จบ เมียนอกเวลา
34
ตอน
38.4K
เข้าชม
233
ถูกใจ
62
ความคิดเห็น
117
เพิ่มลงคลัง

ฝีเท้าเงียบกริบก้าวอย่างระมัดระวังไปตามโถงทางเดินเพียงไม่กี่เมตร แต่สำหรับ แมกซ์ อิทธิพล วัชระชัย นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เวลานี้มันเหมือนทางเดินทอดยาวนับสิบกิโลเมตร

จู่ๆ เสียงหัวเราะคิกคักคุ้นหู ฟังดูมีความสุขเหลือเกินแว่วมา แทรกด้วยเสียงทุ้มของผู้ชาย ใบบทสนทนาหยอกเย้า ได้ยินไม่ชัดเจนว่ากำลังคุยเรื่องอะไร แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้ร่างสูงใหญ่ที่กำลังย่องแผ่วเบามีอันต้องชะงัก ชาหนึบไปทั้งตัว เจ็บที่หัวใจเพราะไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ไม่มีสิทธิ์ผ่านเข้าไปในห้องนั้นได้นอกจากเขา

"เมียคุณมีชู้ ไม่เชื่อก็กลับไปดูที่บ้านตอนนี้สิ" ข้อความลึกลับถูกส่งมาจากผู้หวังดี

เขาไม่อยากเชื่อว่าเจนน่า ภรรยาสาวแสนสวยผู้เพียบพร้อม เขาทุ่มเทให้หล่อนทุกอย่าง จะมาหักหลังกันได้ ..จะใช่..ไม่ใช่

อิทธิพลสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกความกล้าหาญ ชั่วเวลาหนึ่ง กว่าที่เขาจะแข้งใจลากขาทั้งสองที่หนักอึ้ง มาหยุดยืนหน้าประตูห้อง ประตูบานนี้เคยเป็นทางผ่านไปสู่แดนฉิมพลี สวรรค์ร้อนแรงระหว่างเขากับเมียรักมานานสองปี บัดนี้มีปริศนาใหญ่กำลังรอให้เขาเข้าไป

ดวงตาเรียวคมกริบมองต่ำที่ลูกบิดเงินวาวอย่างชั่งใจ ตอนนี้ในหัวใจมีกลองใบใหญ่มีกำลังตีหนักๆ ด้วยจังหวะเชื่องช้าดังกึกก้องทั่วโสตประสาท แว่บหนึ่งเขาอยากหันหลังกลับ แล้ววิ่งหนีไปให้ไกลแสนไกล.. แต่เขาไม่ใช่คนขี้ขลาดอย่างนั้น

ทุกคนที่รู้จักเขา ต่างรู้ดีหากเอ่ยชื่อ แมกซ์ อิทธิพล วัชระชัย คือคนที่กล้าได้กล้าเสีย กล้าเสี่ยง กล้าลงทุน และสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันอย่างชาญฉลาดมาตลอด

ไม่ว่านั่นจะเป็นเรื่องจริงหรือโกหก เจาควรจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง แม้ใจจะเชื่อไปแล้วเกินครึ่งแล้วยังสงสัยอะไรอีก เมื่อเสียงหัวร่อต่อกระซิกคนข้างในแว่วมาให้ได้ยินเต้มสองหู และบัดนี้อื้ออึงจนจับใจความไม่ได้

มือใหญ่สั่นเล็กน้อยตอนยื่นมือจับลูกบิดประตู เขากลืนน้ำลายอีกครั้งแก้อาการฝืดคอ

ก่อนจะหมุนลูกบิดประตูแล้วเปิดเข้าไปข้างใน

ภาพหญิงชายเปลือยเปล่าที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงโรมรันพันตูกันอยู่บนเตียงหลังใหญ่ชะงัก ทั้งสองต่างหันมามองที่เขาอย่างตกตะลึง ก่อนจะรีบถลกผ้าห่มคลุมตัวพัลวัน

วินาทีนั้นดวงใจของเขาเหมือนถูกกระชากด้วยมือปีศาจที่มองไม่เห็น หญิงหนึ่งหน้าไม่อายหน้าตาช่างคล้ายกับเจนน่าเมียรักราวกับฝาแฝด ส่วนชายชู้ที่กล้าเข้ามาเหยียบจมูกถึงในบ้าน ก็หน้าตาคล้ายเพื่อนรักเสียจริง..เกริก

ภาพที่เห็นตรงหน้า ทำเอานัยน์ตาลุกเป็นไฟ แต่ร่างกายกลับไม่ตอบสนองคล้ายถูกสะกด ความเย็นยะเยือกไหลไปทั่วร่าง มองหญิงชั่วชายโฉดทั้งคู่ในสภาพอุจาดตาไร้ยางอายที่กำลังตัวสั่นงันงกอย่างหวาดกลัวด้วยความสมเพชเวทนา ไม่มีคำแก้ตัวใดๆ หลุดมาจากปากของคนทั้งสอง ภาพเพียงภาพเดียวบรรยายได้นับร้อยพัน จะพูดอะไรออกมาก็ฟังไม่ขึ้น

หลายคนคงคิดว่าเขาจะเข้าไปลากนังกากีออกมาตบตีให้หายแค้น แต่เขาก็รังเกียจเกินกว่าจะแตะเนื้อต้องตัวหล่อนอีก หรือเขาจะซัดหมัดหนักๆ ใส่หน้าแล้วลากไอ้แมวขโมยมากระทืบให้สาแก่ใจ หรือจะเดินไปหยิบปืนที่ลิ้นชักหัวเตียงมาลั่นไกปลิดชีวิตของทั้งคู่ให้สาสมกับที่พวกมันมาหยามน้ำหน้า

แต่เขาไม่โง่ขนาดนั้น.. เขาไม่เอาตัวเองไปแลกกับสิ่งโสมมไร้ค่า สิ่งที่เขาทำหลังตั้งสติได้ คือกำหมัดแน่นสะกดกลั้นความโกรธเอาไว้ แล้วหันหลังเดินจากมาไม่เสียเวลาหันกลับไปมองอีกเลย

เขาผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ

ชีวิตแต่งงานเพียงแค่สองปี จบลงง่ายๆ เพียงแค่นั้น ไม่ต้องเสียเวลาหาเหตุผล ไม่ต้องกลับไปคิดแก้ไข เขาเชื่อว่าตลอดเวลาสองปีที่เป็นผัวเมียกัน เขาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว

"แกมันโง่" คุณอรพิณผู้เป็นย่าด่าทอเสียไม่มีชิ้นดี เมื่อรู้ว่าเขายอมเซ็นใบหย่าให้อดีตภรรยาอย่างง่ายดาย

"แกน่าจะประจานมันให้ได้อายทั้งคู่ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เอาให้พวกมันหมดตัว"

เพื่ออะไรล่ะ

เขาคิดว่าท่านน่าจะดีใจเสียด้วยซ้ำ ที่หลานชายหลุดพ้นจากผู้หญิงแพศยา โดยไม่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูแม้แต่บาทเดียว นอกจากสินสมรสที่ต้องแบ่งกันคนละครึ่ง เพียงแค่นั้น เจนน่าก็ได้ไปมากโข

และนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะมาเผชิญหน้าหล่อน

"ขอบคุณนะคะที่มา เรารีบไปทำธุระกันให้เสร็จๆ เถอะค่ะ" เจนน่าพูดอย่างตัดใจ เพราะรู้ดีว่าจะแก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น หล่อนไม่มีวันได้หัวใจผู้ชายตรงหน้ากลับคืนมาอีกแล้ว หล่อนรู้จักนิสัยของคนเคยนอนกอดดี ว่าเขารักศักดิ์ศรีแค่ไหน

ร่างสูงก้าวฉับๆ เดินนำหน้าไป มุ่งสู่ประตูด้านหน้าของธนาคาร เพียงผลักประตูกระจกเข้าไป ผู้จัดการธนาคารก็เดินออกมาต้อนรับทันที ด้วยเขาเป็นลูกค้ารายใหญ่

"ผมต้องการมาเปิดเซฟ" เขาพูดหลังจากทักทายกันตามธรรมเนียม เพื่อไม่ให้เสียเวลา

"เชิญทางนี้ครับ" ผู้จัดการธนาคารผายมือเชิญไปยังห้องนิรภัยของธนาคาร ชายหนุ่มเดินตามไปเพื่อจะได้จัดการแบ่งสินสมรมส่วนสุดท้าย ซึ่งแน่นอนส่วนใหญ่มาจากเขา หลังจากวันนี้ไปเขาก็จะเป็นอิสระพ้นจากคำว่า แต่งงาน กลับมาเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมในแวดวงอีกครั้ง

 

"ทางเราไม่สามารถอนุมัติตามคำขอของคุณได้ค่ะ" คำปฏิเสธนั้น ดับความฝันของเธอให้วูบลง

"แต่ว่าบ้านฉันพื้นที่ใช้สอยตั้งสองร้อยตารางเมตร โครงสร้างทุกอย่างแข็งแรง แถมเป็นที่ดินโซนกลางเมืองกว่าร้อยตารางวา ราคาขายตอนนี้น่าจะอยู่ที่สี่ห้าล้านได้ ทำไมถึงรีไฟแนนซ์ไม่ได้ล่ะคะ"

"ก็คุณขาดส่งค่างวดมาสามงวดติดแล้วนะคะ และในรอบหกเดือนที่ผ่านมา ก็ไม่มีรายได้ใดๆ เข้ามาในบัญชีเลย แถมจำนวนเงินที่ธนาคารอนุมัติครั้งที่แล้ว ก็เต็มวงเงิงของราคาประเมินทรัพย์สินที่เราจะปล่อยให้แล้วค่ะ ดิฉันเสียใจด้วยจริงๆ"

"แล้วถ้าดิฉันจะขายบ้านหลังนั้นล่ะคะ"

"คุณก็ต้องหาเงินมาจ่ายทั้งต้นทั้งดอกให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะทำแบบนั้นได้"

"ฉันขอกู้เพิ่มอีกสองแสนเท่านั้นนะคะ ราคาบ้านฉันมันแพงกว่านั้นเยอะ ฉันรุ้"

"สองร้อยดิฉันก็ไม่มีอำนาจปล่อยกู้ให้คุณได้จริงๆ ค่ะคุณกรกนก ต้องขอโทษด้วยจริงๆ"

ใบหน้าสวยเศร้าลงทันที เมื่อได้ยินคำปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเธอจะไปหาเงินจากที่ไหน เมื่อตอนนี้เธอไม่มีงานทำ หลังจากตกงานเมื่อหกเดือนก่อน ตั้งแต่บิดาผ่าตัดเนื้องอกในสมอง

เงินที่เก็บมาตลอดชีวิต ทุกบาททุกสตางค์ถูกใช้ไปกับการผ่าตัด ค่ารักษา ค่ายา ค่าโรงพยาบาล หล่อนต้องขายรถ เหลือแต่บ้านที่ติดจำนองแบงค์ ตอนนี้อาการบิดายังทรงอยู่ แต่หมอไม่รับปากว่าจะกลับมาเหมือนเดิม ในเวลาหกเดือย นายเอนกเข้าผ่าตัดถึงห้าครั้ง

"ขอบคุณมากค่ะ" หญิงสาวลุกออกมาอย่างอ่อนแรง หากฉุกคิดได้ว่าบิดาต้องการกำลังใจจากหล่อน หญิงสาวจึงรีบเดินออกจากธนาคาร เดินเท้าไปโรงพยาบาลที่ห่างออกไปราวหนึ่งกิโลเมตรโดยเร็วที่สุด

 

เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว