เขาคือผีขี้เหงา ส่วนเธอคือสาวนิติเวช เขาคือผีที่ทุกคนเลื่องลือว่าพรากวิญญาณผู้บริสุทธิ์ แต่เธอได้เปลี่ยนเขาจากผีไทยใส่ชุดแดงเป็นวิญญาณสาวสวยสวมพลาด้า กลิ่นหอมเฉกเช่นสาปสางกลายเป็นความอบอวลของชาแนล...

 

 

สัตยสาป 

  

 

ปกนิยายตามนี้ฮัพ  

 

__________________________________________________________________ 

แนะนำตัวละคร 

 

 

ช่อเกล้า (คุณผีเกล้า) 

สายโหด ดุดัน ไม่เกรงใจใครหน้าไหนทั้งนั้น 

อยู่มาเนิ่นนานหลายศตวรรษ 

ไม่เคยมีใครเรียกข้าย่ำแย่เพียงนี้  

นังมนุษย์กล่าวหาข้าว่าเป็น "ผี" 

หักคอทิ้งซะดีไหม! 

 

  

  

กลิ่นจันทน์ (ณิชารีย์) 

คุณหมอนิติเวช สวย ฉลาด ยิ้มสวย 

 ก็เห็นเปิดว๊าปได้ "หายแว๊บๆ" ไม่ใช่ผีแล้วเป็นอะไร? 

คาแรกเตอร์นี้มันผีชัดๆ ยังไงก็เป็นผี 

แถมยังมาในชุดไทยสีแดงเลือดอีกาอีก  

ก็เป็นผีนั่นแหละ "เป็นผีๆๆๆๆๆ" 

 

 

  

  

“เจ้าจักทำเช่นไร มนุษย์เอ๋ย” ดวงตาแดงก่ำเบิกกว้างถมึงทึงเอาเรื่อง การมีอยู่เยี่ยงวิญญาณบาปนั้นทำให้นางเป็นทุกข์มากเกินจะพรรณนา กระนั้นมนุษย์หนุ่มวัยกลัดมันยังบังอาจลบหลู่โดยการโค่นต้นไม้ที่สิงสู่ ขุดรากถอนโคนขึ้นจากพื้น แล้วเหยียบตอต้นอย่างไร้จิตสำนึก เพียงเพราะอยากพิสูจน์เรื่องลี้ลับเท่านั้น? 

“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมผิดไปแล้ว” 

“ผิดไปแล้วรึ คนสันดานหยาบเช่นมึงไม่ควรมีชีวิต ไอ้ขี้ครอก” ท่านหญิงช่อเกล้าเอ่ยด้วยอารมณ์ ผมที่เคยเรียบสวยถูกสายลมในยามดึกพัดให้สยาย เพียงแค่ความต้องการพิสูจน์ ดันเลยเถิดไปถึงเรื่องลบหลู่จนไม่ควรให้อภัย 

“ผมขอโทษ ผมกลัวแล้ว ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว” คำนับกราบกรานด้วยร่างสั่นเทา 

“มึงชดใช้ด้วยชีวิตสิ” ยกยิ้มมุมปากสะใจ พอดีกับที่ตนอยากได้ภูตรับใช้ “ชดใช้ด้วยการหลั่งเลือดรดส้นเท้าข้าจนสิ้นชีพจร” 

“ไม่...ผมไม่อยากตาย ไม่...” โขกศรีษะกับพื้นอยู่อย่างนั้น 

  

. 

  

. 

  

. 

  

“หลังจากนั้นพิภพได้เสียสติ เขาจับไข้ หัวโกร๋นตัวสั่น” ทำตัวสั่นเทาประกอบ “มีสีหน้าหวาดกลัวตลอดมา” จุมพิตาทำท่าจริงจังเมื่อถ่ายทอดตำนานเล่าขานของต้นไม้ใหญ่หลังโรงพยาบาลนิติเวชนี้ 

“หมายถึงต้นไม้ที่เหลือแค่ตอกับผ้าเจ็ดสี และมีศาลเตี้ยๆ อยู่ข้างหลังนั่นนะเหรอ” 

“อือ ใช่ๆ” พยักหน้ารัวๆ 

“ยัยจุ๋ม อย่าพูดให้กลัวสิ” ณิชารีย์ลูบแขนหยอยๆ คุณหมอนิติเวชผู้อ่อนหวานเริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศที่เป็นใจขึ้นมากอปรกับขนที่ลุกเกรียวกราว ตุ่มต่อตั้งชันอย่างเห็นได้ชัดราวกับว่าตอนนี้เจ้าของเรื่องกำลังฟังเธอสองคนพูดคุยเรื่องเขาอยู่อย่างนั้นล่ะ “เราจะมาเล่าเรื่องนี้ตอนเที่ยงคืนไม่ได้” 

“เล่าไปแล้วอ่ะ ทำไง” กะพริบตาปริบๆ  

“งื๊อ...” ขยับขาหยึกๆ เธอไม่ได้หวาดกลัวเหมือนคนขี้ขลาดแต่ก็หาได้ชื่นชอบเรื่องแนวสยองในช่วงเวลาดึกดื่นเที่ยงคืน “ฉันกลัวนะ เหลือคุณพี่อีกตั้งสองท่านที่กำลังเดินทางมา” ณิชารีย์เอ่ยพร้อมเบ้หน้า เพราะคุณพี่ที่เธอพูดถึงคือศพที่กำลังถูกลำเลียงมาจากที่เกิดเหตุนั่นเอง เธอมักเรียก 'เขา' ผู้วายชีวาด้วยสรรพนามเช่นนั้นเสมอ 

“อืม...นั่นสิ”  

  

. 

  

. 

  

. 

  

“นายหญิงขอรับ” 

“อืม...ข้าได้ยินแล้วจ่อย ดูเหมือนสตีสองนางช่างเจรจายิ่ง"ริมฝีปากสีชาดกระตุกยิ้ม 'พวกเจ้ายังเม้าส์เรื่องข้าเกินจริงไปหน่อย ใส่สีตีไข่ มนุษย์นี่ช่างกระไร ไม่ว่าสักกี่ร้อยปีก็ยังชอบวิพากษ์ผู้อื่น'  

“นายหญิงจะให้ข้าน้อยสั่งสอนพวกนางรึไม่”  

“ไม่ต้องหรอก อีกไม่นานพวกนางคงอยากพิสูจน์เรื่องเหล่านี้เหมือนบุรุษผู้นั้น ฮ่าๆๆๆ ฮ๊า ฮ่าๆๆ”เสียงหัวเราะเย็นยะเยือกดังสนั่นไปทั่วอาณาบริเวณ  

  

. 

  

. 

  

ในลำดับต่อไป ท่านจะได้อ่านเนื้อหาของนายหญิงช่อเกล้าผู้เกรี้ยวกราด.....ฟาดบึ๊ม!!!  

. 

. 

. 

จากสูญองศา  

นิยายเรื่องนี้วางเรื่องมา 4 ปี ยังหาความเหมาะสมในการเดินเนื้อไม่ได้ 

แต่ ณ บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เนื้อเรื่องจะถูกแต่งขึ้น เชิญเสพตามอัธยาศัย  

ถ้าถูกใจสามารถติดตามได้ทุกช่องทางค่ะ 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว