:คนที่ไม่มีใครต้องการ
15ปีก่อน
"คุณทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงคุณก้องเกียรติทำได้ยังไง!!!" หญิงสาววัยกลางคนแผดร้องสุดเสียงมองชายที่ตนรักนักหนาอย่างเจ็บปวด
"ผมจะไม่ขอโทษคุณนะทัศนีเพราะคุณก็รู้ดีว่าเพราะอะไร" ชายที่ขึ้นสถานะว่าสามีมองภรรยาตีทะเบียนอย่างเธอด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย
"ใช่สิ!ฉันจะพูดอะไรได้...เมียที่นอนกอดทะเบียนสมรสอย่างฉันจะทำอะไรได้…” ทัศนียังคงประชดประชันเธอรู้แก่ใจดีว่าการแต่งงานระหว่างเราทั้งสองมันไม่ได้เริ่มต้นจากความรัก
คงมีแต่เธอที่ทั้งรักทั้งเทิดทูนสามี
"ตาต้นจะอยู่กับผมที่นี่" ทัศนีมองก้องเกียรติที่ดึงตัวเด็กชายวัยประถมเข้าไปโอบกอด
"ไม่มีทาง! ลูกมาได้อีกไม่นานคุณก็ต้องพาแม่มันมาร้ายนักนะนังอัปสร" ทัศนีเคียจแค้นมองเด็กน้อยที่ถอดแบบมารหัวใจของเธอมาทุกกระเบียด
"อย่าเรียกแม่ผมแบบนั้นนะ" เด็กน้อยโต้แย้งด้วยท่าทางอวดดียิ่งเพิ่มทวีความเกลียดชังให้ทัศนีเข้าไปใหญ่
"ทำไมฉันจะเรียกไม่ได้แม่แกมันแย่งผัวฉันแกมันก็ลูกเมียน้อย!"
"หยุดนะทัศนี!” ก้องเกียรติตวาดภรรยา
หญิงสาวหน้าชาไปไม่เป็นน้อยใจที่สามีเห็นเด็กกาฝากนั้นดีกว่าแต่ก็ต้องฝืนเป็นคนเก่งแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร
"ฉันไม่หยุด!ฉันพูดความจริง!"
"งั้นพรุ่งนี้ก็เตรียมตัวเซ็นใบหย่า"
"ฉันไม่เซ็น! ฉันไม่ยอมหย่ากับคุณเด็ดขาดฉันไม่ยอมให้นังอัปสรเข้ามานั่งชูคอในบ้านฉัน นอนเตียงฉันแล้วก็เรียกคุณว่าผัวอย่างเต็มปากหรอกนะ!"
“นี่มันบ้านผมทัศนี… ถ้าไม่อยากไปจากที่นี่ก็เลิกบ้าซะทีตราบใดที่คุณยังผลาญเงินในบัญชีผมไปกับกระเป๋าแบรนด์เนมและเครื่องเพชรพวกนั้นคุณต้องฟังผม ตาต้นจะอยู่กับเราที่นี่ในฐานะลูกชายคนเดียวของเรา”
“ฝันไปเถอะค่ะ” ทัศนีลุกหนี
“เดี๋ยวก่อนผมยังพูดไม่จบ คุณต้องรับตาต้นเป็นบุตรบุญธรรม”
"ฉันไม่เซ็น! ไม่มีทาง!"
เธอต้องเป็นบ้าแน่ๆ ถ้ายอมให้ลูกชู้มาเป็นลูกตัวเองแม้แต่หน้ามันเธอก็ไม่อยากจะมองหายใจร่วมกันเธอก็รังเกียจ
"คุณต้องเซ็น" ก้องเกียรติย้ำ
"ไม่!"
"ฟังนะทัศนี...อัปสรตายแล้ว...เห็นแก่ผมและสงสารเด็กตาดำๆรับตาต้นเป็นลูกบุญธรรมซะ คุณเองก็มีลูกไม่ได้ถือซะว่าตาต้นเป็นลูกชายของคุณก็แล้วกัน" ทัศนีย์เจ็บปวดกับถ้อยคำหว่านล้อมของสามี
เขาลืมไปหรือเปล่าว่าเธอมีลูกไม่ได้เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะแม่ของเด็กคนนี้หรอกเหรอที่ทำให้เธอต้องสูญเสียทุกอย่าง
"อะไรๆมันก็ดูง่ายไปหมดเลยนะสำหรับคุณ...คิดถึงใจฉันบ้าง ฉันจะต้องเสียสละอีกสักเท่าไหร่เพื่อให้คนที่คุณรักอยู่เชิดหน้าชูตาสุขสบายจนมันมาย่ำยีศักดิ์ศรีและหัวใจฉัน" ทัศนีน้ำตารื้น
"....." ก้องเกียรติถอนหายใจยาว
"แม่มันตายก็สมควรแล้วคนชั่วๆแบบนั้นทำไมฉันต้องสงสารลูกมันด้วยล่ะ!"
"ทัศนี!....ที่คุณกำลังพูดถึงนี่คือลูกชายผมนะ!" ก้องเกียรติไม่พอใจ "อย่าบีบให้ผมต้องเลือกระหว่างคุณกับตาต้น...ไม่ต้องบอกคุณก็น่าจะรู้คำตอบดี"
ทัศนีร้องไห้ออกมา… สะอึกสะอื้นราวกับว่าสูญเสียแล้วทุกอย่างเธอแพ้แม้กระทั่งคนที่ตายไปแล้ว ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหน
สุดท้ายสามีก็ไม่เคยรักเธอ
ทัศนีลืมตาตื่นพร้อมน้ำตาที่อาบแก้มทำไมเธอถึงฝันถึงเรื่องเมื่อสิบห้าปีก่อนได้นะ
ต้องเป็นลางร้าย
การฝันเห็นลูกชายนอกสายเลือดไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ หญิงสูงว่ารีบลุกขึ้นจากเตียงเป็นจังหวะเดียวกับที่พี่อิ่ม เปิดประตูเข้ามา เธอมองคนเก่าคนแก่ ที่ติดสอยห้อยตามกันมาตั้งแต่แต่งงาน
พี่อิ่มเป็นทุกอย่างสำหรับทัศนี
“คุณผู้หญิงร้องไห้ทำไมคะ”
“ฉันฝันร้ายนะพี่อิ่ม ฝันถึงนังอัปสร ผ่านมาหลายปีแล้วยังตามมาหลอกหลอนฉันอยู่นั่น”
“โถ…คุณผู้หญิง”
“ถ้าไม่มีมันตาหนูของฉันก็…”
"เธอก็ไปชดใช้กรรมในนรกแล้วไงคะอย่าคิดถึงเรื่องนี้เลยค่ะอิ่มว่าคุณผู้หญิงไปรับอาหารเช้าดีกว่าค่ะ"
"คุณก้องล่ะ?"
“กลับมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ”
"งั้นพี่อิ่มไปบอกเด็กให้ตั้งโต๊ะเผื่อคุณก้องด้วยนะ"
"ได้ค่ะ" นางอิ่มลุกออกไป
ทัศนีทำธุระส่วนตัวเช็คความเรียบร้อยในกระจกก่อนออกจากห้อง เดินตรงไปยังห้องนอนรับรองแขกค่อยๆเปิดประตูอย่างเบามือมองคนที่เธอเรียกว่าสามีที่ยังคงหลับสนิท
ทั้งสองคนแยกห้องนอนกันตั้งแต่28ปีก่อนตอนที่ทัศนีจับได้ว่าสามีนอกใจไปมีผู้หญิงอื่น แต่คำตอบที่ได้รับจากคุณก้องมันไม่ใช่คำขอโทษหรือความสำนึกเสียใจ เขาหยิบยื่นความจริงอันโหดร้ายว่าเธอคือผู้มาทีหลังถ้าหากคุณแม่เขาไม่บังคับให้แต่งงานกับเธอเขาก็จะได้แต่งงานกับอัปสรผู้หญิงคนเดียวที่เขาหวังจะได้เป็นภรรยา
เพราะคำสารภาพที่ไม่รักษาน้ำใจทำให้ทัศนีบุกไปเอาเรื่องอัปสร
เราทั้งคู่มีปากเสียงกันมีการฉุดกระชากใช้กำลังและนั่น…ทำให้เธอเพี้ยงพล้ำถูกอัปสรผลักลงไปกลางถนน
ทัศนีตื่นมาพบกับความสูญเสียข้อแรกเธอเสียสามีให้คนอื่น ข้อสองเสียลูกในท้องโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่ากำลังจะได้เป็นแม่คนข้อสุดท้ายเธอเสียอวัยวะสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถมีลูกได้อีก
ความน้อยเนื้อต่ำใจทำให้ทัศนีขอแยกห้องทันทีที่กลับมาพักฟื้นที่บ้านแอบหวังลึกๆว่าสามีจะมาง้อหรือเอ่ยคำขอโทษเธอสักครั้ง
แต่มันก็กินเวลายาวนานจวบจนทุกวันนี้
เธอไม่เคยได้รับคำขอโทษสักครั้งแม้จะปวดใจแต่ก็ยังคงทำหน้าที่ภรรยาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เตรียมชุดให้สามีแล้วออกจากห้องไปเงียบๆ
โต๊ะทานข้าว
ทัศนีจัดแจงดูแลความเรียบร้อย อคอยให้คุณก้องลงมาทานอาหารเช้าพร้อมกัน
"สวัสดีครับแม่ใหญ่" เสียงเด็กหนุ่มที่ไม่ค่อยจะคุ้นเคยทำเอาทัศนีนึกแปลกใจ
แต่เพราะคำว่า 'แม่ใหญ่' ที่ผู้ชายร่างหนาผิวพรรณหน้าตาดูดีเรียกขานเธอก็ทำให้เธอไม่เครงใจอีกต่อไป
"แกกลับมาทำไม" ทัศนีชักสีหน้ามองลูกเลี้ยงที่ไม่ได้เห็นหน้ามานับสิบปี
ตั้งแต่เธอยอมเซ็นรับเด็กกาฝากนี่เป็นลูกบุญธรรมคุณก้องก็ส่งมันไปเรียนเมืองนอกไม่เจอกันนาน…
จนทัศนีคิดว่ามันจะไม่กลับมา
"ช่างเป็นคำต้อนรับลูกชายที่น่าฟังมากครับแม่ใหญ่" อนภัทรยิ้มบางๆอย่างไม่รู้สากับคำพูดที่อีกฝ่าย
เขาชินชากับความเกลียดชังที่ได้รับมาเป็นมรดกตกทอดต่อจากมารดาและรู้ว่าจะรับมือกับผู้หญิงวัยทองอย่างทัศนีแบบไหน
"ฉันไม่มีลูก...โดยเฉพาะแกฉันยิ่งไม่ต้องการกลับมาทำไมยะ ทำไมไม่ตายอยู่ที่อังกฤษ"
"แหม...ผมก็อกตัญญูแย่สิครับผมไม่ตายง่ายๆหรอกครับยังไงก็ต้องให้เกียรติแม่ใหญ่ตายก่อน...อย่านานนะครับผมไม่ชอบรอ" อนภัทรยิ้ม
"ไอ้ต้น!...แกไอ้เด็กเหลือขอ...แก!"
"อ๊ะๆ...ระวังเส้นเลือดในสมองจะแตกเอานะครับ อย่าโมโหๆ" อนภัทรส่งยิ้มยียวนกลับไปให้อีกครั้งยิ่งทำให้ทัศนีโกรธจนตัวสั่นอยากจะหยิบฉวยอะไรใกล้มือคว้างใส่
"แกเข้ามาทำอะไรในบ้านฉัน ออกไปเลยนะ!"
"ผมบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาตั้งไกลจะไล่กันแล้วเหรอครับ"
"นี่มันบ้านฉันไสหัวไปเรือนขาวเลยไป...ที่ซุกหัวนอนแกอยู่ที่นั่นฉันขี้เกียจให้เด็กมันต้มน้ำร้อนมาล้างเสนียดแกที่ติดบ้านฉัน"
"ไหนๆก็ต้องล้างอยู่แล้วงั้นผมก็ขอใช้สิทธิ์ให้เต็มที่หน่อยแล้วกันนะครับ" อนภัทรเดินมาเลื่อนเก้าอี้หัวโต๊ะ เขานั่งลงพร้อมกับตักข้าวต้มร้อนๆเข้าปากอย่างสบายใจ
"หยุดนะนั่นมันข้าวต้มของคุณก้อง วางช้อนลงเดี๋ยวนี้" ทัศนีโวยวาย
ก้องเกียรติได้ยินเสียงทัศนีมาแต่ไกลไม่ต้องบอกเขาก็เดาได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุ
ตาต้นคงกลับมาถึงแล้วสินะ
"โวยวายอะไรกัน" ก้องเกียรติปรามขณะเดินเข้ามาในห้องทานข้าว
"ถามลูกคุณเองแล้วกัน กลับมาถึงก็กวนประสาทฉันซะแล้ว" ทัศนีน้อยใจที่ถูกสามีตำหนิ
"สวัสดีครับคุณพ่อ" อนภัทรลุกขึ้นหันไปประนมมือไหว้ทำเอาทัศนีมองค้อน
"ไงไอ้แสบ!...มานี่ก่อนพ่อมีเรื่องจะคุยด้วย" ก้องเกียรติตบบ่าลูกชายก่อนจะเข้ามากอดคอพากันเดินออกไปที่ห้องทำงาน “ล็อคประตูด้วย” เขาบอกลูกชายก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา "ไหนว่าจะมาเดือนหน้า...แต่กลับมาก็ดีแล้วล่ะไปอยู่ที่นู่นตั้งหลายปีพ่อคิดถึง"
"ขอโทษครับผมทำให้พ่อเป็นห่วง" ชายหนุ่มยกมือไหว้ผู้เป็นพ่ออีกครั้ง ก้องเกียรติตบบ่าลูกชายเบาๆก่อนจะสวมกอดให้หายคิดถึง
ทุกครั้งที่มองหน้าลูกชายหัวใจของเขามันก็ปวดหนึบเมื่อคิดถึงผู้ให้กำเนิดที่จากไป อนภัทรมีส่วนคล้ายอัปสรอยู่มาก
ยามที่มองเขาก็ยิ่งคิดถึงคนรักที่จากไป
"ไหนบอกว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะไม่กลับถ้ายังหาเธอไม่เจอ" ก้องเกียรติกำลังพูดถึงเด็กสาวที่อนภัทรตามหา
ไม่ใช่รักแรกพบหรือความทรงจำแสนหวานอะไรอย่างนั้น เธอคือลูกสาวของสุธีคนที่อนภัทรกาหัวให้เป็นศัตรูอันดับหนึ่ง
"เธอ…กลับมาแล้วครับ" อนภัทรกำมือแน่นเมื่อนึกถึงแก้วกันยา
"พ่อรู้ว่าไม่ควรพูดแต่พ่อก็อยากจะเตือนสติต้นอีกครั้ง อย่าเอาชีวิตเราไปผูกใจเจ็บกับใครเลยมันจะกลายเป็นบ่วงที่กักขังพันธนาการเราเอาไว้ เวรกรรมที่เขาทำยังไงก็ต้องชดใช้ไม่ชาติหนี้ก็ชาติหน้าปล่อยวางซะเถอะนะเรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้ว" ก้องเกียรติพูดเตือนสติลูกชายอีกครั้ง
"ตราบใดที่ผมยังตื่นมากลางดึกเพราะฝันถึงแต่เรื่องวันนั้นผมไม่มีวันหยุดครับพ่อ คนพวกนั้นต้องชดใช้กับสิ่งที่ทำกับแม่กับผม" อนภัทรยังยืนยันความตั้งใจเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ก้องเกียรติมองลูกด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ไม่อาจทัดทานอะไรได้ เขาเข้าใจดีว่าตาต้นรู้สึกเช่นไรตอนที่ได้รู้ความจริงเขาก็ร้อนเป็นไฟเช่นกันอยากล้างแค้น อยากเอาคืนสุธีให้สาสมแต่พอดึงสติได้ก็คิดว่ามันไม่คุ้มถ้าสุธีเป็นอะไรไปลูกสาวที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องมาร่วมรับเคราะห์กรรม
เด็กคนนั้นไม่ควรกำพร้าพ่อเหมือนตาต้นที่ไม่ควรกำพร้าแม่
เขาเลยปล่อยผ่านและหวังว่าสักวันเวรกรรมจะตามทันแต่ตาต้นไม่คิดแบบนั้นลูกชายเขายังจมอยู่กับอดีตที่เจ็บปวดและขับเคลื่อนชีวิตด้วยความแค้น