Shot 26 : มีคนโดนแกง
.
..
…
วันถัดมา
บริษัท M Group
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตค่ะท่านประธาน วันนี้ท่านประธานมีนัด...” มีนาเข้ามายังห้องของประธานบริษัทเพื่อแจงรายละเอียดการนัดหมายให้กับท่านประธานของเธอ
“แคนเซิล” ไม่ทันให้เลขาได้พูดจบ มิวบอกแคนเซิลทันที
“เอ่อ...” มีนามีท่าทีอึกอักคล้ายกังวลใจเนื่องจากเป็นลูกค้าคนสำคัญ
“ผมบอกว่าแคนเซิล” มิวเงยหน้าจากการเซ็นเอกสารเพื่อย้ำอีกครั้ง
“ค่ะ แล้วตอนบ่าย...” มีนาถามถึงการประชุมช่วงบ่ายตามตารางที่ได้ลงนัดหมายไว้
“แคนเซิล” มิวพูดเสียงเรียบตัดบทอีกครั้งและก้มหน้าเซ็นเอกสารต่ออย่างไม่ใส่ใจ
“ค่ะ” ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเธอก็เป็นเพียงเลขา
ในจังหวะที่มีนากำลังจะเดินออกไปนั้น เก้าก็เดินเข้ามาพอดี
“อ้าว ยังไม่เตรียมตัวอีกหรอวะ จะถึงเวลานัดแล้วนะเว้ย” เก้าเข้ามาเตือนด้วยเพื่อนของเขายังไม่ลงไปเสียที ปล่อยให้เขารออยู่นานสองนาน
“กูไม่ไป วันนี้วันเสาร์กูไม่มีงาน” มิวพูดอย่างไม่สนใจพลางเซ็นเอกสารต่อ
“แต่...” ในขณะที่เก้ากำลังจะพูดต่อ
“คุณนพเก้าคะ ท่านประธานแคนเซิลนัดสำคัญทั้งหมดเลยค่ะ มีนาว่าเราบอก...” มีนาที่ยังไม่ออกไปเอ่ยบอกเก้าอย่างนึกกังวล
“เดี๋ยวผมจัดการเอง คุณไปทำงานต่อเถอะ” เก้าพูดก่อนจะบอกให้มีนาไปทำหน้าที่ของตน
หลังจากที่มีนาออกไปแล้ว
“ไอ้มิวมึงมีเหตุผลหน่อยดิวะ มึงอย่าเอาปัญหาส่วนตัวมาทำให้งานเสียดิ มึงไม่ใช่คนแบบนี้นี่หว่า” เก้าพูดด้วยน้ำเสียงซีเรียส
“กูอยากเจอกลัฟ” มิวพูดด้วยน้ำเสียงซีเรียสเช่นกันพลางเงยหน้าขึ้นมามองเก้า
“นี่มึงฟังกูอยู่หรือเปล่าเนี่ย ถ้าเป็นแบบนี้ปิดบริษัทแล้วกลับบ้านไปนอนไป” เก้าพูดอย่างคนประชดกับการกระทำของมิวที่ไม่รู้จักแยะแยะ
“กลับบ้านหรอ?” มิวพูดอย่างนึกอะไรขึ้นได้
“เออ” เก้ายังคงประชด
“ไอ้เก้า มึงสืบให้กูทีว่าบ้านกลัฟอยู่ที่ไหน” มิวพูดจุดประสงค์ของตนทันที
“ไอ้มิว!” เก้าโวย
“ไม่อย่างนั้นกูแคนเซิลงานทั้งหมด” มิวพูดเป็นเชิงขู่
“ห๊ะ นี่มันบริษัทมึงนะ ถ้ามันจะเจ๊งกูก็ไม่เดือดร้อนป่ะ” เก้าพูดอย่างงงๆกับคำขู่ของเพื่อน
“คุณมีนา” มิวต่อสายหาเลขาของเขาทันที
“เฮ้ยไอ้มิว! เอาจริงหรอวะ” เก้าพูดอย่างไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่มิวจะทำ
“แคน...” ในขณะที่มิวกำลังจะแคนเซิลงานกับเลขานั้น
“เดี๋ยวๆๆ เดี๋ยวกูจัดการให้ งอแงเป็นเด็กไปได้” เก้าเบรกมิวไว้ได้ทันพลางบ่นอุบอิบกับความเอาแต่ใจของมิว
“เร็วที่สุด” มิวพูดเสียงเรียบคล้ายบอกว่าให้ไปเดี๋ยวนี้
“เออ” เก้ารับปากก่อนจะเดินออกไป
...
..
.
ช่วงบ่าย
ห้องประธานบริษัท M Group
“เจ้ามิว” ต๋องเข้ามาหามิวด้วยความเป็นห่วงจากการรายงานของเก้า
“สวัสดีครับพี่ต๋อง มาหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” มิวเงยหน้าขึ้นมาสนใจผู้มาใหม่เล็กน้อยด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
“สวัสดีค่ะพี่มิว” มินนี่เอ่ยทักมิวด้วยรอยยิ้มสวย
“สวัสดีครับมินนี่” มิวยิ้มตอบเพียงเล็กน้อย
“เป็นอะไรหรือเปล่า ท่าทางไม่ค่อยดีเลยนะ” ต๋องถามสารทุกข์สุกดิบด้วยแอบเป็นห่วงน้องชายอยู่ลึกๆ
“ดูออกขนาดนั้นเลยหรอพี่” มิววางปากกาพลางทิ้งตัวพิงกับพนักพิงอย่างเหนื่อยล้า
“อย่าบอกนะว่ายังไม่ได้คุยกับน้องกลัฟ” ต๋องถาม
“อย่าว่าแต่คุยเลย ผมยังไม่ได้เจอกลัฟเลย น้องหนีผมไปไหนก็ไม่รู้” มิวพูดด้วยสีหน้าเครียด
“ใจเย็นๆเจ้ามิว ลองนึกดูดีดีว่าน้องน่าจะไปที่ไหน” ต๋องพูดพลางสังเกตท่าทีของมิว
“ผมไปทุกที่ที่คิดว่าน้องจะไปแล้วแต่ก็ไม่เจอ คนใกล้ตัวน้องผมก็ถามจนหมดแล้วเหลือแต่ที่บ้านน้อง ผมให้ไอ้เก้าไปสืบอยู่” มิวพูดอย่างระบาย
เสียงโทรศัพท์
บทสนทนาระหว่างเก้าและมิว
“ว่าไง บ้านกลัฟอยู่ที่ไหน” มิวเอ่ยถามทันทีที่รับสายเมื่อเห็นว่าใครโทรมา
(อยู่ฝั่งธนนี่เองมึง) เก้าตอบ
“ส่งโลมาเดี๋ยวกูออกไป” มิวพูดด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ
(ไม่ต้องมาหรอก กูมาทำธุระแถวนี้พอดีเลยแวะมา ลุงข้างบ้านเค้าบอกว่าแม่น้องกลัฟไปสมาคมที่ต่างจังหวัดกว่าจะกลับก็อาทิตย์หน้านู่นแหละมึง) เก้าพูด
“ไปที่ไหน แล้วกลัฟไปด้วยหรือเปล่า” มิวถามพลางขมวดคิ้วมุ่น
(แป๊ปนะกูถามลุงก่อน) เก้าพูดก่อนจะหันไปคุยกับลุงคนหนึ่งให้คนในสายได้ยิน
"ลุงครับ ลุงรู้จักน้องกลัฟใช่มั้ยครับ"
"เจ้ากลัฟน่ะหรอ รู้จักสิลุงเห็นตั้งแต่เด็ก"
"น้องได้ไปกับคุณแม่หรือเปล่าครับ"
"ลุงไม่แน่ใจนะ ได้ยินแต่เสียงรถดังช่วงห้าทุ่มน่ะพ่อหนุ่ม"
"ขอบคุณครับลุง"
(ได้ยินแล้วใช่มั้ยไอ้มิว) เก้าหันมาคุยกับมิวอีกครั้ง
ตรู๊ด ตรู๊ด ตรู๊ด
มิววางสายทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น
“โธ่โว้ย!” มิวทุบโต๊ะดังปังก่อนจะก้มหน้ากุมขมับอย่างเคร่งเครียดกับสิ่งที่รับรู้
“ใจเย็นก่อนเจ้ามิว” ต๋องพูดปลอบอย่างนึกสงสาร
“ฮึก น้องหนีผมไปแล้วอ่ะพี่ต๋อง” มิวร้องไห้ออกมาอย่างไม่นึกอาย
“พี่ต๋อง” มินนี่กระซิบเรียกต๋องด้วยความสงสารมิว
“ไม่เป็นไรน่ามินนี่” ต๋องกระซิบเป็นเชิงบอกให้มินนี่เงียบไว้
...
..
.
วันถัดมา
ห้องประธานบริษัท M Group
“ไอ้มิวมึงเซ็นเฮ้ย! ทำไมสภาพมึงเป็นอย่างนี้เนี่ย แล้วนั่นมึงจะไปไหน” เก้าถือเอกสารเข้ามาเพื่อจะโวยกับเจ้าของลายเซ็นต์แต่ก็ต้องชะงักกับสภาพท่านประธานตรงหน้า
“ไปประชุมที่ KS Group” มิวพูดอย่างคนไม่มีแรง
“หยุดเลย มึงกลับไปนั่งเลย เวรเอ้ย!หางานให้ตัวเองหรือเปล่าวะเนี่ยกู” เก้าพูดพลางดันมิวให้กลับไปนั่งที่เดิม
“เอายังไงดีวะ!” เก้าพึมพำอย่างคนคิดหนัก
“มึงเป็นอะไรเนี่ย กูมีประชุม” มิวเงยหน้ามองเก้าอย่างงงๆ
“กูไม่ได้เป็นแต่มึงนั่นแหละที่เป็น” เก้าพูด
“...” มิวมองหน้าเก้าอย่างขอคำตอบกับสิ่งที่เพื่อนพูด
“เอกสารที่กูให้มึงเซ็นพร้อมอนุมัติวงเงิน 2 ล้านบาท” เก้าวางบนโต๊ะตรงหน้ามิว
“กูก็เซ็นให้แล้วไง” มิวพูดพลางมองไปที่เอกสารที่มีลายเซ็นต์ของตนประทับอยู่
“ถ้าไม่ใช่กูมึงล้มละลายแล้วเพื่อน 200 ล้านบาทมึงเขียนมาได้ยังไง!” เก้าโวย
“เออ! ให้แมร่งล้มละลายตายห่าไปพร้อมกับกูนี่ล่ะ” มิวลุกขึ้นมาโวยวายอย่างคนขาดสติ
“รักเค้ามากหรอวะ” เก้าเห็นสภาพเพื่อนรักจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นลง
“กูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเค้า” มิวทิ้งตัวลงนั่งอีกครั้งด้วยอาการเหม่อลอย
“เค้าก็รักมึงมากไม่แพ้กันหรอก ตั้งสติก่อนนะเพื่อนเดี๋ยวเค้าก็กลับมา” เก้าพูดอย่างปลอบโยนด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องมาปลอบกู” มิวพูด
“งานวันนี้เดี๋ยวกูเคลียร์ให้” เก้าพูด
“...” มิวมองหน้าเก้าอย่างคิดว่าตนหูฝาด
“ไม่ต้องขอบใจกู เอ้อ...คืนนี้ไอ้สิงนัดตี้นะ” เก้าพูด
“กี่โมง” มิวถามด้วยอารมณ์ที่อยากดื่มให้ลืมกับฝันร้ายที่กำลังเกิดขึ้น
“เวลาเดิม” เก้าพูดก่อนจะออกไปจัดการเรื่องงานต่างๆที่มิวไม่สามารถทำได้ในขณะนี้
...
..
.
Uptown vvip club
“ไอ้มิว มึงจะแดกแบบนี้แต่หัววันไม่ได้นะเว้ย” เกรทมองมิวอย่างอึ้งๆที่มาถึงก็ดื่มเอาๆแบบไม่พูดไม่จา
มิวตอกย้ำคำตอบเกรทด้วยการกระดกเหล้าเข้าปากอีกครั้ง
“พี่มิวพอก่อน” คริสเอ่ยพลางจับแก้วเหล้าออกจากมือมิวด้วยความเป็นห่วง
“ชวนพี่มาตี้ไม่ใช่หรอ จะมาห้ามพี่ทำไม” มิวมองหน้าคริสพลางดึงแก้วเหล้าคืนกลับมาและดื่มต่อ
“แต่ถ้ามึงจะกินไม่พูดไม่จาแบบนี้ ซื้ิอไปนั่งกินที่ห้องคนเดียวไป” สิ่งโตพูดประชดเมื่อมิวไม่ฟังใครทั้งสิ้น
“ไล่กูหรอ เออ! กูไปก็ได้” ด้วยอารมณ์อ่อนไหวมิวทำท่าจะลุกออกไป
“พี่สิง!” คริสหันมาเอ็ดสิงโต
“เฮ้ยๆๆ ไอ้สิงมันก็แค่เป็นห่วงมั้ยล่ะมึง” เก้าจับแขนมิวไว้
“เฮ้อออ กูคิดถึงกลัฟอ่ะ ฮึก” มิวทิ้งตัวลงนั่งอีกครั้งพร้อมทั้งน้ำตาที่รื้นขึ้นมา
“คนกำลังโกรธให้เวลาเค้าสักพักนะพี่มิว” คริสพูดปลอบ
“ฮึก อีกนานแค่ไหนอ่ะคริสเค้าถึงจะกลับมา แล้วเค้าจะกลับมาหาพี่มั้ย แล้วตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหนทำอะไรกับใคร แล้วเค้าจะคิดมากมั้ยเค้าจะเสียใจหรือเปล่า ฮึก” มิวเพ้อออกมาด้วยน้ำตาที่ไหลริน
ทุกคนได้แต่หันไปมองหน้ากันกับอาการเพ้อของมิวด้วยความสงสาร
“ศพไม่สวยแน่กู” เกรทพึมพำถึงพายุที่คงจะโหมกระหน่ำหากเจ้าตัวรับรู้ความจริง
...
..
.
วันถัดมา
9 a.m.
บริษัท M Group
“ไอ้มิวมึงจะไปไหน” เก้าถามขึ้นในขณะที่กำลังจะเดินเข้าลิฟต์ที่เปิดออกแต่บังเอิญเจอมิวอยู่ในนั้น
“ไปมหาลัย วันนี้กลัฟมีเรียน 10 โมง” มิวพูด
“เอ่อ... กูไปด้วย” เก้าพูดอย่างคนเลิ่กลั่ก
“...” มิวมองหน้าเก้าอย่างงงๆ
“ก็กูเป็นห่วงมึงอ่ะ ดูสภาพมึงดิจะขับรถไหวหรอวะ” เก้าพูด
“ตามใจ” ด้วยความขี้เกียจเถียงมิวจึงตอบอย่างขอไปที
...
..
.
มหาวิทยาลัย
“อ้าวพี่มิวพี่เก้า สวัสดีครับ” มายด์เอ่ยทักทันที่ที่เห็นทั้งสองเดินตรงเข้ามา
“กลัฟมาเรียนหรือเปล่า” มิวเอ่ยถามทันที
เก้าที่ยืนเยื้องไปด้านหลังมิวรีบส่งซิกส์ให้ไบรท์
“อ๋อ แม่...” ในขณะที่มายด์กำลังจะพูดนั้น
“ปกติมันน่าจะมาถึงแล้ว ผมว่าวันนี้มันคงไม่เข้า ยังไม่เจอกลัฟอีกหรอครับ” ไบรท์พูดแทรกพลางเอ่ยถามต่อ
“อืม... กลัฟไม่ติดต่อมาบ้างเลยหรอ” มิวถาม
“ก็...” ในขณะที่ไบรท์กำลังจะตอบ บทสนทนาในหัวของเขาก็ผุดขึ้นมา
"ไอ้ไบรท์กูเองนะ"
"อ้าว อยู่กับแม่เหรอ"
"เออ แม่กูตกบันได กูรีบจนลืมหยิบโทรศัพท์มา"
"แล้วแม่มึงเป็นยังไงบ้าง"
"ไม่เป็นไรแล้ว ฝากลาอาจารย์ให้กูด้วยนะ"
"ได้ แล้วมึงจะกลับมาวันไหน"
"วันอังคาร เอ้อไอ้ไบรท์... กูฝากบอกพี่มิวหน่อยดิ กูจำเบอร์เค้าไม่ได้อ่ะไม่รู้จะติดต่อยังไง"
“มันไม่ได้ติดต่อมาเลยครับ” ไบรท์ตอบ
“อืม” มิวพยักหน้าอย่างคนหมดอาลัยตายอยากก่อนจะเดินออกไป
“เล่นอะไรกันเนี่ยพี่” ไบรท์เอ่ยถามเก้าทันทีที่มิวเดินออกไปแล้ว
“พี่ต๋องอ่ะดิ จะดัดนิสัยน้องชาย” เก้าพูด
“จะพาลซวยกันหมด ผมไม่อยากจะนึกภาพตอนที่พี่มิวรู้ความจริงเลย” ไบรท์โวย
“เอาน่า ไม่ได้โดนคนเดียวหรอก” เก้าพูด
“เฮ้ยพี่! ผมไม่เกี่ยว” ไบรท์รีบออกตัว
“เออๆ พี่ไปก่อน” เก้าพูดก่อนจะรีบเดินตามมิวออกไป
“เรื่องอะไรกันวะ” มายด์ถามไบรท์อย่างคิดไม่ทัน
“มึงนี่นะ” ไบรท์ส่ายหัวให้กับเพื่อนก่อนจะเดินชิ่งหนีไปเรียน
“เอ้าเฮ้ย กลับมาเล่าให้กูฟังก่อน” มายด์ตะโกนก่อนจะเดินตามไบรท์ไป
...
..
.
ห้องรองประธาน ณ บริษัท M Group
บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างเก้าและต๋อง
“สวัสดีครับพี่ต๋อง” เก้ารับสาย
(เจ้ามิวเป็นยังไงบ้าง) ต๋องเอ่ยถาม
“แย่อย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยครับพี่ ผมว่าเราควร...” ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนเก้าจึงเสนอที่จะบอกมิวเรื่องกลัฟ
(พรุ่งนี้กลัฟก็กลับมาแล้วไม่ใช่หรอ ฝากดูมันหน่อยก็แล้วกัน) ต๋องพูดตัดบท
“ครับพี่” เก้ารับคำ
จบบทสนทนา
“เป็นพี่น้องกันจริงหรือเปล่าวะเล่นแรงชิบหาย แล้วกลัฟก็เหมือนรู้เนอะ จังหวะเข้าใจผิด แม่ตกบันได กลับบ้านกะทันหันแถมยังลืมโทรศัพท์อีก เฮ้อออ”
“จังหวะนรกอย่างกับนิยายน้ำเน่าหลังข่าว”
เก้าบ่นพึมพำอยู่คนเดียวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างบังเอิญเกินไป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณนพเก้าคะท่านประธานหมดสติค่ะ!” มีนาวิ่งเข้ามาด้วยอาการกระหืดกระหอบเพราะเป็นห่วงท่านประธานของเธอ
“ห๊ะ!” เก้าตกใจพลางรีบขึ้นไปยังห้องประธานบริษัททันที
...
..
.
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
เก้าต่อสายหาคนคนหนึ่ง
(สวัสดีค่ะ) ปลายสายเอ่ยรับด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ขอโทษที่โทรมารบกวนนะครับ น้องกลัฟอยู่มั้ยครับ” เก้าพูดกับปลายสายด้วยน้ำเสียงที่สุภาพเช่นกัน
(อยู่ค่ะ) ปลายสายเอ่ยก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้กลัฟ
(สวัสดีครับ) กลัฟเอ่ยทักคนในสาย
“น้องกลัฟ พี่เก้านะครับ” เก้าพูด
(ครับ) กลัฟตอบรับ
“ไอ้มิวหมดสตินอนอยู่โรงพยาบาล” เก้าพูด
(ห๊ะ! เกิดอะไรขึ้นครับ) เสียงจากปลายสายตกใจอย่างมากคล้ายกับไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้รับรู้
“คือ...” เก้าชะงักเล็กน้อยเพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน
...
..
.
... โปรดติดตามตอนต่อไป...
นั่นไง... ฉันว่าแล้วว่ามีการรวมหัวกัน แต่เล่นแรงมากเลยนะเนี่ยสงสารพี่มิววว(มีอยู่ตอนนึงที่พี่ต๋องบอกว่าจะดัดนิสัยน้องชายตัวดีจำกันได้มั้ยคะ ถ้าไม่ได้กลับไปย้อนดูน้าาา)
ขอบคุณที่อ่านนะคะ
Twitter : @MinotoMG
...จากตอนที่แล้ว...
คุณ [Pantita] : ว้าว มาคนแรกเลย ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
คุณ [ple] : หืมมม เดาเรื่องผิดแล้วหนึ่ง อิอิ
คุณ [nippychen] : ถ้าอ่านถึงตอนนี้ เค้าว่าไม่มีอะไรต้องเคลียร์น้าา มีแต่คิดบัญชีกับคนสุมหัว ฮ่าๆๆ
คุณ [Ta] : ไม่น้าา เค้าผิดอายัย ฮ่าๆๆ
คุณ [S.] : อีโมน่าร้ากกก มาต่อแล้วน้าา
คุณ [สุจิตรา ปุริมาตร] : คนที่เข้าใจผิดคือพี่มิวนั่นเอง ฮ่าๆๆ แนวเดียวกับธารไทป์เหรอ อืมมม...แนวเดียวกันมั้ยหว่า อ่า...ไม่รู้เหมือนกันค่า ฮ่าๆๆ
คุณ [คนสวยมาดูแมวที่หัองพี่ไหมจ๊ะ] : ตะเอง หายไปไหนหว่าอ่านถึงไหนแย้ววว อิอิ