มนต์รักบ้านทุ่ง(นิยายวายเด้อ)

Y

จบ มนต์รักบ้านทุ่ง(นิยายวายเด้อ)

มนต์รักบ้านทุ่ง(นิยายวายเด้อ)

srinil.1237

Y

15
ตอน
98.3K
เข้าชม
234
ถูกใจ
156
ความคิดเห็น
411
เพิ่มลงคลัง
คำเตือนเนื้อหา
คำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องอาจมีการสปอยล์ถึงเนื้อเรื่องหลัก
ไอ้ฝิ่นน่ะ มันก็แค่คนเลี้ยงควายไม่มีอนาคต จะไปคู่ควรกับนางฟ้าคนงามได้ยังไง ไอ้ฝิ่นเองมันก็รู้ตัวดี แต่ทำไมไอ้เพลิงตะไลนั้นชอบมาย้ำมันจังวะ!

นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง 

มีคำหยาบและฉากไม่เหมาะสม 

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 

 

บทนำ 

ท่ามกลางฝูงควายเล็กๆหกตัว 

เสียงขลุ่ยเพียงออจากหนุ่มบ้านนาดังคลอเสียงทุ่งขับกล่อมบทเพลงหวานซึ้งหยอดหญิงสาวในดวงใจที่กำลังนอนหนุนตักหลับตาฟังอย่างตั้งใจ 

 

นี่...ฝิ่น... 

 

เสียงเรียกอ่อนหวานที่เจ้าของชื่อหลงใหลเรียกให้ไอ้ฝิ่นวางขลุ่ยลงข้างตัวแล้วก้มหน้าลงถามสาวคนงามที่กำลังทำหน้าคล้ายลำบากใจในสิ่งที่จะพูด 

 

มีอะไรรึเปล่ากาญ 

 

ไอ้ฝิ่นเลิกสนใจขลุ่ยเก่าๆของมันที่เก็บไว้ตั้งแต่สมัยเรียนดนตรีไทยตอน ป.ห้า 

 

เอ่อ...คือ... 

 

ปี้กกกกกกกกกกกกกกก...ปิ๊กๆๆๆๆๆ 

หญิงสาวยังไม่ทันจะได้อธิบายอะไรก็มีเสียงบีบแตรลากยาวจนน่าปวดหูจากรถปิกอัพสี่ประตูคันโก้ที่วิ่งตามคูคันนามาซะฝุ่นตะลบ 

 

ไอ้เวณเอ้ย 

 

ไอ้ฝิ่นสบถเบาๆเมื่อเห็นชัดว่ารถคันนั้นเป็นของใคร ฝ่ายสาวกาญเองก็รีบลุกออกจากตักไอ้ฝิ่นในทันทีเช่นกัน 

รถคันที่ว่าวิ่งมาจอดไม่ไกลจากแคร่ไม้ไผ่ที่คนหนุ่มสาวกำลังนั่งจีบกันอยู่  ก่อนคนขับจะลงจากรถแล้วรีบวิ่งอ้อมมาเปิดประตูอีกฝั่งให้ผู้เป็นลูกพี่ 

 

น้องกาญจร๋าาาาาา 

 

ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เนื่องจากมีเชื้อทางตะวันตกอยู่ครึ่งตัวก้าวลงจากรถมาทั้งหน้าระรื่น ใบหน้าคมสันบนผิวขาวใสที่กำลังฉีกยิ้มกว้างช่วยขับให้ดูเป็นหนุ่มหล่อขี้เล่น ผมหยักศกถูกเซ็ตไว้อย่างดี เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ของแบรนด์เนมราคาแพงตั้งแต่หัวจรดเท้า 

และความดูดีทั้งหมดที่ว่ามานั้น ไอ้ฝิ่นรู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลย 

 

มาอยู่กับไอ้คนสถุนอีกแล้วนะครับ 

 

แม้จะพูดกับหญิงสาวแต่สายตาดูแคลนของชายหนุ่มผู้มาใหม่กับมองมาที่ไอ้ฝิ่นที่นั่งอยู่ข้างๆกัน หนุ่มลูกครึ่งจงใจกดมุมปากเย้ยหยันชัดเจนเมื่อหนุ่มบ้านนาอย่างไอ้ฝิ่นทำได้แค่จ้องมองเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ 

เท่านั้น 

 

พี่เพลิงมีอะไรรึเปล่าจ๊ะ 

 

สาวกาญถามเสียงดุเชิงห้ามปรามอย่างทุกทีเพราะพี่เพลิงของเธอมักชอบต่อว่าเสียดสีไอ้ฝิ่นมันเป็นประจำ 

 

ก็ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ แค่ความคิดถึงมันพามา 

 

เพลิงว่าแบบนั้นทำเอาหญิงสาวทำหน้าเหม็นเบื่อแทบจะทันที แม้เพลิงจะเป็นชายหนุ่มที่ใครๆก็ว่าลูกสาวกำนันอย่างเธอนั้นเหมาะสมมากกว่าไอ้ฝิ่น ...หนุ่มบ้านนา วุติการศึกษาน้อย เลี้ยงควายไปวันๆที่เธอคลุกคลีอยู่ด้วยเป็นไหนๆ แต่สำหรับคนที่คิดได้ไม่เกินพี่น้องยุยังไงมันก็ไม่ขึ้น 

...คนไม่ชอบก็คือไม่ชอบ 

สาวกาญชอบไอ้ฝิ่นมันมากกว่า ดีกว่าต้องเคยไปตบตีกับสาวๆเกือบทั้งตำบลเพราะรูปกายและทรัพย์สินของเพลิงที่มีมากเกินชาวบ้านคนอื่นเขาอย่างก้าวกระโดด 

 

ถ้าพี่เพลิงจะมาแค่นี้... 

 

 

ล้อเล่นหน่า... 

 

เพลิงรีบพูดแทรกหญิงสาวก่อนจะบอกธุระจริงๆที่ทำให้ต้องถ่อมากลางไร่กลางนาแบบนี้ 

 

เรื่องที่เราคุยกันไว้น่ะ  วันนี้แม่พี่ก็มาด้วย  รออยู่ที่บ้านกับลุงปั้น ไปกันได้ยัง 

 

กาญผ่อนลมหายใจก่อนตอบตกลง 

 

เฮ่ออออ...ก็ได้ 

” และไม่ลืม 

หันกลับมาหาไอ้ฝิ่นที่นั่งเงียบอยู่นาน 

 

ฝิ่น เดี๋ยวกาญต้องกลับบ้านแล้ว 

 

 

อืม...กลับดีๆนะ 

 

ไอ้ฝิ่นพูดได้แค่นี้เหมือนอย่างทุกที มันยกมือขึ้นลาหญิงสาวก่อนเจ้าหล่อนจะเดินไปขึ้นรถที่ติดเครื่องไว้ไม่ยอมดับ เหลือไว้แต่หนุ่มลูกครึ่งที่รั้งท้ายยังไม่ยอมกลับไปขึ้นรถตัวเองสักที 

" 

พรุ่งนี้กูกับน้องกาญจะไปทำธุระในเมืองกันอยากฝากซื้ออะไรม่ะ เดี๋ยวจะช่วยสงเคราะห์ให้คนยากคนจน” เพลิงว่าแบบนั้น ไอ้ฝิ่นได้แต่พ้นลมหายใจเบื่อหน่ายก่อนตวัดตามองหน้าคนพูดอย่างนึกรำคาญ 

...มันรู้อยู่หรอกว่าอีกฝ่ายแค่ต้องการจะอวดเรื่องได้ไปเที่ยวกับกาญโดยไม่ลืมใส่คำดูถูกมันในประโยคด้วย 

“ไม่เป็นไร” ไอ้ฝิ่นบอกเสียงเรียบอย่างตัดรำคาญ  มันก็แค่ชาวบ้านธรรมดาเลี่ยงการมีเรื่องกับเศรษฐีใหม่ลูกน้องอื้ออย่างเพลิงเอาไว้จะดีกว่า 

“โห้ววววว...” เพลิงทำเสียงล้อเลียนไอ้ฝิ่นที่กล้าปฏิเสธ ก่อนทำท่าประหลาดใจ “เอ๊ะ...กลิ่นอะไรแปลกๆ...” หนุ่มลูกครึ่งโน้มตัวเข้าไปใกล้ไอ้ฝิ่นที่ถึงกลับผงะเอี่ยวหน้าหลบแทบไม่ทัน 

มันได้แต่นั่งทำฮึดฮัดอยู่บนแคร่ให้จมูกโด่งทำฟุดฟิดสูดดมหาที่มาของกลิ่นแปลกๆที่พูดถึงก่อนจะละออกไปเมื่อรู้แหล่งที่มา 

“กลิ่นสาบโคนสาบควายที่ติดตัวมึงนี้เอง”เพลิงว่าอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินไปขึ้นรถที่ลูกน้องเปิดประตูรออยู่แล้ว 

ไอ้ปื้ดหันมายิ้มให้ไอ้ฝิ่นอย่างคนกันเองก่อนปิดประตูรถให้ลูกพี่มันแล้วเดินอ้อมไปฝั่งคนขับเพื่อทำหน้าที่สารถี ตอนเด็กๆไอ้ปื้ดเคยวิ่งตามไอ้ฝิ่นต้อยๆแต่ตอนนี้ดันกลายไปเป็นลูกสมุนคนสนิทของศัตรูหัวใจไอ้ฝิ่นไปซะแล้ว 

" 

อย่าลืมดูควายด้วยล่ะ จ่าฝูงมันยิ่งโง่ๆอยู่" 

เพลิงลดกระจกลงบอก 

"... 

เฮ้ย! นั้นไง...ยังไม่ทันขาดคำ" ชายหนุ่มทำเสียงตื่นทั้งยังเหลือกตามองไปทางฝูงควายเล็กๆที่อยู่ไม่ไกล 

... 

ไอ้ฝิ่นรีบลุกพรวดขึ้นดูด้วยอารามตกใจ  ควายพวกนี้มันรับจ้างเขาเลี้ยงหากเป็นอะไรขึ้นมาไอ้ฝิ่นมีแต่ซวยกับซวย แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นควายทุกตัวกำลังยืนเล็มหญ้ากินตามปกติ 

" 

กร๊ากกกก จ่าฝูงโดนหลอก ไอ้ควายยยยยย" ชายหนุ่มบนรถขำกร๊าก ก่อนรถคันโก้จะวิ่งฝุ่นตลบจากไป 

ปล่อยให้ 

' 

จ่าฝูง 

' 

ยืนเดือดอยู่คนเดียว 

ไอ้ฝิ่นเกลียดมัน... ไอ้เพลิงตะไล! 

................................................................................................. 

แรงบันดาลใจจากหนังเรื่องมนต์รักสิบหมื่น(ก็มโนกันไป) 

แต่ไม่ย้อนยุคนะ 

อยู่ในปัจจุบันนี้แหละจ่ะ 

. 

เห็นคนบอกมีคำผิดเยอะ  ฮะฮะฮะ 

ขอบคุณที่บอกกันนะคะ เราว่าจะแก้หลายทีแล้วลืมเรื่อยเลย(และปล่อยมาเป็นปีๆ) 

พอมีคนมาบอกก็เหมือนได้ยากระตุ้นจะทยอยแก้ไขค่ะ 

อาจมีตกหล่นบ้างก็ขออภัยที่ทำให้การอ่านสะดุดเด้อค่ะ 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว