คำชี้แจง 

นิยายเรื่องนี้มีฉากโรมานซ์อีโรติก เหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป 

คำว่า รักซึมร้าย เป็นคำประดิษฐ์ที่เอลยาสร้างขึ้นเป็นคนแรก  

(มกราคม 2564 ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนหน้านี้)  

นักเขียนให้ความหมายรักซึมร้ายนี้ว่ามันคือ ขั้นกว่าของรักซึมลึก หรือ รักซึมลึกยกกำลังสองนั่นเองค่ะ) 

***** 

 

ฟาริศ ศิริวรพัฒน์ อัลบิโน ชายหนุ่มรูปหล่อลูกครึ่งไทย-อิตาเลียน  

มาด สุขุม รุ่มร้อน ปากคอเราะร้าย ความฮ็อตทะลุปรอท วัย 32 ปี  

เขาเป็นทายาทเจ้าของธุรกิจโรงแรมและที่ดิน เขาเก่ง เขาเท่ เขาร้ายลึก และเขาร้ายกาจ ยี่ห้อฟาริศนั้นเพลย์บอยเรียกป๋า การันตีด้วยจำนวนคู่ควงที่เปลี่ยนหน้าทุกอาทิตย์ มาดแมนเชื่อมั่นเต็มไปด้วยพลังร้อนแรงเร้าอารมณ์แห่งบุรุษเพศ เสน่ห์ร้อนฉ่าทุกองศา สาวๆ เห็นเป็นทุรนทุรายอยากจะวิ่งเข้ามาซบอกกว้างที่มีขนสีน้ำตาลนุ่มของเขาราวกับมีพลังแม่เหล็กดึงดูด โอกาสขึ้นเตียงกับเขานั้นอาจจะไขว่คว้าได้ไม่ยากถ้าหากสวย เอ็กซ์ เซ็กซี่ เร็ตกระฉูด... แต่โอกาสที่จะเลื่อนปรู๊ดไต่เต้าหรืออาจใช้เต้าไต่ขึ้นมาเป็นเจ้าของหัวใจนั้น... เท่ากับติดลบ 18 เพราะมารดาได้หาผู้หญิงที่เพียบพร้อมและคู่ควรเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว สาวสวยหมวยเอ็กซ์ที่ผ่านเข้ามาในเส้นทางจึงเข้าถึงได้แค่เตียงกว้างยามที่เขาเกิดความกระสันอยากและต้องการปลดปล่อยอารมณ์กามตัณหาเท่านั้นเอง 

***** 

 

เป้... ปริสา ดุริยพงศ์ หญิงสาวสวยน่ารักวัย 22 ปี  

หล่อนเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่เมื่อหล่อนยังเล็ก ตอนอายุสิบสองปีพี่ชายเพียงคนเดียวที่เลี้ยงหล่อนมาก็ถูกแทงตายในผับเนื่องจากเข้าไปรับมีดแทนเพื่อนรักของเขา พี่ชายได้สั่งเสียฝากฝังหล่อนเอาไว้กับเพื่อนคนนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

***** 

คำโปรย 

ร่างเพรียววิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในลิฟต์หลังจากได้ยินเสียงเอ็ดตะโรลั่นมาในโทรศัพท์ เจ้าของเสียงกำลังอารมณ์บ่จอยเป็นอย่างยิ่งอยู่ในห้องพักส่วนตัวชั้นยี่สิบของโรงแรมห้าดาวที่ตนเป็นเจ้าของ  

ห้องที่หญิงสาวกำลังขึ้นไปนี้มีลักษณะเป็นห้องชุดรอยัลสวีท สุดหรู มีสองห้องนอน ห้องนอนใหญ่เป็นห้องส่วนตัวของเจ้านายใหญ่ยามที่ต้องมาค้างที่นี่ อีกห้องเป็นห้องนอนขนาดเล็กกว่าหน่อย เอาไว้สำหรับพาสาวๆ มาหาความสำราญ ด้านนอกมีห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาชุดใหญ่วางอยู่ เมื่อไปถึงเจ้าตัวก็ยกมือขึ้นเคาะประตูสองครั้งก่อนจะผลักเข้าไปทันทีโดยไม่ต้องรอให้เจ้าของห้องอนุญาต 

"ทำไมช้านัก!" เสียงห้าวตวาดใส่ทันทีที่เห็น  

ปริสามองร่างสูงที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่าง โชว์แผงอกกว้างที่มีขนอุยอ่อนสีน้ำตาลเรียงเป็นแนวเส้นหายเข้าไปตรงขอบผ้าเช็ดตัว ปริสาบังคับสายตาไม่ให้มองต่ำลงไปกว่านั้น หญิงสาวรีบเงยขวับขึ้นมองใบหน้าหล่อ 360 องศาของฟาริศ ศิริวรพัฒน์ อัลบิโน  

"โห ช้านิดเดียวเอง เป้ต้องนั่งมอไซค์ไปซื้อที่ร้านตรงปากซอยโน่นแน่ะ... ได้มาแล้วค่ะ แต่..."  

เสียงใสรีบโต้ตอบปนเสียงหอบเหนื่อยเพราะวิ่งมา รีบยื่นกล่องในมือให้เจ้าของห้อง คนตัวสูงกระชากไปอย่างเร็วด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างแรง ก้มอ่านลวกๆ ผมดกหนาสีน้ำตาลเข้มหล่นมาปรกหน้าผาก คิ้วหนาเป็นปื้นขมวดเข้าหากันเมื่ออ่านเสร็จ 

"มันผิดไซส์นี่เป้"  

เขาเอ่ยเสียงเข้มขุ่น เงยหน้าขึ้นมามองคนซื้อด้วยสายตาตำหนิอย่างไม่แคร์จะปิดบัง เจ้าหล่อนรู้ดีว่าน้องชายของเขามันไซส์ยุโรปตามหุ่นสูงเกินมาตรฐานชายไทยของเขา สายเลือดไทย-อิตาเลียนเข้มข้นของฟาริศ ศิริวรพัฒน์ อัลบิโนต้องไซส์ 56 เท่านั้นจึงจะรับมือไหว 

"ไซส์ 56 มันหมดค่ะ เป้เลยเอานี่มาให้ เล็กไปนิด แฮ่ะ..." เอ่ยพลางยิ้มกระเรี่ยกระราดและทำตาปริบปรอยอย่างขอโทษขอโพย 

"อ้อ! กลิ่นสตรอเบอรี่ก็ไม่มีเลยเอากลิ่นกล้วยหอมมา เล็กนิดแต่เขาว่ามันยืดได้นี่คะ" เจ้าหล่อนพูดต่อเสียงแจ๋วๆ ยกมือขึ้นปาดเหงื่อเม็ดโป้งตรงหน้าผากและขมับ ผมยาวมัดหางม้ายุ่งเหยิงเพราะนั่งมอเตอร์ไซค์มาเพื่อให้ทันใจจอร์จ 

"จะบ้ารึไง ไซส์ฉันต้อง 56 เท่านั้น... ขืนใช้ไซส์เล็กก็แตกกันพอดี! ฉันยังไม่อยากทำใครท้อง!"  

"คุณก็ใส่สองอันซีคะ ถ้ากลัวแตก" 

รีบแนะนำต่อให้หน้าตาเฉย คำพูดคำจาเหมือนเป็นผู้ชำนาญการเฉพาะกิจในเรื่องนี้ ฟาริสมองใบหน้านวลใส ดวงตาโตเปลือกตาสองชั้นคมชัดมีขนตายาวงอนกะพริบปริบๆ ปากอิ่มสีเรื่อเผยอเล็กน้อยแบบลุ้นๆ ว่าเขาจะตอบว่าอย่างไร ชายหนุ่มโยนกล่องถุงยางกลับไปให้ เจ้าหล่อนสะดุ้งโหยงและรีบยกมือขึ้นรับแทบไม่ทัน 

"อุ๊ย!" 

"เด็กบ้า... โง่แล้วยังอยากนอนเตียง! ใส่สองอันก็เลือดคั่งหน้าเขียวกันพอดีสิ!" คำด่าตรงๆ อย่างที่คนใกล้ชิดรู้ดีว่าเขาปากจัดและด่าเป็นไฟได้หลายภาษายามโมโห คนถูกด่าว่าโง่ก็ยิ้มเจี๋ยมเจี้ยมตามสเต็ปและสไตล์ ประสาคนโดนดุเป็นประจำจนชิน มือเรียวเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะตาโตทำท่านึกออก 

"อ้อ! ถ้างั้นก็หลั่งข้างนอกเอาซิคะ หรือว่าทำออรัลเซ็กส์ให้พอประทังคลายกำหนัดไปก่อนก็ได้นี่นา เอ๊ะ!... คงไม่ได้มั้ง เพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงของคุณริศตรวจเลือดมารึยัง อาจไม่สะอาดและมีเชื้อไม่พึงประสงค์อยู่ คงจะ อืม... ทำไม่ได้"  

คำแนะนำเพิ่มเติมพร้อมกับสีหน้าครุ่นคิดหาทางให้ด้วยความหวังดีนั้นทำให้ฟาริศอึ้งกิมกี่ก่อนจะหน้าแดงเถือกทันตาเห็น ถลึงตาใส่เด็กในปกครองอย่างเหลืออด 

"กรี๊ด! อั๊ย...พูดออกมาได้หน้าไม่อายนะหล่อน! อั๊ย...ฟาริศขา เมย์ทนฟังไม่ด๊าย ไล่แม่นั่นออกไปเถอะค่ะดาร์ลิ้ง"  

เสียงกรี๊ดและเสียงด่าดังจากห้องนอนภายใน เป็นเสียงผู้หญิงคนล่าสุดที่เขาหิ้วติดมือมาด้วยจากปาร์ตี้บนเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา เวลานี้เจ้าหล่อนกำลังนอนรออยู่บนเตียงใหญ่ในห้องสำราญ ประตูห้องที่เปิดทิ้งเอาไว้จึงทำให้ได้ยินบทสนทนาทุกคำระหว่างเขากับคนรับใช้ประจำตัว 

ฟาริศส่ายหน้า ดวงตาคมกล้าจ้องมองเด็กในอุปการะที่กำลังทำคอย่นกับเสียงกรี๊ดของนางแบบสาว ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าไปใกล้แล้วยกมือไปเบิ๊ดกะโหลกของเด็กแก่แดดอย่างอดไม่ได้ ร่างเพรียวคล่องแคล่วรีบเบี่ยงหลบอย่างทันท่วงที ทำให้เซถอยหลังไปสองสามก้าวแต่ก็ตั้งหลักได้เพราะเจอมุกนี้บ่อยๆ จนเกิดภูมิต้านทานแล้ว 

"อย่าแก่นกะโหลกนักนะเรา เดี๋ยวเหอะจะโดนดี... ฉันหมดอารมณ์ก็เพราะเรานี่แหละ!" เสียงห้วนเอ่ย ใบหน้าหล่อเหลาหงุดหงิดอย่างไม่แยแสจะเก็บกักอารมณ์ ปรายตามองกล่องถุงยางอนามัยกลิ่นกล้วยหอมผิวเรียบที่คนหน้าเด๋อยืนกอดอยู่ก่อนจะส่ายหัว ร่างสูงสมาร์ตก้าวไปยังโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด 

"ทรอยด์... เตรียมรถไปส่งผู้หญิงภายในสิบนาทีนี้"  

สั่งคนสนิทเสร็จก็โยนโทรศัพท์ไปบนโซฟา หันไปมองร่างเพรียวบางที่ยืนกอดกล่องถุงยางรอฟังคำสั่งตาปริบๆ 

"ยืนเซ่ออยู่ทำไมล่ะ... รีบเตรียมตัวไปกับเจ้าทรอยด์... คราวหน้าถ้าบกพร่องอีก ฉันจะตัดเงินค่าขนมเราครึ่งหนึ่ง จำเอาไว้" 

คำขู่นี้เป็นอะไรที่คนฟังจำขึ้นใจสุดๆ และแน่ใจว่ามันจะไม่มีวันเกิดขึ้น ใบหน้าใสรีบพยักหงึกหงักรับทราบทันที 

"คุณริศไม่ได้หักตังค์เป้แน่ รับรองคราวหน้าจะซื้อมาตุนให้ครบทุกชนิดเหมือนเดิม ทั้งผิวเรียบ ผิวขรุขระ และผิวเรืองแสง กลิ่นสตรอเบอรี่ กล้วยหอมและผลไม้รวม อ้อ และครบทุกสีเลยค่ะ! รอบนี้ขออภัยจริงๆ เพราะเป้รีบไปสอบเลยลืมเช็กตู้ข้างเตียง แฮ่ะๆ"  

เสียงแจ๋วพูดแก้ตัวเจี้อยแจ้ว ยิ้มปะเหลาะให้คนจ่ายค่าขนมทุกเดือนตั้งแต่หล่อนอายุ 12 ปีจนถึงอายุ 22 ปีในเวลานี้ ฟาริศโบกมือทำท่าไล่แกมรำคาญ 

"เอาล่ะ...ไปได้แล้ว อ้อ...แล้วสอบได้หรือเปล่า" เขาเอ่ยถามเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าหล่อนเป็นเด็กนักศึกษาในปกครองปีสี่ เพิ่งสอบปลายภาคเทอมที่หนึ่งเสร็จ และกำลังจะได้ฝึกงานภาคฤดูร้อนที่โรงแรมแห่งนี้ในฐานะเด็กเส้นของบอสใหญ่ ใบหน้าใสยิ้มยิงฟันขาวใส่ทันที 

"โห ยี่ห้อเนี้ย...มีหรือจะสอบไม่ผ่าน เป้ซะอย่าง... ผ่านฉลุยอยู่แล้ว ไปนะคุณริศ อ้อ... อย่าลืมบอกผู้หญิงของคุณริศให้สวมชั้นในกลับด้วยล่ะ เป้สะสมได้เป็นสิบตะกร้าใหญ่แล้วตอนนี้ จะเอาไปบริจาคก็ไม่รู้ว่าต้องส่งไปที่ไหน ว่าจะไปนั่งขายแบกะดินมาร์เก็ต แต่คุณริศก็ใช้เป้ซะ 25 ชั่วโมงต่อวัน เลยไม่มีเวลาซะที" 

พูดจบร่างเพรียวก็หันหลังวิ่งปรู๊ดออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้เจ้าของห้องมองตามพลางส่ายหน้า เขาเดินไปยังห้องนอนส่วนตัว ดึงสมุดเช็คออกมาจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน จัดการกรอกตัวเลขลงไปและฉีกแคว่ก เดินกลับเข้าไปยังห้องนอนอีกห้อง  

ร่างเซ็กซี่ของนางแบบสาวดาวจรัสแสงของวงการแฟชั่นกำลังเอนกายกึ่งนั่งกึ่งนอนรออยู่ ผ้าเช็ดตัวที่เจ้าหล่อนพันกายอยู่เปิดเปลือยให้เห็นไปถึงไหนๆ แต่ฟาริศหมดอารมณ์กระสันอยากไปแล้วตอนนี้ จึงมองอย่างเฉยเมยและยื่นเช็คให้ 

"คุณรีบแต่งตัวซะ...เดี๋ยวคนของผมจะไปส่งที่คอนโด" 

เสียงห้าวเอ่ยบอกอย่างไม่แยแสต่อสีหน้างอง้ำลงทันควันของคู่ควงแห่งค่ำคืน เขาเดินกลับไปยังห้องนอนใหญ่อีกห้องติดกัน ซึ่งเป็นห้องนอนส่วนตัว ปิดประตูลง ก้าวขึ้นเตียงและล้มตัวลงนอน เวลาตีหนึ่งกว่าบวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ในกระแสเลือดทำให้ชายหนุ่มหลับได้รวดเร็วในเวลาต่อมา 

 

****** 

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2537 

อัปตอนที่ 1 วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564  

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้เขียน 

รูปภาพเพียงใช้ประกอบเท่านั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลในภาพแต่อย่างใด 

ตัวละครที่อ้างถึงไม่มีตัวตนและไม่ได้มีการพาดพิงถึงใครทั้งสิ้น 

ขอบคุณเจ้าของภาพด้วยค่ะ 

ขอบคุณแฟนนิยายของเอลยาทุกท่านที่ติดตามผลงานนะคะ 

หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ไรท์ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (1)

5.0