เรื่องนี้บอกกล่าวก่อนว่าเป็นผลงานเรื่องที่สามของไรต์นะคะ แต่งตามจินตนาการเช่นเดิมไม่ได้อ้างอิงถึงประวัติศาสตร์ชาติใดทั้งสิ้นสรุปจบก็คือเรื่องนี้แต่งขึ้นมิได้มีอยู่จริงผิดพลาดประการใดเช่นเดิมนะคะชี้แนะกันแต่พอสมควรถึงไรต์จะตัวใหญ่แต่ใจบอบบางนะจ๊ะ^___^
ป.ล.ถึงจะใจบางแต่ก็ใจดีจ้า
....เซียจื่อ นักเขียนใต้เงาจันทรา...
=แนะนำโดยย่อ=
แคว้น"หลู่หาน"ปกครองด้วยระบบหนึ่งจักรพรรดิ สี่อ๋อง มีเมืองหลวงชื่อ"อันฉี"ซึ่งจักรพรรดิหรือก็คือองค์ฮ่องเต้จะทรงประทับอยู่ที่เมืองหลวงเป็นหลัก...
แคว้นนี้ปกครองด้วยสกุล"เสวี่ย"มาร่วมสองร้อยปีสืบต่อราชบัลลังก์มาถึงแปดรุ่น รัชสมัยปัจจุบันคือรุ่นที่เก้า องค์ฮ่องเต้มีนามว่า"เสวี่ยฮุ้ยหยาง"อายุ35ชันษา
และแคว้นหลู่หานยังมีหัวเมืองหลักที่ติดกับชายแดนทั้งหมดอีกสี่เมืองแบ่งปกครองโดยอ๋องทั้งสี่เพื่อเป็นการปกป้องชายแดนที่ติดกับอีกหกแคว้นคือที่หนึ่งอยู่ด้านทิศใต้ติดชายแดนแคว้นต้าฉินและชิงไห่รวมไปถึงแคว้นต้าเค่อ เมืองนี้มีนามว่า
=เมืองเว่ย= ปกครองดูแลโดยเว่ยอ๋องนามเดิมว่า"เสวี่ยเติ้งหลุน"วัย29ชันษาในบรรดาห้าพี่น้องอ๋องเว่ยคือน้องเล็กสุด มีนิสัยเงียบเย็นลงมือปลิดชีพศัตรูได้ด้วยใบหน้ามิเปลี่ยนเก่งทางด้านกลศึกที่สุด แต่ก็มีวิชาแพทย์สืบต่อมาจากรุ่นตาส่งต่อมาที่มารดาของเขาแล้วสุดท้ายจึงเป็นตัวของเขาเอง นิสัยเป็นคนจริงจังกับทุกสิ่งทุกอย่างดังนั้นเมื่อเขามีความรักจึงจริงจังและแสดงออกมาอย่างชัดเจน และจากสาเหตุที่ต้องเสียมารดาไปตั้งแต่วัยเยาว์เพียง11หนาวอ๋องเว่ยจึงมีนิสัยหวงของมากเมื่อมีภรรยาจึงขี้หีงที่สุดในพี่น้องทั้งหมด...
=เมืองฉู่=ปกครองโดยอ๋องฉู่มีนามเดิมว่า"เสวี่ยหยางคุน"วัย33ชันษา หัวเมืองอยู่ทางด้านทิศตะวันออกติดกับชายแดนระหว่างแคว้นชิงไห่และแคว้นโตวหนาน อ๋องฉู่ผู้นี้ภายนอกดูเป็นคนอารมณ์เยือกเย็นรักสงบที่สุดในห้าพี่น้องแต่ความจริงแล้วเขานั้นมักเก็บซ่อนความรู้สึกได้เก่งนักจะโกรธ...เกลียด...หรือรัก...ชายผู้นี้จะมิใคร่เอ่ยมันออกมาโดยตรงชอบแสดงออกมากกว่าพูด เรียกว่าเป็นชายที่ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของตนเองช้าก็ว่าได้...
=เมืองเยวี่ย=ปกครองโดยอ๋องเยวี่ยมีนามเดิมว่า"เสวี่ยเจิ้งหลง"วัย32ชันษาหัวเมืองด้านนี้อยู่ด้านทิศเหนือเชื่อมต่อทั้งตะวันตกและออก ดินแดนแถบนี้ส่วนใหญ่จะติดชนเผ่าทางด้านทะเลทรายและเทือกเขาเสียเป็นหลักจึงมิใคร่จะเกิดสงครามให้ต้องต่อสู้มากดังทิศใต้และตะวันออกจะมีมากหน่อยก็พวกโจรชาวทะเลทรายเพียงเท่านั้นถึงจะมิได้มีรูปเป็นทองดังกับอ๋องเหลียงแต่ก็ถือว่าอ๋องเยวี่ยก็มิได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใดแถมฝีไม้ลายมือก็มิได้เป็นรองพี่น้อง
และสุดท้าย=เมืองเหลียง=เมืองนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองหลักทางด้านการค้าขาย กับชาวชนเผ่าดินแดนเขตหนาว ปกครองโดยอ๋องเหลียงมีนามเดิมว่า"เสวี่ยหวานเถียน"ซึ่งถือว่าเป็นบุรุษรูปงามหนึ่งในใต้หล้าเลยก็ว่าได้แต่ความเจ้าเล่ห์เพทุบายก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ารูปร่างหน้าตาเขาอยู่ในวัย30ชันษาถึงจะรูปงามกว่าพี่น้องที่สุดแต่กลับมีเพียงสนมไม่ถึงสิบคน ส่วนพระชายานั้นมิต้องพูดถึงอ๋องเหลียงผู้นี้มิเคยใส่ใจ เพราะความสนใจหลักของเขาคือการเจรจาต่อรองค้าขายกับชาวต่างแคว้นมากที่สุดสนมที่มีติดจวนก็เพื่อกันมิให้ถูกองค์ฮ่องเต้จัดการตบแต่งชายาพระราชทานให้ก็เพียงเท่านั้น...
ขุนนางที่มีอิทธิพลมากที่สุดในราชสำนักมีทั้งหมดสามสกุลใหญ่คือ...
=สกุลฟาง=มีผู้นำตระกูลนามว่าฟางไห่ ดำรงตำแหน่งซ่างซูเสิ่ง (尚书省) คือ เสนาบดีฝ่ายบริหาร เป็นตำแหน่งบริหารสูงสุด มีอำนาจควบคุมหกกรมโดยตรง
=สกุลหลิน=มีผู้นำตระกูลนามว่าหลินเฉาเกอเขาถือตำแหน่งจงซูเสิ่ง (中書省) คือ ราชเลขาธิการ มีหน้าที่รับสนองพระราชโองการ รวมถึงการร่างพระราชโองการ
=สกุลอู๋=มีผู้นำตระกูลนามว่า"อู๋เหยียนชิว"ถือตำแหน่งเหมินเซี่ยเสิ่ง (門下省) คือ เสนาบดีฝ่ายตรวจสอบ
ซึ่งทั้งสามสกุลใหญ่นี้เช่นไรหากมีบุตรชายที่เกิดแต่ภรรยาเอกก็จะต้องได้แต่งกับองค์หญิงและหรือหากเป็นบุตรีก็ต้องแต่งเข้าราชวงศ์เพื่อสอดคานอำนาจหรือก็คล้ายกับผูกทั้งสามตระกูลเอาไว้มิให้เกิดการแข็งข้อภายในขึ้นมาในภายหลังนั่นเอง
#ไรต์พยายามแยกแยะเอาไว้ทั้งยศและตำแหน่งและอธิบายถึงการเกี่ยวดองทั้งฝั่งราชวงศ์และทางฝั่งขุนนางภายในแคว้นไปพอสังเขปแล้วนะคะหากอ่านนวนิยายเรื่องนี้แล้วมีงงหรือบางทีไรต์อธิบายบรรยายแล้วรีดฯ เกิดงงไม่เข้าใจมีข้อสงสัยลองมาเปิดอ่านย้อนดูนะคะ ย้ำอีกครั้งว่ามาจากจินตนาการนะจ๊ะจึงไม่ได้เป๊ะปังแต่อย่างใด เพียงอ้างอิงไม่ให้ดูน่าเกลียดจนเกินไปและขาดรสชาติในการอ่านเพียงเท่านั้น หลังจากนี้ในเนื้อเรื่องก็จะดำเนินไปตามพล็อต (อาจมีออกทะเล) ที่ไรต์วางเอาไว้ก็เช่นเคยค่ะจะเป็นแนวเบาๆ ไม่ได้เน้นดราม่าเพราะไรต์สายฮา
สุดท้ายนี้ขอฝากผลงานเรื่อง"อวี้หลันนางมารจำเป็น"อีกสักเรื่องนะคะ