หฤทัย
ในวันวานเธอคือสาวน้อยแก่นเซี้ยวเปรี้ยวเข็ดฟัน เจ้าฉายา 'เจ้ฤทัยสายบู๊ ' เรียนดี กีฬาเด่น เน้นหวีด
อปป้า แล้วใครจะรู้ว่าวันหนึ่งเธอจะต้องกลายมาเป็น ' คุณแม่ ' ของลูกน้อยที่มีพ่อเป็นซุปตาร์ดังแถมยัง
เป็นไอดอลที่เธอกรี๊ดกร๊าดมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่ก็นั่นแหละ ความบังเอิญมันไม่มีในโลกจริงไหม?
ไบรอัน หว่อง
ด้วยความที่มีแม่เป็นนางเอกเก่า บวกกับความเป็นลูกชายคนเล็กที่ถูกใครต่อใครตามใจมาตั้งแต่จำ
ความได้ เส้นทางการเป็นศิลปินของเขาจึงเป็นไปตามความต้องการของมารดามากกว่าตัวเขาเอง แต่
โชคชะตาก็ช่างเข้าข้างไปซะทุกเรื่องเพราะไม่ว่าจะร้องเพลง เล่นซีรีส์ ก็ล้วนแต่ดังเปรี้ยงปร้างเป็นกระแส
ไปหมด งานเยอะจนลืมไปแล้วว่าการเป็นคนมีชื่อเสียงนั้นไม่ใช่ความต้องการของตัวเอง
แต่ให้ตายเถอะ!
ดวงคนมันจะดังอะนะ ทำยังไงมันก็ดังอยู่ดี (หายใจเฉยๆ ยังเป็นกระแส) แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าอยู่ๆ
ความดังและความเป็นที่นิยมจะวกกลับมาทำร้ายตัวเองเพียงเพราะผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง งานนี้ไม่รู้ว่า
ไบรอันควรจะขอบคุณหรือขอโทษผู้หญิงคนนั้นดี?
แต่ที่แน่ๆ คือเรื่องมันแบบนี้ก็ดีแล้ว...
-นีรลินท์-
บทนำ
“หรรษา ไม่เอาค่ะ ไม่เป่าข้าวนะลูก”
มือบางค่อยๆเช็คปากที่เลอะไปด้วยเศษข้าว ที่เจ้าตัวน้อยเป่าออกมาจากปากเล็กๆอย่างเบามือ ก่อนจะตักข้าวอีกคำป้อนต่อด้วยความทุลักทุเล เด็กหญิงหรรษาในวัยสิบเดือนอ้าปากรับข้าวจากผู้เป็นแม่อย่างว่าง่าย พร้อมกับยิ้มประจบไปหนึ่งทีหลังจากที่เมื่อครู่โดนคุณแม่ดุ
“ไม่ต้องมาอ้อนเลย” เด็กน้อยทำปากจู๋เมื่อรู้ว่าไม้ตายของตัวเองใช้ไม่ได้ผล
หฤทัยส่ายหัวในความแสบซนของลูกสาว ขนาดยังไม่ครบปีลูกน้อยของเธอก็ฉายแววความซนออกมา จนคนเป็นอย่างเธอเตรียมใจรอไว้ หากว่าลูกน้อยเดินได้วิ่งเร็วเมื่อไหร่ เธอต้องเหนื่อยกว่านี้มากแน่ๆ
“อิ่มแล้วเหรอ?” คุณแม่ยังสาวเอียงคอถามลูกน้อยในวัยสิบเดือน เมื่อลูกน้อยหันหน้าหนีขณะที่เธอเอาช้อนข้าวจ่อปาก แม้จะยังพูดไม่ได้แต่หนูน้อยหรรษาก็เข้าใจและรู้เรื่องในสิ่งที่ต่างๆ ตามวัย แม้ในบางเรื่องลูกสาวเธอก็อาจจะมีพัฒนาการเร็วเกินไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของเด็กในวัยเจริญเติบโต
“มา เดี๋ยวคุณแม่เช็ดปากให้นะคะ เล่นสักพักแล้วค่อยไปอาบน้ำนอนเนอะ” หฤทัยพูดคุยเสียงสองกับลูกสาว
“แอ๊ะ!” หนูน้อยหรรษาตอบผู้เป็นแม่ เมื่อร่างเล็กๆป้อมๆ ถูกปล่อยลงในคอกกั้นสำหรับเด็กที่มีเบาะรองคลานปูรองอยู่เพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวเล็ก
“รอแม่อยู่ตรงนี้ก่อนนะ” เอ่ยกับลูกสาวก่อนจะหันไปหาตะกร้าของใช้ของเจ้าตัวเล็ก “เอ...ลืมเอาเสื้อลงมาด้วยนี่นา สงสัยต้องขึ้นไปเอาเสื้อก่อนแล้วล่ะ”
บ้านที่หฤทัยและลูกสาวอาศัยอยู่เป็นบ้านสองชั้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่งแถวชาญเมือง ขับรถประมาณหนึ่งชั่วโมงจากใจกลางกรุงเทพฯ ห้องนอนของสองแม่ลูกอยู่บนชั้นสอง โดยปกติในตอนกลางวันหญิงสาวจะพาลูกไปเลี้ยงที่ชั้นล่าง พร้อมกับทำงานบ้าน และเพื่อความสะดวกและจะได้ไม่ต้องขึ้นลงบันไดบ่อยๆ เธอจึงมีตะกร้าหนึ่งใบสำหรับใส่ของใช้ของลูกน้อยในแต่ละวัน
“หืม ใครมา?” หญิงสาวเหล่มองนาฬิกาเมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น ก็เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่หฤษฎ์จะกลับมา “เราออกไปดูกันไหมคะหมูน้อย ว่าใครมา” เอ่ยพร้อมอุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมาก่อนจะเปิดประตูออกไปแล้วก็พบว่าเป็นหฤษฎ์จริงๆ
“อ้าว ทำไมวันนี้กลับเร็ว” หญิงสาวเอ่ยทักพร้อมกับเปิดประตูรั้วให้เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ขับรถเข้ามาจอด “แล้วนี่กุญแจบ้านหายอีกแล้วเหรอ?”
“เปล่า อยู่ในกระเป๋าเป้แหละ แต่ลืมเป้ไว้ที่คอนโดตอนไปเอาของ ดีนะที่ไม่ลืมกระเป๋าตังด้วย” ชายหนุ่มตอบก่อนยื่นหน้าเข้ามาหาหนูน้อยในอ้อมแขนของหญิงสาว
“นี่อย่านะ!” หฤทัยร้องบอกพร้อมเอี้ยวตัวหนีชายหนุ่ม “ไปล้างหน้าล้างมือก่อนเลย”
“แอ๊ะ!” เด็กหญิงหรรษาส่งเสียงสนับสนุน
“เออๆ ก็ได้” ชายหนุ่มหันกลับไปเลื่อนรถเข้ามายังที่จอด ก่อนจะเดินตามสองแม่ลูกเข้าไปในบ้านด้วยความกระตือรือร้น อยากเล่นกับลูกหมูในอ้อมกอดของหญิงสาว