามันเลยแต่งไม่ได้เพราะไม่ค่อยมีเวลา"

"วันนี่เธอดูน่ารักดีนะ"

อ๊ายยยยยเขาชมฉันด้วยแหละ

"อื้ม ฉ...ฉ..ฉันรู้อยู่แล้วล่ะน่า"

"นี่นายถ้าซื้อของเสร็จแล้วไปเดินเล่นกันไหม"

"อื้มได้สิ"

และหลังจากนั้นเราก็เดินเล่นกันจนเย็นเลยล่ะรู้สึกว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดเลยล่ะ

"ผมว่าตอนนี้ก็เย็นมากแล้วเรากลับกันดีกว่าเนอะ"

"อื้มได้สิ"

"ขอบคุณนะ"

"หือ....นายขอบคุณฉันทำไมฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณนายที่นายยอมมาเป็นเพื่อนของฉัน"

"อื้ม"

"อ๊ะ.....ฉันให้"

"อะไรเหรอ"

"เปิดดูสิ"

"นี้มัน.....พวงกุญแจรูปรถไฟเหรอ"

"ใช่ๆ ฉันซื้อมาสองอันหน่ะของนายอันนึงและ นี่ของฉันอันนึงเป็นของที่ระลึกน่ะ"

"ของที่ระลึกเหรอ"

"ใช่ให้รู้ว่าเราเคยมาที่นี่ด้วยกัน"

"........งั้นเหรอ ขอบคุณนะ น้ำฝน"

"อื้ม ไม่เป็นไรหรอกถือว่าเป็นค่าเค้กและกัน"

"อะไรกันขี้โกงนี้นาอย่างนั้นอ่ะ"

"เอาเป็นว่าเราหายกันและนะ"

"ก็ได้ๆยอมแล้ว"

"ดีมาก!!"

"น้ำฝน.....ขอบคุณนะวันนี้ผมมีความสุขมากเลยล่ะ"

"ฉันก็เหมือนกัน ขอบคุณนะโฮชิ"

"อื้มกลับกันเถอะ น้ำฝน"

"แปปนะมีอีกที่ที่ฉันอยากให้นายมาด้วย"

"ที่ไหนล่ะ"

"มาเหอะน่า"

"เธอจะพาผมไปที่ไหนอ่ะ"

"ที่ที่นายรู้จักดีเลยล่ะ"

"ที่ไหนล่ะ"

"เอาน่าไปถึงแล้วเดี้ยวก็รู้เองแหละ"

"นี่มันหอสมุดนี่"

"ใช่แล้ว"

"แล้วพาผมมาที่นี้ทำไมล่ะ"

"คือ......ฉันมีเรื่องที่จะต้องบอกนายให้ได้อยู่น่ะ"

"เรื่องอะไรเหรอ"

"คือว่า......."

"หือ?"

"คือว่าฉัน......"

"มีอะไรเหรอ"

"คือ....."

"มีอะไรพูดมาเถอะอ้ำๆอึ้งๆไม่สมกับเป็นเธอเลยนะ"

"คือว่าฉัน.....ฉัน.."

".........."

"คือว่าฉันคิดว่าฉันชอบนาย!!"

"อื้ม"

"นายไม่ตกใจเหรอ"

"ไม่อ่ะผมรู้อยู่แล้วล่ะ"

"แล้วนายก็ปล่อยให้ฉันพูดเนี้ยนะอีตาบ้า นายมันบ้าๆๆๆๆๆๆที่สุดเลย"

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก็ได้ยินเธอพูดมันรู้สึกดีกว่านี้นา"

"แล้วนายว่าไงล่ะ"

"............."

"ทำไมถึงเงียบไปล่ะ"

"คือว่า........น้ำฝน"

"อะไรเหรอ"

"ผมดีใจนะที่เธอกล้าพูดคำนั้นออกมา แต่....."

"นายกำลังจะพูดอะไรหน่ะ"

"ผมขอโทษ"

"ทำไมนายถึงขอโทษฉันล่ะ"

"คือ...ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ แต่.....ผมว่าเรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ"

อยู่ดีๆฉันก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังไหลอาบที่แก้มของฉัน

"ทำไมล่ะฉันไม่ดีเหรอ"

"ไม่ๆเธอดีมากๆเลยล่ะแต่..."

"แล้วทำไมล่ะ!! ทำนายถึงปฏิเสธฉันล่ะ!"

"........."

"ตอบมาสิว่าทำไม!!"

"คือ........"

"นายมันก็แค่คนขี้โกหกคนหนึ่ง ทั้งที่นายรู้อยู่แล้ว........ทั้งที่นายรู้อยู่แล้วแท้ๆแต่ทำไมนายกลับไม่บอกฉันทำไมนายถึงต้องมาทำให้ฉันรักนายแล้วนายก็จะจากฉันไปเนี้ยนะ นายมันบ้าๆๆๆๆๆ บ้าที่สุดเลยไอ้คนโกหกบอกมานะนายกำลังเล่นกับความรู้สึกของฉันใช่ไหม ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีกแล้ว จะไปไหนก็ไปเลย"

"คือ.....น้ำฝนผมขอโทษ"

เขาพยายามเอามือมาปาดน้ำตาของฉันแต่ฉันกลับปัดออก

"ไปซะฉันอยากอยู่คนและไม่อยากเห็นหน้านายอีก"

"อื้ม....เข้าใจแล้ว.....ขอโทษอีกครั้งนะ"

"........"

"น้ำฝน.......ฉันรักเธอนะ........ลาก่อน"

"ฮื้อออออออออ อีตาบ้าทำไมนายถึงไม่รั้งฉันไวละ นายน่าจะกอดฉันไว้และไม่ให้ฉันไปสิ"

ตอนนั้นน้ำตาของฉันก็ได้หลั่งไหลออกมาเหมือนกับมันไม่มีที่สิ้นสุด

 

"อ้าวน้ำฝนกลับมาแล้วเหรอลูกแล้วโฮชิล่ะไม่ได้กลับมาด้วยกันเหรอ"

"............"

"นี่น้ำฝนลูกเป็นอะไรเหรอพูดกับแม่หน่อยสินี้จะไปไหนน่ะ จะขึ้นห้องเหรอไม่กินข้าวหน่อยเหรอ"

ก๊อกๆๆๆ

"นี้ลูกมีอะไรก็บอกพ่อกับแม่ได้นะ"

"หนูขออยู่คนเดียวได้ไหมคะ"

".......จ่ะเข้าใจแล้วถ้าพร่อมจะพูดเมื่อไหร่ก็ลงมาได้เสมอเลยนะพ่อกับแม่จะรอ.....เข้มแข็งไว้นะลูก"

"........."

 

ฉันไม่ได้นอนทั้งคืนเลยแหละรู้สึกเหมือนฉันจะร้องไห้ทั้งคืนเลยตอนนี้ตาฉันบวมไปหมดแล้ววันนี้คงไปที่โรงเรียนและไปทำงานที่ห้องสมุดไม่ไหวแล้วแหละแต่อยู่แต่ห้องมันก็น่าเบื่อเดี้ยวจะลองแวะไปที่ห้องสมุดหน่อยดีกว่าฉันไม่ได้หวังจะไปเจอเขาหรอกนะ ว่าแต่ใกล้ 5 โมงแล้วสินะ เดี้ยวอีกสักพักคงมามั้ง 5 โมงแล้วสินะทำไมเขาถึงยังไม่มานะ สงสัยไม่สบายมั้ง เอาไว้พรุ่งนี้มาใหม่ดีกว่า

เฮ้อ.........16.59น เดี้ยวสักพักเขาก็คงมาแล้ว 17.05น ทำไมเขาไม่มาล่ะหรือว่ายังไม่หายป่วยหมอนั้นจะเป็นอะไรไหมนะ สงสัยเขาคงจะโกรธฉันแน่เลยหรือว่าเขาจะมาเวลาอื่น พอดีเลยพรุ่งนี้โรงเรียนฉันหยุดพอดี ฉันต้องขอโทษนายให้ได้

10.00น ฉันรอมาตั้งแต่เช้าแล้วทำไมเขายังไม่มาอีกเนี่ยหรือว่า....เขาต้องเกลียดฉันแล้วแน่ๆเลย ฉันควรทำอย่างไงดี

จนห้องสมุดปิดเขาก็ยังไม่มาเลยเขาคงเกลียดฉันแล้วแหละ

ฉันกลับบ้านไปและวันนั้นฉันนอนไม่หลับเลย

ติ้งต่องงงง.....ติ๊งต่องงงง

"ค่ะ รอแปปนะคะดิฉันกำลังไปเปิดให้ อ้าวคุณคือ"

ฉันได้ยินเสียงกดออดหน้าบ้านหรือว่าจะเป็นหมอนั้นกันนะ.....ไม่หรอกมั้งก็ตอนนั้นเราไล่เขาไปแล้วนี่นาเขาคงเกลียดเราแล้วแน่เลย

"น้ำฝนลูก.....น้ำฝนลงมาข้างล่างหน่อยลูกมีคนมาหา"

"ค่ะ....รอแปปนะคะหนูขอแต่งตัวก่อน"

 

"ใครเหรอคะแม่..."

"หนูคือน้ำฝนใช่ไหม"

"ใช่ค่ะมีอะไรหรือเปล่าคะ"

"คือ......ฉันเป็นแม่ของโฮชิ"

"ค่ะ"

"จะมาแจ้งข่าวว่า.....โฮชิเขา.......โฮชิเขา........เขา......เสียแล้ว"

".............."

ตอนนั้นฉันรู้สึกเหมือนกับว่าน้ำตาของฉันไหลออกมาอีกครั้งและร่างกายของฉันอ่อนแรงไปหมดทุกอย่างมันดูมืดไปหมด

ฉันตื่นขึ้นมาในห้องรับแขกเมื่อกี้มันคงเป็นแค่ฝันร้ายแน่ๆ

"ตื่นแล้วเหรอลูกลุกไหวไหม"

"แม่คะ แม่โฮชิล่ะคะ โฮชิเขายังสบายดีอยู่ใช่ไหม"

"........."

"แม่ทำไมแม่ถึงร้องไห้ล่ะค........"

ฉันไม่สามารถกลั้นน้ำตาของตัวเองได้อีกต่อไปแล้วฉันร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดเสียงตอนนี้เหมือนกับว่าหัวใจของฉันแตกสลายลง

"คือเมื่อเช้าแม่ของโฮชิมาเชิญเราไปงานศพของโฮชิ......"

"เธอบอกว่ายังไงก็อยากให้หนูไปให้ได้เพราะคงเป็นความต้องการของโฮชิที่เขียนไว้ก่อนที่เขาจะตายถ้าหนูไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรนะจ๊ะไม่ต้องไปก็ได้แม่ไม่บังคับ"

"หนู.......หนู........หนูจะไปค่ะ"

"งั้นเหรอจ๊ะงั้นเดี๋ยวแม่เตรียมชุดให้นะหนูนั่งพักก่อนนะจ๊ะ"

โฮชินายจะทิ้งฉันไปจริงๆใช่ไหม......ทำไม่นายถึงไม่เคยบอกอะไรฉันซักคำเลยล่ะ.....

 

 แล้วก็ถึงวันงานศพของโฮชิ บรรยากาศที่นี่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

"ครอบครัวของหนูน้ำฝนใช่ไหมคะ ขอบคุณนะคะที่มารวมงานในวันนี้"

"ค่ะทางนี้ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ"

"พอเสร็จพิธีแล้วดิฉันอยากให้ครอบครัวของหนูน้ำฝนอยู่ต่อก่อนได้ไหมคะพอดีดิฉันมีเรื่องที่จะคุยกับหนูน้ำฝนอยู่น่ะ"

"เรื่องนี้ต้องถามเจ้าตัวเขาเองเลยล่ะค่ะ"

"ค่ะหนูจะอยู่"

 

หลังจากเสร็จพิธีศพของโฮชิ ฉันและครอบครัวก็ได้มานั่งคุยกับคุณแม่ของโฮชิ

"คือขอเข้าเรื่องเลยนะคะ.....ก่อนที่โฮชิจะตายเขาได้ทิ้งจดหมายและไดอารี่ไว้ ฉันคิดว่าเขาน่าจะต้องการเขียนให้หนูน้ำฝนน่ะค่ะ อ่ะนี้จ่ะ"

"ค่ะ ขอบคุณค่ะ"

"แล้วก็ของอีกอย่างที่อยู่บริเวณศพของโฮชิคือเจ้านี่ เป็นพวงกุญแจรูปทรงรถไฟน่าจะเป็นของที่เขาหวงมากเลยล่ะเพราะเขานอนกอดมันอยู่ฉันคิดว่าฉันจะเผาไปพร้อมกับร่างของเขาด้วยคะ"

พอฟังจบน้ำตาของฉันก็ไหลออกมาเป็นทางฉันทำได้แค่ก่อดจดหมายและไดอารี่ของโฮชิไว้

"คือว่า.....คุณน้าพอทราบไหมคะว่าทำไมโฮชิถึงตาย"

"เกิดจากอาการโรคประจำตัวเองเขากำเริบเมื่อ2-3วันก่อนจ่ะ"

"งั้นเหรอคะขอบคุณค่ะ"

หลังจากนั้นครอบครัวของเราก็ได้เวลาแยกย้ายกลับ

"แม่คะ.....คือหนูขอไปที่หอสมุดได้ไหมคะ"

"ให้พ่อกับแม่ไปด้วยไหม"

"ไม่เป็นไรค่ะหนูขอไปคนเดียว"

"งั้นดูแลตัวเองด้วยนะลูก พ่อกับแม่จะอยู่ให้กำลังใจลูกเสมอนะ"

"ค่ะ"

"เสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านหล่ะ"

ฉันเดินมาถึงหอสมุดด้วยความโศกเศร้าพร้อมกับกอดจดหมายและไดอารี่ของโฮชิอย่างแน่นไม่รู้ทำไมน้ำตาของฉันถึงไม่ยอมหยุดไหลสักทีฉันเดินไปที่โต๊ะและมุมที่โฮชิเคยนั้ง ฉันนั้งลงพร้อมกับเปิดอ่านจดหมายของเขา ในจดหมายเขียนไว้ว่า

 

ถึง น้ำฝน

   ถ้าเธอได้อ่านจดหมายฉบับนี้แปลว่าผมคงจะไม่สามารถยืนอยู่ข้างๆของเธอได้อีกต่อไปแล้วนะ ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าเธอจะยัง โกรธผมอยู่ไหมที่ไม่ได้บอกความจริงกับเธอตอนนั้น แต่ถึงยังไงผมก็ยังอยากให้เธอยกโทษให้ผมอยู่ดี เธอจะยกโทษให้ผมได้ไหม ผมยังมีเรื่องอีกมากมายเลยที่ยังไม่ได้พูดกับเธอและผมยังอยากที่จะคุยกับเธอต่อไปเรื่อยๆและได้เถียงกับเธอเหมือนที่เราเคยทำกันเกือบทุกวัน และตอนที่ได้ไปเที่ยวกับเธอผมมีความสุขมากๆเลยล่ะ ถ้าเกิดผมมีเวลามากกว่านี้ผมยังอยากจะไปเที่ยวกับเธออีกสักครั้ง แต่เวลาของผมคงเหลือน้อยเต็มทีแล้ว ชุดที่เธอแต่งครั้งล่าสุดเธอน่ารักมากเลยล่ะผมชอบนะตอนคุณใส่ชุดนั้น คุณจำเรื่องที่เราคุยกันที่ห้องสมุดได้ไหมเรื่อง โรมิโอ แอน จูเรียส และผมจะเป็นโรมิโอ แต่เธอไม่ต้องเป็นจูเรียสหรอกนะ เพราะคุณจะไม่ได้อยู่คนเดียวผมจะคอยมองคุณจากที่ๆหนึ่งที่มันอาจจะไกลออกไปและไม่ต้องกลัวว่าผมจะมองไม่เห็นคุณหรอกนะเพราะไม่ว่ายังไงผมก็ยังคงเป็น Hoshi ของคุณเสมอ หวังว่าสักวันหนึ่งเราจะได้เจอกันอีกนะและผมจะรอวันนั้นไม่ว่ามันจะนานแค่ไหน แล้วเมื่อถึงเวลานั้น เราไปเที่ยวด้วยกันอีกนะ ผมรักคุณมากนะน้ำฝน

                                                                                                                      

                                                                                                                     จาก โฮชิ

 

ดูเหมือนโฮชิจะไม่ได้โกรธฉันและตอนนี่ฉันไม่สามารถกลั้นน้ำตาของฉันไว้ได้และที่ฉันรู้สึกคือมันไม่ใช่น้ำตาแห่งความโศกเศร้าเหมือนก่อนหน้า ตอนนี้ฉันเข้าใจที่นายพูดตอนนั้นและแหละ

ฉันปาดน้ำตาพร้อมกับเปิดไดอารี่ของโฮชิดู

ในนั้นเขียนไว้ว่า น้ำฝนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของฉันเลยนะ ฉันหวังว่าเธอจะชอบมันนะ ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้เธอเขียนด้วย

 

ชื่อเรื่อง Media love in the middle of books (วาดรักผ่านอักษร)

เป็นเรื่องของชายหนุ่มที่แสนจะธรรมดาคนหนึ่งที่ได้ไปตกหลุมรักสาวบรรนารักษ์ในหอสมุดแห่งหนึ่ง

ในตอนจบนั้นถึงพระเอกจะตายและไปรอหญิงสาวในที่ที่แสนไกลออกไปและคอยเป็นดาวเฝ้าดูหญิงสาวอยู่บนท้องฟ้า

 

อื้มแล้วฉันจะเขียนนะ

ฉันเดินออกไปข้างนอกนี้ก็ดึกมากแล้วดูเหมือนฉันจะร้องไห้จนตาบวมเลยแหะ และตอนนี้ฉันรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มองขึ้นไปบนฟ้า ฉันตะโกนขึ้นไปบนฟ้าอย่างสุดเสียง โฮชิถ้านายได้ยินฉันนายอย่าลืมเก็บของที่ระลึกของเราไว้กับตัวนะเก็บมันไว้ดีๆละฉันเองก็จะเก็บมันไว้เสมอมันเป็นสัญญาว่าสักวันเราจะได้เจอกันอีก และฉันก็จะรอนายเหมือนกันนะโฮชิ ฉันรักนายนะ โฮชิ

แล้วคุณเคยมาที่ห้องสมุดเพื่อคิดถึงใครสักคนไหม?

END

 ป.ล.เรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นมาเพราะได้แรงบรรดารใจบางส่วนมาจากเพลง Happy End ของ Back Number เพราะงั้นถ้าใครอยากเข้าใจความรู้สึกของตัวละครมากขึ้นลองไปหาฟังดูนะ

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว